บทที่ 690 ใช้หยุนหยุนกดดัน
ทุกคนมองดู พลางถอยห่างออกไปเล็กน้อย ด้วยกลัวว่าตัวเองจะถูกลากเข้าไปติดร่างแหด้วย
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงมีพระราชโองการ รับสั่งให้ปลดตำแหน่งยศขุนนาง ที่อยู่ในราชการทั้งหมดของตระกูลโจว ลดระดับลงเป็นสามัญชน
โจวกวางเหินถูกลากลงมาทั้งอย่างนั้น แล้วโยนออกไปนอกวังอย่างไม่ไยดี
แม่ทัพอันเอ่ยขอทูลลาทันที
ฮ่องเต้ชิงหยู่จะทรงรั้งไว้ก็ไม่เหมาะนัก จึงผินพระพักตร์ไปทอดพระเนตรราชครูจุน แล้วตรัสขึ้นว่า: "ท่านราชครู ตรวจสอบจนรู้แน่ชัดแล้วหรือว่า จวนเฉิงเสี้ยงส่งคนไปลอบปองร้ายพระชายาเสียน?"
“ฝ่าบาท หม่อมฉันตรวจสอบแน่ชัดแล้วพ่ะย่ะค่ะ คนที่ทุ่มเงินซื้อคนไปลอบปองร้ายพระชายาเสียน คือญาติฝ่ายในของจวนเฉิงเสี้ยง เพียงแต่คนในจวนคนอื่นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
แต่จุดที่น่าสงสัยที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ ทันทีที่คนของจวนเฉิงเสี้ยงมาดูคนร้าย คนก็ตายทันที จึงเป็นจุดที่สร้างความน่าเคลือบแคลงที่สุดพ่ะย่ะค่ะ"
สีพระพักตร์ของฮ่องเต้ชิงหยู่ไม่สู้ดีนัก ทั้งคล้ำทะมึนหนักอึ้ง
เสินเฉิงเสี้ยงซึ่งคุกเข่าอยู่บนพื้นตัวสั่นเทาไม่หยุด เงียบงันอยู่นานไม่กล้าเอ่ยคำใด
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงตรัสถาม: "เฉิงเสี้ยง เจ้าจะยอมรับความผิดหรือไม่?"
เฉิงเสี้ยงก้มหน้าต่ำ: "ฝ่าบาท หม่อมฉันถูกใส่ความพ่ะย่ะค่ะ"
ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังทรงมีท่าทีให้เกียรติพ่อตาคนนี้อยู่บ้าง เขาไม่รับสารภาพก็แล้วไป
“เรื่องนี้ยังต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนอื่นให้นำตัวตัวเฉิงเสี้ยงไปคุมขังเอาไว้ก่อน มอบหมายให้อ๋องเสียนเป็นผู้ควบคุมดูแล หากเกิดอะไรขึ้นกับเฉิงเสี้ยง ข้าจะถามความรับผิดชอบจากเจ้า”
"พ่ะย่ะค่ะ"
"อ๋องตวนล่ะ?" ฮ่องเต้ชิงหยู่กวาดสายพระเนตรมองหาอ๋องตวน
จนสายขนาดนี้แล้วอ๋องตวนก็ยังไม่มา สร้างความไม่พอพระทัยแก่พระองค์อย่างยิ่ง: "ไปเรียกอ๋องตวนมาเดี๋ยวนี้ หากเขาไม่ยอมมา ลงทัณฑ์ไม้กระบอง!"
ในขณะที่พระองค์ตรัสอยู่อ๋องตวนก็มาถึงพอดี เข้ามาได้ก็ปรายตามองกงชิงวี่แวบหนึ่ง แล้วจึงเข้าไปถวายบังคม
“ อ๋องตวน เรื่องจวนเฉิงเสี้ยงวางแผนสังหารพระชายาเสียน ขอมอบหมายให้เจ้าไปจัดการ”
"พ่ะย่ะค่ะ"
ฮ่องเต้ชิงหยู่หยัดพระวรกายลุกขึ้นประทับยืน กวาดสายพระเนตรมองคนที่เหลือ แล้วจึงหมุนพระวรกายเสด็จจากไป
เมื่อฮ่องเต้เสด็จจากไปแล้ว อ๋องตวนจึงหันไปหากงชิงวี่ : "ตอนที่ข้ามาถึงได้ทันเห็นแม่ทัพอัน ข้าพูดด้วย เขาก็ไม่สนใจข้าสักนิด ไม่รู้ว่ามีเรื่องไม่พึงประสงค์อะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ?”
"....." กงชิงวี่หันหลังแล้วเดินออกไปทันที ไม่สนใจไยดีอ๋องตวนแม้แต่น้อย
อ๋องตวนงงหนัก รีบไปหาราชครูจุน: "ราชครูจุน เรื่องการตรวจสอบสืบสวน ต้องรบกวนให้ท่านไปกับข้าด้วย ช่วงนี้ข้าสุขภาพไม่ค่อยดีนัก คงไม่อาจทำเรื่องอะไร ที่ต้องทำต่อเนื่องยาวนานไม่หยุดพักได้"
ราชครูจุนปรายตามองอ๋องตวน ช่างอ่อนหัดใช้ไม่ได้เอาเสียเลย!
เป็นถึงอ๋องตวนผู้สง่างามทรงเกียรติผู้หนึ่ง ทำไมถึงได้ทำงานชุ่ยๆไม่ได้เรื่องได้ราวเช่นนี้หนอ ทำอะไรแต่ละอย่าง ก็ล้วนแต่ทำแบบขายผ้าเอาหน้ารอด แค่ให้มันพ้นๆตัวไปอยู่เสมอ ถ้าเขารู้จักพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้ามากกว่านี้หน่อย คงบรรเทาปัญหายุ่งยากใจทั้งหลายไปได้มาก
แม่ทัพอันออกจากวังไปได้ ก็ตรงดิ่งไปที่ตระกูลโจวทันที มาถึงตอนนี้ ตระกูลโจวกำลังวุ่นวายยุ่งเหยิงเละเทะเสียจนไม่เหลือสภาพเดิมแล้ว แม้ว่าจะถูกลดระดับเป็นสามัญชน ทว่าก็ไม่ได้มีการบุกค้นบ้าน หรือสั่งยึดทรัพย์แต่ประการใด โจวยี่เหรินนั้นเป็นขุนนางมาทั้งชีวิต สะสมทรัพย์สมบัติไว้ก็มากมาย อนุน้อยใหญ่ทั้งหลายก็มีมากล้น
ในเวลานี้ แต่ละคนต่างก็คิดหาทางขนสมบัติเผ่นหนีกันจ้าละหวั่น จนถึงขั้นที่เห็นว่ามีคนนำศพมาส่งคืนถึงหน้าประตูแล้ว ก็ไม่มีคนสนใจโดยสิ้นเชิง
แม่ทัพอันมาถึงอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงหน้าประตู ก็เงื้อเท้าเตะอนุคนหนึ่งที่กำลังจะหนี โบกแขนเสื้ออีกหนึ่งที โบกจนกวาดคนล้มลงไปหกคะเมนตีลังกาเลยทีเดียว
“โจวไท่ล่ะ?” แม่ทัพอันจ้องมองด้วยแววตาวาวโรจน์ โทสะพวยพุ่งจนราวกับว่าจะฆ่าคนให้ตายตรงนั้นแล้ว
อนุคนนั้น ตื่นตระหนกเสียจนชี้มือชี้ไม้เข้าไปในเรือนพักของจวนโจว แม่ทัพอันสาวเท้าเร็วรี่ ก้าวเข้าไปข้างใน คนในจวนโจวต่างก็ถูกทำให้หวาดกลัว หัวหดแทบแย่กันไปหมดแล้ว
แม่ทัพอันพุ่งเข้าไป และหาคนพบในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อได้เห็นโจวไท่อันจึงเอ่ยถามว่า:
“เจ้าคือโจวไท่?”
โจวไท่ที่สภาพร่อแร่เหลือแค่ครึ่งชีวิตแล้ว พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น: "เจ้าคืออันจือซาน?"
"โจวไท่ ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!"
“ อย่า !..... ”
แม่ทัพอันก้าวใหญ่ๆขึ้นไปข้างหน้า แล้วยกเท้าขึ้นเตะโจวไท่เข้าไปเต็มฝ่าเท้า โจวไท่ล้มลงกระอักเลือดออกมาจนกบปาก ตัวสั่นเทิ้ม ไม่อยากให้แม่ทัพอันเข้ามาใกล้อีก แม่ทัพอันก้มตัวลงดึงแขนของโจวไท่แล้วเหวี่ยงคนออกไปตรงๆ โจวไท่เจ็บจนใบหน้าบิดเบี้ยว ปากเบะย่นยู่ ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นสองครั้ง หน้าก็พลันเปลี่ยนสี ดวงตาเบิกโพลงเหลือกค้าง แล้วขาดใจตายในที่สุด
จวนตระกูลโจว มีเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนาดังออกมาไม่ขาดสาย แม่ทัพอันหันกายเดินกลับออกไปอย่างไม่แยแส
ตอนที่กงชิงวี่มาถึง แม่ทัพอันก็เพิ่งออกมาพอดี พ่อตาลูกเขยได้พบหน้า กงชิงวี่จึงถามขึ้นว่า: "ท่านพ่อตาเป็นอะไรหรือไม่?"
"ไม่เป็น"
"เช่นนั้นท่านรีบกลับไปเร็วสักหน่อย หยุนหยุนจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"
"อื้ม"
อันหลิงหยุนอยากเข้าไป คนรับใช้ย่อมไม่กล้าขัดขวาง แต่ถ้าเป็นกงชิงวี่นั้นไม่ได้
“ท่านลูกเขย อย่าเพิ่งเข้าไปเลยขอรับ” คนรับใช้ลำบากใจอย่างยิ่ง
สีหน้ากงชิงวี่เย็นชาสุดขีด: "ปากเจ้าก็เรียกข้าว่าท่านลูกเขย ๆ ทำไมทีคุณหนูของเจ้าถึงเข้าไปได้ แต่ข้าเข้าไปไม่ได้?"
คนรับใช้เองก็จนใจทำอะไรไม่ได้: "ท่านแม่ทัพอารมณ์ไม่ดี แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางทำร้ายคุณหนู หากเปลี่ยนเป็นท่านลูกเขย นั่นก็ไม่อาจบอกได้แล้ว"
"ความหมายรวมๆก็คือ เจ้าคิดเผื่อให้ข้าอย่างดีแล้ว?" สีหน้าของกงชิงวี่ดำคล้ำมืดทะมึน
คนรับใช้ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวกงชิงวี่มากนัก คนในจวนแม่ทัพ ไม่มีอะไรที่ต้องกลัวอยู่แล้ว "ขอรับ"
สีหน้ากงชิงวี่ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมแล้ว อันหลิงหยุนหันกลับมา เอ่ยขึ้นว่า: "ท่านอย่าเข้าไปเลยจะดีกว่า ข้าจะเข้าไปดูหน่อย ท่านกลับไปก่อนเถอะเพคะ"
อันหลิงหยุนเข้าไปหาแม่ทัพอัน ส่วนคนรับใช้ก็ขวางกงชิงวี่ไว้นอกประตูเหมือนเดิม กงชิงวี่อยู่ข้างนอกคนเดียวอย่างไรก็ไม่วางใจ เดินวนเวียนไปมา แต่กลับเข้าไปไม่ได้
ไม่รู้ว่าทำไม กงชิงวี่ย้อนนึกความทรงจำไปถึงเรื่องในวังวันนั้น ที่เขากับอ๋องตวนจะตีหยุนหยุนให้ตาย หัวใจของเขาก็เต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง รู้สึกอยู่ตลอดเวลาว่า กำลังจะมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว
"เปิดประตู ข้าจะเข้าไป"
กงชิงวี่รู้สึกวางใจไม่ลง จึงเรียกคนที่เฝ้าประตูอยู่ให้รีบเปิดประตู
"ถ้าเจ้ายังไม่มาเปิดประตูอีก ข้าจะบุกเข้าไปแล้วนะ?" กงชิงวี่พูดอย่างมีโทสะ
คนที่อยู่ข้างในพูดขึ้นว่า "ท่านลูกเขย หากว่าท่านพังประตูบุกเข้ามา คุณหนูกลับไปแล้วคิดบัญชีที่ท่านล่ะก็ อย่าหาว่าข้าไม่ช่วยยับยั้งท่านนะขอรับ"
คนเค้าอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี กงชิงวี่สีหน้าดำคล้ำมืดทะมึน : “ เจ้าถึงกับกล้าข่มขู่ข้าเชียวหรือ?”
"ข้าน้อยไม่กล้า เพียงแค่พูดตามความจริงเท่านั้น หากท่านไม่เชื่อจะเข้ามาให้ได้ แล้วให้คุณหนูมาถามหาคนรับผิดชอบในภายหลัง ท่านก็เข้ามาเถิดขอรับ"
“ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือ?” กงชิงวี่โทสะพวยพุ่งสุดขีด แทบจะบุกจะเข้าไปอยู่แล้ว
คนข้างในพูดกลับมาว่า: “ท่านลูกเขยย่อมกล้าแน่นอน ข้าน้อยรอคอยอย่างยินดียิ่งแล้ว!
"......"
กงชิงวี่แค่นเสียงเย็นชาขึ้นมาเสียงหนึ่ง สุดท้ายเขาก็ไม่อาจเข้าไปได้ ขืนเข้าไปจริงๆ หยุนหยุนอาจคาดโทษบางอย่าง ที่หนักเสียจนทำให้เขาไม่อาจรับผลที่ตามมาไหวก็เป็นได้

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...