บทที่ 180 ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร
บุริศร์ทั้งหัวเราะไปและร้องไห้ไปไม่หยุด
ยังจะมีอะไรเทียบกับที่ตนเองยากลำบากมาหลายปี กลับเป็นการทำเพื่อคนอื่นยิ่งทำให้รู้สึกหดหู่?
คนๆนี้ยังเป็นคนที่ตนเองเคยเข้าใจว่าสนิทที่สุดคนหนึ่ง แม้กระทั่งแม่ของเขาเองก็เข้าข้างอย่างคลุมเครือ
เขาไม่เข้าใจมาตลอด ถึงแม้นรมนจะไม่ชอบแม่ แต่ถึงอย่างไรกานต์ก็คือหลานชาย ทำไมการหายตัวไปของกานต์ แม่ของเขากลับเย็นชา ไม่แยแสเช่นนี้ ?
ในความทรงจำของบุริศร์ แม่ไม่ได้เป็นคนเลือดเย็น แต่ทั้งหมดนี้แท้จริงเพราะอะไร?
ดูเหมือนจะมีเพียงป้าโอที่สามารถให้คำตอบเขาได้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะระเหยไปแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่พบเบาะแสใดๆ
เรื่องทั้งหมดเหมือนจะขัดจังหวะเบาะแสทั้งหมดอย่างฉับพลัน
ดูเหมือนเขมิกาเป็นคนบงการเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อน และมีความเป็นไปได้ว่าเป็นแผนการที่ตังเมวางเอาไว้ สังหารนาวิน แต่ตอนนี้ ดูเหมือนจะมีเรื่องราวมากกว่าที่เห็น
นาวินถูกรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก ฝึกฝนและเติบโตขึ้นมากับเขา สามารถเรียกได้ว่าเป็นพี่น้องกัน สำหรับเรื่องของบุริศร์ นาวินไม่เคยยุ่งเกี่ยว แต่ทำไมถึงทรยศเขาแค่เรื่องของนรมนเพียงเรื่องเดียว?
บุริศร์นึกถึงตอนที่อยู่กับนาวิน ป้าโอมักจะทำของว่างให้เขากับธิดา
ตอนนั้นบุริศร์รู้สึกแค่เพียงป้าโอเป็นคนมีเมตตา มีน้ำใจกับเด็กกำพร้า แต่ตอนนี้คิดดูแล้ว นี่อาจเป็นอุบายหาพวกของป้าโอ
บางทีตั้งแต่แรกเริ่ม นาวินกับธิดาคงถูกป้าโอซื้อไปแล้ว
เพียงแต่สิ่งที่บุริศร์ไม่เข้าใจคือ ห้าปีก่อนป้าโอชอบนรมนมาก และทำดีกับเธอ ถ้าบอกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นของนรมนมีป้าโอบงการอยู่เบื้องหลัง นั่นเป็นเพราะอะไร? มีเหตุจูงใจอะไร?
บุริศร์ไม่สามารถคาดเดาสิ่งนี้ได้ นั่นคือเหตุผลที่ไม่เคยนึกถึงป้าโอ กลับคาดไม่ถึงว่าเป็นการปล่อยโอกาสให้เธอพาคนไปจากใต้จมูกของเขา
เมื่อธรณีได้ฟังคำพูดของบุริศร์ ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“นาวินเป็นสุภาพบุรุษอย่างแน่นอน ในตระกูลทวีทรัพย์ธาดา มีกฏมากมาย เขาไม่เคยพูดออกมาแม้เพียงครึ่งคำ หากไม่ใช่เพราะธิดา บางทีเขายิ่งจะไม่เผยพิรุธใดๆ ความหมายของนายก็คือ นาวินเป็นคนวางเพลิงเมื่อห้าปีก่อน?เขมิกาเป็นคนบงการหรือ?”
“ตอนนี้ดูเหมือนเป็นแบบนั้น แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นแน่นอน เขมิกาหนีออกมาจากคุก พาตัวกานต์กับกิจจาไป เธออยากไปจากเมืองชลธี หรือไม่ก็ใช้พวกเขาสองคนมาเป็นเครื่องต่อรอง ให้สามารถหนีออกไปจากเมืองชลธีได้ แต่อยู่ดีๆเธอกลับไม่ไป เพราะอะไร?เธอกำลังรออะไรอยู่?หรือเป็นเพราะมีใครไม่ให้เธอไปจากที่นี่?ตอนที่กิจจาหนีออกมา กานต์หายสาบสูญไป อ้างอิงจากความสามารถของเธอ เธอสามารถหนีออกจากเมืองชลธีได้ แต่เธอกลับตายแล้ว เป็นการตายอย่างลึกลับ และกระทันหันแบบนั้น นายรู้สึกว่ามันแปลกไหม?”
บุริศร์หยิบบุหรี่ออกมาด้วยความอยาก แต่เพียงแค่เอามาสูดดม และทัดหูเอาไว้
เห็นเขาควบคุมความรู้สึกแบบนี้ ธรณียิ่งรู้จักเขามากขึ้น
“บางทีเธออาจเพียงแค่ติดเชื้อจนทำให้ตนเองต้องตาย?”
คำพูดของธรณีทำให้บุริศร์ส่ายหน้าและกล่าวว่า:“นายรู้ไหม?ฉันจงใจให้คนส่งข่าวถึงเขมิกา บอกว่ากิจจาป่วย เป็นตายเท่ากัน ตอนนั้นตังเมไปหาเขมิกา ให้ยาเธอขวดหนึ่ง บอกว่าเป็นยาที่จะทำให้เธอจิตใจเลื่อนลอยไปชั่วคราว วันต่อมาจะมีคุณหมอไปตรวจและรักษา แต่นายรู้ไหมว่านั้นคือยาอะไร?”
“ยาอะไร?”
“ยาพิษ ยาพิษที่คร่าชีวิตในสัมผัสแรก!”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ธรณีหน้าซีดทันที
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“ใช่ เป็นไปได้อย่างไร?ตังเมอยู่เป็นม่ายมาหลายปี มีเขมิกาเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว นอกจากนี้เธอยังฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เขมิกา หวังว่าเธอจะสามารถกลายเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลโตเล็ก ทำให้ตระกูลศิริวัชรภัทรเลื่อนฐานะขึ้นไปอีกขึ้น เพื่อตังเมจะได้เสพสุขไปตลอดชีวิต ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เธอจะลงมือกับลูกสาวแท้ๆของตนเองได้อย่างไร?”
บุริศร์เอ่ยถามเบาๆ
ธรณีเป็นคนฉลาด เขาเข้าใจความหมายของบุริศร์ทันที
“ความหมายของนายคือ ตังเมถูกคนใช้เป็นเครื่องมือ บางทีแม้แต่ตนเองก็ไม่รู้ว่ายาขวดนั้นมีปัญหา?”
“มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นแบบนั้น ถ้าตอนนั้นเขมิกาไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีสักนิด กลัวว่ากิจจาจะหนีไปได้ บางทีเธออาจจะเสียชีวิตในคุกตอนนั้น แต่เขมิกาหนีไป ไม่เพียงแค่หนี แต่ยังพากานต์กับกิจจาไปด้วย ตั้งใจใช้กานต์เพื่อแก้แค้นนรมน แต่เมื่อนรมนรีบไปถึง กลับว่างเปล่า นายไม่คิดว่ามันน่าแปลกหรือ ผู้หญิงที่อยากให้นายตาย กลับทิ้งโอกาสแก้แค้น?อยู่ดีๆก็เกิดความเมตตา ปล่อยนรมนไป?นายคิดว่าเป็นไปได้หรือไง?”
คำถามอีกข้อของบุริศร์ทำให้ธรณียิ่งขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเรื่องเหล่านี้จะมีข้อสงสัยที่เชื่อมโยงกันมากมายขนาดนี้ และข้อสงสัยเหล่านั้นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขมิกา และการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของกานต์กับนรมน ดูเหมือนจะไม่มีเบาะแสที่เกี่ยวข้อง
“กิจจาไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม?”
บุริศร์ส่ายหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย