บทที่ 251 หรือว่าคุณไม่คิด
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนตกอยู่ในความเงียบ
ถ้าหากแม้แต่คิมยังไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ?
“มันแก้ไขได้ยากใช่ไหมคะ?”
บุริศร์ไม่พูดอะไร แต่โอบกอดนรมนไว้แน่น
โอกาสที่พวกเขาจะได้พบหน้ากันเช่นนี้มีไม่มาก และไม่สามารถเจอกันที่สถานทูตได้ทุกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นปัญหาตัวตนของนรมนไม่ใช่สิ่งที่จะแก้ไขได้ในชั่วข้ามคืน
เห็นบุริศร์ไม่พูดอะไร นรมนก็รู้ว่าบุริศร์เองก็กังวลใจเช่นกัน
เธอกระซิบว่า : “ถ้าหากฉันไม่มีตัวตนไปตลอดชีวิต คุณยังต้องการฉันอยู่หรือเปล่าคะ?”
“พูดอะไรโง่ๆ คุณเป็นภรรยาของผม เป็นแม่ของลูกผม เป็นนายหญิงตระกูลโตเล็กของพวกเรา ไม่ว่าคุณจะมีตัวตนหรือไม่ ผมจำคุณได้ แม่ของผมจำคุณได้ คนในตระกูลโตเล็กของพวกเราจำคุณได้ทุกคน อย่าคิดฟุ้งซ่าน มันต้องมีวิธี”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ภายในใจของนรมนรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย
แต่เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าจะมีวันที่ตัวเองต้องกลายเป็นคนที่ไม่มีตัวตน
เธอไม่สามารถนั่งรถ ไม่สามารถขึ้นเครื่องบิน ไม่สามารถลงทะเบียน ไม่สามารถทำอะไรที่เกี่ยวกับตัวตนของตนเองได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งไม่รู้ด้วยว่าในอนาคตข้างหน้าจะเดินเคียงข้างบุริศร์ได้หรือไม่
ความรู้สึกไร้พลังเช่นนี้ทำให้เธออึดอัดและอัดอั้นตันใจอย่างมากและเศร้าใจมากด้วย
บุริศร์รู้ว่าในใจของเธอนั้นอึดอัดเป็นอย่างมาก แต่ไม่รู้จะปลอบใจอย่างไรดี พูดเยอะแล้วจะมีประโยชน์อะไร? ที่สำคัญต้องดูที่วิธีการและผลลัพธ์ แต่ว่าในตอนนี้เขายังไม่มีวิธีการใดๆเลย
ทั้งสองโอบกอดกันและนั่งอยู่สักพัก บุริศร์ก็กระซิบว่า : “คุณยังพักอยู่ที่บ้านของหัวหน้าคิมงั้นเหรอ?”
“อืม!”
“อยู่ต่ออีกสองวัน ไม่เกินสองวันแล้วผมจะไปรับคุณ”
“ตกลงค่ะ”
นรมนเอนตัวอยู่ในอ้อมแขนของเขา พร้อมกับฟังเสียงเต้นของหัวใจของบุริศร์ แล้วกลับรู้สึกอ้างว้างเปล่าเปลี่ยว
แปลกจริงๆ เห็นอยู่ชัดๆว่าเขาอยู่ตรงหน้า ทำไมถึงรู้สึกว่าหลังจากการพบกันครั้งนี้แล้วจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ?
นรมนรู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าไปแล้วก็ได้
“บุริศร์คะ”
“หืม?”
“ได้แหวนแต่งงานแล้วเหรอคะ?”
จู่ๆนรมนก็ถามอย่างนี้ ทำให้บุริศร์นิ่งอึ้งไป แต่ก็พยักหน้าและพูดว่า : “ได้แล้ว ผมเอามาด้วยนะ”
“ให้ฉันดูหน่อยสิคะ”
นรมนรู้สึกสนใจในทันที
บุริศร์หยิบแหวนแต่งงานคู่หนึ่งออกมาจากกระเป๋าของเขา
แหวนแต่งงานเรียบง่ายไม่ฉูดฉาด และได้สลักชื่อของทั้งสองคนเอาไว้
นรมนมองไปที่แหวนแต่งงานและทันใดนั้นเองก็รู้สึกสะเทือนใจ
“ตอนที่แต่งงานเมื่อแปดปีก่อน คุณไม่เคยขอฉันแต่งงานเลย”
“ถ้าหากผมขอตอนนี้ล่ะ?”
บุริศร์เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ
นรมนมองไปที่เขา ทันใดนั้นดวงตาก็เปียกชุ่ม
บุริศร์ก็ไม่พูดไร้สาระอีก และคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง
“คุณนรมนครับ ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่มีช่อดอกไม้ ไม่มีเสียงปรบมือ แล้วก็ไม่มีผู้คนมากมายเป็นพยาน แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมอยากแต่งงานกับคุณ อยากอยู่กับคุณตลอดชีวิตและดูแลคุณอย่างดีไปชั่วชีวิต คุณเต็มใจจะแต่งงานกับผมหรือเปล่า?”
“ฉันเต็มใจค่ะ!”
พูดจบนรมนก็ร้องไห้
มันเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ
ภาพที่คาดหวังไว้เมื่อแปดปีก่อนได้เป็นจริงในวันนี้แล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
พวกเขาเดินวนเป็นวงกลมขนาดใหญ่แล้วถึงจะกลับมาเดินด้วยกันอีกครั้ง ตอนนี้ถึงแม้จะยังมีปัญหาอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ราวกับว่าไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว
บุริศร์สวมแหวนแต่งงานให้กับเธอ มันพอดีเป๊ะเลย
นรมนมองดูแหวนแต่งงานบนนิ้วนาง ทันใดนั้นก็โผกอดบุริศร์เอาไว้
“ชั่วชีวิตนี้คุณห้ามทิ้งฉันนะคะ”
“ไม่มีทาง ผมจะพาคุณไปด้วยทุกที่”
บุริศร์กอดนรมนแน่น
ทั้งสองคนต่างสวมกอดและจูบกันอีกครั้ง
เวลาแห่งความสุขมักจะสั้นเสมอ
บุริศร์ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้นานเกินไปนัก อันที่จริงแล้วระหว่างเขากับหัวหน้าคิมก็ไม่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอะไรเลย ดังนั้นเมื่อเห็นว่าใกล้จะหมดเวลาแล้ว ถึงแม้ว่าคิมไม่ต้องการขัดจังหวะคู่รักอย่างพวกเขา แต่ก็ต้องออกมา
“แค่กแค่ก!”
เธอส่งเสียงไอ นรมนรีบปล่อยมือจากบุริศร์ทันที ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
บุริศร์กลับไม่มีความรู้สึกอึดอัดใดๆเลย ในตอนที่เห็นคิมเพียงตกใจเล็กน้อย แต่ก็กล่าวด้วยความเคารพว่า : “หัวหน้าคิมขอบคุณนะครับ ช่วงนี้ต้องรบกวนคุณช่วยดูแลนรมนด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันถูกชะตาเธอ”
สิ่งที่คิมพูดคือความจริง
เธอไม่ค่อยจะได้เจอเด็กสาวที่รู้สึกถูกชะตาด้วยขนาดนี้ นรมนนั้นถือว่ามีนิสัยที่เข้ากับเธอได้จริงๆ
บุริศร์พยักหน้าแล้วพูดว่า : “หัวหน้าคิมพวกเราออกไปคุยกันเถอะครับ”
นรมนอยากจะตามไปด้วย แต่กลับถูกบุริศร์ห้ามเอาไว้
“คุณอย่าไปเลย ข้างนอกคนเยอะอาจถูกพบได้”
“คุณต้องการพูดอะไรกับคุณน้าคิม เหรอคะ?”
นรมนรู้สึกสงสัยเล็กน้อย
บุริศร์ยิ้มพร้อมกับพูดว่า : “พูดอะไรก็ไม่ใช่เรื่องความรักหรอก คุณวางใจเถอะ”
“น่าเกลียด!”
นรมนเตะเขา เมื่อเห็นดูบุริศร์กับคิมเดินออกจากสำนักงานไปแล้ว เธอจึงทำได้เพียงรออยู่ที่ห้องทำงานเท่านั้น
หลังจากที่บุริศร์ออกมาจากสำนักงานแล้วคิมเอ่ยปากพูดเบาๆว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...