อ่านสรุป บทที่ 144 หลายปีมานี้คุณลืมไปแล้วใช่ไหมว่าตัวเองเป็นใคร จาก แค้นรักสามีตัวร้าย โดย เมียวเมียว
บทที่ บทที่ 144 หลายปีมานี้คุณลืมไปแล้วใช่ไหมว่าตัวเองเป็นใคร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ แค้นรักสามีตัวร้าย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เมียวเมียว อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 144 หลายปีมานี้คุณลืมไปแล้วใช่ไหมว่าตัวเองเป็นใคร
คำพูดคำนี้รุนแรงจริงๆ
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ไม่ว่าคนตรงข้ามเป็นใครก็แล้วแต่บุริศร์ล้วนเชื่อคำพูดของป้าโอ เพราะรู้สึกว่าป้าโอเป็นคนแก่ที่บ้านตระกูลโตเล็ก เป็นไปไม่ได้ที่จะถือสากับเด็ก แต่ว่าตอนนี้เด็กคนนี้เป็นใครกันหล่ะ?
นั่นคือลูกชายแท้ๆของเขาบุริศร์เชียวนะ!
ถึงแม้ป้าโอเป็นแม่นมของเขาก็ตาม แต่ว่ายังไงก็เป็นแค่คนรับใช้ในบ้านตระกูลโตเล็กเท่านั้น รับเงินเดือนของตระกูลโตเล็กมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ตอนนี้คนรับใช้คนนึงถึงขั้นมารังแกเจ้านายน้อยของตัวเอง ความโกรธของบุริศร์ไม่ได้ระงับเลยแม้แต่นิดเดียว ในทางกลับกันกลับรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
เขาลุกขึ้นมา อุ้มกานต์ไว้ในอ้อมกอด ถึงได้พบว่าแชมป์กับกิจจาซึ่งควรอยู่ปกป้องกานต์ที่บ้านไม่เห็นซะแล้ว
"แชมป์กับกิจจาหล่ะ?"
บุริศร์มองหน้าป้าโออย่างเย็นชา ไม่มีความเป็นมิตรไมตรีเลยสักนิด
ป้าโอพูดอย่างร้องไห้ขี้มูกโป่ง "คุณชายน้อยเป็นไข้อ่อนๆ ฉันให้แชมป์พาคุณชายน้อยไปที่โรงบาล คุณชายน้อยเป็นลูกคนรวย เสียเวลาไม่ได้"
"กิจจาเป็นลูกคนรวย กานต์ก็เลยถูกคุณรังแกแบบเรื่อยเปื่อยอย่างนั้นใช่มั้ย? ป้าโอ ถึงแม้คุณเป็นแม่นมของฉันก็ตาม หลายปีมานี้ฉันเคารพและมีมารยาทกับป้า แต่ว่าป้าลืมไปแล้วรึเปล่า ป้าก็แค่คนรับใช้ในบ้านตระกูลโตเล็กเท่านั้นเอง!ส่วนกานต์เป็นลูกชายของฉัน!ลูกชายแท้ๆของฉันบุริศร์ คนรับใช้อย่างป้าถึงกับทำกับเจ้านายบ้านตระกูลโตเล็ก ทำไม?หลายปีมานี้ป้าลืมไปแล้วใช่มั้ยว่าตัวเองเป็นใคร?"
คำพูดเหล่านี้ของบุริศร์พูดแบบไม่ไว้หน้าเลยสักนิด เหมือนกับมีดที่แหลมคม ทิ่มแทงหน้าอกของป้าโออย่างลึกๆ
เธอมองดูบุริศร์อย่างประหลาดใจ เหมือนกับไม่เชื่อว่า บุริศร์จะพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ถัดมายิ่งกล้ำกลืนสุดๆ
"คุณผู้ชาย คุณพูดว่าฉันเป็นคนรับใช้ก็จริง แต่ว่ายี่สิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ ฉันถือว่าบ้านตระกูลโตเล็กเป็นบ้านของตัวเองไปตั้งนานแล้ว ทุกอย่างที่ฉันทำก็เพื่อคุณผู้ชายทั้งนั้น และเป็นการหวังดีกับบ้านหลังนี้!"
"งั้นหรือ?ไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน ก็พูดเหลวไหลกับแม่ของฉัน ยังจะพูดว่าหวังดีกับฉัน?รู้ทั้งรู้ว่าฉันชอบแคทเธอรี และรู้ทั้งรู้ว่าฉันพูดว่ากานต์เป็นลูกชายของฉัน คุณกลับยังคงเรียกเขาคำก็เด็กเวรสองคำก็เด็กเวรอยู่แบบนี้ เขายังเป็นแค่เด็กอายุก็แค่สี่ขวบเอง!คนแก่ที่อายุห้าสิบกว่าอย่างป้า ทำไมถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้?ยังมีอีกแจกันอันนี้ ป้าพูดว่ากานต์เป็นคนชนแตก ป้ามีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าเป็นเขา ?ก่อนอื่นอย่าพูดว่าปรับกล้องวงจรปิดใดๆมาสืบหาความจริงเลยนะ ต่อให้กานต์เป็นคนชนแตกแล้วจะทำไม?บ้านตระกูลโตเล็กฉันกะจะยกให้เขาทั้งหลัง เขาทำแจกันแตกไปนึงอันคนรับใช้อย่างป้ามีสิทธิ์มาอบรมสั่งสอนด้วยหรือ?ป้าคิดว่าป้าเป็นเจ้าของบ้านตระกูลโตเล็กจริงๆใช่รึเปล่า?ต้องให้ฉันยกตำแหน่งที่นั่งประธานบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดให้ป้านั่งด้วยรึเปล่า?"
คำพูดเหล่านี้ยิ่งพูดยิ่งเย็นชามากขึ้น
ป้าโอรับมือไม่ไหวแล้วจริงๆ
เธอเคยคิดว่าบุริศร์ต้องโมโห และเคยคิดว่าบุริศร์จะไม่พอใจ แต่ว่าคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่าบุริศร์จะพูดจาไม่ไว้หน้าขนาดนี้
ในบ้านยังมีคนรับใช้ตั้งหลายคน เดิมทีเพื่อจะทำให้กานต์อับอายแท้ๆ เธอไม่ได้ให้คนรับใช้ออกไปจากห้องรับแขก คิดไม่ถึงตอนนี้ภาพที่ถูกบุริศร์สั่งสอนถูกทุกคนเห็นกันหมดแล้ว
ป้าโอรู้สึกแค่ว่าที่หน้าแสบๆร้อนๆ คำพูดนี้ยิ่งกว่าถูก บุริศร์ตบหน้าเธอต่อหน้าต่อตาทุกคนซึ่งเธอรับไม่ได้อย่างยิ่ง
"คุณผู้ชาย คุณว่าฉันแบบนี้ได้ไง? ฉันก็แค่..........."
"แค่อะไร? ฉันให้ป้าออกไปจากบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กและให้พฤกษ์จัดการให้ป้าอยู่ที่บ้านเดี่ยวในชานเมือง อีกทั้งให้คนปรนนิบัติป้า ยิ่งไปกว่านั้นปรนนิบัติป้าอย่างกับผู้อาวุโส สำหรับป้า นี่เป็นการมอบให้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ตอนนี้ฉันอนุญาตให้ป้ากลับมาแล้วหรือ? ใครให้สิทธิ์แก่ป้าที่จะเข้าๆออกๆในบ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กแบบตามใจชอบ? "
บุริศร์กดขี่ข่มเหง
ป้าโออับอาย
"เป็นคุณนายให้ฉันกลับมาเอง เธอพูดว่า............."
"ที่นี่ฉันเป็นเจ้าของบ้าน ไม่ใช่แม่ฉัน!ป้าชอบฟังแม่ฉันขนาดนั้น ทำไมไม่ไปปรนนิบัติแม่ฉันที่ต่างประเทศหล่ะ? "
บุริศร์พูดแทรกคำพูดของเธออย่างกะทันหัน
ป้าโอลืมตาโต มองดูบุริศร์อย่างนิ่งๆ จากสายตาของเขา เธอสามารถมองเห็นความโกรธและการรังเกียจของบุริศร์
เขาถึงขั้นรังเกียจเธอเชียวรึ!
ป้าโอเสียใจอย่างกะทันหัน น้ำตาไหลออกมาแบบรุนแรงมากขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว
"คุณผู้ชาย ฉันเลี้ยงดูคุณมายี่สิบกว่าปี คุณทำแบบนี้กับฉัน?
เพื่อผู้หญิงคนนึง และเด็กเวรคนนึง............"
"พอกันที!ฉันขอพูดอีกรอบนะ กานต์เป็นลูกชายแท้ๆของฉันกับนรมน!เป็นหลานตระกูลโตเล็กที่รอดพ้นจากไฟไหม้ครั้งนั้นอย่างโชคดี ตามฐานะของป้า ยังไม่มากพอที่จะให้ฉันเอาหลักฐานดีแอนเอพ่อลูกมาให้ป้าดูหรอกนะ แต่ว่าป้าฟังดีๆนะ กานต์เป็นพันธุ์ของฉัน บุริศร์!เรื่องนี้ไปถึงไหนต่อไหนฉันก็ไม่กลัวว่าใครจะตรวจสอบทั้งนั้น"
เขาเป็นคุณชายน้อยบ้านตระกูลโตเล็กอย่างสง่าผ่าเผย!วันหลังใครกล้ามารังแกลูกชายฉันอีก อย่าโทษฉันบุริศร์ไม่ไว้หน้าก็แล้วกัน!"
บุริศร์พูดจบ อุ้มกานต์ขึ้นไปชั้นบนโดยตรง
ป้าโองงไปหมด
เมื่อกี้บุริศร์พูดว่าอะไรนะ?
กานต์ถึงกับเป็นลูกชายคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิง?
เป็นไปได้ไง?
คุณนายได้ตายไปกับเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อนแล้วไม่ใช่หรือ?
แต่ว่ากานต์นามสกุลธนาศักดิ์ธน นรมนก็นามสกุลธนาศักดิ์ธน แคทเธอรีคนนั้นก็นามสกุลธนาศักดิ์ธน หรือนี่เป็นความบังเอิญ?
หรือว่าแคทเธอรีนั้นเป็นพี่สาวน้องสาวของคุณนายอะไรนั่น?
เดิมทีควรเกิดออกมาในบ้านที่ร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นคุณชายที่หยิ่งผยองยังไงก็ไม่มีใครกล้ามายุ่ง ตอนนี้กลับทำเพื่อคนรับใช้ในบ้านตระกูลโตเล็กแบบฝืนทน ส่วนเขาพูดว่าถูกคนอื่นด่าว่าเป็นเด็กเวรซึ่งก็ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว พูดแบบเรียบเฉยมาก แต่กลับทำให้บุริศร์ฟังจนหดหู่ใจมากยิ่งขึ้น
"ไม่!นายไม่ต้องหลบเลี่ยงเธอ นายเป็นลูกชายของฉันบุริศร์ นายเป็นความภาคภูมิใจของฉันและหม่ามี้ นายเป็นคุณชายบ้านตระกูลโตเล็กที่สมเกียรติสมฐานะ นายไม่มีความจำเป็นต้องก้มหัวให้ใครทั้งนั้น กานต์ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป นายมีพ่อคอยปกป้องนายอยู่ และนายก็ไม่ใช่เด็กเวร!ไม่ว่าใครทำอะไรกับนาย ใส่ร้ายนาย หรือว่าทำร้ายนาย โต้กลับไปแบบแรงๆเลยนะ อย่าไปสนว่าคนตรงข้ามเป็นใคร ต่อให้นายก่อเรื่องใหญ่โตขึ้นมา พ่อก็ขอรับไว้แทนนายเอง อย่าทำให้ตัวเองลำบากใจ พ่อทรมานใจเหลือเกิน"
ในที่สุดน้ำตาของบุริศร์ก็อดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว
เขาไม่ใช่คนที่น้ำตาไหลออกมาได้อย่างง่ายๆ แต่ว่าลูกชายตรงหน้ากลับทำให้เขารู้สึกบาปหนา เอ็นดูจนใกล้จะหายใจไม่ออกแล้ว
ถ้าหากว่าลูกร้องห่มร้องไห้ก็ช่างเถอะ เขากลับเข้าอกเข้าใจคนอื่นแบบนี้ และอ่อนโยนขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังสังเกตเห็นความลำบากใจของเขาอีกด้วย
แต่ว่าเขาเป็นถึงพ่อของกานต์ เขาเคยทำอะไรเพื่อลูกบ้าง?
กานต์มองหน้าบุริศร์อย่างประหลาดใจ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้ยิน
รเมศดีกับเขามาก ดีซะจนทำให้เขารู้สึกว่าในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนตามใจและรักเขาแบบนี้อีกแล้ว แต่ว่าต่อให้แบบนี้ก็ตาม รเมศก็ไม่เคยพูดเลยว่า ต่อให้เขาก่อเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ยังมีคนรับแทนเขา
ส่วนคนที่พูดคำนี้ เป็นพ่อแท้ๆของเขาเอง!
จู่ๆกานต์รู้สึกว่ามีความรู้สึกอย่างนึงที่กำลังเคลื่อนไหวในใจแบบบอกไม่ถูก แพร่กระจายไฝเต็มไปหมด ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นดั่งเช่นฤดูใบไม้ผลิ
"คุณบุริศร์ ขอบคุณนะ!"
กานต์ยิ้มแย้มอย่างดีอกดีใจ ความกล้ำกลืนเมื่อสักครู่จู่ๆเหมือนหายสาบสูญอย่างไม่มีร่องรอย
บุริศร์ขยี้หัวของกานต์พูดว่า "ไป เราลงไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย พ่อไม่สามารถให้นายถูกใส่ร้ายแบบนี้"
"ความจริงก่อนที่ป้าโอคนนั้นใส่ร้ายผมได้ปิดวีดีโอไปแล้ว ผมใช้อินเทอร์เน็ตเปิดออกมาอีกครั้ง มีภาพทุกอย่าง"
กานต์พูดแบบเขินๆ
เดิมทีเขากะจะไม่พูดออกมา ถ้าหากบุริศร์ได้ยินคำพูดของป้าโอ และเชื่อคำพูดของป้าโอ เขาก็จะถือซะว่าวีดีโอนั้นไม่มีตัวตน แต่ว่าสำหรับบุริศร์จะต้องผิดหวังมาก
แต่ว่าบุริศร์ไม่เพียงเชื่อมั่นในตัวเขา ยังปกป้องเขาถึงเพียงนี้ กานต์ก็รู้สึกว่าความคิดเล็กคิดน้อยของตัวเองไม่ควรมีตัวตนอยู่
ได้ยินกานต์พูดแบบนี้ บุริศร์ก็รู้ความคิดของไอ้เด็กบ้าคนนี้ แอบชมเด็กคนนี้ในใจว่ามีความคิดที่เจ้าเล่ห์ วันข้างหน้าถ้าหากแนะแนวอย่างเหมาะสม ต้องเป็นคนเก่งคนนึงทีเดียว
เขาขุดจมูกของกานต์ อุ้มเขาลุกขึ้นมาและเดินลงไปที่ชั้นล่าง เพียงแต่ว่าสายตากลับเย็นชา
ในวีดีโอเป็นยังไงความจริงเขาพอจะเดาออกแล้ว ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าป้าโอจะอธิบายยังไง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
650 ตอนยังไม่จบเลยค่ะ...
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...