แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 243

"นี่เป็นกฏบ้าบออะไรกันเนี่ยะ?"

บุริศร์​โมโห​ต่อหน้าคนอื่นน้อยมาก

ทนายความ​ปวินอยู่​กับบุริศร์​มาตั้งหลายปี ย่อมรู้นิสัยของเขาดีอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นบุริศร์โมโหขนาดนี้ ก็จัดการยากขึ้นมาหน่อย

"คุณ​ชายบ​ุริศร์ ทำไงได้หล่ะ คุณ​เป็นสวรรค์ของเมืองชลธี แต่ว่ารเมศเป็นสวรรค์ของที่นี่"

"หรือว่าไม่มีวิธีอื่นเลยหรือ?"

ทนายความปวินส่ายหน้า​

บุริศร์​รู้สึก​​หดหู่​ใจสุดๆ

ขณะนี้ ทนายความ​ปวินได้​รับโทรศัพท์​สายนึง จากนั้นสีหน้ายิ่งดูแย่ไปใหญ่

"เป็นอะไร?"

"คุณ​ชาย​บุริศร์​ เมื่อสักครู่ฉันได้รับข่าวสารจากสำนักงานข้าราชการทางโน้น รเมศ​สามารถยืนยันกับสำนักงานข้าราชการว่า แคทเธอรีได้ตายไปตั้งนานแล้วเมื่อห้าปีก่อน คุณ​นายบ​ุริศร์ในตอนนี้เป็นผู้ไร้สัญชาติ"

คำพูดนี้ออกมาปุ๊บ บุริศร์​แทบอยากจะวิ่งไปตรงหน้ารเมศและชกต่อยเขาให้น่วมไปเลย

คนต่ำช้าสารเลวคนนี้!

เขาถึงกับทำให้นรมนกลายเป็นคนไร้สัญชาติ

บัญชี​ของภายในประเทศ​ได้ยกเลิกไปแล้ว แคทเธอรีในต่างประเทศก็ไม่มีฐานะแล้ว ตอนนี้อย่าว่าแต่จะแต่งงานกับนรมนเลย แม้แต่นรมนอยู่ต่อที่อเมริกาก็เป็นไปไม่ได้เสียแล้ว

"ให้พฤกษ์จัดคนส่งคุณนายออกไปจากอเมริกาเดี๋ยวนี้!"

บุริศร์​ตัดสินใจในเวลาที่คับขันเช่นนี้

ไม่​ว่ารเมศติดตั้งอุปสรรค​ให้กับเขาเท่าไหร่ เขาก็รับไว้โดยดี ​แต่ว่าถ้าหากเอานรมนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เรื่องนี้ก็ยากซะแล้ว

ตอนนี้​พฤกษ์​ก็รู้ดีว่าเรื่องนี้หนักหนาสาหัส

รเมศใช้วิธีที่เชื่องโยงกันอย่างไม่หยุดไม่หย่อน​ ต้องมีใครสักคนคอยรับมือดีๆ

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือเขาทำเรื่องต่ำช้าที่ทำให้คนคาดไม่ถึง จึงทำให้คนป้องกันไม่ได้

พฤกษ์​รีบไปที่ห้องนอนอยากฉวยโอกาสตอนที่นรมนยังหลับอยู่พาเธอจากไป กลับคิดไม่ถึงไม่รู้ว่านรมน​รู้อยู่เต็มอก​หรือว่าอะไร ถึงกับ​ตื่นขึ้นมาซะงั้น

"ทำอะไรง่ะ​?ตื่นตระหนก​เชียว?บุริศร์​หล่ะ?"

นรมนเห็นร่างกายตัวเองใส่ชุดนอนอยู่ ถึงวางใจ

เธอกลัวจริงๆว่าบุริศร์ไม่ได้ใส่ชุดนอนให้กับเธอ ถ้าโป๊ขึ้นมาแย่เลยนะเนี่ย

พฤกษ์​เห็นว่านรมนตื่นแล้ว หดหู่​ใจทันที

"คุณ​นายครับ ทำไม​คุณ​นายตื่นเร็วจังหล่ะครับ?"

"พูดอะไรเนี่ย?ฉันไม่ตื่นตอนนี้ นายกะจะให้ฉันหลับไปจนถึงตอนกลางคืนเลยรึไง?ที่สำคัญรเมศทางโน้นต้องมีการเคลื่อนไหวอย่างแน่นอน ฉวยโอกาส​ตอนที่เขายังสามรถแยกร่างไปทำอย่างอื่น รีบไปจัดการอย่างเร่งด่วน ฉันกับบุริศร์ไปจากอเมริกาเดี๋ยวนี้"

นรมน​พูดอยู่ก็ลุกขึ้นมาทันที

พฤกษ์​รู้​สึก​ว่า​นรมน​ตัดสินใจ​ได้รวดเร็วทันใจ​มาก น่าเสียดาย​พวกเขาต่างคิดไม่ถึงความร้ายกาจ และความรอบคอบของรเมศ

เห็นว่าพฤกษ์ยังไม่มีการเคลื่อนไหว นรมน​หดหู่​ใจเล็กน้อย

"เป็น​อะไร?ทำไมยังไม่ไปจัดการอีก?เกิดเรื่องอะไรอะไรรึเปล่า?"

เธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างกะทันหัน

พฤกษ์​พยักหน้า​ จึงพูดกับนรมนเรื่องที่รเมศได้ยกเลิกภูมิลำ​เนาของเธอไปทั้งหมดแล้ว และพูดเรื่องที่สถานที่ที่ก่อสร้างอีกด้วย เขารู้ว่าตอนนี้เรื่องราวหลายอย่างไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังนรมนอีกแล้ว

นรมนไม่ใช่ผู้หญิงทั่วไป

หลายครั้งหลายคราวเธอรู้ว่าตัวเองควรทำยังไง

สีหน้า​ของ​นรมน​ดูแย่ขึ้นมาทันที

"เป็นไปไม่ได้​ พ่อแม่ของฉันไม่มีทางเซ็นสัญญาฉบับนั้นเด็ดขาด"

"แต่​ว่าความจริงเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าพ่อแม่บ้านตระกูลธนาศักดิ์ธนทำไมถึงเซ็น ถูก​คนวางแผนรึเปล่า ตอนนี้เป็นความจริงไปแล้ว ที่​ต่างประเทศ​และ​ภายในประเทศ​ ตอนนี้คุณก็คือคนไร้สัญชาติ ถ้าหากรเมศทำเด็ดขาดกว่านี้อีกหน่อย เป็นไปได้สูงมากอีกไม่นานตำรวจก็มาถึงแล้ว และพาคุณไปทันที สำหรับคนไร้สัญชาติ พวกเขาจะจัดการยังไงเราไม่รู้เลยจริงๆ"

นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่บุริศร์กับพฤกษ์กังวล

ที่อเมริกาคนไร้สัญชาติมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าคนไร้สัญชาติถูก​จับมาโดยตลอด หลังจากถูกจับส่งไปที่ไหน และต้องรับกับสถานการณ์​แบบไหนซึ่งไม่มีใครรู้

ตอนนี้นรมนถึงกับถูกรเมศทำให้กลายเป็นคนไร้สัญชาติ ถ้าอย่างนั้น​เขาต้องการผ่านมือตำรวจพาตัวนรมนไปจากข้างกายบุริศร์

นรมนก็คิดถึงความหนักหนาสาหัศของเรื่องนี้

"แต่ว่าฉันสามารถไปไหนได้หล่ะ?ต่อให้กลับไปที่ประเทศ ฉันยังคงเป็นคนไร้สัญชาติอยู่ดี"

"ประธาน​บุริศร์​กำลังคิดหาวิธีอยู่ครับ เพียงแค่คุณนายไปจากที่นี่ก่อน และกลับประเทศไปก่อน ประธาน​บุริศร์​ต้องมีวิธีให้ฐานะกับคุณแน่นอน"

พฤกษ์​รู้​สึก​ว่า​เรื่องนี้บุริศร์ต้องทำอย่างสุดความสามารถ แต่ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือนรมนอยู่ที่นี่ไม่ได้ หนึ่งวินาทีและหนึ่งนาทีก็ไม่ได้ทั้งนั้น

นรมนก็รู้ดีว่าตัวเองควรไปจากที่นี่ทันที แบบนี้ดีต่อทั้งตัวเธอและบุริศร์  แต่ว่าทิ้งบุริศร์อยู่ที่นี่คนเดียว เธอไม่ไว้ใจเลยจริงๆ

"บุริศร์​หล่ะ?"

"อยู่​ในห้องหนังสือ"

นรมนยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยด้วยซ้ำ ก็วิ่งเข้าไปในห้องหนังสือโดยตรง

"บุริศร์​!"

เธอผลักประตูห้องหนังสืออย่างกะทันหัน ถึงได้พบว่าในห้องหนังสือยังมีคนอื่นอยู่ด้วย

"ขอโทษ​ด้วย ฉันไม่รู้……"

นรมนเหมือนกับเด็กที่ทำความผิด ท่าทางตื่นตระหนกและไม่สบายใจอย่างยิ่ง

บุริศร์​เห็นเธอวิ่งออกมาด้วยเท้าเปล่า ขมวดคิ้ว​เล็ก​น้อย

"ร้อนใจแค่ไหนก็ตามต้องใส่รองเท้าด้วยสิ ร่างกายของ​คุณ​ไม่แข็งแรงรู้รึเปล่า?"

ตั้งแต่กลับมาจากรเมศทางโน้น ร่างกายของนรมนก็ไม่อ้วนขึ้นมาอีกเลย ผอมแห้ง​ ท​ำให้คนรู้ส​ึกเอ็นดู ถึงแม้​ความอยากอาหารยังคงใช้ได้ แต่ยังไงซะก็ทานได้ไม่มากเท่าไหร่

เขารีบลุกขึ้นมาและเดินเข้าไป อุ้มตัวนรมนขึ้นมาในแนวขวาง วางเธอลงไปที่เก้าอี้ จากนั้น​ให้คนส่งรองเท้าแตะมา ไม่​สนใจเลยว่าทนายความปวินอยู่​หรือไม่​ คุกเข่าลงไปซะงั้น วางขานรมนไว้บนตักของตัวเองโดยตรงและนวดไปสองครั้ง

"วันหลังจำไว้ด้วยนะ พื้นเย็นเกินไป อย่าออกมาโดยที่ไม่ใส่รองเท้าแบบนี้"

เสียงของบุริ​ศร์ไม่ดังเท่าไหร่ ยิ่งไปกว่านั้น​มีความดึงดูด แต่ว่านรมนกลับเขินอายเล็กน้อย

ถูกบุริศร์ตามใจต่อหน้าคนอื่นเช่นนี้ เหมือนกับตัวเองเป็นเด็กน้อย ความรู้สึก​แบบนี้อีกทั้งหวานชื่นและเขินอาย

เธอหดขาเข้ามาแล้วพูดว่า "ฉันทำเองเถอะนะ"

"อย่าขยับ ขาเย็นเจี๊ยบ​เลย ต้องถูๆ และนวดๆซะหน่อย"

พูดอยู่ บุริศร์​นวดๆถูๆที่ฝ่าเท้าของเธอ ความร้อนระอุมาเป็นระยะๆ ทำให้นรมนรู้สึกแก้มร้อนขึ้นมา

ทนายความ​ปวินเห็น​ภาพนี้ ไม่เพียงแต่​ไม่ว่าอะไร มุมปากกลับยกขึ้นมายิ้มแย้มอ่อนๆ

ความรักระหว่างพวกเขาเหมือนกับช่วยเหลือซึ่งกันและกัน​ ถึงแม้​ไม่ต้องแสดงออกมา แต่ก็เผยออกมาด้วยท่าทางและการกระทำ รู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจดั่งตัวเองได้รับ ซึ่งรู้สึกอบอุ่นไปทั้งตัว

นรมน​แทบอยากจะดึงขาตัวเองกลับมา ดีนะบุริศร์ใช้เวลาไม่นาน หลังจากนวดไปสองครั้งก็สวมใส่รองเท้าให้กับนรมนเรียบร้อย จากนั้น​พูด​ขึ้นมาก่อนที่นรมนยังไม่ได้เอ่ยปากพูด "ถ้าหาก​เป็นเพราะว่าคุณจะอยู่ที่นี่ต่อแล้วละก็ อย่าพูดเลย คุณ​จำเป็นต้องไปตอนนี้เลย"

คำพูดของบุริศร์ทำให้ตัวเองคิดถึงจุดประสงค์ที่ตัวเอง​มา

เธอมองดูบุริศร์ และพูดเสียงทุ้มต่ำว่า "ฉันรู้ ฉันจำเป็นต้องไป ตอนนี้ฉันอยู่่ที่นี่สำหรับคุณแล้วเป็นการข่มขู่อย่างนึง สำหรับฉันก็เป็นอันตราย​อย่าง​นึง ขอโทษ​นะ​ทำให้คุณพลอยลำบากไปด้วย ถ้าหาก​ไม่ใช่​ฉันดูคนไม่เป็นในห้าปีที่ผ่านมานี้ ตอนนี้เราก็น่าจะไม่เป็น........"

"เรื่อง​ได้ผ่านไปแล้วอย่าพูดอีกเลยนะ ไม่มีใครเป็นคนฉลาดมาโดยกำเนิด และมองทุกอย่างได้อย่างกระจ่างแจ้ง​ ในเมื่อเรื่องราวได้เกิดขึ้นมาแล้ว เราเผชิญกับมันก็พอแล้ว ฉันทางนี้มีธุระเร่งด่วนที่ต้องจัดการ ไม่ไปส่งคุณแล้วนะ อีกอย่างถ้าฉันไปส่งคุณ เป็นไปได้สูงมากอาจจะเปิดเผยเบาะแสของคุณ เพราะฉะนั้น​นรมน เพื่อฉัน และเพื่อลูกๆ คุณ​ต้องรักษาตัวดีๆนะ"

บุริศร์​อาลัยอาวรณ์​นรมนและไม่อยากให้เธอจากไป

เวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันไม่นานจริงๆ แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ให้เธอไปไม่ได้เสียแล้ว

เป็นเขาเองที่ประเมินวิธีและความเป็นคนของรเมศต่ำเกินไป ถึงได้ทำให้พวกเขากลายเป็นคนถูกกระทำ

ตอนนี้หวังแค่ว่าให้นรมนกับลูกๆได้อยู่อย่างปลอดภัย​ก็พอแล้ว

"ฉันได้โทรศัพท์​ให้กับธรณีแล้ว เขาอยู่ในประเทศยืนยันความปลอดภัยทุกอย่างของพวกคุณ"

ตอนนี้คนที่บุริศร์สามารถเชื่อใจได้ก็มีแต่ธรณีเท่านั้นแล้ว

นรมน​พยักหน้า​ ถึงแม้​อาลัยอาวรณ์​ก็ตาม แต่ว่ากลับรู้ดีว่าตัวเองจำเป็นต้องจากไปแล้ว"

เธอกอดบุริศร์เอาไว้แน่นๆ พูดเส​ียงทุ้มต่ำ​ว่า "ไม่ว่าฉันจะเป็นฐานะอะไรก็ตาม อยู่​ที่​คุณ​ตรงนี้ และอยู่ที่ฉันตรงนี้ เราก็เป็นสามีภรรยากัน!ฉันรอคุณกลับมานะ!"

"อืม"

บุริศร์​ไม่ได้พูดคำพูดอื่น แต่ว่ากลับกอดนรมนเอาไว้แน่นๆ

เมื่อไม่นานมานี้ทั้งคู่ยังนัวเนียอยู่บนเตียงอยู่เลย ตั้งหน้าตั้งตารอคอย​ชีวิต​ที่​มีความสุข ตอนนี้กลับต้องจากกันไปเสียแล้ว ความรู้สึก​แบบนี้ไม่ใช่ว่าพูดกันแค่คำสองคำก็สามารถเข้าใจได้เลย

หลังจาก​บุริศร์​กอดนรมนสามวินาทีก็ผลักเธอออกไป

"รีบไป!ตามนิสัยของรเมศ เกรงว่าตำรวจใกล้จะมาถึงแล้ว"

เขาไม่เร่งนรมนจากไปไม่ได้

จากกันย่อมเสียใจอยู่แล้ว แต่ว่าไม่มีใครสามารถหนีคำว่าจากกันไปได้เลย

นรมนมองดูบุริศร์​อย่างลึกซึ้ง​ พูด​เสียงทุ้มต่ำว่า "จากกันเพื่อสิ่งสวยงามในยามที่เจอกันในครั้งต่อไป บุริศร์​ ฉันหวังว่าเราจะพบกันอีกครั้งนะ"

แน่นอน​!ปลายสุดขอบฟ้า ฉันต้องการแค่คุณ"

คำพูดนี้ข​องบุริศร์เท่ากับให้คำมั่นสัญญากับนรมน

เธอยิ้มแย้มอ่อนๆและหันหลัง จากไปอย่างไม่ลังเลใดๆ

พฤกษ์​ได้เก็บข้าวของของนรมนเรียบร้อยแล้ว เห็นนรมนออกมาก็พูดเส​ียงทุ้มต่ำ​ว่า "คุณ​นายครับเราไปที่ยอดเขาโดยตรงด้วยทางลัดนะครับ ที่นั่นได้เตรียมพร้อมเครื่องบินส่วนตัวไว้แล้วนะครับ เพียงแค่ไปจากที่นี่ ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น"

"ไปเถอะ"

นรมนยังไม่ทันได้ดูหน้าตาบ้านเดี่ยวในอเมริกาของบ้านตระกูลโตเล็กเลย ตอนนี้ถูกบีบบังคับให้ไปจากที่นี่เหมือนกับสุนัขที่ไร้บ้าน

ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าไฟไหม้เมื่อห้าปีก่อนจะทำให้ตัวเองกลายเป็นคนที่ไร้สัญชาติ ตอนนี้การจู่โจมที่มาแบบไม่ทันตั้งตัวเช่นนี้ ทำให้เธอเกือบจะรับไม่ไหว

เพียงแต่​ว่าบุริศร์พูดถูกแล้ว เพียงแค่พวกเขารักกัน และเพียงแค่ในใจของพวกเขามีกันซึ่งกันและกัน อุปสรรค​แบบไหน​ก็ไม่เป็นไรไม่ใช่หรอ?

นรมนขึ้นรถไปแล้ว และจากไปแบบไม่หันหลัง

เธอไม่กล้าหันหน้ากลับไป

กลัวว่าเห็นใบหน้าของบุริศร์จะทำให้เธอ​อาลัยอาวรณ์​และไม่อยากจากไป

บุริศร์​ยืนอยู่ใต้หน้าต่าง มองดูรถยนต์คันนั้นที่คุ้นเคยซึ่งพาผู้หญิงที่ตัวเองรักไปจากที่นี่ แววตาของเขาเย็นชาเล็กน้อย มือทั้งคู่จับไว้แน่นๆ

รเมศ คุณ​ยั่วโมโห​ฉันแล้วจริงๆ!

บุริศร์​ตะคอกอยู่ในใจ สีหน้าท่าทางกลับไม่มีการเคลื่อนไหว เพียงแต่ว่าดวงตาที่ดูเฉี่ยวคูนั้่นได้เปลี่ยนสีไปแล้ว

รถยนต์​แล่นอยู่บนถนน​อย่างเร็ว​รีบ​ ขณะที่​พวกเขากำลังเลี้ยว รถยนต์​ตำรวจเป็นคันๆได้ตรงไปที่บ้านเดี่ยวของบุริศร์แล้ว

นรมน​ขมวดคิ้ว​เล็ก​น้อย

ถ้าตัวเองตื่นสายอีกแค่ไม่กี่นาที และยั​งจู้จี้จุกจิก​กับบุริศร์อีก​ไม่กี่นาที ตัวเองอาจจะกลายเป็นเหยื่อไปแล้วจริงๆ และถูกคนพาไปโดยสิ้นเชิง

ยังไงซะที่นี่เป็นอเมริกา

ต่อให้บุริศร์รู้จักคนอย่างกว้างขวาง​ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถึงตอนนั้นได้แต่ให้คนรักเจ็บปวดใจและให้ศัตรูสะใจ

นรมนกลัวอยู่เป็นระยะๆ แต่สำหรับรเมศกลับรู้จักธาตุแท้ของเขาเสียแล้ว

ผู้ชายคนนี้ละเอียดถี่ถ้วน​จริงๆ และร้ายกาจอย่างน่ากลัว ที่น่าเสียดายคือเธอถึงกับเพิ่งรู้จุดนี้

พฤกษ์​ขับรถนิ่งมาก ตอนที่เห็นรถยนต์ตำรวจก็ไม่ได้ขับเกินความเร็ว แสดงท่าทางที่นิ่งสงบมาก คนในรถยนต์ตำรวจถึงไม่ได้สังเกตเห็น​ แต่ว่าหลังจากพวกเขาเลี้ยวไป นรมนสังเกตเห็นอย่างเซ็นซิทีฟ ข้างหลังพวกเขามีคนตามมาแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย