บทที่ 689 ต่อสู้คดีความ
เวลานี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ถึงได้ทอดพระเนตรเห็นโจวยี่เหริน มีรับสั่งให้คนเข้าไปดูเขา ถึงกับมาตายในท้องพระโรงเสียได้
ถึงอย่างไร เขาก็เป็นเหล่าซ่างซูมาตั้งแต่สมัยฮ่องเต้องค์ก่อน พระองค์ไม่อาจทรงวางเฉย ไม่ชายพระเนตรแลคนที่มาตายในท้องพระโรงโดยไม่ตรัสถามสักคำ แต่แท้ที่จริงแล้ว สิ่งที่ฮ่องเต้ชิงหยู่คิดก็คือ แก่จนอายุปูนนี้แล้ว ยังจะเข้าประชุมงานราชสำนักอีกทำไมไม่ทราบ มาเพิ่มความเดือดร้อนยุ่งยากให้พระองค์แท้ๆ!
"ทำไมเหล่าซ่างซูจึงได้มาปรากฏตัวในประชุมงานราชสำนัก?" ฮ่องเต้ชิงหยู่รับสั่งให้คนมาพา โจวยี่เหรินลงไป รอให้เสินเฉิงเสี้ยงได้รับการช่วยเหลือจนฟื้นขึ้นมาก่อน พระองค์จึงจะตรัสถามเรื่องของโจวยี่เหรินต่อไปได้
โจวกวางเหินรีบก้าวไปข้างหน้า แล้วรีบคุกเข่าลง: "ทูลฝ่าบาท พ่อของหม่อมฉันเข้าราชสำนักมา ก็เพราะเรื่องของลูกชายของหม่อมฉันโจวไท่ ถูกคนทำร้ายอย่างอำมหิตพ่ะย่ะค่ะ"
"ใครกันที่ขวัญกล้าบังอาจทำร้ายโจวไท่ ลำบากถึงเหล่าซ่างซู ต้องเข้าราชสำนักด้วยตัวเองเช่นนี้ เรื่องนี้ไปสะสางคดีกันที่ศาลาว่าการไม่ได้อย่างนั้นหรือ?" ในพระทัยฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงรู้แน่แล้วว่าต้องเป็นกงชิงวี่ หากเรื่องนี้ขอแค่หน่วยงานเบื้องล่างสามารถรับฟ้องได้ ไม่มีทางกลายเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่โต จนต้องมาทูลฟ้องถึงในท้องพระโรงว่าราชการนี้แน่
แต่ทุกเรื่องราวต้องมีเหตุผลของมัน ฮ่องเต้ชิงหยู่ ยังทรงมีพระทัยเอนเอียงเข้าข้างกงชิงวี่อยู่บ้าง
มาบัดนี้พ่อของโจวกวางเหินก็สิ้นลมจากไปแล้ว ตอนนี้ลูกชายก็มาเป็นอย่างนั้นไปอีก เขากัดฟันน้ำตาไหลนองอาบหน้า แหงนหน้าทูลขึ้นไปด้านบนว่า: "เป็นอ๋องเสียนพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทโปรดทรงเมตตาจัดการให้หม่อมฉันด้วยเถิด!"
ฮ่องเต้ชิงหยู่ ปรายพระเนตรมองกงชิงวี่อย่างขุ่นเคืองพระทัย ทรงคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องเป็นเขา
“โจวกวางเหิน เป็นเพราะเรื่องอะไรลูกชายของเจ้า ถึงถูกอ๋องเสียนทำร้ายอย่างอำมหิตได้ เจ้าจงพูดตามความจริงมา หากว่าเป็นความผิดของอ๋องเสียนจริงๆล่ะก็ ข้าจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้าแน่นอน จะไม่ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด”
ฮ่องเต้ทรงตรัสวาจาออกมาด้วยองค์เอง โจวกวางเหิน จึงไม่มัวมาคำนึงถึงอะไรทั้งสิ้นแล้ว อย่างไรเสียก็ตายเท่ากัน เขาเองก็ขอทุ่มสุดตัวแล้วจริงๆ
เดิมทีภายในราชสำนัก มีการหารือเกี่ยวกับข้อกล่าวหาของเสินเฉิงเสี้ยงอย่างดุเดือด พอมาตอนนี้กลายเป็นเรื่องนี้ไปแล้ว บรรยากาศจึงดูอบอุ่นผ่อนคลายลงมาได้บ้าง
ทุกคนต่างตั้งตารอคอยเรื่องถัดไป โจวกวางเหินร้องไห้ฟูมฟายพลางเอ่ยว่า: "ทูลฝ่าบาท ลูกชายของหม่อมฉันโจวไท่ เมื่อวานนี้เพิ่งจะกลับเข้าบ้าน ก็ถูกเจ้าเมืองเมืองหลวง เวยฉือ ตรงเข้ามาจับกุมตัวไป ไม่เพียงถูกทุบตีเท่านั้น ยังถูกจับตอน ถูกตัดสิ่งนั้นที่อยู่ด้านล่างของเขา ไปโยนให้หมากินด้วยพ่ะย่ะค่ะ
ฝ่าบาท ... อ่า! "
เมื่อพูดถึงตรงนี้ โจวกวางเหินก็เสียใจอย่างสุดแสน เขาแทบอดรนทนไม่ไหว อยากจะเข้าไปถลกหนังของกงชิงวี่ออกมาเป็นชิ้นๆ
ฮ่องเต้ชิงหยู่สีพระพักตร์ดำคล้ำหนักอึ้ง เลิกพระขนงขึ้นสูง กลอกเนตรมองบนใส่กงชิงวี่อย่างโกรธกรี้ว ทำกันเกินไปจริงๆนั่นแหล่ะ!
"ฝ่าบาท ไม่เพียงแค่นั้น อ๋องเสียนยังรังแกกันมากเหลือเกินพ่ะย่ะค่ะ เขาทำเช่นนั้นแล้ว ยังให้เวยฉือแห่ลูกชายมาถึงที่จวน จูงหมาตัวนั้นที่กินของสิ่งนั้นของเขามาส่งถึงที่ ยังบอกท่านพ่ออีกว่า เป็นฝีมืออ๋องเสียนเองที่ทำ ท่านพ่อจึงโกรธจนไม่อาจทนได้ จำต้องรีบร้อนมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อขอพระองค์ทรงสะสางความ ใครจะรู้ว่า ท่านพ่อจะโกรธจนถึงกับสิ้นลมไปเสียแล้ว! "
โจวกวางเหินร้องไห้อย่างหนัก ฮ่องเต้ทรงรับฟังความจนเข้าพระทัยดีแล้ว จึงผินพระพักตร์มองใบหน้าเขียวปั๊ดของกงชิงวี่ แล้วหันกลับมาที่โจวกวางเหินอีกครั้ง:“ ความหมายของเจ้าก็คือ ลูกชายเจ้าถูกอ๋องเสียนทำร้ายอย่างไร้เหตุผล ส่วนเหล่าซ่างซูเป็นเพราะเจ็บปวดใจเรื่องของหลานชาย จนถึงกับต้องมีอันเป็นไปอย่างนั้นหรือ?”
“ฝ่าบาท....ฝ่าบาทอ่า..... ”
โจวกวางเหินร้องไห้โฮอย่างหมดมาด ขุนนางยศปินปู้ซื่อหลังคนหนึ่ง ต้องมาร้องห่มร้องไห้จนไม่เหลือหน้าใดๆ ไว้ให้คนเคารพนับถือแม้แต่น้อย
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรคนที่ร้องไห้อยู่บนพื้น ในพระทัยหงุดหงิดยากจะทานทน
"โจวกวางเหิน เจ้าระงับความทุกข์โศกลงเสียบ้างเถอะ ข้าจะเป็นคนออกหน้าจัดการเรื่องนี้ให้เจ้าเอง” ฮ่องเต้ชิงหยู่ปรายพระเนตรมองกงชิงวี่ด้วยความกริ้วโกรธ: "อ๋องเสียน เจ้าทำงามหน้านักนะ!"
ทุกคนต่างพากันก้มหน้า ในใจต่างก็รู้บทสรุปของเรื่องนี้กันดีอยู่แล้ว ไม่ว่าอ๋องเสียนจะทำอะไรใครไปก็ตามแต่ จะตอนใครจนกลายเป็นขันทีไปก็ตามที แต่เมื่อเรื่องมาถึงที่สุด ทั้งหมดก็จะกลายเป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหมือนทุกครั้งนั่นล่ะ
อ๋องเสียนในยามนี้ กระทืบเท้าทีเดียว อย่าว่าแต่ในพระราชวังแห่งนี้ แม้แต่ทั้งประเทศต้าเหลียงพื้นดินก็ยังต้องสั่น ภูเขาก็ยังต้องสะเทือนด้วยซ้ำ ฟ้องร้องไหวงั้นหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น ประเดี๋ยวฝ่าบาทก็ทรงจัดการคาดโทษอ๋องเสียน ประเดี๋ยวก็กลับมาปกป้องให้ท้ายอ๋องเสียน ท้ายที่สุดอ๋องเสียนไม่เพียงไม่เกิดเรื่องอันใด แต่ยังไปเพิ่มความเย่อหยิ่งของเขาให้ยิ่งทวีคูณขึ้นอีกต่างหาก
ทุกคนล้วนก้มหน้านิ่งงัน โจวกวางเหินที่ยังอยู่บนพื้น ดึงแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาเป็นพัลวัน
“ หม่อมฉันเป็นคนตอนโจวไท่จริง สั่งให้คนไปจับโจวไท่นั้นก็เป็นความจริง แต่เรื่องทั้งหมดนี้ มีเหตุผลของมันพ่ะย่ะค่ะ”
"โอ๋?" ฮ่องเต้ชิงหยู่เลิกพระขนงขึ้นสูง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...