บทที่ 169 ไม่ใช่ทุกคนจะดีเหมือนหม่ามี้ของฉัน
“ออกประกาศทั่วเมืองชลธี ไม่ว่าต้องเสียเท่าไหร่ ก็ต้องหาตัวของป้าโอให้เจอ!”
ถ้าหากหาป้าโอเจอ ก็จะรู้ว่ากานต์อยู่ที่ไหน บางทีอาจจะรู้ด้วยว่านรมนอยู่ที่ไหน
เรื่องทุกอย่างดูเหมือนว่าจะมีส่วนเกี่ยวกับป้าโอทั้งหมด
การหายตัวไปของธิดา การช่วยเหลือเขมิกา แล้วก็เรื่องที่กานต์หายตัวไป มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเป็นฝีมือของป้าโอ
บุริศร์รู้สึกว่ามันชักจะน่ากลัวเกินไปแล้ว
ก็แค่คนใช้แก่ๆคนหนึ่ง นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนี้ ถึงขนาดที่สามารถหลบหลีกการค้นหาจากสามตระกูลใหญ่ในเมืองชลธีได้ ถึงขนาดกล้าจับตัวคนของเขาไปต่อหน้าต่อตา
ตกลงแล้วเป็นเพราะเขาไร้ความสามารถ หรือเป็นเพราะป้าโอเก่งกาจเกินไปกันแน่?
ด้านธรณีและเจตต์เองก็รู้ข่าวแล้ว จึงทยอยตามมาที่ตระกูลโตเล็ก
ครั้งนี้ บุริศร์ไม่ได้ปิดบังอะไรพวกเขา บอกเรื่องของป้าโอออกมาทั้งหมด
สีหน้าของธรณีทอแววอึมครึม พร้อมกับนิ่งเงียบ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปอย่างรับไม่ได้ แต่เจตต์กลับกำคอเสื้อของบุริศร์เอาไว้ แล้วพูดว่า “ถ้าเธอเป็นอะไรไป ฉันกับนายได้เห็นดีกันแน่!”
“ถ้าเธอเป็นอะไรไปจริงๆ ฉันก็คงไม่ให้อภัยตัวเองเหมือนกัน”
บุริศร์พูดเสียงเย็น
เจตต์ปล่อยคอเสื้อเขาออก จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตามหาตัวป้าโออย่างบ้าคลั่ง กานต์กับกิจจาก็ถูกขังอยู่ในห้องเล็กๆ กิจจาร้องไห้ขี้มูกโป่งพูดขึ้นมาว่า “เฮีย เฮียจะตายไม่ได้นะ ถ้าเฮียตายแล้วผมจะทำยังไง?”
“หุบปากหน่อย”
กานต์ถูกเสียงดังรบกวนจนรู้สึกปวดหัว เขาจึงเอ่ยปากพูดออกไปเสียงอ่อนแรง
เมื่อกิจจาเห็นเขาฟื้นขึ้นมา ก็พูดอย่างดีใจว่า “เฮีย ฟื้นแล้วเหรอ? เฮียจะไม่ตายใช่ไหม?”
“นายอยากให้ฉันตายมากหรือไง?”
กานต์ขยับไหล่ของตัวเอง รู้สึกว่าทั้งเนื้อทั้งตัวไม่เหลือเรี่ยวแรงเลยสักนิด ดูเหมือนว่ายาชาจะยังไม่หมดฤทธิ์
เขามองรูเข็มบนข้อมือของตัวเอง เพราะเสียเลือดมากเกินไปเลยทำให้เขาดูอ่อนแอเป็นพิเศษ
“เฮีย อยากดื่มน้ำไหม? ผมจะไปเอามาให้”
กิจจาวิ่งไปรินน้ำอุ่นมาให้กานต์ด้วยความรวดเร็ว
เพราะเขาตัวเล็ก ตอนช่วยประคองกานต์ลุกขึ้นมาจึงค่อนข้างลำบาก แต่ว่าเขาก็ไม่ยอมแพ้
น้ำในมือลาดลงบนมือของกิจจา แต่กิจจากลับไม่สนใจเลยสักนิด
เมื่อเห็นกิจจาในสภาพนี้ กานต์จึงพูดว่า “ไปหาหลอดมา แบบนี้ค่อยสะดวก”
“อ่อ ได้ๆ”
กิจจาวิ่งดุ๊กดิ๊กไปหาหลอดตามคำสั่ง
โชคดีที่ในนี่ยังพอมีหลอดอยู่บ้าง
กิจจาถือหลอดมาวางไว้ในแก้วน้ำ จากนั้นก็ส่งไปให้กานต์
กานต์เองก็หิวจริงๆ รู้สึกตาพร่าเบลอไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียเลือดมากเกินไปหรือเพราะว่าหิวกันแน่
เมื่อเขาดื่มน้ำลงไป จึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
กิจจารีบพูดว่า “เฮียอยากกินอะไรไหม? ผมแอบซ่อนของกินไว้ให้เฮียด้วยล่ะ”
พูดจบ เขาก็ล้วงแฮมเบอเกอร์ในแขนเสื้อออกมาแล้วยื่นให้กานต์
กานต์หิวมากจริงๆ
เขาจึงรับมากัดกินคำใหญ่ทว่าหางตาก็เหลือบเห็นกิจจาเอาแต่กลืนน้ำลายไม่หยุด แสดงว่าก็คงหิวเหมือนกัน
กานต์นิ่งไป จากนั้นก็แบ่งเฮมเบอร์เกอร์ออกเป็นสองชิ้น แล้วแบ่งให้กิจจาครึ่งหนึ่ง
“เอาไป!”
“ผมไม่กิน! เฮียเลือดไหลเยอะขนาดนั้น ร่างกายต้องอ่อนแอลงแน่ๆ ผมอ้วนขนาดนี้ ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างหม่ามี้มีของกินให้ผมอยู่แล้วล่ะ”
กิจจาพูดจบก็ปิดปากฉับ
“เฮีย ขอโทษด้วยนะ”
เขาก้มหน้าลง อีกสักพักคงร้องไห้ออกมา
กานต์รู้ว่ากิจจาขอโทษเรื่องที่เขมิกาทำกับเขา แต่ว่าเขาไม่โทษกิจจาหรอก
“มันไม่เกี่ยวกับนาย แล้วจะขอโทษทำไม รีบกินเข้า ถ้ากินอิ่มแล้วมีแรงวิ่งออกไปข้างนอก ก็ให้รีบออกไปให้เร็วที่สุด จากนั้นก็โทรหาคุณบุริศร์ ให้เขามาช่วยฉัน นี่ต่างหากถึงจะช่วยฉันได้”
คำพูดของกานต์ทำให้กิจจาลังเล
“ผมจะทำได้จริงๆเหรอ?”
“ได้สิ นายเป็นลูกของเธอ เธอไม่มีทางทำอะไรนายแน่ แค่นายหาโอกาสแอบออกไปได้ ฉันก็จะได้รับการช่วยเหลือ”
กานต์ยิ้มพร้อมกับยื่นแฮมเบอร์เกอร์อีกครึ่งหนึ่งไปให้กิจจา
กิจจารับมาถือไว้ แต่กลับไม่กิน จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเจ็บปวดว่า “เฮียว่าทำไมหม่ามี้ของผมถึงได้นิสัยไม่ดีขนาดนั้น? ทำไมเธอถึงทำแบบนั้นกับเฮียได้? คุณน้าดีกับผมมากๆ แต่ทำไมหม่ามี้ของผมถึงไม่ดีกับเฮียเหมือนคุณน้าเลยล่ะ?”
“ไม่ใช่ทุกคนจะดีเหมือนหม่ามี้ของฉัน”
เมื่อกานต์พูดถึงนรมน กรอบตาก็เริ่มปริ่มไปด้วยน้ำตา
“กิจจา”
“หือ?”
“ฉันคิดถึงหม่ามี้”
กานต์เอนพิงไหล่ของกิจจา แม้ว่าไหล่ของกิจจาจะทั้งแคบทั้งเล็ก แต่กานต์กลับไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวขนาดนั้น
เทียบกับครั้งก่อนที่ถูกจับตัวไป ครั้งนี้มีกิจจาอยู่ด้วย เขากลับกล้าหาญมากขึ้น
น้ำตาของกิจจาร่วงไหลออกมา
“ผมก็คิดถึงคุณน้า ผมไม่อยากอยู่กับหม่ามี้แล้ว หม่ามี้นิสัยไม่ดี! นิสัยไม่ดีมากๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...