บทที่ 605 ช่วยคน
ในตอนเช้าตรู่ อันหลิงหยุนไปดูลูกๆที่ลานจุนจื่อ ได้เจอแม่ทัพอันจึงเอ่ยถามว่า "พ่อ วันนั้นท่านเข้าวังแล้วหรือไม่เจ้าคะ?"
แม่ทัพอันยังไม่ลืมเปลือกตาขึ้นด้วยซ้ำ หน้าตาเหมือนยังไม่ตื่นดีอย่างไรอย่างนั้น: "เข้าไปแล้ว ตอนแรกพ่อว่าจะไปน้อมทักทายไทเฮา ไปได้ครึ่งทางแล้วเกิดคิดขึ้นมาได้ว่า กลับไปดูเด็กๆดีกว่า ก็เลยกลับมาเสียก่อน"
"โอ๋?" อันหลิงหยุนรู้สึกขบขันอยู่ไม่น้อย นางไม่เชื่อที่แม่ทัพอันพูดสักนิด ตั้งแต่กลับมาจากวัง พ่อของนางก็มีท่าทางสบายอกสบายใจ ได้ยินอะไรก็ดูมีความสุข สนุกสนานไปหมด
เจ้าห้าเกือบจะเกิดเรื่องร้ายในวังแล้ว พ่อของนางควรจะต้องไม่มีความสุขมาก ไม่ใช่หรอกหรือ?
เมื่อเห็นว่าลูกเขยถูกทำร้ายแล้ว เขาก็เดินโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกไปทันที พอกลับมากลับเปลี่ยนเป็นร่าเริงเฮฮาทั้งวัน ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลยจริงๆ เขาจะมีความสุขขนาดนั้นได้อย่างไร?
อันหลิงหยุนกลั้นขำขณะที่มองไป: "พ่อ คงไม่ใช่ว่าพ่อไปหาฝ่าบาท เพื่อสะสางบัญชีหรอกนะเจ้าคะ?"
“ทำไมพ่อจะต้องไปหาฝ่าบาทเพื่อสะสางบัญชีด้วยล่ะ ไม่มีอะไรอย่างนั้นสักหน่อย” แม่ทัพอันรู้สึกร้อนตัว จึงไม่กล้ามองตาอันหลิงหยุน
อันหลิงหยุนไม่ได้ทำให้แม่ทัพอันลำบากใจต่อ ไปอยู่ดูแลลูกๆครู่หนึ่ง แล้วบอกว่าจะกลับไปดูแลกงชิงวี่แล้ว อันหลิงหยุนก็ขอตัวจากไป
เมื่อออกจากลานจุนจื่อ ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ในงานศพดังอยู่ด้านนอก อันหลิงหยุนนึกเรื่องของเฉิงเสี้ยงฮูหยินขึ้นมาได้ จึงลุกขึ้นออกไปดูด้านนอกจวน
ทันทีที่ออกประตู ก็ได้ยินเสียงใครบางคนเดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเอง ตอนแรกอันหลิงหยุนยังคิดว่าเป็นอาหยู่ ยังว่าจะพูดตักเตือนอาหยู่เสียหน่อย ยิ่งนับวันก็ยิ่งไม่รู้กฎเกณฑ์ไปทุกทีแล้ว ถึงกับมายืนอยู่ข้างนางแล้วตอนนี้
แต่เมื่อหันกลับไป อันหลิงหยุนก็เห็นเฟิงอู๋ฉิงมายืนอยู่ข้างๆ นางจึงรีบกล่าวคำทักทาย: "เจ้าสำนักเฟิง" "…. " เฟิงอู๋ฉิงเมินหน้าหนีด้วยท่าทีหยามเหยียด แสดงสีหน้าไม่อนุญาตให้บุคคลแปลกหน้าเข้าใกล้ อันหลิงหยุนเองก็มองออกว่า เฟิงอู๋ฉิงนั้นดูมีท่าทีไม่มีความสุขอย่างหนัก
นางอดแอบรู้สึกจนใจไม่ได้ จะดีจะชั่วข้าก็เป็นคนช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้นะ แต่พอมาดูท่าทางเจ้าตอนนี้สิ ทำอย่างกับว่าข้าไปทำร้ายอะไรเจ้าอย่างไรอย่างนั้นแหล่ะ
อันหลิงหยุนยืนดูอยู่ครู่หนึ่ง ขบวนศพจากจวนเฉิงเสี้ยงก็ค่อย ๆ เคลื่อนมาทางด้านนี้อย่างยิ่งใหญ่
โลงศพสีแดงขนาดใหญ่ ถูกคลุมด้วยชุดเสื้อผ้าสีฟ้าจำนวนหนึ่ง นั่นเป็นเครื่องแต่งกายประจำยศของฮูหยินชั้นเก๊ามิ่ง ที่ด้านหน้าคือมงกุฎชั้นยศเก๊ามิ่ง
ยึดตามธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ สิ่งเหล่านี้ต้องถูกฝังไปพร้อมกับศพด้วย
บนโลงศพ มีการแกะสลักเป็นลวดลายที่วิจิตรงดงาม บรรดาผู้คนที่มาส่งวิญญาณตลอดสองข้างทาง ล้วนเป็นเหล่าคนใกล้ชิดทั้งสิ้น ใต้เท้าเฉิงเสี้ยงถูกคนพยุงเดินอยู่ด้านหนึ่ง สภาพเขาเหมือนคนที่ร้องไห้จนเสียสติไปนานแล้ว
เสินหยุนเอ๋อและคนอื่น ๆ ก็เดินร้องไห้ตามมาอยู่ข้างหลัง
เสินหยุนเจ๋สวมชุดไว้ทุกข์เดินอยู่ข้างหน้า สองมือกอดป้ายวิญญาณไว้ในอ้อมแขน ก้มหน้าลงต่ำ สีหน้าว่างเปล่า ไร้การแสดงออกใดๆทั้งสิ้น
อันหลิงหยุนดูสักพัก ก็หันกายเดินกลับไป เฟิงอู๋ฉิงก็เดินตามกลับเข้าไปด้วยเช่นกัน
อันหลิงหยุนไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อเฟิงอู๋ฉิงมากนัก แต่เพราะความจริงที่ว่า เขาเป็นคนคุ้มครองในลานจุนจื่อแห่งนี้ อย่างน้อยก็ต้องไว้หน้าให้บ้างสักหลายส่วน
"เจ้าสำนักเฟิงกินข้าวเช้าแล้วหรือไม่?" อันหลิงหยุนเอ่ยถาม เฟิงอู๋ฉิงหันกายมองออกไปนอกจวน อันหลิงหยุนจึงมองตามไปด้วย รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“เจ้าสำนักเฟิงสนใจพิธีศพด้วยหรือ?”
“ไม่ได้สนใจหรอก ก็แค่คนที่อยู่ในโลงศพยังหายใจอยู่เลย จะเอาไปฝังแล้ว?”
"..... " อันหลิงหยุนตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อ: "เจ้าสำนักเฟิงล้อข้าเล่นหรือ?"
เฟิงอู่ฉิงปรายตามองอันหลิงหยุน ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก หันกายเดินจากไป
อันหลิงหยุนเช็ดเหงื่อที่ผุดพราย พลางเดินกลับไปเช่นกัน
หากจะกล่าวโดยเหตุผลแล้ว จวนเฉิงเสี้ยงก็นับว่าเป็นพระญาติของฮ่องเต้ แต่เพราะการแท้งของฮองเฮา จึงทำให้ตระกูลเสินต้องถูกลากเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันด้วย ฮ่องเต้ทรงละเว้นการลงทัณฑ์จากการก่ออาชญากรรม ก็นับว่าเป็นพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้แล้ว เป็นธรรมดาที่ย่อมไม่มีการร้องขอสืบสาวราวเรื่องมูลเหตุใดๆอีก
ตอนค่ำ อันหลิงหยุนกำลังกินข้าวอยู่ ที่ด้านนอก พ่อบ้านก็รีบร้อนวิ่งเข้ามารายงานว่า: "เรียนพระชายา มีคนจากจวนเฉิงเสี้ยงมา บอกว่าท่านเฉิงเสี้ยงป่วยหนักจนวิกฤติแล้ว จะมาขอเชิญพระชายาไปดูอาการพ่ะย่ะค่ะ"
อันหลิงหยุนไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็วิ่งออกจากจวนไปทันที เร่งไปดูอาการคนป่วย
แม่นมชุยคุกเข่าลงทันทีเมื่อได้เห็นอันหลิงหยุน : "พระชายา ขอได้โปรดช่วยเจ้านายของข้าด้วยเถิดเพคะ"
อันหลิงหยุนหันหน้าไปมองอาหยู่: "อาหยู่ เจ้าอยู่ที่นี่เถอะ ข้าจะไปกับแม่นมเอง"
แม่นมชุยพกป้ายห้อยเอวของจวนเฉิงเสี้ยงติดตัวมา อันหลิงหยุนเอง ก็เคยเห็นแม่นมชุยอยู่หลายครั้ง ดังนั้นจึงไม่ต้องมีข้อสงสัยใดๆอีก แม่นมชุยเป็นคนของจวนเฉิงเสี้ยงแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...