ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 626

บทที่ 626 ไปหาด้วยความกังวล

แม่ทัพฮั๋วยังจำได้ว่า ตอนที่พ่อของเขาตาย อยากที่จะเห็นหน้าน้องสาว ที่สุดจึงได้ส่งจดหมายเข้าวัง รอให้ฝ่าบาททรงมีราชโองการ พ่อตั้งตารอคอยอยู่บนเตียง ผลสุดท้ายรอกว่าสองชั่วยาม ภายหลังพ่อเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว เขาจึงทำได้เพียงแค่ให้คนหามพ่อไปยังวังหลวง ใครจะไปรู้ว่าเมื่อถึงประตูวังพ่อก็สิ้นใจแล้ว

รอจนน้องสาวมาถึงหน้าประตู พ่อก็จากไปนานแล้ว

น้องสาวร้องไห้จนแทบขาดใจ มันช่างเป็นเรื่องยากจริงๆ!”

แม่ทัพฮั๋วกำลังคิดว่า เขาไม่อยากจะรอถึงตอนที่เขาแก่แล้ว แล้วต้องมานั่งรอคอยเพื่อที่จะเจอะกับลูกสาว ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดที่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับฝ่าบาท แม้แต่ท่านอ๋องก็ไม่ต้องการ

ตอนนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังไม่มีลูก เรื่องที่มแน่นอนนั้นมีมากมาย ดังนั้นเขาเองขึงไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับท่านอ๋อง

แต่คิดไม่ถึงว่า อุตส่าห์พามาถึงชายแดนเช่นนี้แล้ว ยังหนีพรหมลิขิตไม่พ้น

เขาผู้ซึ่งเป็นพ่อ คิดเอาไว้นานแล้วว่าอยากจะหาตนธรรมดาๆสักคน ข้าราชการนั้นไม่เข้าตา แต่ละคนมีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว

ส่วนคนในกองทัพ ก็มีที่เข้าตาเพียงไม่กี่คน ตระกูลหยุนนั้นถือเป็นอันดับหนึ่ง

ถึงแม้แม่ทัพฮั๋วจะไม่ได้อยู่ในวัง แต่ก็ได้ยินเรื่องของตระกูลหยุนมาไม่น้อย ที่พอจะดูเข้าตาก็คืออ๋องจุ้นหย่ง ฐานะของเขาเป็นอ๋องจุ้นที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ส่วนลูกชายเองก็จะเป็นหัวหน้าครอบครัวต่อในอนาคต มีสองคนที่แต่งงานไปแล้ว ยังมีลูกสาว ก็เหลือแต่หยุนซวนอี้แล้ว

สอบถามมาปีกว่า ก็ได้ยินมาว่าเป็นพวกขี้โรค

แม่ทัพฮั๋วรู้สึกเสียใจ จึงทนไม่ไหวที่จะหาหมอไปช่วยตรวจดูอาการ แต่ได้ยินมาว่าหมอไม่อาจรักษาได้ เพราะเป็นมาตั้งแต่เด็ก

แม่ทัพฮั๋วก็รู้สึกหดหู่อยู่นาน

ใครจะไปรู้ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว จะออกมาเดินเหินได้แบบนี้ เช่นนี้ไม่เรียกว่ากลับมามีชีวิตชีวาหรอกหรือ?

ตอนนี้ แม่ทัพฮั๋วกำลังหาอ๋องจุ้นหย่งเพื่อพูดเรื่องนี้

อ๋องจุ้นหย่งเองก็ไม่ได้ปิดบัง: “จริงๆตอนเด็กๆนั้นหล่นลงไป ทำให้กระดูกไม่ดี แต่ในภายหลังรักษาจนพอใช้การได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูดว่า ลูกชายของข้าร่างกายใช้การไม่ได้ ซ้ำยังเป็นไอ้ขี้โรค

เวลาที่เขาอยู่ในกองทัพก็ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้นัก แต่จะทำหน้าที่เป็นเสนาธิการ

ข่าวลือด้านนอกยิ่งนับวันยิ่งรุนแรง

เด็กคนนี้มักที่จะไอ ไม่สามารถหาสาเหตุได้มาโดยตลอด จึงไออยู่เช่นนี้ เขาจึงกลายเป็นคนที่อยู่ห่างความตายไม่ไกล

ไม่ขอปิดบังท่านแม่ทัพ ข้าเองยังรู้สึกว่าโรคของเขานั้นไม่ชัดเจน”

ลูกชายเป็นโรค อ๋องจุ้นหย่งเองก็คิดว่าเป็นโรคจริงๆ วันทั้งวันถือแต่พัดแล้วก็ไอไม่หยุด

ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่เขาแต่งงานแล้ว ร่างกายจะแข็งแรงราวกับเหล็ก ตอนนี้สามารถที่จะออกรบได้แล้ว

จะบอกใครได้?

แม่ทัพฮั๋วไม่เชื่อแน่นอน จึงได้เหลือบตาขึ้นมองอ๋องจุ้นหย่ง ท่านจงแต่งเรื่องต่อไป!

แม่ทัพทั้งสองตามเข้าไปในเมืองด้วย กงชิงวี่หายไปนานแล้ว ฮั๋วฉิงตามไม่ทันก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และก็รู้สึกหดหู่

อู๋โก๋นั่งอยู่บนม้า ด้านหลังมีหยุนซวนอี้นอนพิงอยู่ มือทั้งสองข้างของหยุนซวนอี้โอบเอวของนางอยู่

อู๋โก๋รู้สึกเป็นห่วงร่างกายของหยุนซวนอี้เป็นอย่างมาก ขี่มาไปพลาง หันกลับมามองหยุนซวนอี้พลาง มือของหยุนซวนอี้ได้โอบเองของอู๋โก๋เอาไว้เรียบร้อยแล้ว เขาเข้าไปอยู่ในห้วงความฝันเรียบร้อยแล้ว

อันหลิงหยุนลงจากหลังม้า มาถึงในเมืองเรียบร้อยแล้ว มีคนมาจูงม้าไป กงชิงวี่สั่งว่า: “หาคนสองคนมาปลอมตัวเป็นพวกเรา ไปที่ค่ายฝั่งใต้ จะต้องแน่ใจว่าทำให้ฮั๋วฉิงเห็นแล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ”

คนที่ดีรับคำสั่งเดินจากไป กงชิงวี่พาอันหลิงหยุนไปยังที่ที่พวกเขาได้ปักหลักเอาไว้นานแล้ว ทั้งสองเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และแต่งหน้าแต่งตาเล็กน้อย

อะมู่และพวกอีกสองสามคนรออันหลิงหยุนอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นนางอะมู่รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วจึงรีบวิ่งเข้าไปหาอันหลิงหยุน: “หมออัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน