บทที่ 149 เป็นสามีภรรยากันมาตั้งนานแล้ว คุณกลัวอะไร
“บุริศร์ คุณมาได้ยังไงคะ?”
นรมนรู้สึกเหนือความคาดหมายมาก อย่างไรก็ตามสองวันนี้บุริศร์ทำตัวลึกลับซับซ้อนอยู่เป็นประจำ และความสัมพันธ์ของเขากับเจตต์ก็ไม่ค่อยดี ตอนนี้เจตต์ไม่อยู่แล้ว บุริศร์อยู่ที่นี่ นรมนยังไงก็รู้สึกผิดสังเกตอยู่ดี
บุริศร์ดูดบุหรี่แรงๆคำนึง จากนั้นก็ได้ดับไฟลง
“ผมอยู่ที่นี่ คุณไม่ดีใจเหรอ?”
“ไม่ใช่ค่ะ ฉันออกมากับคุณเจตต์ เขาไม่พูดสักคำก็ไปเลย เพราะฉะนั้นก็เลยแปลกใจนิดหน่อย เมื่อกี๊ฉันโทรหาเขาๆก็ไม่รับสาย ไม่รู้เป็นอะไรค่ะ?”
นรมนย่อมดูออกอยู่แล้วว่าบุริศร์หึง
แต่ว่าสำหรับความรู้สึกแบบนี้เธอก็ชอบมากอยู่ แต่พอนึกถึงกมล อารมณ์ของเธอก็ค่อนข้างหนักหน่วงขึ้นมาอีก
ไม่ได้! เธอจะลุ่มหลงเข้าไปในความอ่อนโยนของบุริศร์ไม่ได้
ลูกสาวยังรอเธอช่วยชีวิตอยู่แน่ะ แต่นอนนี้บุริศร์ต้องการพักฟื้นร่างกายอย่างสงบ
หน้าตาที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยของนรมน ทำให้บุริศร์มองเข้าไปในสายตา เข้าใจผิดว่าเธออารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะการจากไปโดยไม่บอกลาของเจตต์
หัวใจของบุริศร์หึงเล็กน้อย “นรมน คุณไม่เหมือนก่อนแล้ว” เธอไม่รักเดียวใจเดียวชอบแต่เขาคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
ตอนนี้นรมนชอบทำให้บุริศร์มีความรู้สึกเลื่อนลอยอยู่เรื่อยเลย
ถึงแม้ตัวเธอก็อยู่ข้างกายนี่เอง แต่ความรักที่เธอมีต่อเขาเหมือนถูกแบ่งเป็นหลายส่วน เขารู้สึกไม่ถึงความรักเดียวใจเดียวของนรมนอีกแล้ว
เขาไม่รู้นี่เป็นเพราะช่องว่างในห้าปีนี้ ถึงก่อให้เกิดความห่างเหินนี้ขึ้น ถ้าแค่มีกานต์เพิ่มมาอีกคน เขาก็ไม่กระวนกระวายใจขนาดนี้หรอก เพราะยังไงซะเด็กคนนั้นก็เป็นลูกชายของตัวเอง ถึงแม้เขาหึงที่นรมนรักและปกป้องกานต์ แต่ก็ไม่ว่างจนมาอิจฉาลูกชายตัวเองหรอก
แต่ว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่มีกานต์ ยังมีเจตต์อีก แม้กระทั่งยังมีธรณีที่จ้องคาบอยู่ข้างๆด้วย
ถึงแม้ธรณีไม่เคยบอกว่ามีใจให้นรมน แต่ว่าแววตาที่เขามองนรมน บุริศร์ก็เข้าใจดี นั่นมันหลอกคนไม่ได้หรอก
แล้วนึกถึงรเมศที่อยู่อเมริกาอีก จู่ๆบุริศร์รู้สึกมีความกดดันใหญ่เท่าภูเขา
ถ้านรมนยังเหมือนเมื่อก่อน เอากำลังและจิตใจทั้งหมดอยู่ที่บนตัวเขาหมด เขาก็ไม่กระวนกระวายใจขนาดนี้หรอก แต่ว่าตอนนี้แค่มีสายโทรมาจากอเมริกา ก็สามารถทำให้นรมนอารมณ์ไม่ดีเป็นเวลายาวนานมากแล้ว
เขาไม่รู้ว่ารเมศโทรมาหานรมนคุยอะไรไปบ้าง บางครั้งเขาถึงขั้นอยากดักฟังโทรศัพท์ของพวกเขา แต่ก็รู้สึกว่าแบบนี้มันไร้ยางอายเกินไป ดังนั้นก็เลยละทิ้งไป แต่ความกระวนกระวายใจกลับขยายใหญ่ขึ้นทุกวัน
นรมนไม่รู้คำว่าไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้วของบุริศร์หมายความว่ายังไงกันแน่ ตอนนี้อาการป่วยของลูกอยู่ตรงหน้านี้เอง ร่างกายของบุริศร์ก็ไม่สามารถหายดีในระยะเวลาอันสั้น อีกอย่างเคสที่รับปากรเมศมาร่วมงานก็ยังไม่มีร่างงานแรกเลย เธอร้อนรนใจจะตายอยู่แล้ว ย่อมไม่สังเกตถึงความอ้างว้างในน้ำเสียงของบุริศร์อยู่แล้ว
“ฉันต้องไม่เหมือนเดิมอยู่แล้ว ตั้งห้าปีแล้ว ฉันก็เป็นแม่คนแล้ว จะอยู่ข้างกายคุณทั้งวี่ทั้งวันเหมือนเด็กได้ยังไง คุณก็มีงานของตัวเองไม่ใช่เหรอคะ?”
นรมนยิ้มอ่อนๆ แต่บุริศร์ดูแล้ว รอยยิ้มนี้กับความเอาใจใส่นี้กลับกันได้ทำให้เขารู้สึกห่างเหินแล้ว
“ผมไม่ถือสาคุณราวีผมเหมือนเมื่อก่อน”
ที่จริงบุริศร์ไม่อยากพูดคำพูดเหล่านี้ แต่ว่าเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว
เมื่อก่อนนรมนเป็นคนหลงเขาสุดจิตสุดใจ แต่เขากลับไม่รู้ใจตัวเอง
ตอนนี้รู้ใจตัวเองแล้ว พอตอนอยากอยู่กับนรมนจนแก่จนเฒ่า แต่ความรักที่นรมนมีต่อเขาเหมือนจะไม่เร่าร้อนเหมือนเมื่อก่อนแล้ว อีกอย่างแม่กับป้าโอ แม้กระทั่งคนมากมายที่อยู่ข้างกายไม่อยากให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน บุริศร์รู้สึกไม่มีความแน่ใจเลยจริงๆ
เขารู้ว่าตัวเองพูดแบบนี้มันค่อนข้างราคาตก แต่สุดท้ายเขาก็ได้เปิดปากพูดอยู่ดี
นรมนนึกว่าตัวเองฟังผิดไป
บุริศร์ในเมื่อก่อนไม่มีทางพูดคำพูดแบบนี้ออกมา แต่ตอนนี้เขาไม่เพียงแต่พูด แต่ยังพูดอย่างมั่นใจ ไม่มีการเขินอายเลยแม้แต่น้อย
นรมนพูดอย่างค่อนข้างช็อค “คุณก็เปลี่ยนไปเหมือนกันค่ะ”
“งั้นคุณชอบการเปลี่ยนแปลงของผมในตอนนี้มั้ย?” เห็นนรมนค่อนข้างหละหลวม บุริศร์เดินไปข้างหน้าก้าวนึงทันที เอาเธอวงล้อมอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง
อย่างไรก็ตามก็เป็นแม่คนแล้ว ทั้งยังอยู่บนถนนใหญ่อีก นรมนก็ต้องค่อนข้างเก้อเขินอยู่
“คุณอย่าทำแบบนี้ค่ะ อายุปูนนี้แล้ว ถูกคนเห็นเข้าจะไม่ดีนะคะ”
นรมนคอยผลักบุริศร์ สีหน้าค่อนข้างแดงก่ำ เห็นเธอเขินอายขนาดนี้ จู่ๆบุริศร์ยิ้มออกแล้ว
“เป็นสามีภรรยากันตั้งนานแล้ว คุณกลัวอะไร?”
เขาไม่เพียงแต่ไม่ปล่อยนรมน แต่ยังกอดเธอไว้แน่น แถมยังจูบที่หน้าเธออย่างไวทีนึง
นรมนรู้สึกทั้งเนื้อทั้งตัวเหมือนถูกไฟช็อตยังไงอย่างงั้น ความรู้สึกใจเต้นตุ๊บๆทำให้เธอหัวใจเต้นแรง ใบหน้าก็ร้อนผ่าว
เธอกุมมือของบุริศร์ไว้แล้วพูด “รีบกลับไปนอนพักที่โรงพยาบาลเลย ตัวเองเป็นคนป่วยก็ยังไม่รู้ตัวอีก วิ่งออกมาอวดเก่งข้างนอกทุกวัน คุณเป็นแบบนี้เมื่อไหร่ถึงจะหายดี?”
บุริศร์เห็นเธอเป็นห่วงตัวเอง ความกระวนกระวายใจถึงค่อยๆจางหายไป
เธอก็ยังเป็นห่วงเขา และชอบเขาอยู่ถูกมั้ย?
จู่ๆบุริศร์พบว่าตัวเองเหมือนเด็กที่กระวนกระวายใจ ขอแค่นรมนอ่อนโยนกับขาหน่อย เขาก็แทบอยากจะควักใจให้เธอแล้ว
เขาคิดว่าเขาคงหลงนรมนเข้าอย่างจังแล้ว
บุริศร์ปล่อยให้นรมนจูงมือเขากลับโรงพยาบาลเหมือนจูงเด็ก อีกทั้งยังเชื่อฟังคำพูดของนรมน ให้ความร่วมมือกับการรักษาอย่างกระตือรือร้น
นรมนถูกบุริศร์จ้องมองจนเก้อเขิน ได้แต่พูดเสียงต่ำ “ภาพออกแบบของฉันใกล้เสร็จแล้ว ฉันไปแก้ไขหน่อย คุณพักผ่อนดีๆ ได้ยินหรือยัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...