แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 257

บทที่ 257 อยู่ต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ

“หยุดสู้กันได้แล้ว!”

คิมเข้าไปขวางระหว่างเป็นเป้าตรงกลางของพวกเขา

บุริศร์และไมค์ต่างหยุดมือลงเช่นเดียวกัน

กำปั้นนั้นอยู่ห่างจากใบหน้าของคิมไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตร

“คุณน้าคิม คุณหลีกไป วันนี้ผมกับบุริศร์จะต้องพูดกันให้รู้เรื่อง”

ไมค์ยังสู้ไม่ได้อย่างถึงอกถึงใจเลย ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะตนเองถูกบุริศร์กำราบได้อย่างสมบูรณ์

หมัดเหล่านี้พุ่งเข้าใส่เขาจนเจ็บปวดไปทั้งตัว

ถึงแม้ว่าบุริศร์จะไม่พูดอะไร แต่ก็มองออกว่าโกรธเคืองอย่างมาก

คิมถอนใจและพูดว่า : “ฉันเดินเข้าไปถามเมื่อกี้นี้แล้ว ตุลยาบอกว่าเธอส่งนรมนให้กับรเมศ รวมถึงรถของเธอด้วย ขอเพียงหารถของตุลยาพบก็จะหานรมนเจอ”

ได้ยินว่านรมนอยู่ในมือของรเมศ สีหน้าของบุริศร์ก็เลวร้ายมากยิ่งขึ้น

“ไมค์ ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

เขาหันหลังกลับไปอย่างฉับพลัน แล้ววิ่งออกไปข้างนอกเหมือนกับเป็นบ้า

ไมค์รู้ได้โดยอัตโนมัติเลยว่าตอนนี้นรมนอยู่ในมือของรเมศแล้วมันจะมีจุดจบยังไง

เขารู้สึกหดหู่ขึ้นมาทันที

เกิดอะไรขึ้นกับตุลยากันแน่?

คิมเห็นว่าเขายังมึนงงอยู่อย่างนี้ก็รีบผลักเขาอย่างรวดเร็ว

“รีบไปเร็วเข้า!”

“โอ้ ครับ!”

ไมค์ถูกคิมเรียกสติอย่างกะทันหันก็รีบไล่ตามบุริศร์ออกไปพร้อมกับคิม

พวกเขามาเร็วไปเร็ว ทำเอาคนในศูนย์ศัลยกรรมไม่มีใครกล้าพูดอะไร เมื่อเห็นว่าพวกเขาไปกันหมดแล้วถึงได้ถอนใจอย่างโล่งอก

บุริศร์มาถึงบริษัทวัชโรทัยแทบจะในทันที

“ขอโทษค่ะ ประธานบุริศร์ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

คุณไพลินเข้ามาขวางบุริศร์โดยตรง

บุริศร์ผลักเธอออกไปทันที

ตอนที่คุณไพลินคิดจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย ไมค์ที่อยู่ด้านหลังก็เข้ามาอุดปากเธอเอาไว้โดยตรง

“ถ้าไม่อยากตายอย่าส่งเสียงจะดีที่สุด รู้ใช่ไหม?”

มือของไมค์มีพละกำลังอย่างมาก คุณไพลินพยักหน้าด้วยความตกใจกลัวอย่างรวดเร็ว

บุริศร์เดินตรงไปที่ห้องทำงานของรเมศ เมื่อเห็นรเมศนอนคว่ำหน้าพักผ่อนอยู่บนโต๊ะทำงาน

ไฟแห่งความเดือดดาลก็ลุกโชนขึ้นมาทันที

เขาคว้าคอเสื้อของรเมศแล้วชกเปรี้ยงเข้าไป

รเมศถูกความเจ็บปวดปลุกให้ตื่น ในตอนที่มองเห็นบุริศร์นั้น เขายังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา

เขาอยู่ที่โกดังด้านหลังไม่ใช่เหรอ?

ทำไมถึงมาอยู่ในห้องทำงานได้?

และมันเกิดอะไรขึ้นบุริศร์ถึงมาอยู่ที่นี่?

“นรมนล่ะ? แกเอานรมนไปไว้ที่ไหน?”

บุริศร์ไม่จำเป็นจะต้องอ้อมค้อมกับเขา

รเมศผงะไปเล็กน้อย

ใช่แล้ว!

เขาได้นรมนมาครอบครอง

แต่ว่าสุดท้ายแล้วถูกใครตีจนสลบล่ะ?

ความทรงจำของรเมศกลับคืนมาและสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเลวร้ายอย่างมาก

“ปล่อยนะ!”

“รเมศ ฉันอดทนกับแกครั้งแล้วครั้งเล่า แกคิดว่าพอแกมาอยู่ที่อเมริกาแล้วจะเป็นคนที่มีอำนาจล้นเหลือทำอะไรก็ได้ใช่ไหม? ฉันขอเตือนแก ทางที่ดีที่สุดจงเชื่อฟังแล้วเรียกนรมนออกมา ไม่อย่างนั้นฉันกับแกไม่มีวันจบ!”

บุริศร์ในตอนนี้เหมือนกับต้องการจะฆ่าคน

รเมศพยายามดิ้นรน แต่กลับสะบัดไม่หลุด

“คนล่ะ! รปภล่ะ! รีบมาเร็ว!”

รเมศรีบขอความช่วยเหลือ

ไม่มีที่สำหรับจุดไฟโกรธในตัวของบุริศร์อีกแล้วในเวลานี้ ยิ่งไปกว่านั้นจนบัดนี้ยังไม่มีเบาะแสของนรมน เขาไม่มีความอดทนใดๆแม้แต่น้อย ในตอนที่รเมศร้องขอความช่วยเหลือ เขาก็ต่อยเข้าไปอีกครั้ง

รเมสถูกต่อยเข้าที่ใบหน้า ทันใดนั้นเลือดก็ออกมาจากจมูก

ความโกรธของเขาก็ลุกขึ้นมาด้วย

“บุริศร์ แกคิดว่าฉันกลัวแกจริงๆใช่ไหม?”

รเมศโผเข้าไปตะครุบบุริศร์อย่างบ้าคลั่ง

ยังไงก็ตามบุริศร์เคยฝึกฝนมาก่อน และการต่อสู้แบบส่งเดชของรเมศก็ทำอะไรเขาไม่ได้เลย

ในไม่ช้า รเมศก็ถูกบุริศร์กดลงกับพื้นและทั้งเตะทั้งต่อยลงไปไม่ยั้ง

ตอนนี้รเมศยังมีตรงไหนเหมือนคุณชายแสนสง่าอีกเล่า? เขาก็แค่สุนัขจิ้งจอกน่ารังเกียจ

ทั้งสะบักสะบอมและหมดแรงแล้วจริงๆ

ในตอนนี้เองโทรศัพท์ของบุริศร์ก็ดังขึ้น เขาต่อยรเมศไปอีกหมัดอย่างไม่สนใจไยดีแล้วถึงจะหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดปุ่มรับสาย

เสียงของพฤกษ์ดังออกมาทันที

“ประธานบุริศร์ครับ เมื่อกี๊นี้มีคนโทรมาโดยไม่ยอมเผยชื่อบอกว่าเห็นรถของตุลยาบนถนนที่มุ่งหน้าไปทะเลเหนือครับ”

“อะไรนะ?”

บุริศร์รู้สึกหนังศีรษะรัดแน่นขึ้นมาทันที

“ทะเลเหนือ?”

“ใช่แล้วครับ!ทะเลเหนือ!ว่ากันว่ามีพยานเห็นเหตุการณ์!”

คำพูดของพฤกษ์ทำให้บุริศร์รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา เขาแทบจะไม่หันไปมองรเมศเลยและวิ่งตรงออกไปข้างนอกทันที

ในตอนที่รเมศได้ยินข่าวนี้ก็ผงะไปเล็กน้อย

รถของตุลยาขับไปทิศทางของทะเลเหนือได้อย่างไร?

เป็นไปได้ไหมว่านรมนจะตื่นขึ้นมา?

เขารีบปีนขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเพราะบาดแผลนั้นทำให้ต้องแสยะยิ้มด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ไม่สามารถใส่ใจกับมันได้แล้ววิ่งออกไปอย่างล้มลุกคลุกคลาน

คุณไพลินเห็นรเมศที่เป็นเช่นนี้ในเวลานี้ถึงกับนิ่งอึ้งไปทั้งตัว

และเมื่อไมค์เห็นบุริศร์ออกมา ถึงได้ปล่อยคุณไพลิน

“เป็นยังไงบ้าง? พี่สะใภ้ล่ะ?”

“ไปทะเลเหนือแล้ว”

บุริศร์รีบวิ่งออกไปโดยไม่หยุด

คิมได้ยินข่าวนี้แล้วก็รู้สึกว่าร่างกายเหลือเรี่ยวแรงไม่มาก แต่ก็ยังตามไปด้วย

รเมศผงะไปเล็กน้อยตอนที่เห็นคิม ไม่รู้ว่าทำไมคิมถึงได้ใส่ใจนรมนจนมาที่นี่ด้วย และเมื่อคิดถึงเขตชุมชนที่แสนพิเศษของวิลล่าอีกครั้ง ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรได้บางอย่าง

แต่ว่ารเมศเองก็ไม่ได้พูดและบอกกับคุณไพลินว่า : “ตามไปให้ทัน”

ทั้งสองคนเองก็ติดตามบุริศร์ออกมาจากบริษัทวัชโรทัยและขับรถมุ่งหน้าไปทางทะเลเหนือ

กลุ่มคนมาถึงทะเลเหนืออย่างรวดเร็ว คนของพฤกษ์ได้สกัดตัวพยานเอาไว้แล้ว

“เกิดอะไรขึ้น? แล้วคนล่ะ?”

บุริศร์พูดอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นคนของตัวเอง

ผู้เห็นเหตุการณ์มองเห็นคนจำนวนมากแล้วก็เกิดอาการประหม่าไม่น้อย

“รถคนนั้นขับตรงลงไปในทะเล”

“คุณว่าอะไรนะ?”

บุริศร์กระชากคอเสื้อของเขา และคิดว่าหูของตัวเองมีปัญหา

ผู้เห็นเหตุการณ์ถูกบุริศร์ทำเช่นนี้จนสะดุ้งตกใจกลัว

“ผมไม่ได้โกหก รถคันนั้นพุ่งตรงเข้าไปใน ทะเลเหนือแล้วตกลงไปในนั้นเลย”

ผู้เห็นเหตุการณ์เกือบจะร้องไห้ออกมา

“เป็นไปไม่ได้!”

รเมศมาถึงแล้วและได้ยินข่าวนี้โดยตรง

จะเป็นไปได้อย่างไร?

นรมนไม่ใช่คนที่จะฆ่าตัวตาย ไม่มีทางที่จะปลงไม่ตกขนาดนี้แน่นอน

ทันใดนั้นสีหน้าของคิมก็ซีดเผือดราวกับกระดาษ

ตกลงไปแล้ว?

นรมนตกลงไปในทะเลพร้อมกับรถ?

ไม่!

ไม่มีทาง!

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไร เขาถอดเสื้อนอกออก และกระโดดลงทะเลไปในทันที

“บุริศร์!”

ไมค์ต้องการที่จะดึงบุริศร์เอาไว้ แต่กลับดึงไว้ไม่อยู่ ได้แต่ลืมตามองดูบุริศร์กระโดดลงไปต่อหน้า

“ที่นี่มีหินโสโครกอยู่เยอะมาก! กระโดดลงไปอาจตายได้เลยนะ!”

ผู้เห็นเหตุการณ์ตกใจแทบช๊อค เมื่อเห็นการกระทำของบุริศร์ก็ยิ่งกลัวมากขึ้นจนขาอ่อนยวบ

ไมค์เองก็รู้ถึงอันตรายของที่นี่ดี

เขารีบโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยทันที

รเมศเกิดความประหลาดใจอย่างมากในตอนที่มองเห็นบุริศร์กระโดดลงไปในทะเลโดยไม่มีความลังเลใจแม้แต่น้อย

บุริศร์บ้าไปแล้วหรือไง?

เป็นไปได้เหรอที่จะไม่กลัวตายเลย?

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดกับคุณไพลินว่า : “ติดต่อคนให้มาทำการกู้ซากขึ้นจากน้ำ ไม่ว่าจะยังไง ถ้ามีชีวิตอยู่ผมต้องเห็นคน ตายต้องเห็นศพ!”

คุณไพลินไม่กล้าขัดคำสั่ง ทำได้เพียงแค่จัดการตามนั้น

ตัวของคิมสั่นเทา มือและเท้าของเย็นเยียบ

เธอบอกตัวเองว่านรมนจะต้องไม่อายุสั้นเช่นนี้ เธอเป็นคนดีขนาดนั้น แล้วจะฆ่าตัวตายได้ยังไง?

แต่ทว่าภายในใจเริ่มที่จะกระสับกระส่ายขึ้นมา เหมือนกับว่ามีมือที่มองไม่เห็น บีบหัวใจของเธอแน่น ค่อยๆแน่นขึ้นช้าๆ แล้วรัดแน่น…

คนของ ไมค์และรเมศล้วนมาถึงแล้ว แต่หลังจากที่ทีมกู้ภัยเห็นหน้าผาสูงชันขนาดนี้แล้วต่างก็ล่าถอย

“ช่วยชีวิตคนสิ!”

ไมค์คว้าคอเสื้อหัวหน้าของพวกเขาและพูดว่า : “ถ้าปรากฏว่าคนของผมมีปัญหาอะไรล่ะก็ ผมจะทำให้พวกคุณต้องเก็บของย้ายออกไปให้หมด พวกคุณเชื่อไหมล่ะ?”

ทีมกู้ภัยรู้ถึงอิทธิพลของไมค์ ทุกคนต่างลำบากใจอย่างมาก

“ไมค์ ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่อยากได้รับเงินก้อนนี้ แต่ว่าที่นี่เลวร้ายเกินไป ไม่ต้องพูดถึงการตกลงไปจากที่นี่เลย แค่เราจะวางเชือกลงไปก็เป็นอันตรายแล้ว”

“ผมสั่งให้พวกคุณลงไป!”

ไมค์โยนหัวหน้ากู้ภัยคนนั้นออกไป

เขากังวลใจเกี่ยวกับบุริศร์

เห็นว่าทีมกู้ภัยอิดออดไม่เต็มใจที่จะทำ จู่ๆไมค์ก็ถอดเสื้อนอกของตัวเองออกแล้วพูดว่า : “ถ้าหากผมกระโดดลงไปแล้ว พวกคุณเอาแต่มองโดยไม่ช่วย พวกคุณคิดว่าพ่อผมจะทำยังไงกับพวกคุณ?”

“ไมค์!”

หัวหน้าทีมยังพูดไม่จบ ไมค์ก็พุ่งตัวกระโดดลงไปแล้ว

หัวใจของคิมรัดแน่นขึ้นอีกครั้ง

ตอนนี้ทีมกู้ภัยไม่ช่วยก็ไม่ได้แล้ว

พวกเขารีบวางบันไดกู้ภัยลง แล้วเริ่มดำเนินการช่วยเหลือ

คนของรเมศทางด้านนั้นก็เข้าไปหาทีมกู้ซากโดยตรงแล้วเสนอราคาสูงลิ่ว ย่อมมีบางคนพยายามสุดชีวิต

ทั้งสองกลุ่มเริ่มต้นค้นหาเบาะแสของนรมนที่ตกลงไปอย่างเข้มข้น

หลังจากที่บุริศร์กระโดดลงไปในทะเล เขาก็กระแทกเข้ากับหินโสโครกก้อนหนึ่งจังๆ แขนของเขามีเลือดออก แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย

เขากลั้นหายใจแล้วว่ายตรงไปที่ก้นทะเล

อุณหภูมิของน้ำทะเลนั้นต่ำมากทำให้คนทนไม่ไหวได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นแขนของบุริศร์ยังมีเลือดออก แต่ว่าระยะห่างจากก้นทะเลยังอีกไกลมาก

ทำอย่างไรดีล่ะ?

ไม่รู้ว่าตอนนี้นรมนเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้ว่ายังรอการช่วยเหลือของตนเองอยู่หรือเปล่า

บุริศร์เกิดความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น

เขาทำลายขีดจำกัดของตัวเองแล้วว่ายต่อไป แต่ในทันใดนั้นกลับพบว่าตนเองถูกใครบางคนจับแขนเอาไว้ต่อด้วยเชือกที่ดึงเขาขึ้นไป

“ปล่อยฉัน!”

บุริศร์ไม่มีเสียงตะโกนออกมา แต่ว่าการเคลื่อนไหวของเขาเริ่มต่อสู้ขัดขืนอย่างรุนแรง

เขาไปไม่ได้แล้ว

ถ้าเกิดเขาหายไปแล้ว แล้วนรมนของเขาจะทำยังไงล่ะ?

แต่ว่าพลังของอีกฝ่ายมีเยอะมาก ไม่ว่าบุริศร์จะดิ้นรนยังไง เขาล้วนมีวิธีควบคุม หลังจากนั้นก็ดึงขึ้นมาบนฝั่ง

ในตอนที่พวกเขาโผล่หัวขึ้นมาเหนือชั้นน้ำทะเลแล้วนั้น บุริศร์มองตรงไปที่ไมค์ แล้วตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

“นายทำอะไร? นายรู้ไหมว่านรมนตกลงไปนานแค่ไหนแล้ว? ตอนนี้ทุกนาทีล้วนแต่เป็นโอกาสสำหรับเธอ!”

“บุริศร์ นายใจเย็นๆหน่อย ทะเลลึกมากขนาดนั้น นายไม่สามารถลงไปที่ก้นทะเลได้ถ้าไม่มีถังออกซิเจน ฟังฉันนะ ฉันจะวางถังออกซิเจนไว้บนหลังของนาย”

ไมค์ถือถังออกซิเจนที่นำมาเป็นการเฉพาะกิจวางไว้บนตัวของบุริศร์ เขาตบบ่าบุริศร์และพูดว่า : “นายลงไปก่อน ถ้าไม่ไหวจริงๆอย่าฝืน แล้วเปลี่ยนกับฉัน นายวางใจได้ ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะช่วยนายตามหาพี่สะใภ้จนเจอ!”

บุริศร์ไม่พูดอะไร เสียบถังออกซิเจนแล้วจมดิ่งสู่ก้นทะเลอีกครั้ง

ไม่ใช่ว่าไมค์มองไม่เห็นแผลบนแขนของบุริศร์ที่มีเลือดไหลอยู่ แต่เขารู้ว่าตอนนี้ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร

บุริศร์ก็จะไม่ขึ้นไปพันแผล

จริงอย่างที่เขาพูด ไม่รู้ว่านรมนตกลงไปนานแค่ไหนแล้ว

น้ำทะเลเย็นขนาดนี้ เขายังทนไม่ได้ นับประสาอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างนรมน

ถ้าหากนรมนเกิดอุบัติอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ เขาไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยว่าบุริศร์จะกลายเป็นอะไร

บางทีเขาอาจจะสูญเสียการควบคุมแล้วฆ่ารเมศก็เป็นได้

เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ไมค์ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

ขอให้ ขอให้นรมนยังมีชีวิตอยู่!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย