บทที่ 146 เขามีดวงตาคู่เฉี่ยวที่สวยงาม
บุริศร์ไม่อยากปล่อยกานต์จริงๆ อยากกอดเขาไว้อย่างนี้ กอดเขาไว้อย่างนี้ทั้งชาติก็ไม่รำคาญ
ร่างกายของเขานุ่มและหอม ทำให้คนรักจนไม่อยากปล่อยมือไป
กานต์สามารถสังเกตเห็นความรักที่บุริศร์มีต่อเขา รู้สึกเหมือนหลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นลูกชายเขา ผู้ชายคนนี้ก็ยิ่งอยู่ยิ่งตามใจเขาแล้ว ส่วนเขากลับไม่เกลียดและไม่ต่อต้านความรู้สึกแบบนี้ แม้กระทั่งยังค่อนข้างอยากอาศัยการที่เขาโอ๋แล้วเย่อหยิ่งเลย
เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “อุ๊ย แด๊ดดี้รีบไปเถอะ ก็ไม่รู้ผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างแล้ว เลือดไหลซะเยอะขนาดนั้น”
ถูกกานต์เตือนแบบนี้ อารมณ์ดีๆของบุริศร์ถูกทำลายทันที
“รอแชมป์กลับมาแด๊ดดี้ค่อยไป แด๊ดดี้ไม่ไว้ใจให้ลูกอยู่บ้านคนเดียว”
ที่บุริศร์พูดคือความจริง
ตอนนี้ธิดาก็ไม่รู้อยู่ไหน แชมป์ไม่กลับมา ทุกคนที่อยู่ข้างกายเขาวางใจไม่ลงทั้งนั้น จะให้กานต์อยู่บ้านคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด
ดีที่พูดคำนี้เพิ่งพูดจบ แชมป์ก็ได้พากิจจาเข้ามาแล้ว
“ลูกพี่ ผมกลับมาแล้วครับ”
กิจจาวิ่งมาทางกานต์ นี่ถึงพบว่าบุริศร์ก็อยู่ด้วย เขารีบพูดด้วยรอยยิ้ม “แด๊ดดี้ก็กลับมาแล้วเหรอครับ? คุณแชมป์บอกว่าช่วงนี้แด๊ดดี้งานยุ่งมาก ผมไม่ได้เจอแด๊ดดี้มาตั้งหลายวันแล้วครับ”
สำหรับตอนที่กานต์ถูกลักพาตัวไป ไม่มีใครบอกกับกิจจาเลย พอดีหลายวันนี้กิจจาถูกแชมป์ฝึกฝนได้เหนื่อยล้าสุดๆ ไม่มีกานต์อยู่ เขาอยู่คนเดียวก็เบื่อ ทุกวันนอกจากนอนก็ยังคือนอน
ตอนนี้กานต์ไม่เพียงแต่อยู่ข้างกายเขา บุริศร์ก็กลับมาแล้ว อย่างน้อยกิจจาก็ค่อนข้างตื่นเต้นอยู่
บุริศร์มองกิจจา และพูดด้วยรอยยิ้ม “เดี๋ยวแด๊ดดี้ยังต้องออกไป ให้กานต์อยู่เป็นเพื่อนลูกเถอะ”
“เย้ ดีครับ!”
กิจจากอดกานต์ด้วยความดีใจ “ลูกพี่ ผมจะบอกลูกพี่ให้นะ โรงพยาบาลนี่หลอกลวงเกินไปแล้ว ผมแค่ไม่สบายท้องนิดหน่อยเอง คุณหมอดันจะให้ผมเจาะเลือดตรวจให้ได้ ลูกพี่ไม่รู้เลยว่าเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเจ็บมากเลยนะ! ตอนนั้นผมเกือบจะร้องไห้เลยแน่ะ!”
“ไม่เอาไหน!”
ในหัวของกานต์มีเงาของกมลโผล่ขึ้นมาทันที
ตั้งแต่เล็กจนโต กมลไม่รู้ถูกเจาะเลือดไปตั้งเท่าไหร่ จนเขากลัวเลือดบนตัวของกมลจะไม่พอใช้แล้ว ดังนั้นเขาจึงพยายามให้ตัวเองแข็งแรงและมีพลัง ถ้ากมลต้องการโลหิต เขาก็จะเอาเลือดของเขาให้เธอ
ตอนนี้กิจจาแค่เจาะเลือดครั้งนึงก็ร้องไห้ฟูมฟายแล้ว ทำให้กานต์ค่อนข้างที่จะดูถูกจริงๆ
กิจจารู้ว่าตัวเองถูกกานต์ดูถูก แต่ว่ากลับพูดอย่างไม่เป็นไร “ผมไม่เอาไหน แต่ผมไม่ได้ร้องไห้นะ! ควรจะตกรางวัลให้ผมหน่อยใช่มั้ยล่ะ?”
“ฉันตกรางวัลตีนให้นายเอามั้ย?”
กานต์รู้สึกว่าบนโลกใบนี้ทำไมถึงมีคนที่หน้าด้านขนาดนี้อย่างกิจจา?
ดันยังเป็นน้องชายของเขาซะด้วย!
บุริศร์เห็นเขาสองคนต่อปากต่อคำกัน นี่ถึงได้พูดกับแชมป์ที่อยู่ข้างๆ “ต่อไปไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็อย่าทิ้งกานต์อยู่บ้านคนเดียว”
แชมป์อึ้งเล็กน้อย ราวกับเข้าใจตอนที่ตัวเองจากไปอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เขารีบถามด้วยความกังวล “กานต์ไม่เป็นไรมั้งครับ?”
“ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว แต่ต่อไปนายต้องระวังป้าโอให้มากๆหน่อย” น้ำเสียงของบุริศร์แฝงด้วยความจนปัญญา แล้วมอบหมายแชมป์ไปอีกหลายคำ ทีนี้ถึงได้ไปโรงพยาบาล
ป้าโอไม่ได้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลค่ายทหาร แต่ได้ไปที่โรงพยาบาลใจกลางเมืองโดยตรง นี่เป็นความต้องการของบุริศร์ จงใจแยกเธอออกห่างจากนรมน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ป้าโอเล่นตุกติกอะไรอีก
ตอนที่บุริศร์มาถึง หมอได้เริ่มช่วยอย่างเร่งด่วนแล้ว มือถือของเขากลับดังขึ้นในเวลานี้
บุริศร์ก็ไม่ได้ดูว่าใครโทรมาก็รับสายเลย
“ผมบุริศร์ มีธุระอะไรก็รีบพูด” อารมณ์ของเขาแย่มาก ดังนั้นน้ำเสียงก็ไม่ค่อยสุภาพอ่อนโยนเท่าไหร่
หลังจากฝ่ายตรงข้ามฟังแล้วพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้แกปีกกล้าขาแข็ง พูดจากับแม่ก็หมดความอดทนขนาดนี้แล้วใช่มั้ย?”
บุริศร์อึ้งเล็กน้อย นี่ถึงได้มองสายเรียกเข้าอย่างเร็วทีนึง ไม่นึกเลยว่าจะเป็นแม่บุริศร์โทรมา
เขามีเซ้นส์ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีอะไรแน่นอน รีบพูดเสียงต่ำ “แม่ ทำไมถึงเป็นแม่ได้ครับ? เมื่อกี๊ผมไม่ได้ดูว่าใครโทรมาครับ”
“เกรงว่าแกดูแล้ว ก็คงจะไม่รับสายแม่แล้วมั้ง?” น้ำเสียงของแม่บุริศร์ค่อนข้างแหลมคม ทำให้บุริศร์ค่อนข้างไม่รู้จะพูดต่อยังไง
บรรยากาศแข็งทื่อไปในชั่วขณะ สุดท้ายยังเป็นแม่บุริศร์ที่เอ่ยปากพูดก่อน
“แม่ได้ยินมาว่าแกจะไล่ป้าโอออกจากเมืองชลธี? ยังให้ป้าโอหัวชนกำแพงตายที่บ้านเพราะเหตุนี้อีก? บุริศร์ แกอยากทำอะไรกันแน่?”
ตอนแรกแม่บุริศร์ยังสามารถควบคุมความโกรธได้ ต่อมาควบคุมไม่ได้โดยตรง เสียงก็ค่อนข้างสูงขึ้นมา
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
บุริศร์เพิ่งเข้าห้องผ่าตัด แม่ที่อยู่ต่างประเทศก็รู้เรื่องนี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าตระกูลโตเล็กก็ยังมีคนคอยเป็นหูเป็นตาให้บุริศร์อยู่!
หรือว่าป้าโอจะเป็นคนโทรหาบุริศร์?
แต่ว่าเธอสลบไปแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือจะแกล้งสลบ?
แววตาของบุริศร์ค่อนข้างเย็นชาลง “แม่ครับ ถึงแม้ป้าโอจะอยู่ที่ตระกูลโตเล็กมายี่สิบกว่าปี และดีกับผมด้วย แต่ยังไงซะเธอก็เป็นแค่คนรับใช้คนนึง ตอนนี้ผมจะเนรเทศเธอยังไง แม่ก็คุ้มค่าที่จะโทรมาหาผมเพื่อเรื่องนี้เหรอครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...