ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 911

บทที่ 911 รวมห้าประเทศ

หลายวันต่อมา ทูตของแต่ละประเทศก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงของประเทศต้าเหลียง จากนั้นจึงมีคนคอยนำทางไปยังที่พักของแต่ละประเทศ

ถึงแม้เซวียนเหอจะมาถึงเร็ว แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้พบกับหยุนโล๋ชวน ลองถามดูหลายครั้ง ขนาดฮ่องเต้หลิงหยุนของประเทศหลิงหยุนยังต้องรอเข้าพบฮ่องเต้ชิงหยินพร้อมกับทูตของประเทศอื่นๆ อีกสี่ประเทศ

ประเทศต้าเหลียงในตอนนี้ ไม่เหมือนกับประเทศต้าเหลียงในสมัยก่อนอีกต่อไป ยาของพวกเขาถูกส่งไปทุกประเทศ กิจการด้านอื่นๆ ก็กำลังพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว สิบปีมานี้ การถูกบังคับให้เสียดินแดนส่วนหนึ่งเนื่องจากความพ่ายแพ้ในสงครามของประเทศเฟิ่งและหนานอี้ ก็ไม่อาจที่จะกลับมาดังเดิมได้อีกแล้ว อีกทั้งการแลกเปลี่ยนทางการค้าก็ไปถึงจุดสูงสุดของห้าประเทศหลักแล้ว

ในทางกลับกัน ประเทศต้าเหลียงนั้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านกำลังคนหรือด้านทรัพยากร หรือพื้นดิน ก็เป็นที่หนึ่งในบรรดาห้าประเทศ

ฮ่องเต้ชิงหยินเชิญทูตทั้งสี่ประเทศมาร่วมงานเลี้ยงเย็น นอกจากตัวแทนของประเทศเฟิ่งแล้ว ตัวแทนของอีกสามประเทศก็มาถึงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนคนที่มาเป็นตัวแทนประเทศเฟิ่งคืออ๋าวชิง อ๋าวชิงกล่าวว่า เดิมทีผู้ที่จะมาคือมกุฎราชกุมารี แต่มกุฎราชกุมารีได้เสด็จไปเยือนเมืองหลวงของอีกสองประเทศก่อน ทำให้ร่างกายผิดดินฟ้าอากาศ ตอนนี้กำลังพักผ่อนอยู่ ดังนั้นเขาจึงมาร่วมงานเลี้ยงแทน

หยุนโล๋ชวนพูดว่า : “เชิญนั่ง”

ฮ่องเต้ชิงหยินหันมอง แล้วกล่าวอะไรเล็กน้อย จากนั้นทุกคนจึงเริ่มงานเลี้ยง

เริ่มการแสดงด้วยการร้องเพลงและเต้นรำ เมื่อการร้องเพลงและเต้นรำผ่านพ้นไป ก็มีคนบรรเลงพิณขึ้น

ตอนนี้เอง คนที่องค์ชายสี่แห่งหนานอี้พามาด้วยนั้น ได้ลุกขึ้นแล้วพูดว่า : “ได้ยินมาว่าจวิ้นจู่เสี่ยวเฉียวแห่งจวนอ๋องเซ่เจิ้งทรงมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก องค์ชายของพวกเราก็ทรงเรียนดีดพิณมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ไม่ทราบว่าจะพอบรรเลงร่วมกันได้หรือไม่ ?”

ซูมู่ไห่หันมองคนข้างๆ เรื่องนี้ไม่ได้ปรึกษากันมาก่อน

ฮ่องเต้ชิงหยินหันมองกงชิงวี่ที่นั่งอยู่ด้านล่าง : “อ๋องเซ่เจิ้ง ท่านว่าอย่างไรล่ะ ?”

“เสี่ยวเฉียวไม่ค่อยสบายตัว เกรงว่าจะต้องทำให้องค์ชายหนานอี้ผิดหวังแล้ว” กงชิงวี่ไม่มีทางให้ลูกสาวแต่งงานออกไปประเทศอื่นแน่นอน

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง ทำให้ซูมู่ไห่รู้สึกท้าทายขึ้นมา ถึงแม้ตอนนั้นผู้หญิงของเขาไม่อาจแตะต้องได้ แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถขัดขวางลูกสาวคนนี้ได้

“เช่นนั้นไม่ทราบว่าจะเชิญจวิ้นจู่เสี่ยวเฉียวมาช่วยปรับพิณให้ข้าได้หรือไม่ แล้วข้าจะเป็นผู้ดีดพิณให้นางฟังเอง”

“เสี่ยวเฉียวปรับพิณไม่เป็นหรอก แต่ข้าปรับเป็น ไม่ทราบว่าองค์ชายแห่งหนานอี้ต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ?”

“......”

เสียงในวิหารหลักเงียบสงัด ทุกคนต่างหันไปมองกงชิงวี่ กงชิงวี่ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดว่า : “อะมู่”

“เสด็จพ่อ !”

“พาเสี่ยวเฉียวกลับไปส่ง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เสี่ยวเฉียวลุกขึ้นถอนสายบัว นางสวมใส่ชุดสีขาวสะบัดพลิ้วเดินจากไป ทุกคนต่างจ้องมองด้วยความตะลึง นี่เองคือจวิ้นจู่เสี่ยวเฉียว

หวางหวยอันยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม จากนั้นจึงกระแอมสองครั้ง : “ฝ่าบาท หม่อมฉันเองก็ไม่ค่อยสบาย จึงขอตัวทูลลาก่อน !”

“ทำไมเจ้าถึงไม่สบายตัวด้วย ?” ฮ่องเต้ชิงหยินไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ตอนนี้เห็นใครก็ขวางหูขวางตาไปเสียหมด

หยุนโล๋ชวนพูดว่า : “กั๋วจิ๋วไปก่อนเถอะ ทุกคนล้วนเป็นคนกันเองทั้งนั้น”

“พ่ะย่ะค่ะ”

หวางหวยอันเดินตามเสี่ยวเฉียวกลับไป

ที่นี่ อ๋าวฉิงเองก็หันมองซ้ายมองขวาแล้วพูดขึ้นว่า : “ทูลฮ่องเต้แห่งต้าเหลียง อ๋าวฉิงรู้สึกเป็นห่วงมกุฎราชกุมารี จึงอยากขอตัวทูลลาก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถอะ”

ฮ่องเต้ชิงหยินพยายามควบคุมสถานการณ์เอาไว้ เขาพูดถึงขนาดนี้แล้ว แล้วจะไม่ให้ไว้หน้าเขาได้อย่างไร ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน