บทที่ 147 กาแฟของวันนี้คงดื่มไม่ได้แล้วค่ะ
“เกรงว่ากาแฟของวันนี้คงดื่มไม่ได้แล้วค่ะ” ถึงแม้นรมนกำลังยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มกลับไม่ถึงดวงตา
คนที่เดินมาตรงหน้าคือคนที่เธอรู้จัก เป็นแม่ของเขมิกา ชื่อตังเม
ตอนนั้นตอนที่เธอแต่งงานกับบุริศร์ ตังเมเคยหาเรื่องเธอ ตอนนั้นนรมนก็รู้ว่าตังเมคนนี้ไม่ใช่บุคคลที่เรียบง่าย ตอนนี้เขมิกาถูกจับ เธอก็มาถึงที่นี่อีก นรมนรู้แล้วว่าเธอไม่ได้มาดีแน่
เจตต์กลับอึ้งไปครู่นึง
“เพราะอะไรครับ? คุณคงไม่ใช่กาแฟแก้วเดียวก็ไม่ยอมเลี้ยงมั้งครับ?”
เขายิ้มอย่างเรียบเฉย กลับพบว่าแววตาของนรมนผิดสังเกต มองไปตามแววตาของนรมน เจตต์เห็นตังเมมาทางนี้ด้วยความโกรธ
เจตต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่นานตังเมก็มาถึงตรงหน้าของนรมน มือคว้ากาแฟที่อยู่ใกล้มือสาดไปที่นรมน
นรมนมีการเตรียมตัวพร้อมตั้งนานแล้ว เธอได้เอียงตัวโดยตรง กาแฟเฉี่ยวผ่านใบหน้าเธอไป
“นังแพศยา!” แววตาของตังเมเต็มไปด้วยความเกลียด ความเกลียดชังแบบนั่นเหมือนฝังลึกเข้ากระดูกดำ ทำให้คนยังไงก็ละเลยไม่ได้
นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย สมองแล่นขึ้นมาอย่างไว
ถ้าพูดตามหลัก หน้าตาของเธอในตอนนี้ไม่มีเค้าโครงหน้าตาของนรมนเลยสักนิด ถึงมาเพื่อเขมิกา ก็ไม่น่ามีความแค้นที่ฝังลึกเข้ากระดูกดำถึงจะถูก
แต่แววตาของตังเมได้ทำให้นรมนเพิ่มความระมัดระวังขึ้นจริงๆ
“คุณผู้หญิงท่านนี้คะ นี่คุณกำลังทำอะไรคะ? เราสองคนไม่รู้จักกัน คุณมาปุ๊บก็มาหยาบคายใส่ ไม่ค่อยดีมั้งคะ?” นรมนพูดอย่างสงบจิตสงบใจ ตังเมกลับโมโหจนตัวสั่น
ห้าปีก่อนนังเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้านี้ไม่ได้ตายอยู่ในทะเลเพลิง ตอนนี้กลับเปลี่ยนโฉมหน้ามาใหม่ แถมมีความใจเย็นและความน่าเกรงขามมากขึ้น ก็แค่อาศัยอำนาจของบุริศร์
นึกถึงลูกสาวตัวเองใช้มาเวลาห้าปี ก็ยังไม่ได้บัญชีทั้งหมดของบุริศร์ แม้กระทั่งยังได้คลอดลูกให้กับตระกูลโตเล็ก ตอนนี้กลับเพราะนรมน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ทำเอาสูญเปล่ากับสิ่งที่ทำมาหมด ตังเมก็แทบอยากจะลงมือฆ่านรมนด้วยตัวเองเลย
“ไม่รู้จัก? ใช่หรอ? แต่ว่าฉันรู้จักแกอยู่ ห้าปีก่อนฉันก็รู้จักแกแล้ว หรือว่าแกจำฉันไม่ได้แล้วหรอ? งานเลี้ยงอลังการของTalmunงานนั้น แกคงกินได้ไม่เลวมั้ง?” ตังเมขี้เกียจพูดวกวนกับนรมนเลยด้วยซ้ำ
Talmunที่เธอพูดถึงก็คือห้องโถงงานเลี้ยงที่นรมนกับบุริศร์มีความสัมพันธ์อะไรกัน ตอนนั้นเรื่องนั้นทำให้สองสามีภรรยาตระกูลธนาศักดิ์ธนเสียหน้ามาก บุริศร์ก็มีความรับผิดชอบดี ไม่นึกเลยว่าจะประกาศว่าจะแต่งงานกับนรมน
ตอนนั้นนรมนถูกคนปกป้องไว้ ตอนที่ไปเข้าห้องน้ำกลับถูกหญิงชั้นสูงเหยียดหยาม ส่วนหญิงชั้นสูงคนนั้นก็คือตังเมที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
ตอนนั้นในห้องน้ำมีกันอยู่แค่สองคน ดังนั้นคนที่สามารถพูดคำนี้ออกมาย่อมรู้ฐานะที่แท้จริงของนรมนอยู่แล้ว
นรมนไม่โง่ เธอรีบคิดเชื่อมโยงได้ทันทีหลังจากตังเมรู้ฐานะของเธอ คาดว่าก็คงได้ตรวจสอบเรื่องของเธอบ้างแล้ว ถ้าอย่างนั้นคดีถูกลักพาตัวของกานต์ก็ไม่ใช่ลักพาตัวธรรมดาแล้ว
จู่ๆเธอหรี่ตาไว้
“พวกคุณเป็นคนลักพาตัวกานต์ไป?” มือของนรมนกุมแน่นไว้ด้วยกัน
เมื่อก่อนเธอยังไม่รู้ว่าตัวเองไปขัดใจคนอะไรเข้า ถึงได้ทำให้กานต์พลอยเดือดร้อนไปด้วย ตอนนี้ดูแล้วคือตังเมกับเขมิกาเล่นงานอยู่เบื้องหลังนี่เอง
ก็ใช่
ลูกชายแท้ๆของเขมิกา กิจจา ตอนนี้เป็นผู้รับช่วงต่อของตระกูลโตเล็ก ตอนนี้กานต์กลับมาแล้ว บุริศร์ก็เลือกฐานะแท้จริงของกานต์ไม่ได้ อยากให้กานต์ได้กลับมาคืนสู่ตระกูลนับญาติบรรพบุรุษ ถ้าอย่างนั้นคนที่นั่งไม่ติดที่สุดก็ต้องเป็นเขมิกากับตังเมแน่นอน
คิดจุดนี้ได้ นรมนพูดอย่างเย็นชา “คุณรู้มั้ยคะว่าตอนนี้เขมิกายังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ ไม่ตีก็สารภาพเองอย่างคุณแบบนี้ คือกะว่าจะให้ลูกสาวคุณแบกรับเอาไว้ทุกอย่างเหรอคะ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของตังเมเปลี่ยนมาแย่มาก
“ถ้าเขมิกาเกิดเรื่องอะไร ฉันกล้ารับประกัน แกกับลูกนอกสมรสของแกต้องตายเป็นเพื่อนลูกสาวฉันแน่! ฉันขอเตือนแกเลยนะ ดีที่สุดแกให้บุริศร์ปล่อยตัวลูกสาวฉันซะ ไม่งั้นล่ะก็.........”
“คุณเห็นผมเป็นคนตายหรอ?”
เจตต์แคะหู ไม่อยากแทรกแซงสงครามระหว่างผู้หญิงจริงๆ แต่ผู้หญิงคนนี้ข่มขู่นรมนต่อหน้าเขา เขารู้สึกศักดิ์ศรีลูกผู้ชายของตัวเองได้ถูกย่ำยีแล้ว
ถึงแม้เขาไม่ได้ชื่อเสียงโด่งดังเท่าบุริศร์ แต่ยังไงก็เป็นบุคคลมีหน้ามีตาในเมืองชลธี
ตังเมเป็นแม่บ้านแม่ศรีเรือนที่พ่ายแพ้ ถึงกับกล้าข่มขู่นรมนต่อหน้าเขา เห็นเขาไม่มีตัวตนจริงๆหรือไง?
ถึงแม้เสียงของเจตต์มีความเกียจคร้านฟุ้งกระจายอยู่ แต่แววตากลับเฉียบคมมาก
ทีนี้ตังเมถึงสังเกตเห็นคนที่อยู่ข้างกายของนรมนคือใคร
ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าเจตต์จะอยู่กับนรมน เมื่อกี๊ถูกความโกรธครอบงำ ยังนึกว่าผู้ชายคนไหนอยู่เสียอีก ตอนนี้ถูกเจตต์ถามแบบนี้ ตังเมกลับค่อนข้างกลัวแล้ว
“คุณชายเจตต์ นี่คุณหรอคะเนี่ย ขอโทษค่ะ เมื่อกี๊ไม่เห็นคุณค่ะ”
“ใช่สิ คุณสายตาสูงขนาดนี้ นอกจากบุริศร์แล้ว ในสายตาคุณยังมีคนอื่นอยู่มั้ย? ทำไม? ตอนนี้อยู่ตรงหน้าผมอยากหางานทำสักหน่อยเหรอ? พอดีเลย ช่วงนี้ผมว่างมาก สู้ให้ผมมาเล่นเป็นเพื่อนคุณมั้ย?”
คำว่าเล่นของเจตต์ ไม่ใช่สิ่งที่ตังเมจะทนรับไหวแน่นอน
ตังเมรีบพูด “คุณชายเจตต์ล้อเล่นเกินไปแล้วค่ะ ถ้าดิฉันรู้ตั้งแต่แรกว่าคุณเจตต์อยู่ที่นี่ ถึงคุณเจตต์ยืมความใจกล้าให้ดิฉันสิบครั้ง ดิฉันก็ไม่กล้ามาหาเรื่องหรอกค่ะ เอ่อคุณชายเจตต์คะ วันนี้ดิฉันเป็นคนเลี้ยงกาแฟนี้เองค่ะ คุณชายเจตต์ตามสบายนะคะ”
พอพูดจบ ตังเมรีบถอยหลังจากไป แต่ว่าก่อนไปยังได้จ้องนรมนอย่างโหดทีนึง แววตานั้นร้ายกาจจนไม่อาจเทียบได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...