บทที่ 143 คุณรักคนอื่นเข้าแล้วใช่มั้ย
"เจตต์?คุณอยู่ที่นี่ได้ไง?"
นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่เจอเจตต์มานามากแล้ว นอกจากเกิดเรื่องครั้งที่แล้วและหลังจากให้เจตต์ช่วยเหลือ คนคนนี้ก็เหมือนติดต่อไม่ได้อีกเลย คิดไม่ถึงจู่ๆเขาก็ปรากฏตัวออกมาในห้องผู้ป่วยของบุริศร์อย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง
สีหน้าของเจตต์ดูไม่ดีเอามากๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความกล้ำกลืนอีกด้วย ขณะที่เห็นว่านรมนประหลาดใจแบบนี้ยิ่งเสียใจสุดๆ
"คุณรักคนอื่นเข้าแล้วใช่มั้ย?ไม่รักผมแล้วใช่รึเปล่า?ไม่อย่างนั้นทำไมเห็นผมถึงไม่มีหน้าตาที่ดีอกดีใจเลยด้วยซ้ำ?"
ชินกับหน้าตาท่าทางที่เวอร์วังของเจตต์แบบนี้ นรมนพูดอย่างยิ้มแย้มว่า "ช่วงนี้คุณยุ่งเหยิงอะไรอยู่หล่ะ?ไม่มีข่าวคราวของคุณเลย ฉันยังคิดว่าคุณปิดไปแล้วซะอีก"
คำๆนี้ไม่ได้แปลกอะไร แต่ว่าเจตต์ได้ยินกลับแสบหูอย่างผิดปกติ
เขาเพิ่งรู้เมื่อกี้นี่เองว่าลูกชายนรมนกานต์เกิดเรื่องแล้ว และทุกอย่างก็จบสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว
ถ้าหากว่าก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ให้คนปิดระบบสื่อสารทุกอย่าง และอีกทั้งบล็อกการติดต่อของทุกคน คาดว่าจะไม่พลาดโอกาสแบบนี้ไป
ตอนนี้เห็นว่าช่วงเวลาที่นรมนลำบากที่สุดบุริศร์เป็นคนที่อยู่ข้างกายและผ่านไปพร้อมกับเธอ เจตต์เสียใจจนใจจะขาดอยู่แล้ว
"คนสวย คุณโทรศัพท์หาผมไม่เจอ ทำไมไม่ไปหาผมที่บ้านดูหล่ะ? ขอแค่เป็นคุณ ผมรับรองมีเวลาทุกเมื่อ"
เจตต์เสียใจอีกครั้ง มันสมองของเขาสูดลมอะไรเข้าไป ช่วงเวลาที่คับขันขนาดนั้นถึงกับปิดประตูไม่พบแขก
นรมนพูดอย่างยิ้มแย้มว่า "ก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โต อีกอย่างคุณไม่อยากให้คนอื่นติดต่อคุณ ต้องมีธุระของตัวเองทำแน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นต้องไปรบกวนคุณ เอาหล่ะ ตอนนี้ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้นแล้ว คุณมาที่นี่ก็เพื่อพูดเรื่องนี้กับฉันหรอ?"
"ถ้าหากว่าผมพูดว่าผมเสียใจมากที่ปิดประตูไม่พบแขก คุณจะให้อภัยผมมั้ย? "
นรมนยิ่งพูดแบบนี้ เจตต์ยิ่งรู้สึกทรมานใจ
เขารู้สึกว่าที่ตัวเองพลาดไปเหมือนไม่ใช่แค่การช่วยเหลือ แต่กลับเป็นความสุขของทั้งชีวิต ถึงแม้ความรู้สึกแบบนี้เหลวไหลไปบ้าง แต่ว่าตอนนี้คิดแบบนี้จริงๆ
นรมนเห็นหน้าตาที่เสียใจของเขา พูดอย่างยิ้มแย้มว่า "ฉันรู้ความคิดของคุณดี คุณเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉัน ไม่ว่าเมื่อไหร่ฉันก็เชื่อคุณ ขอแค่คุณมีเวลาคุณต้องช่วยเหลือฉันอย่างแน่นอน เจตต์ อย่าไปใส่ใจให้มากเลยนะ ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วไม่ใช่หรอ?"
"แต่ว่าตอนที่คุณเกิดเหตุผมไม่ได้อยู่ข้างกายคุณ ที่สำคัญตอนนี้คุณก็ยังไม่พูดกับผมอีก ผมเสียใจมาก ในใจคุณไม่มีผมเลยสักนิด!ไม่ได้ คุณต้องชดใช้ผม"
เจตต์ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกกล้ำกลืน วินาทีต่อไปน้ำตาก็จะไหลออกมาแล้ว
นรมนทนเห็นเขาเป็นแบบนี้ไม่ได้ รีบพูดว่า " ได้ได้ได้ คุณว่าฉันควรชดใช้คุณยังมี? "
" ทานข้าวกับผมก็แล้วกัน เป็นไง?? "
เจตต์พูดอย่างยิ้มแย้ม
นรมนดูเวลาแล้วพูดว่า " ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาทานข้าวเลยนะ"
"ถ้างั้นก็ดื่มกาแฟกับผม ยังไงซะคุณต้องอยู่กับผมสักพัก ได้รึเปล่า"
เจตต์จับหน้าอกของตัวเองแบบเวอร์ๆ และหน้าตาอย่างทรมาน
นรมนถูกหน้าตาท่าทางของเขาทำให้ขำแบบสุดๆ
"ได้ ฉันไปดื่มกาแฟกับคุณได้รึยัง? ฉันเลี้ยงเอง"
"ผมรู้แล้วว่าคนสวยรักผมที่สุดเลย!"
เจตต์ยิ้มแย้มออกมาทันที
ขณะที่ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย บอดี้การ์ดอึ้งค้างไปทั้งคน พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจตต์เข้ามาตอนไหน ชั่วขณะหนึ่งอึ้งค้างแบบเบลอๆ
กับเช่นนี้นรมนไม่แปลกใจเลยสักนิด
เจตต์คนนี้ชอบทำอะไรโดยที่คาดไม่ถึง เธอชินซะแล้ว
"ฉันกับเจตต์ไปดื่มกาแฟที่ฝั่งตรงข้าม พวกนายไม่ต้องตาม"
นรมนบอกไว้คำนึงก็ออกไปเลย สำหรับบุริศร์ไปไหนเธอก็ไม่ได้ถาม เธอรู้ดีว่าบุริศร์ต้องไปจัดการธุระของกานต์แน่นอนอยู่แล้ว
เรื่องนี้มีบุริศร์ออกหน้า เธอก็ให้เขาไปจัดการเอง ยังไงซะเป็นลูกชายของเขา เธอไม่สามารถแย่งชิงสิทธิ์ในการเป็นพ่อของบุริศร์ไป
แต่ว่าบอดี้การ์ดกลับไม่กล้าปล่อยผ่าน
"คุณนรมนครับ เราตามคุณหนูไว้เถอะครับ หากคุณหนูมีอันตรายเกิดขึ้น เราก็สามารถ.........."
"สามารถแมร่งสิ!แม้แต่ฉันเข้าไปตอนไหนยังไม่รู้เรื่องกันเลยด้วยซ้ำ พวกนายยังมีหน้ามาพูดว่าบอดี้การ์ดมืออาชีพ ?กลับไปบอกบุริศร์ซะ ว่างๆก็ฝึกซ้อมพวกนายให้มากๆ ขายขี้หน้าบ้านตระกูลโตเล็กชัดๆ"
เจตต์พูดอย่างประชดประชัน แล้วก็จับมือของนรมนออกไปโดยตรง
บอดี้การ์ดก็ไม่ไว้วางใจอยู่ดี ให้คนคนนึงตามไป เจตต์กลับรู้สึกไม่ชอบ
นรมนจับหลังมือของเขาพูดว่า " ช่างเถอะ นี่เป็นงานของพวกเขา อย่าไปถือสาพวกเขาเลย เราแค่ไปดื่มกาแฟเท่านั้นเอง"
"แต่ว่าผมไม่ชอบคนอื่นรบกวนเวลาที่เราอยู่ด้วยกันตามลำพัง"
เจตต์พูดอย่างกล้ำกลืน
นรมนเหมือนกับปลอบใจสัตว์เลี้ยงจับหัวเขาแล้วพูดว่า "เด็กดี อย่าดื้อสิ ฉันอยากดื่มกาแฟแล้ว"
คำพูดคำนี้ได้ผลจริงๆซะด้วยสิ
เจตต์พานรมนไปร้านกาแฟที่ฝั่งตรงข้าม ส่วนบอดี้การ์ดก็รีบบอกสถานการณ์ทางนี้ให้กับบุริศร์อย่างเร่งด่วน
ขณะนี้บุริศร์เพิ่งกลับมาถึงบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก สำหรับเรื่องที่ป้าโออยู่ที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็ก เขาจนคำพูดจริงๆ
เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ป้าโอก็กลับมาเองเฉยเลย ชัดเจนมากแม่ตัวเองให้ท้ายเธอแท้ๆ
บุริศร์ถอนหายใจแล้วเดินเข้ามาในบ้าน กลับได้ยินป้าโอด่าคนอย่างตั้งหน้าตั้งตา
"นายยังพูดว่าไม่ใช่นายอีก?ไม่ใช่นายหรือจะเป็นคุณชายน้อยเราทำหล่น?
นายรู้มั้ยแจกันนึงอันราคาเท่าไหร่?ขายนายไปก็ยังไม่มีปัญญาซื้อเลย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...