ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 722

บทที่ 722 กงชิงวี่เจ้าพูดอีกครั้ง

อันหลิงหยุนได้ราชโองการแล้ว ก็ตามองค์หญิงใหญ่ออกจากวังเลย

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยืนอยู่ในเรือนด้วยความรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก

จุนเซียวเซียวยืนมองอยู่อีกด้าน ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไป: “นอนเถอะ ข้าจะออกไปเดินเล่นหน่อย”

“น้อมส่งฝ่าบาท”

จุนเซียวเซียวคำนับ ฮ่องเต้ชิงหยู่ออกจากประตูไป

เดินอยู่ในวังหลวงที่กว้างใหญ่ ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก ก้าวขึ้นไปบนแท่นสังเกตการณ์มองดูรถม้าที่จากไปไกล นึกถึงใบหน้านั้นของนาง ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ยิ่งตกอยู่ในภวังค์มากขึ้น

“ฝ่าบาท กลับไปไหม?”

“อืม กลับเถอะ”

......

อัยหลิงหยุนลงมาจากรถ ก็เป็นเวลาดึกแล้ว

องค์หญิงใหญ่บอกกับอันหลิงหยุน: “ถ้าหากพ่อเจ้าไปแล้ว ก็จะถามหาความผิดกับลูกชายทั้งหลายของเจ้า เจ้าก็ดูและจัดการเอาเองแล้วกัน”

รถม้าจากไปแล้ว อันหลิงหยุนมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นถึงหันหลังกลับไปโดยถือราชโองการไว้ด้วยสองมือ เมื่อแม่ทัพอันเห็นราชโองการก็โยนทิ้งไปและนั่งลงไปด้านหนึ่งด้วยความโกรธ

ราชครูจุนและคนอื่นๆมองหน้ากัน จากนั้นทุกคนก็กล่าวอำลากันไปทีละคน

หลังจากที่คนจากไปกันแล้วอันหลิงหยุนก็ยืนอยู่ในเรือนของแม่ทัพอัน รอคำพูดที่แม่ทัพอันจะกล่าวต่อจากนี้ เวลานี้แม่ทัพอันถึงเอ่ยปากว่า: “นำราชโองการกลับไปพักผ่อนเถอะ มีพระประสงค์นี้แล้ว จากนี้ไปใครก็ไม่สามารถทำให้พวกเจ้าลำบากใจอีก”

อันหลิงหยุนตะลึงไปครู่หนึ่ง ไม่ได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้

แม่ทัพอันเงยหน้าขึ้นมามองดูอันหลิงหยุน นานพักใหญ่: “เจ้ายังจะยืนโง่ๆอยู่อีกทำไม จะเอาไปไหม?”

อันหลิงหยุนถึงได้หยิบราชโองการขึ้นมา: “ท่านพ่อ ท่านไม่โกรธข้าแล้วหรือ?”

แม่ทัพอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง: “พ่อก็มีความผิดเหมือนกัน ไม่ใช่ความผิดเจ้า เรื่องที่หยุนหยุนแต่งงานกับเขาเดิมทีพ่อสามารถขัดขวางไว้ได้ แต่ในตอนนั้นพ่อก็รู้สึกว่า แต่งกับอ๋องเสียนที่เป็นคนที่สามารถพึ่งพาได้

พ่อนึกว่า หยุนหยุนที่มีรูปร่างหน้าตาเช่นนี้ คนที่ทุ่มเทในความรักเช่นนี้ แต่งงานกับอ๋องเสียนแล้ววันเวลาที่ยากลำบากจะต้องสิ้นสุดลงแล้ววันดีๆก็จะเข้ามาอย่างแน่นอน ไม่เคยคิดว่าจะเกิดเรื่องขึ้นวันนั้นเลย”

แม่ทัพอันไม่ได้เสียใจอย่างหนักเช่นครั้งก่อนๆ แต่แม่ทัพอันก็ไม่ได้ดี

ความเจ็บปวดของเขา เขียนเอาไว้ในสายตา

อันหลิงหยุนเข้าใจความรู้สึกของแม่ทัพอันขึ้นมาทันที จริงๆแล้วเขาก็ชอบนางอยู่เหมือนกัน แต่ถึงอย่างไรเจ้าของร่างเดิมก็เป็นลูกสาวของแม่ทัพอัน จู่ๆก็มาหายไปเช่นนี้ ในใจเขาจะเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากแค่ไหน

โดยเฉพาะสองวันมานี้ เห็นมือนางหายดีแล้ว เขาจะต้องรู้สึกแน่ว่าเจ้าของร่างเดิมจะไม่กลับมาอีก

ในชีวิตของอันหลิงหยุนไม่เคยรู้สึกอึดอัดใจขนาดนี้มาก่อน เดินเข้าไปใกล้ด้วยตัวเอง จากนั้นอันหลิงหยุนก็นั่งลงไป

“ท่านพ่อ พูดกันตามตรงแล้วอ๋องเสียนเป็นหนี้ชีวิตอยู่ชีวิตหนึ่ง เป็นของนาง และเป็นหนี้ท่านเช่นกัน ถ้าหากไม่มีข้า อ๋องเสียนได้ทำให้เจ้าของร่างเดิมตายไปแล้ว นี่เป็นเรื่องจริงที่ไม่สามารถโต้เถียงได้”

พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของแม่ทัพอันไม่น่าดูอย่างมาก ความโกรธแค้นที่เดิมทีปล่อยวางไปแล้วค่อยๆก่อตัวขึ้น อันหลิงหยุนเลยได้แต่ลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า: “ท่านพ่อ ข้ารู้ ว่าเรื่องนี้กลายเป็นช่องว่างในใจของท่านไปแล้ว แต่ข้าคิดว่าถ้าหากเจ้าของร่างเดิมกลับมา เช่นนั้นแล้วช่องว่างในใจของท่านคงหมดไป ถ้าเกิดว่าท่านอ๋องสามารถยอมรับเจ้าของร่างเดิมอีกครั้ง ท่านดูแลอยู่ข้างๆ ในสถานการณ์ที่เด็กๆก็ไม่สามารถสังเกตเห็นได้ มันก็จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”

แม่ทัพอันมองดูอันหลิงหยุน: “นางตายไปแล้ว”

“นางยังไม่ตาย นางกลับมาแล้ว ท่านพ่อก็เห็นไม่ใช่หรือ?”

“......” พ่อลูกต่างก็เงียบไป แม่ทัพอันมองไปทางนอกหน้าต่าง เวลานี้นอกหน้าต่างฝนเริ่มตกแล้ว ฝนที่ตกหนักเริ่มชะล้างหน้าต่างไม่หยุด ราวกับว่ากำลังจะพังหน้าต่างเข้ามา

แม่ทัพอันมองไปที่ฝนที่กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักและกล่าวว่า: “ความจริงข้ารู้นานแล้วว่าเจ้าไม่ใช่หยุนหยุน ตั้งแต่ตอนที่เจ้าวิ่งกลับมาจากข้างนอก ข้าก็เริ่มสงสัยแล้ว แต่ข้าคิดอยู่ตลอดว่าเจ้าเติบโตแล้ว นิสัยใจคอเปลี่ยนไป คิดไม่ถึงว่าเรื่องกลับไม่ใช่เช่นนั้น

หยุนหยุนกลัวเสียงฟ้าร้องมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งไม่ชอบพวกยาสมุนไพร ตอนเด็กๆเวลากินยาก็จะร้องไห้กอดข้าเอาไว้ แต่เจ้ากลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน