บทที่ 239 หนูก็ไม่มีทางอื่นจริงๆ
พ่อนรมนรู้สึกว่านรมนมีบางอย่างผิดปกติ จึงรีบถามขึ้น
นรมนมองดูพ่อของตัวเองจึงได้พูดเสียงต่ำขึ้น : พ่อคะ มีบางเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายให้พวกท่านเข้าใจได้ในเวลาเพียงสั้นๆ พวกท่านไปจากที่นี่ก่อน พาแม่ย่าของหนูกับกิจจาไปพร้อมกัน ร่างกายกมลไม่ค่อยเหมาะกับการนั่งเครื่องบิน หนูจึงจัดเตรียมเรือไว้ พวกท่านนั่งเรือไปนะ กมลร่างกายไม่แข็งแรง กลับไปยังต้องทำการปลูกถ่ายไต หลายปีที่ผ่านมาเธอยังไม่เคยได้ออกจากประตูโรงพยาบาล ไม่เคยรู้ว่าโลกภายนอกว่าเป็นอย่างไร หนูจะอยู่ที่นี่ ลูกๆของหนูต้องรบกวนพวกท่านดูแลแล้ว พวกท่านจะต้องพาพวกเขากลับไปเมืองชลธีอย่างปลอดภัย สำหรับกานต์ถ้าวันหน้าหากมีโอกาส หนูจะพาเขากลับไปเยี่ยมพวกท่าน”
เมื่อได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ ราวกับเป็นคำสั่งเสีย จิตใจพ่อนรมนก็ยิ่งกระวนกระวาย
“ไม่ได้ ถ้าไปต้องไปด้วยกัน ลูกรัก แม่กับพ่อได้สูญเสียลูกไปครั้งหนึ่งแล้ว ไม่สามารถที่จะเสียลูกไปครั้งที่สองได้อีก ฟังคำแม่นะลูก ไปพร้อมกันกับพวกเรา บุริศร์เขามีวิธีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเผชิญกับเรื่องอะไร เขาก็สามารถจัดการได้ หนูกลับไปพร้อมกับพวกเรานะ!”
แม่นรมนจับมือของนรมนอย่างแน่น
เธอนึกถึงเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอ
เป็นไปไม่ได้ที่เธอไม่ใช่ลูกของตัวเอง
ตั้งท้องสิบเดือน เลี้ยงมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกจนเติบใหญ่ อาศัยแค่กระดาษแผ่นเดียวมาบอกว่าเธอไม่ใช่ลูกของตัวเองได้อย่างไร ก่อนที่จะมาสหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ก็มีความคิดแบบนี้ ต้องการอยากจะบอกปัญหาเรื่องผลการตรวจให้กับนรมนด้วยปากตัวเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากที่พวกเขามาถึง ทำให้พวกเขาตระหนักอีกครั้งว่า พวกเขาไม่สามารถที่จะสูญเสียนรมนลูกคนนี้ได้อีก
ดังนั้นเรื่องนี้ พวกท่านได้ฝังลึกไว้ข้างในก้นบึ้งของหัวใจ ทำเป็นเหมือนไม่เคยมีเรื่องเกิดขึ้น
ความจริงแล้วเมื่อลองดูดีๆ นรมนหน้าตาก็ดูไม่เหมือนกับพวกเขาทั้งสองสามีภรรยา ตอนเล็กๆมีแต่คนชมว่าหน้าตาสะสวย วันนี้นรมนได้รับการศัลยกรรม ยิ่งไม่เหลือเค้าโครงรูปร่างของพวกเขาอีก
แต่ถึงเป็นอย่างนั้นแล้วกระไร หลายปีมานี้ พวกเขาก็คือพ่อลูกกัน!
พ่อนรมนเห็นแม่นรมนที่เจ็บปวดเหลือหลาย จึงได้พูดเสียงเบาๆ : “แม่ของลูกพูดถูก นรมนลูก ไม่มีเรื่องอะไรที่ไม่มีทางออกหรอกนะ หนูไปพร้อมกันกับพวกเราเถอะ”
“พ่อคะแม่คะ หนูไปด้วยไม่ได้จริงๆ รอบๆตัวหนูมีคนสะกดรอยตาม แค่หนูขยับตัวออกจากที่นี่ ทุกคนก็จะออกจากที่นี่ไม่ได้แล้ว ถ้าพวกท่านรักหนูจริงๆ ก็พาลูกๆและแม่ย่าของหนูออกไปจากที่นี่ หนูได้จัดคนคุ้มครองปกป้องพวกท่านไว้ตลอดทาง สามารถส่งพวกท่านไปถึงที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเมืองชลธีได้ หนูคิดว่าคุณชายธรณีจะให้การปกป้องพวกคุณ ตราบใดที่หนูไม่กลับไป ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็อย่ายอมให้เข้าใกล้กมลและพวกท่านเด็ดขาด”
แม่นรมนที่เหมือนยังอยากจะพูดอะไร แต่ก็ถูกพ่อนรมนห้ามไว้
เขาดูออกว่านิสัยนรมนยังคงเป็นเหมือนเมื่อห้าปีก่อน เรื่องที่ตัวเองได้ตัดสินแล้วก็จะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ต่อให้คนอื่นจะไม่เข้าใจเรื่องนั้นก็ตาม เธอจะเดินไปให้สุดตามทางที่เลือกไว้ ก็เหมือนกับห้าปีก่อนที่เธอต้องการจะแต่งงานกับบุริศร์
“ได้ พ่อจะฟังคำลูก แต่ว่าหนูต้องรับปากกับพวกเราว่า จะกลับมาพร้อมกับบุริศร์อย่างปลอดภัย ! พ่อกับแม่อายุก็มากแล้ว ไม่สามารถที่จะช่วยหนูเลี้ยงลูกได้ หนูรู้ใช่ไหม”
คำพูดพ่อนรมนทำให้หัวใจของนรมนรู้สึกอบอุ่นมาก
เธอพยักหน้า กลัวแม่นรมนจะร้องไห้เสียใจ จึงรีบลุกขึ้นไปหาคุณนายโตเล็ก
คุณนายโตเล็กได้เตรียมพร้อมไว้ก่อนที่นรมนจะออกไปแล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นเธอปลอดภัยกลับมา คุณนายโตเล็กก็ได้โล่งใจ
“ไม่รับบาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”
“ไม่ค่ะ”
นรมนมองแม่ย่าที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ แล้วรู้สึกไม่อยากจะจากลาไป
“แม่คะ ตลอดเส้นทางนี้ต้องรบกวนแม่ดูแลแล้วนะคะ”
“เด็กโง่ พูดอะไรออกมา คนอื่นแม่ไม่ค่อยเป็นห่วงเท่าไหร่ จะห่วงก็แต่กมล”
คุณนายโตเล็กถอนหายใจ
จริงๆแล้วร่างกายของกมลไม่เหมาะที่จะไปจากที่นี่ ยิ่งไม่เหมาะกับการเดินทางระยะไกล แต่ว่านรมนก็ไม่มีทางเลือก
รเมศเคยลงมือกับกมลไปครั้งหนึ่งแล้ว ก็ยิ่งไม่มีทางที่จะมีความอดทนหรือไม่กล้าอีกต่อไป แม้ว่าครั้งก่อนเธอจะไม่เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ได้ยินสิ่งที่คนอื่นเล่าต่อกันมา เธอก็เข้าใจสถานการณ์ตอนนั้นว่าอันตรายมากแค่ไหน
แยมพูดถูก ที่นี่เป็นเขตของรเมศ ไม่ว่าบุริศร์จะเก่งกาจแค่ไหน อยู่ที่นี่ต่อก็มีแต่จะเสียเปรียบ อีกทั้งมีกมลและคนทางบ้านที่คอยบั่นทอนกำลัง คอยมัดมือมัดเท้าของเขาไม่ให้ออกแรงได้เต็มที่
นรมนพูดเสียงเบาๆ : “แม่คะ หนูก็ไม่มีทางอื่นจริงๆ”
“แม่เข้าใจ หนูไปคุยกับกมลเถอะ จากลากันครั้งนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้พบกันอีก หนูกับบุริศร์จะต้องปลอดภัยนะ รู้ไหม”
“รู้แล้วค่ะ”
นรมนเห็นคุณนายโตเล็กได้เตรียมพร้อมแล้ว ถึงได้ไปที่ห้องของกมล
กมลกับกิจจายังคงเล่นของเล่นกันอยู่ เมื่อเห็นนรมนกลับมาแล้ว ก็เหลือบมองด้านหลังเธอแวบหนึ่ง พูดด้วยอาการผิดหวังเล็กน้อย : “แด๊ดดี้ไม่ได้กลับมาด้วยเหรอคะ”
“แดดดี้ยุ่งมากเลย ยังกลับมาตอนนี้ไม่ได้ กลมจ๊ะ หม่ามี้มีเรื่องที่อยากจะบอกหนู”
น้อยครั้งมากที่นรมนจะคุยจริงจังแบบนี้กับกมล ทำให้นรมนถึงกับเงียบไปชั่วขณะ
“มีอะไรเหรอคะ”
และเธอก็เริ่มจริงจังขึ้น
กิจจาก็ไม่เคยเห็นนรมนจริงจังเช่นนี้มาก่อน จึงได้รีบดึงกมลมาอยู่ข้างๆตัว แล้วมองไปทางนรมน
มองดูแววตาลูกชายที่ใสซื่อบริสุทธิ์ ทำให้จิตใจของนรมนแสนเจ็บปวดทรมาน
เธอเพิ่งจะสี่ขวบกลับต้องมาเจอเรื่องราวมากมายเช่นนี้ ตอนนี้ก็เพิ่งจะรู้จักพ่อ กลับต้องมาห่างพวกเขาไปอีก
นรมนรู้สึกผิดต่อเด็กๆมาก
เธอได้จัดระเบียบคอเสื้อให้กมล ยิ้มแล้วพูด: “คุณย่าจะพากมลกลับประเทศ กลับไปดูที่ที่แด๊ดดี้เติบโตดีไหม”
“จริงเหรอคะ”
กมลดีใจขึ้นในทันใด
“แด๊ดดี้จะไปพร้อมกับพวกเราด้วยไหม”
“ยังจ๊ะ แด๊ดดี้กับหม่ามี้ยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่นี่ หนูกับพี่กิจจา คุณย่า และคุณตาคุณยายกลับไปก่อน แด๊ดดี้กับหม่ามี้จะตามมาทีหลัง”
คำพูดของนรมนทำให้ความดีใจของกมลลดลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...