แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 261

บทที่ 261 ไมค์รุนแรงมากจริงๆ

บุริศร์มองไปที่ตุลยาและไมค์ จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร

ไมค์ถอนหายใจเฮือก มองตุลยาที่หมดสติอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะพูดกับคนที่อยู่ข้างๆ ว่า “ไปจัดการกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนี้ให้หมด อย่าให้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ถูกเผยแพร่ออกไปแม้แต่นิดเดียว”

“ครับ”

คนข้างกายเขารีบไปจัดการอย่างรวดเร็ว

ไมค์มองไปยังกลุ่มเกลียวคลื่นที่เบ่งบานอยู่ในทะเล นัยน์ตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อย เรียวมืออันศักดิ์สิทธิ์ของอัจฉริยะแพทย์แห่งยุคลดต่ำลงทั้งแบบนั้น

สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่าน่าเสียดาย แต่ในเมื่อไปกระตุ้นบุริศร์เข้า เธอก็น่าจะเดาผลลัพธ์พวกนี้ได้

บุริศร์กลับมามีไข้อีกแล้ว แต่เขาไม่คิดจะสนใจ

พฤกษ์สังเกตเห็นสีแดงบนใบหน้าของบุริศร์ จึงกล่าวอย่างกังวลว่า “ประธานบุริศร์ครับ ทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ ถ้าหากคุณนายรู้เข้าเธอจะปวดใจเอาได้”

“อย่างนั้นเหรอ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอก็ควรมาด่าฉันตรงหน้าไม่ใช่หรือไง แล้วตอนนี้เธออยู่ไหนกันล่ะ”

บุริศร์มองไปยังทิวทัศน์ภายนอก แววตาของเขาหม่นลงเล็กน้อย

พฤกษ์รู้ดีว่าตอนนี้เขากำลังเจ็บปวด แต่ยังคงพูดต่อว่า “ประธานบุริศร์ครับ คุณนายเป็นคนที่โชคดีมาก จะต้องไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับเธออย่างแน่นอน เหตุเพลิงไหม้เมื่อห้าปีก่อน ใครก็ต่างบอกว่าเธอไม่เหลือแม้แต่เถ้ากระดูกแล้ว แต่พอห้าปีต่อมาคุณนายก็ยังคงกลับมาไม่ใช่เหรอครับ ตอนนี้คุณก็ยังไม่พบศพของคุณนาย ไม่แน่ว่าเธอจะกระโดดลงไปจริงๆ บางทีตอนนี้อาจจะไม่สะดวกติดต่อพวกเราก็เท่านั้น ประธานบุริศร์ครับ ตอนนี้คุณควรต้องดูแลร่างกายของตัวเองให้ดี วันข้างหน้าอาจจะมีโอกาสได้พบคุณนายอีกครั้ง ถ้าคุณยังปล่อยให้ตัวเองป่วยอยู่แบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าคุณนายจะปวดใจแค่ไหนหรอกครับ คุณหนูกมลล่ะครับ จะทำอย่างไร อย่าลืมสิครับว่าคุณหนูกมลกำลังรอรับการผ่าตัดไตของคุณอยู่ เธอยังเล็กแค่นี้ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสียแม่ไปแล้ว ถ้าหากว่าเธอยังต้องมาเสียพ่อไปอีก คุณจะให้เธอทำยังไงครับ”

แววตาของบุริศร์ไหววูบ คล้ายกับว่าเขาได้ยินคำพูดของพฤกษ์

เขาดึงสายตากลับมา มองไปที่พฤกษ์แล้วพูดว่า “นายรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน เป็นผู้ชายเสียเปล่า แม้แต่ผู้หญิงของตัวเองก็ปกป้องไม่ได้ แล้วฉันจะไปทำอะไรได้อีก”

“คุณสามารถทำอะไรได้ตั้งหลายอย่างนี่ครับ รเมศเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้เขากลับมีชีวิตอยู่ดี ประธานบุริศร์ครับ รเมศควรจะชดใช้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ให้กับคุณนาย”

“ใช่แล้ว! นายพูดถูก”

ทันใดนั้นบุริศร์ก็เหมือนกับได้พบหนทาง ราวกับว่าได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง

“ผู้จัดจําหน่ายพวกนั้นว่ายังไงบ้าง”

พฤกษ์ส่ายหน้า “พวกเขาไม่ได้พูดอะไรครับ บางทีอาจจะรู้จักอำนาจและอิทธิพลของตระกูลวัชโรทัยในอเมริกาดี ดังนั้นก็เลยไม่กล้าพูดอะไรมาก”

“ถ้าอย่างนั้นก็จับตัวลูกเมียของพวกมันไว้ ถ้าหากยังไม่พูดอีก นายก็รู้ดีว่าควรทำยังไง”

พฤกษ์ตะลึง

“ประธานบุริศร์ครับ คุณหมายความว่าจะใช้ภรรยากับลูกเพื่อข่มขู่พวกเขาอย่างนั้นเหรอครับ ผมเกรงว่าวิธีนี้จะไม่ดีสักเท่าไหร่”

“มีตรงไหนที่ไม่ดีอย่างนั้นเหรอ นายคิดว่าฉันโหดเหี้ยมมากเกินไปแล้วอย่างนั้นใช่ไหม หรือว่าที่พวกมันทำกับฉันตอนนี้ไม่เรียกว่าโหดร้ายอย่างนั้นเหรอ ฉันไม่คิดจะสนใจที่นาในอเมริกาพวกนั้นหรอกนะ แต่พวกเขารังแกกันมากไปแล้ว ถ้าวันนี้ฉันเอาที่ดินพวกนั้นกลับมา แล้วเหยียบย่ำตระกูลวัชโรทัยให้จมดิน ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขา จะเกิดเรื่องกับนรมนของฉันได้ยังไง ตอนนี้นรมนของฉันไม่อยู่แล้ว พวกเขายังคิดที่จะปกป้องตัวเอง ให้ดีก็ควรที่จะจดจำวิธีการแบบนี้เอาไว้ให้ชัดเจน ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รังเกียจที่จะนองเลือดหรอกนะ”

ตอนนี้บุริศร์กลายเป็นปีศาจโดยสมบูรณ์แล้ว ไม่หลงเหลือความยับยั้งใจแต่อย่างใด คล้ายต้องการที่จะลากทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ลงนรกไปพร้อมกับนรมน

บุริศร์ที่เป็นเช่นนี้ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัว

พฤกษ์ขมวดคิ้วเล็กน้อย ทว่าก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพียงพยักหน้าแล้วกลับเข้าไปในโรงพยาบาล ส่วนบุริศร์ก็ยังคงแทบไม่ได้ให้ความร่วมมือในการรักษา

ตอนที่ไมค์รู้เรื่องนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

ยังดีตอนสุดท้ายเขาก็ยอมรับการรักษาโดยดี

ตุลยาถูกไมค์พาตัวกลับไปที่คฤหาสน์

เธอกำลังฝันร้าย

ในความฝันนั้น บุริศร์กำลังบีบคอเพื่อให้เธอชดใช้ชีวิตแก่นรมน ทั้งยังมีนรมนที่มีเลือดไหลท่วมตัวยืนอยู่ไม่ไกล จากนั้นหล่อนก็พุ่งเข้ามาหาเธอ

“กรี๊ด! ไม่นะ! ออกไป!”

ตุลยาส่งเสียงร้องออกมาอย่างหวาดกลัว จากนั้นเธอก็เด้งนั่งตัวตรงอยู่บนเตียง แผ่นหลังชื้นไปด้วยเหงื่อ

“ตื่นแล้วเหรอ”

ไมค์นั่งอยู่ในห้องโดยไม่เปิดไฟ เสียงที่อยู่ๆ ก็ดังขึ้นของเขาทำให้ตุลยาตกใจ

“ทำไมคุณถึงไม่เปิดไฟล่ะไมค์”

ไมค์กล่าวเสียงเรียบ ฟังไม่ออกว่ากำลังยินดีหรือว่าโมโหอยู่ แต่เธอรู้ดีว่าไมค์กำลังโกรธ

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกใจไม่ดีขึ้นมา

“ไมค์คะ คุณก็รู้สึกว่าฉันทำผิดใช่ไหม ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายจริงๆ นะคะ ฉันก็แค่อยากให้รเมศพาเธอไป ไม่อยากให้เธอมาปรากฏตัวต่อหน้าฉันพร้อมกับบุริศร์ก็เท่านั้น”

ทันทีที่ตุลยาเพิ่งจะพูดจบ ไมค์ก็ลุกขึ้นยืน แล้วก้าวเข้ามาอยู่ตรงหน้าเธออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็กดตุลยาลงบนเตียง

“เธอชอบบุริศร์จริงๆ อย่างนั้นเหรอ หรือว่าแค่อยากเอาชนะ เขาไม่สนใจเธอ ไม่คิดจะมองเธอ เธอก็เลยปล่อยไปไม่ได้ ต้องแย่งเขามาจากนรมนให้ได้ถึงจะสบายใจอย่างนั้นสินะ”

เมื่ออยู่ๆ หน้าของ ไมค์ ก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของตุลยาจึงสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัว

“ไมค์ คุณคิดจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ”

“ตอบผมมาสิ!”

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไมค์ขึ้นเสียงใส่ตุลยา ทำให้เธอรู้สึกกลัวมากจริงๆ

“ฉันไม่รู้! ฉันไม่รู้! ฉันก็แค่รู้สึกว่าเขาทั้งหล่อเหลาและมีเสน่ห์ แล้วทำไมเขาถึงต้องดีกับนรมนขนาดนั้น ฉันต้องการผู้ชายแบบนี้ให้กับตัวเองบ้าง ฉันก็แค่พยายามตามหาของที่ตัวเองอยากได้ ฉันผิดตรงไหนอย่างนั้นเหรอ”

ทันใดนั้นตุลยาก็ร้องไห้ออกมา

ไมค์ยกยิ้มเย้ยหยันแล้วพูดออกมาว่า “เธออยู่ท่ามกลางสิ่งที่อยากได้แล้วก็ยังไม่รู้ตัวอย่างนั้นเหรอ เธอก็แค่อยากได้คนที่ดีต่อเธอ แล้วฉันไม่ดีต่อเธอใช่ไหม ตั้งแต่เล็กจนโตขอแค่เธอรู้สึกไม่สบายใจ ฉันก็พร้อมที่จะวางทุกอย่างเพื่อมาดูแลเธอ ขอแค่เธอยอมเปิดปาก ต่อให้เป็นดวงดาวฉันก็สามารถเอามาให้เธอได้ ทำไมเธอถึงไม่เคยมองเห็นความทุ่มเทของฉันเลยสักครั้ง ฉันแย่กว่าบุริศร์ตรงไหน ตุลยา เธอไม่มีหัวใจใช่ไหม ไม่เคยสนใจผู้ชายที่ต้องการเธอ เอาแต่พยายามแย่งผู้ชายของคนอื่น นรมนกับบุริศร์เป็นสามีภรรยากันแล้ว แล้วทำไมเธอถึงได้ขัดหูขัดตากับความรักของพวกเขา ทำไมกันนะ”

ตุลยาตกตะลึง

“คุณพูดอะไรน่ะ อะไรคือที่บอกว่าเป็นผู้ชายที่ต้องการฉันอย่างนั้นเหรอ ฉันเห็นคุณเป็นแค่พี่ชายเท่านั้น!”

“พี่ชายอย่างนั้นเหรอ แต่ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นน้องสาว! พี่ชายของเธอนอนกับเธอได้ไหมล่ะ”

คำพูดของไมค์ทำให้ตุลยาหน้าแดงขึ้นมาทันที

“นั่นมันก็แค่อุบัติเหตุ ฉันบอกแล้วว่าครั้งนั้นไม่นับ”

“นอนกับฉัน แต่ว่ายอมลงมือกับพี่สาวของตัวเองเพียงเพื่อผู้ชายคนอื่น ตุลยา เธอนี่ทำให้ฉันทั้งรักทั้งเกลียดจริงๆ ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่รู้ตัว หลังจากนอนกับฉันแล้ว เธอก็ถือว่าเป็นผู้หญิงของฉัน คิดจะเป็นน้องสาวอย่างนั้นเหรอ ชาติหน้าเถอะ”

“คุณคิดจะทำอะไรน่ะ”

ทันใดนั้นตุลยาก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา

ดวงตาของไมค์แดงก่ำ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ฉันคิดจะทำอะไรอย่างนั้นเหรอ เอาเธอยังไงล่ะ”

พูดพลางก็โถมตัวเข้าใส่ตุลยา

“ไม่เอา! ไมค์ คุณลุกออกไป! ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”

ตุลยาพยายามดิ้นรน แต่เธอไม่สามารถสู้แรงของไมค์ได้เลย หลังจากนั้นไม่นานเสื้อผ้าของเธอก็ถูกไมค์ฉีกออกเป็นชิ้นๆ

ไมค์ในตอนนี้เรากลับกลายเป็นสัตว์ป่าไปแล้ว ทันทีที่คิดว่าตุลยาลงมือกับนรมนเพียงเพราะบุริศร์ เขาก็แทบอยากจะสับผู้หญิงที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีตรงหน้าเป็นหมื่นเป็นพันชิ้น

แต่ว่าเขาทำไม่ได้ และไม่กล้าที่จะทำ จึงทำได้เพียงปล่อยให้เธอตายอยู่ข้างกายเขา

ตุลยาร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น พยายามดิ้นรนขอความเมตตา แต่กลับถูกไมค์เช็ดออกไปจนหมด

เธอร้องไห้จนหมดแรง รู้สึกเพียงแค่ว่าไมค์รุนแรงมากจริงๆ

เธอเพิ่งจะศัลยกรรมเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ ใบหน้ายังถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าพันแผล สภาพเหมือนคนก็ไม่ใช่ผีก็ไม่เชิง คิดไม่ถึงเลยว่าไมค์ยังจะทำลง

ไม่แน่ว่าบางทีเขาอาจจะทำไม่ลงก็ได้

ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ปิดไฟเอาไว้แบบนี้

นี่เป็นความคิดที่ปรากฏขึ้นมาก่อนที่ตุลยาจะหมดสติไป ถึงอย่างนั้นแล้วก็ไม่มีใครที่จะสามารถตอบคำถามของเธอได้

ท้ายที่สุดเธอก็หมดสติไปท่ามกลางความบ้าคลั่งของไมค์

หลังจากที่เขาทำเสร็จ ถึงได้พบว่าเธอสลบไปแล้ว

ในแววตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความสับสน ก่อนจะให้คนมาทำความสะอาดร่างกายของตุลยา แล้วจึงค่อยเดินออกไป

“นับแต่นี้ไปไม่อนุญาตให้ตุลยาออกมาจากห้องนี้แม้แต่เพียงครึ่งก้าว ไม่อย่างนั้นแล้วพวกแกจะถูกไล่ออกหมดทุกคน”

น้ำเสียงของไมค์เย็นเยียบ เย็นจนทำให้ทุกคนหวาดหวั่น

ทันใดนั้นก็มีบอดี้การ์ดสี่คนมายืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกนับไม่ถ้วนคอยเฝ้าด้านหน้าและด้านหลังของคฤหาสน์ไว้

ไมค์หันไปมองตุลยาอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากคฤหาสน์ไป

ตราบใดที่เธอยังอยู่ในคฤหาสน์ของเขา แล้วไม่โผล่หน้าออกมา ไม่แน่ว่าบุริศร์อาจจะปล่อยเธอไปก็ได้

ไมค์ไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ แต่พนันได้เลยว่าบุริศร์ยังคงรู้สึกถึงความเป็นพี่น้องกับเขาอยู่

ไมค์ออกจากคฤหาสน์แล้วตรงไปที่โรงพยาบาลทันที

เขาคิดว่าบุริศร์จะต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ไม่นึกเลยว่าจะไม่อยู่แล้ว

ไมค์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หลังจากพูดคุยกับคุณหมอถึงได้รู้ว่าบุริศร์ออกไปตั้งแต่เมื่อเย็นแล้ว

ทันใดนั้นก็เหมือนจะคิดอะไรได้ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดค้นหาข่าวด่วนล่าสุด แต่เนื้อหาบนโทรศัพท์ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไรมากนะ

ทว่าบุริศร์ที่กลับไปถึงบริษัทสาขาของตระกูลโตเล็กในอเมริกาเริ่มลงมือแล้ว เพียงชั่วข้ามคืนหุ้นของบริษัทวัชโรทัยก็ร่วงลงอย่างรวดเร็ว ตลาดหุ้นเริ่มผันผวน

ตอนที่รเมศรับโทรศัพท์ของคุณนายวัชโรทัย เขายังคงเมาไม่ได้สติ

“ใครวะ”

ทันทีที่ได้ยินเสียงเมามายไร้สติของรเมศ คุณนายวัชโรทัยก็โมโหขึ้นมาแล้ว

“รเมศ นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว แกยังเมาหัวราน้ำอยู่อีกเหรอ แกรีบเปิดคอมพิวเตอร์ดูเร็วเข้า หุ้นบริษัทวัชโรทัยของพวกเราใกล้จะร่วงลงหมดแล้ว”

ทันใดนั้นรเมศก็โงนเงนไปมา สร่างเมาไปไม่น้อย

เขารีบเปิดคอมพิวเตอร์ ทันทีที่เห็นหุ้นของบริษัทวัชโรทัยดิ่งลงเรื่อยๆ ก็แทบจะสร่างเมาในพริบตา

“นี่มันเรื่องอะไรกัน เป็นไปได้ยังไง”

คำพูดของรเมศทำให้คุณนายวัชโรทัยแทบจะร้องไห้ออกมา

“ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น แกรีบติดต่อไปที่คนของบริษัทหลักทรัพย์เร็วเข้า เร็วสิ ถ้ารอให้เปิดกระดานพรุ่งนี้คงจะไม่ทันแล้ว”

พอได้ยินคุณนายวัชโรทัยพูดแบบนี้ รเมศก็รีบติดต่อไปที่บริษัทหลักทรัพย์ทันที ทว่าสายโทรศัพท์ของทางฝั่งนั้นกลับไม่ว่างอยู่ตลอด จึงไม่สามารถติดต่อได้

เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เมื่อเห็นการซื้อขายอย่างต่อเนื่องบนจอคอมพิวเตอร์ รเมศก็ตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

เขารีบคว้าเสื้อนอกแล้วขับรถไปที่บริษัทหลักทรัพย์อย่างรวดเร็วโดยไม่สนว่ามีกลิ่นเหล้าติดตัว

คนของบริษัทหลักทรัพย์ควรจะเลิกงานได้แล้ว ทว่าไฟกลับยังคงสว่างจ้า คนข้างในและข้างนอกต่างเร่งรีบอยู่ตลอดเวลา ดูยุ่งวุ่นวายเป็นพิเศษ

รเมศรีบขึ้นไปที่ชั้นสองทันที ทว่ากลับเห็นบุริศร์อยู่ในนั้น

ตอนที่บุริศร์มองเห็นเขา มุมปากก็ยกยิ้มเย็นชา ทันใดนั้นรเมศก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่ในอุโมงค์น้ำแข็ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย