บทที่ 253 พวกเราจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่
รูปถ่ายมีสีเหลืองเล็กน้อยเหมือนภาพถ่ายเก่า มันหลุดออกมาเพียงแค่มุมหนึ่ง แต่กลับเหมือนกล่องแพนโดราที่ล่อลวงใจอย่างเห็นได้ชัดเจน
นรมนเป็นคนที่มีนิสัยไม่ชอบสืบค้นเรื่องส่วนตัวของผู้อื่น แต่ว่าตอนนี้สถานการณ์กลับทำให้รู้สึกอยากดู
สุดท้ายแล้วนี่เป็นรูปถ่ายแบบไหนกันนะ?
ที่ของชินทร เธอเห็นรูปถ่ายที่คล้ายกับคิมมากๆ ที่นี่จะมีรูปถ่ายแบบนั้นหรือเปล่า?
ในใจของนรมนสับสนและลังเล แต่ในที่สุดก็ไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่ก้นบึ้งของหัวใจได้จึงค่อยๆดึงรูปออกมา
นี่เป็นรูปคู่
ในรูปราวกับกิ่งทองใบหยก เหมาะสมกันมาก
ฝ่ายหญิงย่อมเป็นผู้หญิงคนนั้นที่นรมนเคยเห็นมาก่อน ฝ่ายชายมีบุคลิกสง่าอย่างมาก มองดูแล้วมีมารยาทและสุภาพเรียบร้อย
นรมนพลิกดูรูปถ่ายและเห็นด้านหลังเขียนว่า “คิมกับชินทรถ่ายที่ดอยสุเทพ”
“ชินทร?”
ทันใดนั้นหัวใจของนรมนหยุดก็หยุดเต้น
คนในรูปนี้คือชินทร
เป็นชินทรวัยหนุ่ม?
ชินทรถ่ายรูปกับคิมจริงๆเหรอ?
พวกเขามีความสัมพันธ์กันยังไงไม่ต้องพูดก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว
นรมนรู้สึกช๊อคมาก
ที่แท้ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาหน้าตาคล้ายกัน ไม่ใช่พี่น้องอะไรเลย แต่เพราะในตอนนั้นคิมคือผู้หญิงที่ชินทรชอบนั่นเอง
ถ้าเป็นอย่างนั้นหรือว่าตุลยาจะเป็นลูกสาวของชินทรกับคิม?
เป็นลูกสาวนอกสมรสที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาตามหามาตลอดหรือเปล่า?
นรมนรู้สึกได้รับยากระตุ้น เธออยากจะบอกข่าวนี้กับธรณีตอนนี้เลย แต่เธอยังต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อน
ไม่ถูกสิ!
ดูแล้วตอนนี้ตุลยาจะมีอายุยี่สิบสามหรือยี่สิบสี่ จะเป็นลูกสาวของชินทรกับคิมได้อย่างไรกันล่ะ? นอกจากนี้ตุลยาก็พูดเองว่าพ่อของตัวเองคือชาวีแห่งสถานพักฟื้น
ที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นรมนไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่ก็ละอายที่จะไปถามคิมจึงทำได้เพียงแค่แอบสอดรูปนั้นกลับไป และทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไร แต่ว่าในใจกลับไม่สงบเลย
เธอพิจารณารอบด้านแล้วก็คิดไม่ออก สุดท้ายแล้วทำได้เพียงโทรหาบุริศร์
“เป็นอะไร? เพิ่งจะจากกันได้แป๊ปเดียวก็คิดถึงผมแล้วเหรอ?”
บุริศร์พูดหยอกทันที
นรมนพูดเสียงนุ่มนวล : “ฉันคิดถึงคุณตลอดแหละค่ะ!”
คำพูดหยอกเอินนี้ทำให้บุริศร์ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรทันที
นรมนหัวเราะแล้วพูดว่า : “เป็นอะไรไปคะ? คุณไม่คิดถึงฉัน?”
“คิดถึงสิ”
คำตอบของบุริศร์ทำให้รู้สึกสดชื่น
นรมนอารมณ์ดี ตามธรรมชาติแล้วเธอเองก็ไม่ได้เป็นพวกคิดเล็กคิดน้อยมากขนาดนั้น เธอมองไปยังตำแหน่งของห้องครัวและเห็นว่าคิมยังไม่ออกมาจึงได้พูดเสียงกระซิบว่า : “บุริศร์ ฉันจะบอกคุณว่าฉันเจอความลับบางอย่างค่ะ”
“ความลับอะไร?”
ดูเหมือนบุริศร์จะอยู่บนรถมีลมพัดอยู่ข้างๆหู
นรมนพูดว่า : “ฉันเพิ่งจะเห็นรูปคุณน้าคิมถ่ายคู่กับชินทรค่ะ ไม่นึกเลยว่าเธอคือผู้หญิงคนที่เก้าสิบเก้าที่ชินทรชอบคนนั้น! แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผู้หญิงนั้นตายไปแล้วเหรอคะ? ทำไมถึงเป็นคุณน้าคิม?คุณว่าต้องบอกเรื่องนี้กับธรณีหรือเปล่า?”
หลังจากได้ฟังคำพูดของเธอแล้วบุริศร์ชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดเสียงเบาว่า : “คุณเอาใจใส่เรื่องของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ทันใดนั้นนรมนก็รู้สึกได้ถึงความอิจฉาของใครบางคน
“แค่กแค่ก ฉันก็แค่รู้สึกขอบคุณคุณชายธรณีที่ช่วยดูแลพ่อแม่และพวกลูกๆยังไงล่ะคะ คุณคิดอะไรอยู่ล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้นเพราะว่าเรื่องนี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถึงกับไม่กินข้าวกินปลา เนื่องจากว่าฉันรู้เรื่องแล้ว ฉันบอกพวกเขาก็ไม่ใช่เรื่องผิดใช่ไหมคะ?”
“คุณถามหัวหน้าคิมหรือยัง? คุณรู้หัวหน้าคิมอยากจะมีความสัมพันธ์กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอีกหรือเปล่าแล้วใช่ไหม?”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนสงบลงอย่างสมบูรณ์
ใช่แล้ว!
คิมดีกับเธอขนาดนั้นแล้วยังช่วยเหลือเธออีกและตอนนี้ยังรับเธอไว้ดูแลโดยไม่พูดอะไรแถมยังเข้าครัวทำอาหารให้เธอด้วยตัวเอง
เธอก็เคยถามคิมเกี่ยวกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่คิมไม่ได้พูดอะไรเลย นี่ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากจะพูดถึงอดีตที่ผ่านมาอย่างนั้นเหรอ?
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การสืบเสาะเรื่องส่วนตัวของผู้อื่นเป็นเรื่องไม่ดีไม่ใช่เหรอ?
ทันใดนั้นนรมนรู้สึกว่าตนเองอาจจะว่างมากเกินไปแล้วถึงได้ทำเรื่องเหล่านี้
“ขอโทษด้วยค่ะ บุริศร์ ฉันอาจจะว่างมากเกินไป ฉันขาดการพิจารณาในเรื่องนี้เอง”
“ไม่เป็นไรหรอก คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ถ้าหากหัวหน้าคิมเกี่ยวข้องกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริงๆ และถ้าหากตัวเธอต้องการติดต่อกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เธอจะติดต่อไปเอง คุณไม่จำเป็นต้องทำอะไร ความสัมพันธ์ของคุณกับหัวหน้าคิมนั้นดีมาก อย่าให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำลายความสัมพันธ์นี้เลย ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ได้เป็นอะไรกับคุณ ธรณีเป็นพี่น้องของผม เข้าใจไหม?”
บุริศร์กระตุ้นด้วยคำพูดนี้ นรมนไม่เข้าใจก็ต้องเข้าใจแล้ว
“รู้แล้วค่ะ พ่อคนขี้หึง ฉันจะไม่พูดอะไรกับคุณชายธรณีอีก”
“ยังพูดว่าเป็นคนขี้หึงอีก? ผมแค่ไม่ชอบให้คุณเดินใกล้กับธรณีมากเกินไปแล้วจะทำไม? แล้วยังมีนายเจตต์คนนั้นอีก กลับไปที่จีนแล้วคุณอยู่ห่างจากพวกเขาเลยนะ”
ตอนนี้บุริศร์เป็นเผด็จการโดยสมบูรณ์
นรมนยิ้มแล้วพูดว่า : “คุณวางแผนให้ฉันอยู่ห่างจากผู้ชายทุกคนใช่ไหมเนี่ย?”
“อืม ถ้าทำได้ผมจะสร้างหอคอยให้คุณแล้วเลี้ยงดูคุณอยู่ในนั้น”
“คุณฝันไปเถอะ!”
นรมนไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นบุริศร์ที่พูดคำนี้ออกมา แต่ก็ฟังออกว่าเขาอารมณ์ดีมาก
“ทางคุณมีอะไรคืบหน้าหรือเปล่าคะ? ฟังดูเหมือนคุณจะมีความสุขมากนะคะ”
“ได้ยินเสียงคุณผมก็มีความสุขแล้วล่ะ”
นรมนรู้สึกดีมากกับคำหวานของบุริศร์
“ที่รักคะ ฉันคิดถึงคุณ คิดถึงคุณจริงๆ พวกเราจะกลับบ้านกันได้เมื่อไหร่เหรอคะ?”
นรมนมักจะรู้สึกวุ่นวายใจเสมอ
บุริศร์รู้ว่าตอนนี้ในใจของเธอทำอะไรไม่ถูก ไม่ว่าใครก็ตามจากคนดีๆคนหนึ่งต้องการเป็นคนเถื่อน ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องรู้สึกกระสับกระส่าย
“เร็วๆนี้แหละ ขอเวลาให้ผมสองวันนะ ผมจะพาคุณกลับบ้านด้วยกัน”
“อื้ม ฉันเชื่อคุณค่ะ”
นรมนยิ้มอย่างมีความสุข แต่ในดวงตามีความอ้างว้างอยู่เล็กน้อย
ถ้าไม่แก้ไขเรื่องตัวตนให้ชัดเจน เธอก็จะเป็นเมียลับๆคนหนึ่ง ไม่มีวันพบหน้าใครได้ วันคืนเช่นนี้เมื่อไหร่จะจบสิ้นกันล่ะ
ทั้งสองคนรู้สึกเบื่อหน่ายไปชั่วขณะ บุริศร์ที่อยู่ทางด้านนั้นดูเหมือนจะไปถึงที่ไหนสักแห่งและจำเป็นต้องลงจากรถแล้ว นรมนพูดอย่างอาวรณ์ว่า : “วางสายเถอะค่ะ กลับมาแล้วค่อยคุย ใช่แล้วล่ะ คุณโอนเงินทางโทรศัพท์ให้ฉันหน่อยสิคะ ฉันกินดื่มของๆคุณน้าคิม ตลอด รู้สึกอายมากเลยค่ะ ฉันอยากจะซื้อของขวัญให้เธอ เพื่อเป็นการขอบคุณเธอ”
“ได้สิ”
บุริศร์พูดจบแล้วก็วางสาย
ไม่นานนัก โทรศัพท์ของนรมนก็มีเสียงดังขึ้น
เธอก้มหน้ามอง บุริศร์โอนเงินมาให้เธอห้าสิบล้าน
อีตาลูกล้างผลาญคนนี้นี่ ทำไมต้องให้เงินเธอมากมายขนาดนี้นะ?
นรมนแทบช๊อค แต่ก็ไม่พูดอะไร
เธอเริ่มเข้าเว็บไซต์ในอินเตอร์เนท ดูว่ามีอะไรที่น่าซื้อบ้างไหม
ในตอนที่คิมออกมา นรมนยังคงอ่านหน้าเว็บอยู่
เธอเหลือบมองดูหล่อนแล้วพูดว่า : “มากินข้าวได้แล้วจ้ะ”
“อ้อ! ค่ะ!”
นรมนปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
“ว้าว อาหารน่ากินมากมายเลย คุณน้าคิม วันนี้คุณโชว์ฝีมือขั้นสุดยอดเลยใช่ไหมคะ?”
“อืม กินดูสิ ดูว่าชอบหรือเปล่า?”
คิมถอดผ้ากันเปื้อนออก ในตอนนี้เธอมีกลิ่นอาหารของโลกมนุษย์อยู่นิดหน่อย
นรมนล้างมือแล้วหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบกิน
“อื้ม อร่อยจัง คุณน้าคิม ที่จริงแล้วฝีมือของคุณดีมากเลยนะคะ”
“ไม่ได้ทำมาหลายปี ขึ้นสนิมแล้วล่ะ ถ้าชอบก็กินเยอะๆ นี่คือไก่ผัดมะม่วง คุณลองชิมดูสิ”
“ว้าว ฉันชอบมะม่วงที่สุดเลยค่ะ”
นรมนกินอย่างมีความสุข
คิมกลับหยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเธอ
ชอบกินมะม่วงงั้นเหรอ?
เหมือนคนๆนั้นเป๊ะเลย
“คุณน้าคิม คุณเองก็ทานด้วยสิคะ!”
นรมนเห็นคิมไม่ขยับตะเกียบมากนักจึงร้องทักทันทีให้เธอกินอาหาร
คิมยิ้มพร้อมกับหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบกินสองสามคำ แต่กระบวนการทั้งหมดทำไปพร้อมกับมองนรมนกินไปด้วย
ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักว่าการมองนรมนกินเป็นความเพลิดเพลินอย่างหนึ่ง
เด็กคนนี้กินข้าวเหมือนกับว่าได้กลิ่นหอมอร่อยจริงๆทำให้คนที่มองเห็นรู้สึกอยากอาหาร
คิมและนรมนกินข้าวด้วยกัน
นานแล้วที่นรมนไม่ได้กินข้าวอย่างมีความสุขขนาดนี้ และต้องบอกว่าอาหารที่คิมทำนั้นค่อนข้างจะถูกปากเธอมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายๆเมนูเป็นสิ่งที่เธอชอบกิน
หลังจากที่กินเสร็จแล้ว นรมนรู้สึกอึดอัดกับตัวเองจนทนไม่ไหว อยากจะช่วยคิมทำความสะอาด แต่ถูกคิมปฏิเสธ
“เธอรีบไปเดินเล่นเถอะ อาหารจะได้ย่อย กินเยอะขนาดนั้นยังไม่กลัวท้องอืดอีก”
คิมพูดอย่างรักใคร่เอ็นดู
นรมนแลบลิ้นออกมาอย่างเขินอายและพูดว่า : “ไม่มีทางค่ะ อาหารที่คุณน้าคิมอร่อยมากเลยค่ะ”
พูดจบเธอก็วิ่งเข้าไปในสนามเพื่อย่อยอาหาร
คิมงุนงงไปชั่วขณะ
เธอยังจำครั้งแรกที่ทำอาหารให้ชินทรกินได้ เขาเองก็พูดอย่างนี้
บนตัวของนรมน เหมือนกับว่าเธอมองเห็นเงาของชินทรมากมาย ถึงแม้ว่าหน้าตาจะไม่เหมือนกัน แต่ว่าบุคลิกนั้นและลักษณะท่าทางนั้นเหมือนกันมากจริงๆ
คิมหันกลับเข้าไปในห้องครัว ดวงตาเปียกชุ่มอีกครั้ง
หลังจากย่อยอาหารเสร็จแล้วนรมนกลับมาที่ห้องนั่งเล่น พบว่าคิมยังไม่ได้กลับไปที่ห้องนอนของตัวเอง แต่นั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย
“คุณน้าคิม คุณทำอะไรอยู่เหรอ?”
นรมนถามโดยไม่รู้ตัว
คิมยิ้มแล้วพูดว่า : “ฉันหงุดหงิดใจนิดหน่อยจ้ะ หนูเล่นหมากรุกเป็นไหมจ๊ะ? พวกเรามาเล่นกันสักกระดาน?”
“หมากรุกเนี่ย ฉันอาจจะไม่เก่งแต่ชอบเล่นมากเลยนะคะ คุณน้าคิมอย่าได้ดูถูกฉันเลยเชียว”
“มาเถอะ”
คิมยิ้มและไม่ได้สนใจอะไรมาก
กลับเป็นนรมนที่รู้สึกละอายขึ้นมาเล็กน้อยเสียแล้ว
เธอเล่นไม่เป็นจริงๆ แต่ว่าตอนนี้ก็เป็นได้เพียงแค่เล่นหมากรุก
ทั้งสองคนตั้งกระดานหมากรุก คิมเดินหมากได้อย่างยอดเยี่ยม
ใช้เวลาไม่นาน นรมนก็ถูกฆ่าเพราะการเดินหมากอย่างไม่รอบคอบ
“นั่นมัน ฉันดึงตัวหมากกลับมาได้ไหมคะ? ตานี้ฉันเดินผิดค่ะ!”
นรมนเริ่มใช้ลูกไม้
คิมยิ้มแล้วพูดว่า : “ตกลง ให้คุณแก้หนึ่งตา”
นรมนรีบดึงตัวหมากกลับมาทันที แล้วก็ได้แต่เกาหัวมองไปมาด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าควรจะเดินไปทางไหน
ใครเป็นคนคิดค้นสิ่งนี้กันเนี่ย?
ทำไมถึงได้ยากขนาดนี้นะ?
สุดท้ายแล้วนรมนก็วางลงไปที่ตำแหน่งอื่น ผลลัพธ์ที่ได้นั้นน่าเศร้า ตัวหมากรุกของเธอถูกคิมกินรวบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว”
“โธ่เอ๊ย ไม่เล่นแล้ว คุณน้าคิม คุณรังแกกันนี่”
นรมนเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจเหมือนเด็ก
คิมหัวเราะออกมาอย่างเป็นประวัติการณ์
รอยยิ้มของเธอไม่เหมือนเมื่อก่อน ไม่ใช่ความเฉยเมยและไม่ได้สงวนท่าทีมากมาย แต่หัวเราะเสียงดังจนตัวโยนอย่างแท้จริง ช่วงเวลานั้นทำให้นรมนมองอย่างมึนงง
ในตอนนี้เอง จู่ๆก็มีเสียงประตูดังขึ้นจากด้านนอก
“แม่ แม่ขำอะไรเหรอ? มีเรื่องตลกอะไรก็เล่าให้หนูฟังหน่อยสิคะ”
ตุลยาเดินเข้ามาโดยไม่กล่าวทักทาย เมื่อมองเห็นนรมนก็นั่งลงไปข้างเธอโดยทันทีและพูดอย่างเย็นชา : “เธอไปทางนั้นเลย ไม่รู้หรือไงว่าต้องเว้นที่ให้ฉัน?”
อารมณ์เบิกบานใจทั้งหมดของคิมหายวับไปทั้งหมดแล้วในตอนนี้
“ใครให้เธอมา? ให้เธอรักษาใบหน้าอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ? เธอมาทำอะไรที่นี่?”
น้ำเสียงและสีหน้าของคิมถมึงทึง มันแตกต่างจากความเบิกบานใจเมื่อกี๊นี้โดยสิ้นเชิง สิ่งที่ทำให้ตุลยาตกตะลึงไปชั่วขณะ ความริษยาก็พุ่งขึ้นมาโดยฉับพลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
ตอนต่อไปจนจบ หาอ่านได้ที่ไหนคะ...