บทที่ 607 ระหว่างทางออกจากเมืองหลวง
“ เรียนท่านอ๋อง อ๋องตวนมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
คนขับรถม้ารายงานอยู่ด้านนอก
กงชิงวี่ดึงเปิดผ้าม่านรถม้าขึ้น มองอ๋องตวนแวบหนึ่ง อ๋องตวนกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า: "ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องไม่มีเจตนาดี"
“ทำไมพี่รองถึงพูดแบบนั้นล่ะ ใต้หล้านี้อย่างไรก็ล้วนเป็นของตระกูลกงชิง ต่อให้ข้าจะอยู่ในเมืองหลวง พี่รองก็ต้องพยายามแสดงความสามารถให้หนักถึงจะถูก ไม่อย่างนั้น ท่านคงไม่อาจเงยหน้าอ้าปากในจวนกั๋วกงได้เป็นแน่
ตอนนี้ในจวนกั๋วกงไม่มีผู้ชายอยู่ วันนี้คนที่มาส่งข้าคือเว่ยหลิงชวน พี่รองรู้หรือไม่ว่าข้ารู้สึกอย่างไร?
พี่รองเป็นถึงท่านอ๋องที่สง่างามทรงเกียรติ ไปอยู่ในจวนกั๋วกง กลับเทียบไม่ได้กับคนที่มาจากข้างนอกคนหนึ่งด้วยซ้ำ "
"..... "
อ๋องตวนหน้าแดงก่ำ: "อย่ามาเบี่ยงประเด็น เรื่องข้าเจ้าไม่ต้องมายุ่ง พูดเรื่องที่เจ้าจะไปชายแดนให้รู้เรื่อง"
"ต้องพูดอะไรอีก? ข้าตัดสินใจแน่ชัดแล้ว หรือพี่รองจะไปแทนข้าล่ะ? เมื่อวันก่อนฝ่าบาทก็ตรัสไว้ว่า อาศัยตอนที่ยังเยาว์วัยออกไปดูโลกนี้เสียบ้าง ทำไมถึงจะไม่ไปดูเสียหน่อยล่ะ?"
อ๋องตวนนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาได้ แน่ล่ะว่านั่นคือเจตจำนงของฝ่าบาท สุดท้ายแล้วก็ต้องมีใครสักคนที่ต้องไปอยู่ดี
อ๋องตวนพูดอย่างโกรธเคืองว่า: "ข้าไม่ไป ชวนเอ๋อกำลังท้องอยู่"
“ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ขอรบกวนพี่รองแล้ว”
กงชิงวี่ลดม่านลง สีหน้าอ๋องตวนหมองคล้ำเต็มใบหน้า เดิมทีตั้งใจว่าจะมาสั่งสอนกงชิงวี่สักยก แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขากลับเป็นฝ่ายเถียงไม่ขึ้นไปเสียเอง เรื่องว่าอยากสั่งสอนสักยกก็พูดไม่ได้ ได้แต่หน้าม่อยคอตกอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี
เมื่อรถม้าแล่นผ่านไป มีบางอย่างลอยพุ่งออกมาจากรถม้า ทันทีที่อ๋องตวนคว้าจับไว้ได้ ก็พบว่าเป็นถุงผ้าดิ้นเงินดิ้นทองใบหนึ่ง
อ๋องตวนรีบเปิดออกดูทันที ด้านในมีกระดาษม้วนหนึ่ง ที่เขียนข้อความเอาไว้ราวสองสามบรรทัด: พี่รองมีคุณลักษณะของฮ่องเต้ มีคุณธรรมของสุภาพบุรุษ วิถีแห่งนักบุญผู้เมตตา เมืองหลวงนี้ขอมอบให้กับพี่รองแล้ว ไม่ต้องพูดว่าสามเดือนห้าเดือน ต่อให้เป็นเวลาสามปีห้าปี ก็ยังวางใจได้!
อ๋องตวนหันไปมองรถม้าที่กำลังแล่นไป รถม้าค่อยๆเคลื่อนห่างออกไปทุกทีๆ อ๋องตวนเก็บกระเป๋าผ้าไว้ในอกเสื้อ หันกายไปยังทิศที่ตั้งเมืองหลวง ทะยานกลับไปอย่างรวดเร็ว
บนต้นไม้เก่าแก่ไม่ไกลนัก เฟิงอู๋ฉิงกระโดดลงมาจากต้นไม้ใหญ่ มองดูรถม้าที่กำลังแล่นจากไปและหันกลับไปยังจวนอ๋องเสียน
ในรถม้า อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกใจ: "ท่านอ๋อง หากเป็นอย่างที่ท่านพูดว่า อ๋องตวนมีคุณลักษณะของฮ่องเต้ มีคุณธรรมของสุภาพบุรุษ วิถีแห่งนักบุญผู้เมตตา แล้วท่านอ๋องมีอะไรล่ะเพคะ?"
"....." กงชิงวี่รู้สึกขบขัน ยกมือขึ้นจิ้มจมูกของอันหลิงหยุนอย่างเอ็นดู: "ข้ามีพลังแกร่งกล้าของขงอู่ มีอารมณ์รุนแรงเด็ดขาด มีความกล้าหาญ เป็นตัวของตัวเองไม่ยอมใคร"
อันหลิงหยุนถึงกับเซ่อซ่าทึ่มทื่อไปชั่วครู่ หลังจากคืนสติกลับมาได้ ก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
โชคดีที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงก่อตั้งหน่วยงานนี้ขึ้น ประทานอำนาจอันไร้ขอบเขตให้เขา ประทานอิสระอันไร้ขอบเขตให้เขา แต่เพราะเหตุใดจึงไม่ประทานค่ายกลจักรวาล ที่ใช้กักขังอารมณ์ร้าย หรือมนต์แห่งการดับโทสะให้เขากันนะ?
อันหลิงหยุนเอนตัวแนบชิดรถม้า เอ่ยถามว่า "ท่านอ๋องอ่านไซอิ๋วจบแล้วหรือไม่เพคะ?"
"อ่านจบแล้ว"
"เช่นนั้นท่านคิดเช่นไรกับซึงหงอคง?"
"ก็แค่ไอ้โง่คนหนึ่ง!"
อันหลิงหยุนหลุดหัวเราะออกมาเลยทีเดียว แล้วเขาไม่โง่หรอกหรือ?
ซึงหงอคงผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ยุทธวิชัยพุทธะ นั้นก็คงจะเข้าตาอยู่ แต่เพราะตลอดการเดินทางนั้น จิตใจซึงหงอคงลดความแข็งกร้าว อ่อนน้อมยอมเดินไปตามวิถีแห่งธรรม จึงได้กลายเป็นยุทธวิชัยพุทธะ ซึ่งเป็นเหมือนกับที่กงชิงวี่เป็นอยู่ในตอนนี้
อันหลิงหยุนโน้มตัวกงชิงวี่เข้ามา จุมพิตเบาๆหนึ่งที : "ท่านอ๋อง ข้าชอบคนโง่หรอก!"
กงชิงวี่ยิ้มเย็น แขนข้างหนึ่งออกแรงเกี่ยวตัวหญิงสาวเข้ามาในอ้อมแขน มืออีกข้างเชยคางอันหลิงหยุนขึ้น: "แต่ข้าไม่ชอบคนโง่"
"นั่นคงไม่ได้เพคะ คนที่คนโง่จะชอบได้ มีเพียงแค่คนโง่เหมือนกันเท่านั้น"
อันหลิงหยุนแนบกายในอ้อมแขนกงชิงวี่จนชิด สายลมโชยพัดม่านรถม้าสะบัดพลิ้ว ทั้งสองมองออกไปด้านนอกรถม้า ถนนข้างหน้าเริ่มปกคลุมไปด้วยหิมะทีละน้อย ลมหนาวโชยโบกมาพร้อมหิมะอันหนาวเหน็บ
อันหลิงหยุนนอนหลับไปตื่นหนึ่ง นางกลัวหนาว กงชิงวี่เข้าไปในรถม้านำผ้าห่มมา ห่มคลุมตัวเขากับอันหลิงหยุนเข้าด้วยกัน มีเตาอั้งโล่อยู่ในรถม้า แต่เขาก็ยังเป็นห่วงว่านางจะถูกความหนาวเย็นทำให้เหน็บหนาว
กงชิงวี่กดแนบใบหน้าลงบนหน้าผากอันหลิงหยุน นางจึงนอนหลับไปอย่างรู้สึกอบอุ่นใจปลอดภัยเป็นพิเศษ
รถม้าใช้เวลาเดินทางนานกว่าหนึ่งชั่วยาม เมื่อมาถึงสถานที่ที่ยากต่อการเดินทางแห่งหนึ่ง กงชิงวี่ซึ่งหลับตาเพื่อพักผ่อนเก็บแรงไว้ ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นและมองออกไปนอกรถม้า
คนขับรถม้าพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ รถม้าค่อยๆหยุดลง ครั้นมองไปด้านหน้าของรถ คนขับนำแส้หวดม้าแขวนเข้าไว้ที่เอว ลุกขึ้นไปยืนที่ด้านหนึ่งของรถม้า ทันใดนั้นลมและหิมะก็พัดทวีความรุนแรงขึ้น พัดกระหน่ำจนผ้าม่านปลิวไสวไปมา รวมถึงเสื้อผ้าของคนขับก็สะบัดไหวไม่หยุดนิ่ง
"ท่านอ๋อง มีเหตุบางอย่างแล้ว"
อันหลิงหยุนเอง ก็เป็นคนที่มีประสบการณ์ในการต่อสู้มามากมาย แม้ว่าอาจจะไม่เท่ากงชิงวี่ แต่นางก็เป็นคนที่มีทักษะการฟังที่ดีเยี่ยมคนหนึ่ง
ด้านนอกมีเสียงบางอย่าง รถม้าหยุดสนิทลงแล้ว คนขับเอ่ยพูดขึ้นประโยคหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...