แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 220

บทที่ 220 ร่างกายของคุณเป็นยังไงบ้าง

“ถ้าแกไม่ได้มีความคิดชั่วร้ายกับภรรยาของเขา ตระกูลวัชโรทัยจะวอดวายขนาดนี้ได้ยังไง แกคิดว่าตระกูลโตเล็กมีพลังอำนาจแค่นั้นเหรอ คิดว่าบทจะไปก็ไปเหรอ แกรู้ไหมว่าบุริศร์มีความสัมพันธ์ยังไงกับไมค์ แล้วแกจะรู้ไหมว่าไมค์มีความสัมพันธ์ยังไงกับคนข้างบน”

คุณนายตระกูลวัชโรทัยโมโหจนหายใจไม่ออก จากนั้นก็ไอออกมาอย่างแรง

นี่เป็นครั้งแรกที่รเมศล้มเหลว

เขารู้สึกอยู่ตลอดว่าตัวเองฉลาดมากพอแล้ว และยังคิดว่าตัวเองทำเรื่องทุกอย่างได้คลุมเครือมากแล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าบุริศร์จะสามารถหาหลักฐานที่เขาประมูลนรมนมาจากFallen heavenได้

ผู้ปกครองที่อยู่เบื้องหลังของFallen heavenลึกลับเป็นอย่างมาก ไม่ว่าใครก็อยากจะรู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร แต่อย่างไรก็ไม่เป็นผล อีกทั้งเขายังคิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะไว้หน้าบุริศร์จนถึงขนาดเอาข้อมูลส่วนตัวออกมาแบบนี้ เรื่องนี้ทำให้รเมศเหนือความคาดหมายจริงๆ

ถึงตอนนี้บุริศร์ก็ยังถือเรื่องนี้เอาไว้ไม่ยอมปล่อย รเมศโมโหจนจะตายอยู่แล้ว

“คุณย่าครับ ผมจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยอย่างแน่นอนครับ”

“จัดการอย่างนั้นเหรอ แกจะจัดการยังไง ตอนนี้ไฟถูกจุดขึ้นมาแล้ว หนทางที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดนั่นก็คือแกต้องหาตัวนรมนให้พบ ทำให้เธอสำนึกถึงบุญคุณในอดีตแล้วไปขอร้องให้บุริศร์ให้อภัยตระกูลวัชโรทัยของพวกเรา จะเข้าใจไหม ส่วนความรู้สึกพวกนั้นที่แกมีให้เธอก็รีบสลัดมันทิ้งไปซะ รู้ใช่ไหม”

คุณนายตระกูลวัชโรทัยให้ความชื่นชมกับรเมศมากที่สุด เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเด็กที่ฉลาดขนาดนี้ จะยึดมั่นและถือทิฐิขนาดนี้

รเมศขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ถ้าหากนรมนถูกบุริศร์ซ่อนตัวไว้จริงๆ ผมไม่มีทางตามหาเธอพบแน่ เมื่อคืนผมเห็นเธอปรากฏตัวอยู่ที่Fallen heaven จึงส่งคนไปสะกดรอยตามเธอ แต่กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอตรงไปที่บ้านของไมค์ ดังนั้นต่อให้ตีผมให้ตายผมก็ไม่มีทางที่จะเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับบุริศร์”

“แกมาพูดเรื่องพวกนี้ตอนนี้เราจะมีประโยชน์อะไร ไม่ว่าบุริศร์จะตั้งใจมาหาเรื่องหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้เราต้องฝากความหวังทั้งหมดเอาไว้ที่นรมนแล้ว รเมศ แกกับเธอไม่มีวาสนาต่อกันแล้ว พวกแกอยู่ด้วยกันมาตั้งห้าปี ถ้าเธอชอบแกจริงๆ ก็คงชอบไปนานแล้ว ไหนเลยจะต้องรอจนถึงวันนี้ แกเป็นถึงประธานของบริษัทวัชโรทัย อยากได้ผู้หญิงแบบไหนแล้วทำไมถึงจะมีไม่ได้ ทำไมยังจะต้องเอาตัวเองมาหมกมุ่นกับเรื่องนี้ แกรู้ไหมว่าย่ามีเวลาอีกไม่มากแล้ว ตระกูลวัชโรทัยเองก็จะไม่ไหวแล้ว”

หลังจากที่คุณนายตระกูลวัชโรทัยพูดจบก็ไอออกมาอีก

ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะโมโหมากจริงๆ

รเมศเห็นสภาพคุณนายตระกูลวัชโรทัยเป็นแบบนี้ ก็พูดออกมาอย่างรู้สึกผิดว่า “เข้าใจแล้วครับคุณย่า ผมจะไปขอร้องนรมนเอง”

“แกจะต้องหาตัวนรมนให้พบ บุริศร์เป็นนักธุรกิจ ทั้งยังเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ทนได้หรอกนะถ้าหากว่าภรรยาของตัวเองเกิดถูกผู้ชายคนอื่นหมายปอง เพียงแต่ขอแค่นรมนพูดออกมา ขอแค่เธอช่วยตระกูลวัชโรทัยของพวกเรา ไม่ถามอะไรมากความ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ตาม แกจะต้องหาตัวนรมนให้พบ เข้าใจไหม”

คุณนายตระกูลวัชโรทัยจับมือรเมศเอาไว้แน่น แรงนี้ทำให้เลือดทะลักไหลออกมาจากหัวใจของรเมศ

เขาก็แค่ต้องการตัวผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้น ทำไมถึงได้ยากขนาดนี้กันนะ

“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปตามหาเธอ”

รเมศออกไปจากบ้านเก่าของตระกูลวัชโรทัยด้วยหัวใจที่หดหู่

แท้จริงแล้วนรมนอยู่ที่ไหนกันแน่

วันเวลาที่เขากักขังเธอเอาไว้ นรมนก็ได้หมดสิ้นซึ่งความรู้สึกดีๆต่อเขาแล้วใช่ไหม ต่อให้ตอนนี้เขาไปขอร้องเธอ นรมนจะตกลงอย่างนั้นเหรอ ต่อให้นรมนตกลง บุริศร์จะปล่อยตระกูลวัชโรทัยไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ

รเมศขับรถมาถึงที่หน้าประตูของFallen heavenโดยไม่รู้สึกตัว

เขาคิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานตัวเองเจอนรมนที่นี่

เธอถูกขายออกไปจากที่นี่ ถ้าอย่างนั้นแล้วจะกลับมาเหยียบมันอีกทำไม

มีอะไรเชื่อมโยงอยู่ระหว่างเรื่องพวกนี้กันแน่

รเมศไม่เข้าใจ

เขานั่งอยู่ในรถโดยไม่เข้าไป ก่อนจะเปิดหน้าต่างรถเพื่อสูบบุหรี่

Fallen heavenยังคงมีคนเข้าออกอยู่อย่างครึกครื้นวุ่นวาย ทว่าหัวใจของรเมศกลับไม่ได้อยู่ที่นี่

ถ้าหากบุริศร์ตายไปก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่ไหม

ความคิดนี้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอีกครั้ง

ใช่แล้ว!

บุริศร์ต้องตายยังไงละ!

ขอแค่ผู้ชายคนนั้นตาย นรมนก็จะไม่มีที่พึ่ง แบบนั้นแล้วเธอก็จะต้องพึ่งพาอาศัยเขาต่อ จะต้องกลับมาอยู่ข้างกายเขา ตระกูลโตเล็กก็จะไร้ซึ่งอำนาจและอิทธิพล

พอคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นแววตาของรเมศก็ดำมืดขึ้นอีกหลายส่วน

เขาขับรถออกไปจากFallen heaven ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังไปที่ไหน

ตอนที่นรมนตื่นขึ้นมา บุริศร์ก็ไม่ได้อยู่ในห้องพักฟื้นด้วย

เธอมองไปที่เวลา ก็พบว่าเป็นเวลาเก้าโมงกว่าแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะหลับยาวขนาดนี้

นรมนลุกขึ้นแล้วจัดการตัวเองให้เรียบร้อยอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะที่ดังอยู่ข้างนอก

เธอยืนมองออกไปผ่านหน้าต่างยาวจรดพื้น เห็นบุริศร์กำลังเล่นอยู่กับกมลและกิจจา

กมลดูเหมือนจะร่าเริงขึ้นมาก ถึงแม้ว่าเธอจะยังไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆได้ แต่บนใบหน้าก็ยังมีเหงื่อไหลซึมออกมา ดูออกเลยว่าเธอมีความสุขมากจริงๆ

เธอถูกบุริศร์วางไว้บนไหล่ จากนั้นก็วิ่งไล่ตามกิจจา

กมลกางแขนออกแล้วตะโกนเสียงดังว่า “ว้าย หนูใกล้จะบินแล้ว! บินแล้ว!”

บุริศร์ได้ยินเสียงหัวเราะกังวานใสจากลูกสาวก็ยิ่งวิ่งเร็วขึ้น

นรมนที่เห็นฉากนี้เข้ารู้สึกซาบซึ้งในใจเป็นอย่างมาก

ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้ กมลไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อนเลย

ถึงแม้ว่ารเมศจะค่อนข้างเป็นห่วงกมล แต่เขาก็ไม่เคยปฏิบัติกับกมลเหมือนบุริศร์

ตอนที่คิดถึงรเมศอีกครั้ง นรมนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็จับเขาโยนทิ้งออกไปจากสมอง

เธอเปลี่ยนชุดแล้วเดินลงไปที่สวนข้างหลัง

“เล่นอะไรกันอยู่จ๊ะ”

การที่นรมนเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้กมลรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นกว่าเดิม

“หม่ามี้ แด๊ดดี้บอกว่าพวกเรากำลังเล่นเกมอินทรีย์แก่ไล่จับลูกไก่กันอยู่ พวกเราเป็นอินทรีย์แก่ ส่วนพี่กิจจาก็เป็นลูกไก่ แด๊ดดี้เก่งมากๆ เลย”

กมลชื่นชมบุริศร์เป็นอย่างมาก ตอนนี้ในหัวใจของเธอ บุริศร์คือเทพสงครามที่สามารถทำได้ทุกอย่าง

นรมนเห็นบุริศร์ทำท่าทีได้ใจ จึงยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “พวกลูกกำลังรังแกคนอยู่นี่นา สองคนรุมกิจจาคนเดียว ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย มานี่กิจจา ลูกกับแม่อยู่กลุ่มเดียวกัน ดูซิว่าพวกเราจะจัดการนกอินทรีย์แก่สองตัวนั้นยังไง”

นรมนพูดพลางม้วนแขนเสื้อขึ้น

ผิวขาวของเธอถูกแดดส่องจนเปร่งประกาย

บุริศร์ไอออกมาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ

“ไอ้หยา! สุดยอดไปเลย! หม่ามี้ดีที่สุดเลย!”

“ร่างกายของคุณเป็นยังไงบ้าง”

บุริศร์ค่อนข้างที่จะกังวล

นรมนหน้าแดงขึ้นมาทันที

“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ”

เธอรีบหันหน้าไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังถูกกมลมองเห็นความผิดปกติ

“เอ๋ ทำไมหม่ามี้หน้าแดงจังเลยคะ ยังไม่หายเป็นหวัดเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นพวกเราค่อยเล่นกันต่อดีไหม”

พอได้ยินลูกพูดแบบนี้เข้า นรมนก็อายยิ่งกว่าเดิม

“ไม่เป็นไรจ้ะ แม่ก็แค่ร้อนนิดหน่อย”

นรมนรีบกล่าวแก้ตัว ทว่ามุมปากของบุริศร์กลับยกยิ้มขึ้นมา

ตอนนี้นรมนแทบอยากจะพุ่งไปกัดเขาสักคำสองคำ

กิจจาเห็นบรรยากาศที่ลื่นไหลระหว่างบุริศร์กับนรมน จึงกระแอมแล้วพูดว่า “ไอ้หยา อยู่ๆ ผมก็ปวดท้องขึ้นมาซะแล้วสิ กมล น้องไปห้องน้ำกับพี่หน่อยสิ”

“พี่กิจจาเป็นอะไรเหรอคะ”

ทันใดนั้นกมลก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา เธอรีบดิ้นจะลงจากบ่าของบุริศร์

บุริศร์มองไปที่เจ้าเด็กดื้อกิจจาแล้วส่ายหน้าเบาๆ หลังจากที่วางกมลลงแล้ว ก็พูดอย่างเป็นห่วงว่า “ระวังหน่อย อย่าให้ล้มล่ะ”

“เข้าใจแล้วครับ”

กิจจาทำหน้าล้อเลียนใส่บุริศร์ หลังจากนั้นก็พากันออกไป

ตอนที่เหลือเพียงบุริศร์กับนรมนอยู่ในสวนด้านหลัง ทันใดนั้นนรมนก็รู้สึกอายเล็กน้อย

“คุณนี่จริงๆ เลย ไม่ง่ายเลยนะที่จะได้เล่นกับลูกสาวน่ะ ยังจะมาพูดเรื่องพวกนั้นอีก”

นรมนบ่นออกมา

เขาดึงมือเธอให้มานั่งบนตักของตัวเอง

นรมนกลัวว่าจะกระทบกับร่างกายเขา จึงรีบลุกขึ้นทันทีเ ทว่ากลับถูกบุริศร์ห้ามเอาไว้

“ไม่เป็นไร นั่งสักพักเถอะ ตักของผมไม่เย็น”

“ถ้าถูกคนเห็นเข้าจะไม่ดีเอานะคะ”

นรมนยังคงไม่ค่อยที่จะเต็มใจ จนปัญญาที่มือของบุริศร์เหมือนคีมเหล็ก ทำให้เธอขยับไม่ได้

“เห็นก็เห็นไปสิ คุณเป็นภรรยาของผม ใครจะว่าอะไรได้”

“ใครเป็นภรรยาของคุณกัน คุณยังไม่ได้แต่งงานสักหน่อย”

นรมนคิดขึ้นมาได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเมื่อแปดปีก่อนหรือว่าตอนนี้ บุริศร์ก็ไม่เคยขอเธอแต่งงานเลยสักครั้ง ตอนนี้เธอจึงทะนงตัวขึ้นมา

บุริศร์ยิ้มแล้วพูดออกมา “ขอยังไงล่ะ แบบตอนนี้เหรอ”

พูดกลางก็ใช้ลิ้นของเขาเลียลงไปที่คอของนรมน ทำให้เธอสั่นสะท้าน

“คุณอยากก่อเรื่องสิ!”

นรมนรู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงรีบคว้ามือบุริศร์ไว้ทันที

บุริศร์ว่านรมนในตอนนี้ช่างน่าดึงดูดจนเกินไป แต่ตอนนี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ มองได้แต่กินไม่ได้ ทำให้เขาต้องอดกลั้นอย่างยากลำบาก

“ประจําเดือนของคุณจะหมดตอนไหน”

มือทั้งสองข้างของบุริศร์ลูบไล้ไปทั่วตัวนรมนอย่างไม่น่าไว้ใจ

นรมนเข้าใจความหมายของเขา จึงพูดออกมาอย่างอายๆ ว่า “ เจ็ดวันค่ะ”

“พระเจ้าช่วย นี่เพิ่งจะวันที่สองเอง คุณอยากจะให้ผมตายใช่ไหม”

เสียงคร่ำครวญของบุริศร์ทำให้นรมนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

“ให้มันน้อยๆหน่อย ตอนคุณเพิ่งได้กินเนื้อหลังจากไม่เจอกันมาห้าปี ก็ไม่ได้รีบร้อนจนเป็นแบบนี้”

“นั่นน่ะไม่เหมือนกันสักหน่อย”

บุริศร์มุดศีรษะของตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของนรมน ก่อนจะสูดหายใจเข้าไปลึกๆ ท่าทางแบบนั้นดูลุ่มหลงเอามากๆ ทำให้นรมนรู้สึกเขินอายอีกครั้ง

เธอคิดจะผลักบุริศร์ออกไป แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเสียงดังโครกครากขึ้นมาจากท้องตัวเอง

ทั้งสองคนชะงักไปชั่วขณะ

หลังจากนั้นบุริศร์ก็หัวเราะออกมา แต่นรมนกลับรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย

“หยุดหัวเราะเลยนะ!”

“ฮ่าๆฮ่าๆ!”

บุริศร์อดไม่ได้จริงๆ นรมนโมโหจนต้องยื่นมือมาอุดปากเขาไว้ ก่อนจะพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “หยุดหัวเราะเลย! มีอะไรน่าตลกกัน ฉันก็แค่หิว ทำไมคะ หิวไม่ได้เหรอ”

พอเห็นเธอหงุดหงิดรำคาญแบบนี้แล้ว บุริศร์ก็แลบลิ้นเลียที่กลางฝ่ามือของนรมน

นรมนรู้สึกเพียงว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกาย ตัวจึงสั่นระริก ก่อนจะอุทานออกมาแล้วรีบปล่อยมือทันที แต่ไม่รู้ว่าควรจะวางมือทั้งสองข้างเอาไว้ที่ไหนดี

พอเห็นเธอทำอะไรไม่ถูกแบบนี้แล้ว แววตาของบุริศร์ก็อ่อนโยนดุจสายน้ำ

เขาก้มหน้าแล้วกดท้ายทอยของนรมนเข้ามา ก่อนจะประทับจูบร้อนแรง

นรมนชะงักไปชั่วขณะ ยื่นมือออกไปแล้วโอบคอของบุริศร์ไว้ จากนั้นก็จูบตอบอย่างรักใคร่

ทันใดนั้นบรรยากาศโดยรอบก็ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยกลิ่นหอมหวาน แม้แต่อุณหภูมิเองก็ยังค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ...

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย