บทที่ 121 กานต์หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครตอบคำถามธรณีได้ในตอนนี้
บุริศร์เพิ่งเห็นธรณี พยักหน้าให้เขาและพูดขึ้น “คุณชายธรณี ฉันได้ยินมาว่าคุณระดมพลทั้งหมดเพื่อช่วยตามหาลูกชายฉัน ฉันมาที่นี่เพื่อขอบคุณ”
ประโยคที่ว่า “ลูกชายฉัน” นั้นทำให้ธรณีสงสัยอีกครั้ง
“คนที่หายคือ……”
“ลูกชายของฉันบุริศร์! กานต์ ธนาศักดิ์ธน! ใช้นามสกุลแม่ของเขา”
คำอธิบายของบุริศร์นี้ทำให้ธรณีเข้าใจทันที ระหว่างนรมนและบุริศร์ไม่อยากให้คนภายนอกมองแบบนั้น แค่รู้จักกันสั้นๆ สิบกว่าหรือยี่สิบวันเท่านั้น
ที่แท้ทั้งคู่ก็มีลูกด้วยกันแล้ว ไม่แปลกใจที่มีความรู้สึกลึกซึ้งกันเช่นนั้น
“ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ ถ้ามีข่าวอะไร แจ้งกันและกันด้วยนะครับ”
ธรณีไม่ยืดเยื้ออีกแล้ว เข็นรถเข็นจากไป
บุริศร์และนรมนก็ไม่กล้ายืดเยื้อ รีบเริ่มหาเบาะแสของกานต์อย่างรวดเร็ว
นรมนค่อนข้างกังวลว่าร่างกายของบุริศร์จะทนไม่ไหว แต่บุริศร์พูดยืนกราน “ตั้งแต่เล็กจนโต ตั้งแต่เขาเกิดมาจนถึงตอนนี้ ฉันไม่เคยมีความรับผิดชอบในการเป็นพ่อเลยสักวัน ครั้งนี้ก็เป็นเพราะเกี่ยวข้องกับฉันทำให้เขาหายตัวไป ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา ฉันจะไม่ละอายใจต่อเธอได้ยังไง? จะไม่ละอายใจต่อเขาได้ยังไง? ไม่ต้องพูดเรื่องสภาพร่างกายฉัน ถ้าเกิดกานต์ไม่อยู่ ฉันจะเอาร่างกายนี้ไปทำอะไร?
บุริศร์สงบกว่านรมนนิดหน่อย
เขาคิดว่าแขนขาเล็กๆ ของกานต์คงวิ่งไปได้ไม่ไกลนัก ต้องอยู่ละแวกโรงพยาบาลแน่ๆ
“เรียกคนมารวมตัว ช่วยฉันหาทั้งหมดของโรงพยาบาลเขตทหาร และเธอกับฉันไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เราไปดูกันว่าจะหาเบาะแสในกล้องวงจรปิดได้ไหม”
นรมนได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้แล้วถึงได้มีความชัดเจนนิดหน่อย
ตอนที่รู้ว่ากานต์หายตัวไป เธอรู้สึกว่าท้องฟ้าตัวเองตกลงมา คุณปล่อยให้เธอวิเคราะห์คดีเหมือนอัจฉริยะอีก เธอทำไม่ได้เลย
บอดี้การ์ดเริ่มค้นหาทุกซอกทุกมุมของโรงพยาบาลเขตทหาร และนรมนเดินตามบุริศร์ไปที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด
เพราะบุริศร์เป็นคนพิเศษ หลังจากผู้อำนวยการโรงพยาบาลรู้ว่าคุณชายน้อยของตระกูลโตเล็กหายตัวไป ก็ยิ่งให้ความร่วมมือมากขึ้น ให้ทุกคนดึงวิดีโอกล้องวงจรปิดออกมาเพื่อให้บุริศร์ตรวจสอบสะดวก
วิดีโอในช่วงหนึ่งถูกคนพบออกมา
ดวงตาบุริศร์และนรมนจ้องไปที่วิดีโอ หาข้อมูลของกานต์อยู่ตลอด แต่ไม่ว่าจะเป็นภาพไหนก็ไม่มีเงาของกานต์ปรากฏขึ้น
ทันใดนั้นนรมนก็ชี้ไปที่รูปภาพหนึ่งแล้วพูดขึ้น “ดูสิ ตอนกานต์เพิ่งออกจากห้องผู้ป่วยเขาหลบอยู่ที่ประตูทางเดิน”
บุริศร์รีบมองไป
ภาพไม่ชัดมากนัก แต่สามารถเห็นกานต์ซ่อนตัวอยู่ที่ประตูทางเข้าทางเดิน เขามองไปที่ทิศทางห้องผู้ป่วยตลอดเวลา ในดวงตาเขาซ่อนความผิดหวังที่ลบไม่ออก สุดท้ายก็หันตัววิ่งไปที่หลังโรงพยาบาล
นรมนนึกอะไรออกขึ้นมาอีกครั้ง
“เด็กคนนี้รอให้ฉันตามออกไป ฉันแค่คุยกับเขาไม่กี่ประโยค ทำไมเขาคิดว่าฉันไม่ต้องการเขาแล้วล่ะ? ”
นรมนปิดปากและเริ่มร้องไห้ขึ้นมา
บุริศร์เห็นสายตาที่ผิดหวังนั้นของลูกชาย หัวใจทั้งดวงก็แตกสลาย แต่เขาเป็นผู้ชาย เขาเป็นกระดูกสันหลังของนรมน เขาตื่นตระหนกและสับสนวุ่นวายไม่ได้
“นรมน เราไปที่หลังโรงพยาบาลดูกัน บางทีอาจจะเจอก็ได้”
นรมนรีบพยักหน้า รีบวิ่งไปที่หลังโรงพยาบาลกับบุริศร์อย่างต่อเนื่อง
สถานที่ด้านหลังโรงพยาบาลจะบอกว่าใหญ่ก็ใหญ่ จะบอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่เป็นที่สำหรับให้ผู้ป่วยฟื้นตัวและเดินไปรอบๆ ปลูกต้นไม้ค่อนข้างมากและมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน ไม่มีใครรู้ว่าเด็กน้อยวัยสี่ขวบคนหนึ่งจะซ่อนตัวอยู่แห่งหนใด
“ค้นหาทุกตารางนิ้ว! ฉันไม่เชื่อว่าจะหาเขาไม่เจอ! ”
ดวงตาบุริศร์เย็นยะเยือกราวกับแช่ในอากาศเย็น
ถ้ากล้าแตะลูกชายของเขาบุริศร์ในเมืองชลธี คนคนนั้นคงไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกแล้ว
ตอนนี้นรมนไม่สามารถสนใจเรื่องอื่นได้ เริ่มตามหาอย่างจริงจัง
ทันใดนั้นเธอก็เห็นแสงสว่างเล็กน้อย
นรมนรีบวิ่งไป ใต้ต้นฮอลลิต้นหนึ่ง เธอเห็นโทรศัพท์ของกานต์
“บุริศร์ มานี่เร็ว! นี่มันโทรศัพท์กานต์! ”
เสียงประหลาดใจของนรมนทำให้หัวใจบุริศร์กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เขารีบวิ่งไป เจ็บหน้าอกมากเท่าไรก็ไม่สนใจแล้ว
บันทึกการโทรครั้งสุดท้ายคือโทรคุยกับรเมศ กล่าวอีกนัยหนึ่งคำอุทานที่รเมศพูดขึ้นมานั้นยืนยันว่ากานต์ถูกลักพาตัวมาที่นี่
บุริศร์มองไปซ้ายขวา ที่นี่อยู่ห่างไกลพอสมควร ปกติไม่ค่อยมีอะไรเกิดขึ้น คงไม่มีใครมาที่นี่ แต่ดันมีคนลักพาตัวกานต์ไปจากที่นี่ นั่นแสดงว่าอะไร?
แสดงว่ามีคนคอยแอบมองกานต์มาตั้งนานแล้ว
จู่ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่นรมนเคยพูด มีคนเคยใช้ชื่อของนรมนโทรหาแชมป์ ให้กานต์และกิจจากลับมา งั้นคนที่ลักพาตัวกานต์ไปจะเป็นคนที่สวมรอยเป็นนรมนได้ไหม?
ดวงตาบุริศร์หนักอึ้งขึ้นทันที
นรมนเห็นบุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ เธอก็ไม่กล้ารบกวนเขา ถึงจะวิตกกังวล แต่ก็ยังรอคอยอย่างเงียบสงบ
มองแววตาคาดหวังของภรรยา บุริศร์ก็พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ฉันไปโทรศัพท์ก่อน”
นรมนพยักหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...