สีหน้าของชีเจิ้นเขียวคล้ำลงแล้วเปลี่ยนเป็นซีดขาวจากนั้นก็เขียวคล้ำลงอีกครั้ง หงุดหงิดอย่างที่สุดในฉับพลัน
นั่นก็ไม่ใช่นี่ก็ไม่ใช่ ตกลงแล้วเกิดอันใดขึ้นกันแน่?
ชีอวิ๋นถิงกลิ้งไปมาอยู่บนเตียงไม่หยุด ราวกับกุ้งฝอยที่ถูกโยนลงไปในหม้อที่มีน้ำเดือดอย่างไรอย่างนั้น
นางหวังน้ำตาไหลพรั่งพรู “ท่านหมอหลวง ท่านรีบคิดหาวิธีเข้าเถิด คงจะปล่อยให้เขาต้องเจ็บปวดเช่นนี้ต่อไปใช่หรือไม่?”
แม่ลูกเชื่อมใจถึงกัน ตอนนี้ชีอวิ๋นถิงกำลังทุกข์ทรมาน ก็ราวกับว่ามีคนเอามีดมากรีดเนื้อของนาง หากสามารถเจ็บปวดแทนชีอวิ๋นถิงได้ นางจะไม่ลังเลแม้แต่น้อย
หมอหลวงลูบเคราของตนอย่างรู้สึกลำบากใจ “ข้าจะจ่ายยาสงบจิตให้เขาก่อน ลองดูว่าเขาดื่มไปแล้วจะสามารถดีขึ้นได้บ้างหรือไม่”
หากหาต้นตอของปัญหาไม่เจอ ก็ไม่สามารถจ่ายยาที่ถูกต้องได้ หมอหลวงก็ไม่แน่ใจอยู่บ้างเช่นกัน
ทว่าตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว ชีเจิ้นตัดสินใจ “เช่นนั้นก็ดื่มยาก่อนเถิด”
ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการต้มยา เพื่อป้อนให้กับชีอวิ๋นถิง
ตอนนี้ดึกมากแล้ว ชีหยวนหาวขึ้นมาเบา ๆ
เหลียนเฉียวรีบกระซิบเตือนนาง “คุณหนู ตอนนี้ดึกมากแล้ว ข้าจะคอยปรนนิบัติ ท่านไปพักผ่อนสักนิดก่อนเถิดเจ้าค่ะ?”
ชีหยวนกลับโบกมือเบาเบา ยิ้มพลางส่ายศีรษะ “ไม่ต้องหรอก นอนแล้วก็ต้องตื่นขึ้นมาอีก ข้าไม่อยากจะเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ ”
เหลียนเฉียวกระพริบตาปริบ ๆ ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคุณหนูของตนเองสักเท่าใดนัก ทว่าในเมื่อชีหยวนกล่าวเช่นนี้ นางคิดว่าคุณหนูจะต้องมีแผนการของตนเองเป็นแน่ จึงค่อย ๆ ถอยออกไปอย่างแผ่วเบา คิดจะนำน้ำแกงโสมมาให้ชีหยวนสักถ้วย
ผู้ใดจะรู้ว่าเพิ่งจะออกไป นางก็พบกับแม่นมจางที่เดินออกไปอย่างรีบร้อน
โคมไฟตรงทางเดินกวัดแกว่งไปมา สามลมพัดมาที่นางจนตัวสั่นสะท้าน เหลียนเฉียวมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยฉับพลัน รีบเข้าไปในห้อง พลางพูดอย่างแผ่วเบา “คุณหนู แม่นมจางออกไปข้างนอกแล้วเจ้าค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงในเงามาร