แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 273

บทที่ 273 เพื่อคุณแล้ว ฉันยอมโง่

"อื้อๆ...."

นรมนทุบตัวบุริศร์. เมื่อรู้สึกเริ่มหายใจไม่ออก. วันนี้ผู้ชายคนนี้กินยาผิดมาหรือไง? ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนี้?

ในตอนที่นรมนรู้สึกเหมือนกำลังหมดลมหายใจ ในที่สุดบุริศร์ก็ปล่อยเธอออก. ทว่ากลับไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ. แขนสองข้างของเขากอดรัดนรมนเอาไว้เสมือนครีมหนีบ ทำให้ร่างกายของเธอติดอยู่กับร่างกายของเขา จนไม่เหลือช่องว่างใดๆ

นรมนเริ่มรู้สึกรุ่มร้อน. จึงพูดเสียงเบาออกมาว่า."คุณปล่อยฉันก่อน"

"ไม่ปล่อย!"

"บุริศร์!"

นรมนขยับร่างกายอย่างอึดอัด

น้ำเสียงของบุริศร์ยิ่งเพิ่มความทุ้มลึกยิ่งกว่าเดิม

"ถ้าคุณยังดิ้นอีกผมไม่รับประกันนะว่าจะไม่ทำอะไรคุณ. หรือว่าคุณอยากให้ผมทำ?"

คำพูดนี้ทำให้นรมนตกใจ

จริงๆแล้วเธอก็อยากทำเรื่องแบบนั้นกับบุริศร์อยู่หรอก เพราะไฟในกายมันถูกจุดขึ้นมาแล้ว อีกอย่างยังได้มาเจอกันหลังจากที่แยกจากกันเป็นเวลานานแล้วด้วย มองยังไงกิจกรรมสำราญใจแบบนั้นก็กำลังจะเกิดขึ้นไม่ใช่หรือไง?

แต่ว่าพละกำลังของเธอในตอนนี้ถึงขีดจำกัดแล้ว. เธอไม่สามารถทำมันได้จริงๆ

เมื่อได้ยินคำพูดอันตรายของบุริศร์. เธอจึงไม่กล้าขยับ ทิ้งน้ำหนักทุกส่วนลงบนตัวของบุริศร์อย่างอิดโรย

"คุณมาทำไม?"

คำถามของนรมนค่อนข้างไร้จิตสำนึก

บุริศร์ถลึงตาใส่เธออย่างไม่พอใจ. แต่นรมนกลับแกล้งมองไม่เห็น. แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองมีความผิด. แต่เธอก็ยังแสดงออกมาอย่างดื้อรั้น.

"ผู้หญิงอย่างคุณนี่นะ. ไม่ได้เป็นอะไรอันตรายแล้ว. ทำไมไม่บอกข่าวผมเป็นคนแรก?"

"ก็ตอนอยู่บนเรือฉันหาทางส่งข่าวไม่ได้. บนเรือมีเครื่องดักสัญญาณ. พวกฉันเลยแอบๆเอา ไม่กล้าส่งสัญญาณออกไปหรอก"

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์สงสาร

"เจ็บไหม?"

เขายื่นแขนออกไป นรมนนอนท่าสบายๆในอ้อมแขนของเขา จากนั้นก็พูดเสียงเบาว่า "ไม่เท่าไหร่ วินาทีที่ตกลงไปในทะเล ฉันคิดว่าตัวเองคงต้องตายแล้วจริงๆ ฉันคิดมาตลอดว่าฉันไม่กลัวตาย แต่พอตอนนั้นจู่ๆฉันกลับกลัวตายขึ้นมา. ในหัวมีแต่ภาพของคุณกับลูก ฉันเลยคิดว่า ถ้าฉันตายไป แล้วไม่กี่ปีหลังจากนี้คุณไปชอบผู้หญิงคนอื่น และแต่งงานกับเธอ แบบนั้นฉันจะไม่บ้าตายเหรอ? แค่คิดว่าผู้ชายของฉันไปนอนกับคนอื่น และลูกของฉันถูกคนอื่นตี แต่ฉันกลับทำได้แค่เบิกตามองอยู่ตรงหน้า. แค่คิดก็หดหู่แล้ว"

บุริศร์ไม่สามารถเข้าใจความคิดอะไรพวกนี้ในหัวของนรมนได้เลยจริงๆ

เขาส่ายหน้าแล้วพูดว่า "ชาตินี้ผมไม่คิดแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น"

"มันก็ไม่แน่หรอก ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบให้คำมั่นสัญญา แต่พอภรรยาเสียไป แรกๆก็ยังคิดถึงอยู่หรอก แต่เวลาเป็นอะไรที่น่ากลัวจริงๆนะ เพราะมันสามารถเจือจางความเศร้าเสียใจที่มีทั้งหมดให้หายไปได้ บางทีผ่านไปแค่สิบปีหรือห้าปี คงหลงเหลือแค่ภาพของฉันบนกำแพงหรือไม่ก็สุสานล่ะมั้ง"

นรมนพูดอย่างเศร้าๆ. ได้ยินแบบนั้นบุริศร์ก็รู้สึกไม่สบายใจ

"เพ้อเจ้ออะไร? คนเขาพูดกันว่ารอดตายมาได้จะโชคดี คุณดูคุณสิ ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ ยมทูตคงไม่อยากต้อนรับคุณหรอก ตายยากขนาดนี้"

"ทำไมฟังดูไม่รื่นหูเลย?"

นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่บุริศร์กลับยิ้มออกมา ไม่ได้อธิบายอะไรมาก

เธอพิงอยู่ในอ้อมแขนของบุริศร์. รู้สึกปลอดภัยและสบายใจเป็นที่สุด

"ไม่ใช่ว่าตอนนี้คุณต้องยุ่งตัวเป็นเกลียวเหรอ? ทำไมถึงมาที่นี่?"

"คุณยังจะพูดอีกนะ. ผมเกือบคิดว่าคุณตายไปแล้วจริงๆ พอตอนนี้รู้ว่าคุณยังไม่ตาย ถ้าไม่มาหาคุณให้เห็นกับตาคิดว่าผมจะสบายใจได้เหรอ?"

บุริศร์พูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์

นรมนหัวเราะแหะๆแล้วพูดว่า "ฉันให้คนไปบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ?"

"คุณหมายถึงเด็กแสบกานต์นั่นน่ะเหรอ? ผมถูกเขายั่วโมโหจะตายแล้วคุณรู้ไหม?"

พอพูดถึงลูกชาย. บุริศร์ก็รู้สึกเจ็บใจ

เขารักและเอ็นดูเด็กแสบนี่ด้วยใจจริง. แต่เด็กแสบเอาแต่ตั้งแง่กับเขา. ชาติก่อนเขาไปทำอะไรให้ก็ไม่รู้

เมื่อนรมนได้ยินแบบนี้. ก็ลุกขึ้นมานั่งทันที

"กานต์เป็นคนบอกคุณเหรอ? กานต์เป็นยังไงบ้าง? สบายดีไหม? ตอนนี้เขาสูงขึ้นหรือว่าผอมลง? ว่าอ้วนขึ้นหรือเปล่า?"

นรมนคิดถึงกานต์จนทนไม่ไหว

บุริศร์เริ่มอิจฉาขึ้นมา

"คุณคิดถึงผู้ชายคนอื่นทั้งๆที่อยู่ในอ้อมแขนผมแบบนี้มันจะดีเหรอ? คุณบอกเองไม่ใช่หรือไงว่าผมขี้หึง? ไม่กลัวผมหึงเหรอ?"

นรมนชะงัก. จากนั้นก็หัวเราะพรืดออกมา

"กานต์ใช่ผู้ชายที่ไหน? นั่นแค่เด็กนะ! อีกอย่างก็เป็นลูกคุณด้วย! คุณหึงลูกตัวเองเนี่ยนะ?"

"แบบนั้นก็ไม่ได้! ถึงยังไงก็เป็นเพศผู้!"

นรมนหมดคำจะพูดกับความเอาแต่ใจของบุริศร์

แต่เมื่อเห็นท่าทีเป็นห่วงของนรมน สุดท้ายบุริศร์ก็บอกเธอเรื่องที่เขาเจอกับกานต์ รวมไปถึงเรื่องที่กานต์รู้เรื่องทุกอย่างของเธอแล้ว

บุริศร์ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น เขาจะให้นรมนคิดถึงแต่ไอ้เด็กแสบคนนั้นมากเกินไปไม่ได้

คิดว่านรมนจะอ่านความคิดแผลงๆของเขาไม่ออกเหรอ? แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป. เมื่อได้ยินว่ากานต์ปั่นหัวบุริศร์. รอยยิ้มของนรมนก็ขยายเต็มแก้ม

"สมกับเป็นลูกชายคุณจริงๆ"

คำพูดนี้ไม่รู้ว่าชมหรือประชด บุริศร์เองก็ขี้เกียจไปคิดเล็กคิดน้อย ถึงคิดไป สุดท้ายผลก็ออกมาอย่างเดียว นั่นก็คือเขาปวดหัวตาย

เขายังต้องมีชีวิตไว้วอแวผู้หญิงคนนี้ต่อ

"เมื่อกี้ตอนอยู่ในห้องฝึกคุณบอกว่าได้ยินมาว่าคนระดับสูงในบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดขนส่งสินค้างั้นเหรอ? แล้วรู้ไหมว่าเป็นสินค้าอะไร?"

เมื่อนรมนเห็นว่าไหนๆเขาก็รู้แล้ว. ตอนนี้จึงไม่ปิดบังอีกต่อไป พูดออกมาว่า "เห็นไม่ชัด สินค้าห่อไว้ดีมาก. พอลงจากเรือก็ถูกขนส่งออกไปแล้ว ใช่สิ. ฉันแอบถ่ายรูปมาด้วยนะ คุณลองดูว่าเป็นใครในบริษัทของคุณ"

นรมนพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นกดค้นหารูปภาพแล้วยื่นไปให้บุริศร์ดู

เมื่อบุริศร์เห็นคนในรูป ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที

"ผู้จัดการเคนฝ่ายการค้า"

"คนสำคัญไหม?"

"สำคัญมาก"

บุริศร์คิดไม่ถึงเลยว่า. ผู้จัดการเคนจะแอบลักลอบส่งสินค้า

"ไม่สืบหาว่าสินค้าถูกส่งไปที่ไหนเหรอ?"

บุริศร์คิดว่านิสัยอย่างนรมนคงต้องสืบหาต่อไปแน่ แต่ว่าตอนนี้เธอคือนายหญิงของอาณาจักรรัตติกาล จะตรวจสอบเรื่องอะไรจึงไม่จำเป็นต้องออกโรงเอง ข้อนี้ทำให้บุริศร์วางใจลงได้บ้าง

นรมนพูดเสียงเบาออกมาว่า "ถ้าฉันบอกคุณว่า สินค้าถูกส่งมาที่นี่. คุณจะแปลกใจไหม?"

"อะไรนะ?"

บุริศร์ประหลาดใจเป็นอย่างมาก. แต่เมื่อเห็นว่านรมนไม่ได้กำลังมีท่าทีล้อเล่น. สีหน้าของเขาก็พลันเคร่งขรึมขึ้นมา

"แปลว่า. ที่คุณมาที่นี่ ความจริงแล้วคุณไม่ได้มาฝึก?"

"จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ทีเดียว ฉันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอจริงๆ เลยอยากฝึกฝนตัวเอง ทำให้ตัวเองเก่งขึ้น ก็เลยให้แชมป์ช่วยสอน แต่ฉันมาที่นี่ก็เพราะสินค้าล็อตนั้นด้วยเหมือนกัน ที่นี่คือฐานทัพของคุณ. ฉันได้ยินมาว่าที่นี่คือสถานที่ลับและมีแต่คนของคุณ แต่ว่าคนของคุณกลับแอบขนของจากข้างนอกเข้ามาอย่างไม่บอกไม่กล่าว. ฉันว่าเรื่องนี้มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ"

การวิเคราะห์ของนรมนตรงประเด็นมาก. และก็ทำให้บุริศร์เริ่มตื่นตัว

รู้มาตลอดว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้ครอบครองตระกูลโตเล็กร้อยเปอร์เซ็นต์. แต่ไม่นึกเลยว่าแม้แต่ฐานทัพที่เขาสร้างขึ้นมาเองกับมือจะถูกบุกรุกเข้ามาด้วย

"ใช่ลุงสองไหม?"

"ไม่แน่ใจ ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่สามารถคาดเดาได้ ดังนั้นฉันจะยังกลับไปไม่ได้. ตอนนี้สถานะของฉันคือคนไร้ตัวตน ถ้ากลับไปอาจจะนำความไม่สะดวกสบายมาให้คุณกับลูกๆก็ได้ อีกอย่างฉันก็รับช่วงต่ออาณาจักรรัตติกาลมาแล้ว ถ้าที่แม่พูดมาคือเรื่องจริงทั้งหมด แบบนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังต้องเล่นงานฉันแน่ๆ ฉันได้ยินมาว่าป้าโอหนีไปแล้ว ยิ่งช่วงนี้ยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้อีก เธอไม่ชอบขี้หน้าฉันมาตลอด เพราะการที่ฉันอยู่ที่นี่ต้องล่อให้ทุกคนมาที่นี่ได้แน่ๆ. พอถึงตอนนั้นคุณจะได้สบายหน่อย ลูกๆก็จะปลอดภัยด้วย"

นรมนบอกแผนของตัวเองให้บุริศร์ฟัง

สีหน้าของบุริศร์อึมครึม

"คุณรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไร? คุณรู้ตัวไหมว่าคุณกำลังล่ออันตรายทั้งหมดมาที่นี่? คุณอยากให้ผมเป็นห่วงคุณจนตายไปเลยใช่ไหม?"

เมื่อรู้สึกได้ถึงความกังวลและความเป็นห่วงของบุริศร์ นรมนก็อบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก เธอจึงโอบรอบคอของเขาเอาไว้แล้วพูดว่า “ฉันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่ไง? ที่นี่มีแชมป์ แล้วยังมีกิมจิที่คอยปกป้องฉันอยู่ใกล้ๆด้วย อีกอย่างฉันกำลังฝึกฝนตัวเอง ทำให้ตัวเองเก่งขึ้นอยู่นี่ไง? ฉันไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรไปหรอก แต่ฉันได้ยินมาว่าร่างกายของกมลไม่ไหวแล้ว จำเป็นต้องรีบผ่าตัดโดยด่วน และถ้าคุณผ่าตัดกับกมลด้วย อย่างน้อยคุณก็จะไม่มีอิสระไปอีกตั้งสิบกว่าวัน ช่วงนี้ฉันเลยต้องมั่นใจว่าพวกคุณจะปลอดภัย แม่บอกว่า การมีอยู่ของอาณาจักรรัตติกาลไม่เพียงเพื่อประเทศอย่างเดียว แต่เพื่อปกป้องคุณ ปกป้องผู้สืบทายาทของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดด้วย คุณคือสามีของฉัน คือคนที่ฉันแคร์มากที่สุดในชีวิตนี้ ฉันทนเห็นคุณกับลูกเป็นอะไรไปต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอกนะ”

“แต่ผมเป็นผู้ชาย จะให้ผู้หญิงอย่างคุณแบกรับทุกอย่างคนเดียวได้ยังไง?”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนยิ้มออกมา

“คุณมันพวกเพศนิยมนี่นา! อะไรคือผู้ชายผู้หญิง? สามีภรรยาก็เหมือนคนคนเดียวกันนั่นแหละ เวลาคุณลำบากก็มีฉันคอยช่วยเหลือ เวลาฉันไม่ไหวก็มีคุณช่วยค้ำจุน ชีวิตนี้ยังมีอะไรมากมายที่เราคาดเดาไม่ได้ เพียงแค่เราเดินเคียงข้างจับมือกันเราก็จะเดินไปถึงตอนสุดท้ายด้วยกันอย่างปลอดภัย บุริศร์ เชื่อฉันนะ ฉันจะดูแลตัวเอง และดูแลคุณกับลูกๆให้ดี กมลลูกของเรารอโอกาสนี้จากคุณมาห้าปีแล้ว ไม่ว่าตอนนี้สถานการณ์มันจะร้ายแรงขนาดไหน ฉันก็ไม่อยากให้มีอะไรมาพรากโอกาสในการมีชีวิตอยู่ต่อของเธอไป ตอนนี้มีแค่คุณที่ช่วยเธอได้ เพราะฉะนั้นช่วงสิบวันนี้ฉันจะแบกรับทุกอย่างแทนคุณเอง”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

เขากอดนรมนแน่น แล้วพูดว่า “ถ้าชาตินี้ผมทำผิดต่อคุณ สวรรค์คงไม่ให้อภัยผมแน่ๆ ทำไมโลกนี้ถึงได้มีคนโง่ขนาดนี้อย่างคุณด้วยนะ?”

“เพื่อคุณแล้ว ฉันยอมโง่”

นรมนพูดเสียงเบา ถ้อยคำนี้ราวกับกระแสลมอุ่นๆ พัดผ่านเข้ามาในหัวใจของบุริศร์ จากนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย

“ผมมีข่าวดีจะบอก”

“อะไร?”

นรมนถามเสียงเบา เพราะเริ่มง่วงแล้ว

บุริศร์ลูบหัวเธอแล้วพูดว่า “คุณไม่ใช่คนไร้ตัวตน คุณมีตัวตน อีกไม่กี่วันคุณจะกลายเป็นคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดา หลังจากนั้นก็จะไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนตัวตนของคุณได้ตามอำเภอใจอีก”

“หมายความว่ายังไง?”

นรมนเงยหน้าขึ้นมา จากที่ง่วงๆก็หายเป็นปลิดทิ้ง

จู่ๆเธอจะไปเป็นคนตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้ยังไง? หรือว่าบุริศร์กับธรณีทำข้อตกลงอะไรกันไว้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย