ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 877

สรุปบท บทที่ 877 ไล่ตามศัตรูเข้าตาจน: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน

ตอน บทที่ 877 ไล่ตามศัตรูเข้าตาจน จาก ยอดหมอยาของอ๋องเสียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 877 ไล่ตามศัตรูเข้าตาจน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ยอดหมอยาของอ๋องเสียน ที่เขียนโดย หยูนเยว่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 877 ไล่ตามศัตรูเข้าตาจน

แต่ทว่าค้นหาอยู่นานเป็นครึ่งค่อนวัน ก็หาหลักฐานอะไรไม่พบเลยสักอย่าง ในทางกลับกัน กลับไปพบหลี่ถิงที่อยู่ในไห กับเจ้าเสือน้อยและจิ้งจอกหางสั้น ที่คอยเฝ้าจับตาหลี่ถิงอยู่เท่านั้น

เมื่อเห็นสองสิ่งนี้เข้าไป ซูมู่ไห่ก็ตกใจจนผงะค้าง กระทั่งสีหน้าก็ขาวซีดไปทั้งหน้าแล้ว

“นี่มันอะไรกัน? พวกเจ้ากล้าเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาขนาดนี้เชียวรึ!” ซูมู่ไห่พูดอย่างโกรธเกรี้ยว คิดไปว่าเสือกับจิ้งจอกกินเนื้อคนแน่แล้ว

เจ้าเสือน้อยที่ในเวลานี้โตจนมีขนาดพอ ๆ กับเสือตัวใหญ่แล้วลุกขึ้นยืน พร้อมส่งเสียงขู่คำรามในลำคอออกไปเสียงหนึ่ง ทำเอาซูมู่ไห่ถอยจนขาขวิด สะดุดล้มหกคะเมนตีลังกาไปอย่างหมดท่า

เจ้าเสือน้อยโกรธมากจึงกระโจนเข้าใส่ ซูมู่ไห่หวาดกลัวจนแหกปากร้องตะโกนเสียงดังลั่น อันหลิงหยุนออกคำสั่งด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองว่า : “ถอยไป!”

เจ้าเสือน้อยจึงเบี่ยงหัวถอยหลังกลับไป นอนหมอบราบลงกับพื้นไม่ลุกขึ้นมาอีก เพราะกลัวจะโดนดี เอาแต่ก้มหัวหมอบต่ำ ไม่กล้ามองไปที่อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา: "เจ้าจะเก่งกาจเกินไปแล้วกระมัง?"

อันหลิงหยุนส่งจื่อฮั่วที่อยู่ในอ้อมแขนไปให้กงชิงวี่ ตอนนี้เขานั่งอยู่จึงสามารถอุ้มสองคนได้ อีกทั้งเจ้าห้าก็สามารถเดินบนพื้นเองได้แล้ว

อันหลิงหยุนก้มตัวลงช่วยพยุงซูมู่ไห่ขึ้นมา ซูมู่ไห่ยืนขึ้นได้ยังตกใจไม่หาย หันกลับมามองอันหลิงหยุนทั้งสภาพที่ยังหอบหายใจถี่

อันหลิงหยุนจับข้อมือของเขา มือที่ตอนแรกเก็บกลับไปแล้ว พลันยื่นออกมาอีกครั้ง

สีหน้าของซูมู่ไห่ทะมึนจมดิ่งทันที ออกแรงผลักอันหลิงหยุนออกไปอย่างรวดเร็ว อันหลิงหยุนไม่ได้มีการเตรียมระวังตัวใด ๆไว้เลย เมื่อถูกเขาผลัก คนที่เดิมทีก็ไม่ได้ยืนอย่างมั่นคงอยู่แล้ว จึงเสียหลักล้มลงไปกับพื้นทันที

กงชิงวี่ผุดลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เจ้าเสือน้อยเห็นกงชิงวี่ลุกขึ้น จึงบิดตัวแล้วกระโจนออกไปอย่างไม่รอช้า อ้าปากที่เต็มไปด้วยคมเขี้ยวของสัตว์นักล่าจนกว้างแล้วกัดลงไป อันหลิงหยุนเองก็ยังตกใจไปด้วยแล้ว รีบตะโกนสั่งเจ้าเสือน้อยทันที: "อย่าทำเรื่องวุ่นวาย !”

เจ้าเสือน้อยยังมีท่าทีไม่ยินยอมนัก กดอุ้งเท้าลงบนตัวซูมู่ไห่แน่นไม่ยอมปล่อย ซูมู่ไห่อ้าปากค้างหอบหายใจกระชั้นถี่ ตกใจกลัวจนไม่อาจกระพริบตาได้

กงชิงวี่เดินไปข้าง ๆ อันหลิงหยุนแล้วพยุงนางขึ้นมา มองสำรวจตรวจดูว่านางไม่ได้เป็นอะไร จึงค่อยมองไปที่ซูมู่ไห่: "วันนี้ถ้าเจ้าหาหลักฐานพบ ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่ถ้าหาไม่พบ ข้าจะป้อนเจ้าให้เสือกิน!"

ซูมู่ไห่รีบหันขวับไปมอง สีหน้าย่ำแย่สุดขีด: "ดูไปแล้ว คนพวกนั้นคงจะถูกเสือของเจ้ากินไปหมดแล้วสินะ"

“ เจ้ายังอยากเข้าไปดูในท้องเสือด้วยหรือไม่ล่ะ?” กงชิงวี่เอ่ยถามอย่างเย็นชา

อันหลิงหยุนปัด ๆ ฝุ่นบนร่างตัวเอง: "ท่านอย่าพูดอีกเลย เขายังเด็กอยู่!"

อันหลิงหยุนส่งสายตาเป็นสัญญาณไปให้กงชิงวี่ เขาไม่ได้เข้าใจในสายตานั้น แต่ก็ยอมปล่อยมืออย่างเชื่อฟัง

อันหลิงหยุนหันไปมองเจ้าเสือน้อย: "ลุกขึ้น!"

เจ้าเสือน้อยจึงยอมถอยจากไป

ครั้งนี้อันหลิงหยุนไม่ได้เข้าไปช่วยพยุงซูมู่ไห่แล้ว เพียงถามไปว่า "เจ้าไม่เป็นไรนะ?"

ซูมู่ไห่หันมองอันหลิงหยุนแวบหนึ่ง แล้วตะเกียกตะกายลุกขึ้นจากพื้น แต่เขาเหลือบมองอันหลิงหยุนเพียงครู่สั้นๆ ก็หันกลับไปมองไหที่อยู่บนรถม้า แล้วพูดด้วยท่าทางเย็นชาว่า: "แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าพวกเจ้ามาจากไหน แต่การฆ่าคนตายในเมืองหนานอี้มีความผิด จะต้องถูกตัดหัว "

กงชิงวี่หันมองอันหลิงหยุน เขาชักจะหมดความอดทนแล้วจริงๆ

อันหลิงหยุนพูดขึ้นว่า: "เขาเป็นคนเลวที่ฆ่าพี่ชายของข้า มันไม่ผิดอะไรที่ข้าจะจับเขามา แล้วอีกอย่างดวงตาของเขาก็มีปัญหา เขาเป็นแค่สัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง"

อันหลิงหยุนเดินเข้าไป ถอดผ้าที่ปิดตาหลี่ถิงออก ในเวลานี้หลี่ถิงยังอยู่ในช่วงที่ยาชากำลังออกฤทธิ์ นางเอายาชาให้หลี่ถิงกินทุกวัน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตัวเขาเองจะตื่นมีสติรับรู้อยู่เสมอ แต่ก็ไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาพูดอะไรให้มากความ อันหลิงหยุนจึงได้ตัดลิ้นของเขาออกด้วย ตอนนี้เขาจึงไม่อาจพูดอะไรได้อีกแล้ว

ดวงตาของหลี่ถิงมีสภาพเหมือนกับดวงตาแมลงปอ เมื่อซูมู่ไห่เห็นเข้า ก็ตกใจจนถึงกับผงะ อันหลิงหยุนเอาผ้ากลับไปผูกปิดดวงตาของหลี่ถิงอีกครั้ง ก่อนจะหันไปมองซูมู่ไห่

ซูมู่ไห่กัดฟันกรอด พูดด้วยสีหน้าเย็นชา: "ไม่ว่าเจ้าจะพูดอะไร ข้าก็ไม่เชื่อหรอก อย่างไรก็มีคนรายงานเข้ามา ข้าจะต้องตรวจสอบให้ถึงที่สุด"

"คนรายงานความผิดอยู่ที่ไหนล่ะ?" อันหลิงหยุนถามกลับ

"ตายไปแล้ว!" ซูมู่ไห่หันไปมองกงชิงวี่ด้วยสายตาที่เป็นศัตรู แววตาบ่งบอกชัดเจนว่า ในใจเขาคิดแผนการที่จะจับกุมตัวกงชิงวี่เอาไว้แล้ว

กงชิงวี่ไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง หันกลับไปตบกล่อมจื่อฮั่วที่อยู่ในอ้อมแขนเบาๆ: "กินข้าวเถอะ"

"ข้า .... " จู่ๆอันหลิงหยุนก็หันหลัง ผุดลุกขึ้นแล้วพุ่งออกไปข้างนอกทันที ซูมู่ไห่ก็ลุกขึ้นแล้วตามออกไป อันหลิงหยุนเพิ่งจะยืนได้มั่นคง ก็เห็นเงาร่างของคนที่สวมชุดสีแดงร่างหนึ่งวูบไหวผ่านหน้าไปอยู่ไม่ไกล

อันหลิงหยุนไล่ตามออกไป โดยมีซูมู่ไห่ไล่ตามออกไปด้วยติดๆ รอจนเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรไล่ตาม ก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวออกมา แล้วตรงเข้าล้อมพวกเขาทั้งสองคนไว้

มีคนขี่ม้าใช้เชือกคล้องม้า ทำเป็นบ่วงบาศคล้องพวกเขาเอาไว้ อันหลิงหยุนทำได้เพียงยอมถูกจับโดยละม่อม

"พวกเจ้าเป็นใคร?" ซูมู่ไห่ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกจับ อีกทั้งอันหลิงหยุนก็ดูสงบนิ่งอย่างมาก

อันหลิงหยุนไม่ได้พูดอะไร แค่มองกลับไปที่ลานเรือนพัก

โชคร้ายเป็นบ้าเลย!

"เป็นใครนั้นเจ้าไม่ต้องสน รอความตายอย่างเดียวเป็นพอ" คนที่อยู่บนม้าออกแรงดึงเชือกทันทีเมื่อสะบัดเชือกอย่างแรงเพียงครั้งเดียว ทั้งอันหลิงหยุนและซูมู่ไห่ ก็ถูกโยนขึ้นไปบนหลังม้า แล้วกลุ่มคนเหล่านั้นก็พาพวกเขาจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากวิ่งมานานกว่าหนึ่งชั่วยาม ทั้งสองก็ถูกโยนขึ้นเรืออีกทอด แล้วจึงออกเดินทางอีกครั้ง

บนเรือมีชายที่สวมชุดสีแดงทั้งตัวอยู่คนหนึ่ง ดูไปแล้วยังอายุไม่มาก เมื่อเห็นอันหลิงหยุนจึงเดินตรงเข้าไปหา อันหลิงหยุนลุกขึ้นมาได้ ก็แกะเชือกที่มัดตัวเองอยู่ออกทันที

"เคยได้ยินกิตติศัพท์ของเจ้ามานานมากแล้ว น้องชายคนที่สามของข้าบอกกับข้าว่า เจ้าเป็นแค่ผู้หญิงไร้ประโยชน์ ใช้อะไรไม่ได้คนหนึ่ง พี่ใหญ่ของข้าบอกกับข้าว่า เจ้าเป็นผู้หญิงน่ารังเกียจที่สมควรตายคนหนึ่ง แต่ข้ากลับคิดว่า เจ้าก็เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งก็แค่นั้น!" ดวงตาของชายชุดแดงฉายแววชั่วร้ายอยู่หลายส่วน อันหลิงหยุนรู้เลยว่าคนประเภทนี้ มักเป็นพวกแฝงเจตนาไม่ดีด้วยกันทั้งนั้น

"ที่เจ้าจับข้ามา ก็เพื่อจะบอกเรื่องพวกนี้กับข้าแค่นั้นน่ะหรือ? " อันหลิงหยุนแสดงท่าทางไม่เข้าใจอย่างหนัก

มุมปากของหงเย่แสยะยกโค้งขึ้นสูง หันหลังเดินตรงไปทางหัวเรือ เดินไปพลางพูดไปพลางว่า "ถ้าวันนี้เจ้ารับปากว่าจะยอมเป็นผู้หญิงของข้า ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็ได้!"

“ทำไมล่ะ? หรือเจ้าแค่อยากให้ข้าเป็นผู้หญิงของเจ้าแค่นั้น? สามีของข้าฆ่าน้องชายของเจ้า ทั้งยังฆ่าพี่ชายของเจ้าด้วยนะ

ข้าได้ยินมาว่า พี่ชายของเจ้าต้องตายอย่างน่าอนาถ ตอนนี้ศพยังถูกแขวนอยู่หน้าประตูเมืองอยู่เลยด้วยซ้ำ! "

หงเย่หันหน้ามามองอันหลิงหยุน: "นี่เจ้ากำลังยั่วยุข้าอย่างนั้นสินะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน