ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 842

บทที่ 842 ความเจ็บปวดของฮ่องเต้

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงส่ายหน้า : “หม่อมฉันคิดว่า......”

“เจ้าคิดว่าอะไรอีก ที่ข้าพูดไปยังไม่ชัดเจนอีกหรือ ? ถ้าหากว่าเจ้ายังคงแคลงใจ นางอยู่ในห้องเก็บสมบัติของฮ่องเต้องค์ก่อน มีภาพวาดอยู่ภาพหนึ่ง อายุหลายปีแล้ว เป็นภาพวาดที่สวมใส่ฉลองพระองค์ของฮองเฮา แต่ตอนนั้นนางเองก็ไม่ได้มีชีวิตอยู่บนโลกมนุษย์นี้แล้ว ฉลองพระองค์ชุดนั้นก็ถูกฝังไปพร้อมกับนาง ภายในสุสานหลวง โลงศพของนางก็ยังอยู่ แล้วเจ้ามีอะไรที่ยังไม่พอใจอีกอย่างนั้นหรือ ?”

“หม่อมฉันมิบังอาจมีสิ่งใดที่ไม่พอใจ แต่เป็นเพราะความเคลือบแคลงสงสัยตลอดหลายปีมานี้ ทำให้หม่อมฉันรู้สึกละอายใจ”

“ให้เจ้าคิดว่าข้าหลอกเจ้าก็ดี ไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องพวกนั้น”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยังทรงไม่สบายพระทัย สักพักใหญ่จึงตรัสขึ้นว่า : “เสด็จแม่ พระองค์ทรงเคยคิดที่จะกำจัดหม่อมฉันบ้างไหม ?”

หวางฮองไทเฮาพระเนตรแดงก่ำ : “ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงสวรรคต ทรงมีพระกระแสรับสั่งสุดท้ายทิ้งไว้ให้ข้า ตรัสว่าหากฮ่องเต้ไม่อาจทำให้บ้านเมืองสงบสุข ไม่อาจกตัญญูต่อบิดามารดาได้ ก็ให้กำจัดทิ้งเสีย

แต่ข้าเองไม่เคยคิดเช่นนั้นมาก่อน เพราะข้ารู้ดีว่า ฮ่องเต้ทรงเป็นฮ่องเต้ที่ดี

ความผิดไม่ได้อยู่ที่ฮ่องเต้

ที่เสด็จแม่ของเจ้าเป็นเช่นนั้นก็เพราะฮ่องเต้องค์ก่อนทรงไร้ความเมตตา

ประการแรกคู่ลูกพี่ลูกน้องถือเป็นคู่ที่สวรรค์สรรค์สร้างมา ประการที่สองนางเองก็ตั้งท้อง แล้วมีเหตุผลใดที่ควรจะเพิกเฉย

แต่เป็นเพราะเสด็จพ่อของเจ้าไม่เต็มใจ เขาเองก็ถือว่าเป็นคนที่ไร้น้ำใจคนหนึ่ง

ดังนั้นจะโทษเสด็จแม่ของเจ้าก็คงไม่ได้

อีกอย่าง......ตอนที่ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงเสด็จขึ้นครองราชย์ สถานการณ์โดยรวมยังไม่มั่นคงนัก ถึงแม้เสด็จแม่ของเจ้าจะเป็นพระราชนัดดาของไทเฮาองค์ก่อน แต่ว่าตระกูลมู่ของเจ้านั่นก็ไม่ได้รุ่งเรืองดั่งเช่นแต่ก่อนแล้ว

อีกทั้งไทเฮาองค์ก่อนก็มีถึงสองพระองค์ พระองค์หนึ่งมาจากตระกูลของเสด็จแม่เจ้า ส่วนอีกพระองค์หนึ่งมาจากตระกูลของข้า

ถึงแม้ข้าจะมีใจคล้อยตามฮ่องเต้องค์ก่อน แต่ตระกูลของข้าหากไม่ได้เห็นการตัดสินใจของฮ่องเต้องค์ก่อนแล้วล่ะก็ จะยอมตั้งสัตย์ปฏิญาณว่าจะถวายความจงรักภักดีได้อย่างไร ?

ฮ่องเต้องค์ก่อนทรงเลือกข้า และเลือกตระกูลของข้า นั่นคือสิ่งที่เหมาะสม และไม่มีทางเลือกอื่น

พระราชมารดาผู้ให้กำเนิดฮ่องเต้องค์ก่อน เป็นพระปิตุจฉาของเสด็จแม่เจ้า ส่วนพระปิตุจฉาของข้านั้นเป็นไทเฮาองค์ก่อนในรัชสมัยนั้น ในตอนนั้นไทเฮาองค์ก่อนไม่ทรงมีรัชทายาท นางจึงได้รับเลี้ยงฮ่องเต้องค์ก่อน ส่วนเสด็จแม่ของฮ่องเต้องค์ก่อนนั้น เป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากไทเฮาองค์ก่อน คงจะต้องจากโลกนี้ไปนานแล้ว

ไทเฮาองค์ก่อนทั้งสองพระองค์ รวมถึงฮ่องเต้องค์ก่อน ต่างก็หวังให้ข้าขึ้นเป็นฮองเฮา

แต่เสด็จแม่ของเจ้ารู้ทั้งรู้ว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเช่นนี้ นางก็ยังมัวแต่คิดถึงเรื่องที่นางและฮ่องเต้องค์ก่อนเป็นคู่รักที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก จึงต้องการที่จะขึ้นเป็นฮองเฮา แม้แต่ให้นางเป็นกุ้ยเฟยนางก็ไม่ยอม

ไทเฮาองค์ก่อนทั้งสองพระองค์จึงทำได้เพียงต้องปลิดชีพนาง ฮ่องเต้องค์ก่อนเองก็ทำได้เพียงแค่ปลิดชีพนาง !”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มีฐานะเป็นถึงฮ่องเต้ ถึงแม้หนทางในการเป็นฮ่องเต้นั้นจำเป็นจะต้องปลิดชีพผู้คน แต่เขาก็ยังรู้สึกจงเกลียดจงชังผู้หญิงบ้าดีเดือดที่เขาไม่เคยเจอคนนั้นอยู่ดี

เซไปเซมาจนเกือบจะล้มลง หวางฮองไทเฮาจึงทรงตรัสถามขึ้น : “เจ้าเป็นอะไรไป ?”

“ไม่เป็นไรพ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันเพียงแค่อารมณ์ไม่ดี เสด็จแม่ หม่อมฉันอยากกลับไปพักผ่อนแล้ว” ฮ่องเต้ชิงหยู่หันหลังเดินจากไป โดยไม่ได้สนใจหวางฮองไทเฮาอีก

เมื่อเดินออกจากประตูไปได้เพียงไม่กี่ก้าว ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ล้มลง มีเลือดไหลออกมาจากปาก ใบหน้าเขียวคล้ำ ทำให้ไห่กงกงตกใจเป็นอย่างมาก หวางฮองไทเฮาเองก็ทรงตื่นตกใจ จึงรีบวิ่งออกไป

ตัวของฮ่องเต้ชิงหยู่สั่นเล็กน้อย : “เสด็จแม่ หม่อมฉัน......”

หวางฮองไทเฮาไม่สนใจเรื่องอื่นอีก นางอุ้มเขาขึ้นมาไว้ในอ้อมอก : “พวกเจ้ารีบไปตามพระชายาเสียนมาเร็วเข้า......”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรหวางฮองไทเฮาแล้วตรัสว่า : “เสด็จแม่ หม่อมฉันแค่รู้สึกเวียนหัวเท่านั้น”

“ไม่มีทาง เลือดของเจ้าเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว ต้องถูกพิษแน่นอน ถูกพิษแน่นอน......” หวางฮองไทเฮาทรงกัดฟันแน่น : “ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับฮ่องเต้ ข้าจะฆ่าล้างตระกูลจงให้สิ้นซาก ให้พวกมันไม่มีทางได้ผุดได้เกิดอีกตลอดไป”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงทอดพระเนตรหวางฮองไทเฮา : “หม่อมฉันเก็บความแค้นเอาไว้ในใจมาโดยตลอด หม่อมฉันต้องการให้เสด็จแม่ลงมือด้วยตนเอง เพื่อที่จะให้เสด็จแม่ลงมือ หม่อมฉันถึงขนาดยอมเสวยยาทำหมัน ของฮองเฮาโดยไม่ลังเล หม่อมฉันคิดว่าฮองเฮาเป็นคนของเสด็จแม่ แต่เมื่อรู้ว่าฮองเฮาเป็นคนของตระกูลจง ทำให้หม่อมฉันรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพื่อที่จะแก้แค้นเสด็จแม้ แม้แต่ลูกก็ไม่มีแล้ว”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงจับพระหัตถ์ของหวางฮองไทเฮาเอาไว้แน่น หวางฮองไทเฮาทรงกรรแสงออกมา : “แม่ไม่ดีเอง ควรจะบอกเจ้าตั้งแต่แรก เรื่องแบบนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น”

“ไม่ใช่ความผิดของเสด็จแม่ เป็นเพราะในตัวของลูกมีเลือดริษยาของนางอยู่”

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงตรัสพลางก็ทรงปิดพระเนตรลง หวางฮองไทเฮาทรงออกแรงเขย่าตัวของฮ่องเต้ชิงหยู่ : “หยู่เอ๋อ”

พระหัตถ์ของฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงขยับ แล้วทรงพิงพระองค์เข้าไปในอ้อมกอดของหวางฮองไทเฮา

ตอนที่อันหลิงหยุนมาถึง หวางฮองไทเฮาทรงประทับอยู่ด้วยร่างที่เหมือนไร้วิญญาณอยู่ในวิหารหลัก โดยมีฮ่องเต้ชิงหยู่อยู่ในอ้อมกอดของนาง มีพนักพิงศีรษะอยู่ที่ขาของนาง อันหลิงหยุนมาถึงก็ไม่ทันจะได้ถวายความเคารพ รีบตรงเข้ามาตรวจดูพระอาการในทันที

ฮว่าไท่เฟยเองก็ทรงอยู่ด้วย รีบตรสถามขึ้นว่า : “เป็นอย่างไรบ้าง ?”

อันหลิงหยุนส่ายหน้า : “พิษร้ายแรงมาก คงจะต้องเป็นพิษที่แปลกมากชนิดหนึ่ง หลังจากถูกพิษแล้วจะไม่แสดงอาการในทันที แต่เมื่อใดที่แสดงอาการออกมาก็ไม่อาจจะช่วยได้ทันแล้ว ฝ่าบาททรงเหลือเวลาอย่างมากไม่เกินหนึ่งชั่วยามเพคะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน