บทที่ 272 คุณบอกว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ผมไม่ใช่หรือไง?
“ว้าย! วางฉันลงนะ! ตรินท์ คุณมาอยู่ในห้องฉันได้ยังไง? คุณ.......”
“เงียบ!”
ถึงขนาดนี้แล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังเห็นเขาเป็นตรินท์อยู่อีก บุริศร์รู้สึกเอือมเป็นที่สุด
“ยังจะมาดุฉันอีกนะ? ฉันเป็นพี่สะใภ้คุณนะ!”
นรมนอารมณ์ขึ้น
ตรินท์นี่ยังไง?
ไม่รู้หรือไงว่าผู้ชายกับผู้หญิงไม่ควรใกล้ชิดกัน?
บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าบุริศร์ขี้หึง?
เธอดิ้น และเริ่มออกหมัดสะบัดเท้า ลืมเลือนความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าบนร่างกายไปจนหมดสิ้น
ตอนนี้ในหัวเธอคิดแค่ว่า เธอจะให้ตรินท์อยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ จะให้เขาอุ้มเธออยู่แบบนี้ไม่ได้ แบบนี้มันได้ที่ไหนกัน?
บางทีอาจเป็นเพราะนรมนออกแรงสุดแรง แขนที่กำลังสะบัดดิ้นอยู่ จึงฟาดลงบนหน้าของบุริศร์อย่างไม่ได้ตั้งใจ ทั้งบุริศร์และนรมนต่างนิ่งอึ้ง
“เอ่อ ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ แต่คุณต้องวางฉันลง ฉันเป็นพี่สะใภ้คุณนะ”
นรมนพูดเสียงอ่อน ใบหน้างอแงของเธอยิ่งทำให้ไฟโกรธของบุริศร์ลุกโชน
“พี่สะใภ้พ่องสิ!”
เขาสบถคำหยาบออกมา
สามารถทำให้ผู้ชายสูงส่งที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีหลุดคำหยาบออกมาได้ นรมนนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
แต่นรมนกลับไม่คิดอย่างนี้
“ทำไมคุณต้องด่าฉันด้วย? ฉันจะบอกคุณให้นะ ฉันเป็น.....อื้อ!”
นรมนยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกบุริศร์โยนลงบนเตียง จากนั้นร่างกายของเขาก็ตามลงไปคร่อมทับ ในตอนที่นรมนยังไม่ทันได้ดิ้นขัดขืน จูบรุนแรงเอาแต่ใจก็ประทับลงมาบนริมฝีปากสีสวยของนรมนอย่างรวดเร็ว
นรมนรู้สึกราวกับว่าสมองของเธอตัวเองระเบิดดัง “ตู้ม”
นี่มันอะไรกัน?
เธอถูกน้องชายสามีตัวเองปล้ำจูบงั้นเหรอ?
ได้ยังไง?
ถ้าบุริศร์รู้เข้าล่ะก็ จะไม่ตายกันหมดเหรอ?
นรมนดิ้นขัดขืนอย่างแรง ถึงขนาดกัดปากของบุริศร์อย่างไม่สนใจใดๆทั้งสิ้น
กลิ่นเลือดจางๆลอยคลุ้งไปทั่วแนวฟันของทั้งสอง
บุริศร์เจ็บ จนต้องปล่อยเธอออกไป
“คุณเป็นหมาเหรอ?”
“คุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง? ออกไปเลยนะ!”
นรมนยกเท้าขึ้นเตรียมจะถีบตรงนั้นของบุริศร์ กะระยะแม่นยำจนทำให้บุริศร์อกสั่นขวัญแขวน
บุริศร์หลบหลีกเท้าของนรมนได้อย่างหวุดหวิด แต่คิดไม่ถึงเลยว่านรมนจะหยิบแจกันดอกไม้บนโต๊ะขึ้นมาโยนใส่หัวเขา
“ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันเป็นพี่สะใภ้คุณ แล้วทำไมคุณยังกล้าทำกับฉันแบบนี้? ตรินท์ คุณหาเรื่องตายใช่ไหม?”
นรมนโมโหจนกรอบตาแดงไปหมด
ไอ้เลวนี่สารเลวเกินไปแล้ว!
เขาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง?
ถึงที่นี่จะอยู่ในภูเขา ถึงที่นี่จะไม่มีผู้หญิง เขาก็ไม่ควรทำกับเธอที่เป็นพี่สะใภ้ของเขาอย่างนี้!
บุริศร์แย่งแจกันในมือของเธอมา เมื่อเห็นนรมนโกรธจนจะร้องไห้ เขาจำต้องถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “คุณไม่มีตาหรือไง? ดูให้ดีๆผมคือใคร?”
“จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ? คุณก็ตรินท์ไม่ใช่หรือไง? ฉันจะบอกให้นะ คุณ......”
“นรมน!”
บุริศร์แทบอยากจะใช้แจกันทุบหัวเธอเพื่อดูว่าในสมองของเธอบรรจุอะไรไว้กันแน่? ทำไมถึงได้แน่ใจขนาดนั้นว่าเขาคือตรินท์?
นรมนสะดุ้งกับอารมณ์คุกรุ่นของบุริศร์
เมื่อเห็นอย่างนี้ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกว่าคนตรงหน้ายิ่งเหมือนบุริศร์เข้าไปใหญ่
“คุณๆๆ อย่ามองฉันอย่างนั้นนะ อย่าคิดว่าหน้าตาเหมือนพี่ชายคุณ แล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรคุณนะ ฉันจะบอกคุณให้ ถ้าคุณกล้าทำอะไรฉันอีก ฉันจะกำจัดคุณแทนพี่ชายคุณซะ คุณยังมีกิจจาอยู่นะ แต่ถ้าไม่กลัวว่าจะหายไปก็เข้ามา”
คำพูดของเธอทำให้มุมปากของบุริศร์กระตุก
“นรมน คุณนี่ชักจะเลยเถิดไปไกลแล้วนะ ไม่เคยเจอตรินท์แท้ๆ แต่กลับคิดเป็นจริงเป็นจังว่าสามีตัวเองคือน้องชายสามีซะงั้น คุณอยากเจอเขามากขนาดนั้นเลยเหรอ? หือ? “
บุริศร์อัดอั้น เจ็บใจเหมือนมีเข็มแทง
นรมนหัวช้า ไม่เข้าใจความหมายของบุริศร์ จึงมองบุริศร์ตรงๆ ลืมไปจนหมดสิ้นว่ามีแค่ชั้นในปกปิดร่างกายอยู่ในตอนนี้
ทั้งร่างของเธอเขียวช้ำ ถึงแม้ว่าจะมีรอยสักคอยปกปิด แต่ก็ไม่สามารถปิดรอยแผลบนร่างกายได้อยู่ดี
เมื่อเห็นเธอนิ่งไป บุริศร์ก็ถอนหายใจออกมา “ในสายตาของคุณ ตรินท์เป็นคนบุ่มบ่ามเหรอ?”
“คุณไม่ใช่ตรินท์เหรอ?”
“มีแต่คุณพูดเองไม่ใช่เหรอ? ผมบอกตอนไหนว่าผมคือตรินท์?”
บุริศร์อยากร้องแต่ร้องไม่ออก
ความรู้สึกอึดอัดที่ถูกเมียตัวเองจำผิดเป็นคนอื่นแบบนี้ ชาตินี้ทั้งชาติเขาก็ไม่อยากนึกถึงมันอีกแล้ว
นรมนกลับไม่กล้าวางใจ
“เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งเข้ามา ในเมื่อบอกว่าเป็นสามีของฉัน แล้วจะพิสูจน์ยังไง?”
คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์แสยะยิ้มออกมาอย่างโกรธๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...