บทที่ 274 ทำใจไม่ได้อยู่ดี
เมื่อเห็นสายตาสงสัยของนรมน จู่ๆบุริศร์ก็ไม่รู้ว่าควรบอกเธอยังไงว่าเธอกับตระกูลธนาศักดิ์ธนไม่ได้มีสายเลือดร่วมกัน แต่ว่าบางเรื่องก็จำเป็นต้องพูดออกไป ถึงยังไงคิมก็ยอมสูญเสียเพื่อเธอมามากแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางลำบากใจของบุริศร์. นรมนก็พูดเสียงต่ำว่า "ช่วงที่ผ่านมานี้มีเรื่องอะไรที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า?"
"ยังจำคนที่ทำให้คุณออกมาจากบ้านหัวหน้าคิมได้ไหมว่าเป็นใคร?"
จริงๆแล้วบุริศร์ไม่อยากพูดถึงตุลยาเสียเท่าไหร่ แต่ยังไงก็ต้องพูดออกมา. เพราะคงปิดนรมนไปไม่ได้ถึงที่สุด
"จำได้"
เมื่อพูดถึงตุลยา. นรมนก็ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมามากมาย. สำหรับเธอแล้วผู้หญิงคนนี้ไม่ถึงกับมีความรู้สึกดีๆอะไรให้ แต่ก็เข้าใจว่าจุดประสงค์ที่ตุลยาต้องการส่งตัวเธอไปให้รเมศคืออะไร ยังดีที่เธอไม่ได้ชั่วร้ายขนาดนั้น. จึงไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายกับนรนมไปมากกว่านี้ แต่ที่แน่ๆคือนรมนรู้สึกแย่กับเธอ
เมื่อบุริศร์เห็นแววรังเกียจในดวงตาของนรมน ก็ยิ้มเจื่อนๆออกมา "คุณสองคนเป็นพี่น้องแท้ๆ"
"อะไรนะ?"
นรมนคิดว่าตัวเองฟังผิด
"พ่อแม่ฉันมีฉันเป็นลูกแค่คนเดียว. พวกเขาไม่เคยอยู่ที่อเมริกาด้วย อีกอย่างตุลยากับฉันแทบไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันเลย คุณอย่ามาล้อเล่นนะ"
"คุณคิดว่าผมเป็นคนชอบล้อเล่นหรือเปล่าล่ะ?"
บุริศร์ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจ จากนั้นเขาก็นำเรื่องที่คุณท่านและคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนไปสถานีตำรวจเพื่อตรวจดีเอ็นเอหลังจากที่เธอหายตัวไปให้นรมนฟัง. เท่ากับกำลังบอกนรมนว่า คุณท่านและคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนกับเธอไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด
เรื่องราวต่อจากนั้นพูดง่ายขึ้นมาเยอะ. เพราะถึงยังไงนรมนก็รู้เรื่องของชินทรอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลายมาเป็นของเธอก็เท่านั้น
หลังจากฟังจบนรมนก็เงียบไปนาน. บุริศร์เองก็ไม่ได้เร่งรัดเธอ. ทำเพียงแค่กอดเธออยู่เงียบๆ กอดเธอก็เหมือนได้กอดโลกทั้งใบ
ผ่านไปนานพอสมควร นรมนถึงได้เอ่ยพูดขึ้นมา
"ยืนยันแล้วใช่ไหมว่าฉันเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา?"
"คิมตรวจดีเอ็นเอแล้ว. คุณจำตอนเจาะเลือดที่สถานทูตได้ใช่ไหม?"
บุริศร์พูดมาอย่างนี้ นรมนก็นึกออก
เธอพยักหน้า
ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะได้รับการยืนยันแล้ว
เธอไม่ได้แสดงอารมณ์สั่นไหวอะไรออกมา เพราะเธอรู้สึกสนิทใจกับคิมมาตลอดอยู่แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นแม่ของตัวเอง
เมื่อนึกถึงความทุกข์ที่คิมได้รับมาตลอดหลายปีนี้ นรมนก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดี ถึงแม้จะรู้ว่าเธอคือแม่แท้ๆของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถเรียกออกมาได้ ความรู้สึกบางอย่างไม่ใช่ว่าขึ้นอยู่กับสายเลือดแล้วจะสามารถทำใจยอมรับได้
เธอถอนหายใจออกมา "พ่อแม่ฉันรู้ไหม?"
"เพิ่งรู้ แต่ก็สะเทือนใจเอาเรื่องอยู่"
"ฉันยังเป็นลูกของพ่อกับแม่ตลอดไป"
นรมนพูดออกมาอย่างแน่วแน่. บุริศร์เองก็เข้าใจความหมายของเธอ
"วางใจได้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาบอกมาว่า คุณจะยังใช้ชื่อและนามสกุลเดิม ยังเป็นคนของตระกูลธนาศักดิ์ธน แต่ว่าสถานะคงต้องขึ้นตรงกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา. ส่วนจะกลับเข้าตระกูลหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ"
เมื่อได้ยินบุริศร์พูดมาอย่างนี้. จมูกของนรมนก็รู้สึกแสบร้อน
เธอไม่คาดคิดเลยว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา.จะเข้าใจเธอและมีเหตุผลขนาดนี้
แม้ว่าตระกูลทวีทรัพย์ธาดา.จะคือครอบครัวที่แท้จริงของเธอ. แต่ว่าตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาก็มีแต่คุณท่านและคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนคอยรักและเป็นห่วงเธอ. ให้ความอบอุ่นแก่เธอ. ถ้าไม่มีคุณท่านและคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธน ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไงบ้าง
ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา.,ตระกูลธนาศักดิ์ธน, คิม มาเกี่ยวข้องกันเพียงเพราะนรมนคนเดียว มันเป็นความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างพูดยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะยอมรับได้ยากอะไรขนาดนั้น
นรมนยอมรับความจริงข้อนี้ได้อย่างรวดเร็ว
เธอพูดเสียงเบาว่า "ตอนนี้ฉันออกไปไหนไม่ได้ คงต้องรบกวนคุณช่วยดูแลพวกเขาหน่อยนะ"
"ไม่กลับไปดูกมลหน่อยเหรอ? พรุ่งนี้เธออาจจะได้ผ่าตัดแล้วนะ. แล้วก็กานต์ เขากลับมาแล้วนะ คุณกลับไปเยี่ยมพวกเขากับผมสักหน่อยก็ยังดี"
บุริศร์รู้ว่านรมนห่วงหาและคิดถึงลูกๆขนาดไหน แต่ว่าในตอนนี้เธอกลับยอมอยู่ที่นี่เพื่อเขาและตระกูลโตเล็ก มันไม่ยุติธรรมกับเธอเลยจริงๆ
ทำไมนรมนจะไม่อยากกลับไปล่ะ?
เธอไม่ได้เจอเด็กแสบกานต์มานานแล้วนะ
ห้าปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยอยู่ห่างกันเลย พอตอนนี้ห่างกันตั้งนาน ทำไมจะไม่คิดถึงล่ะ? แต่ว่าถ้าเธอกลับไปตอนนี้ สถานการณ์ทุกอย่างมันก็จะวุ่นวาย คนที่คอยจับตามองเธออยู่ก็จะปรากฏตัวออกมา พอถึงตอนนั้นเหยื่อล่ออย่างเธอจะไปมีค่าอะไร?
คนที่จับตามองเธออยู่ไม่มีข้อยกเว้น. ไม่ว่าจะเป็นกานต์หรือกมล แม้แต่บุริศร์ ก็จะได้รับอันตรายไปด้วย
นรมนทนเห็นลูกตัวเองหายไปหรือถูกจับตัวไปอีกครั้งไม่ได้จริงๆ
เธอต้องเข้มแข็ง. ต้องสามารถปกป้องลูกได้ และเธอก็จะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นตัวนำอันตรายมาให้ลูกเหมือนกัน
เมื่อผ่านการพิจารณาและครุ่นคิดอย่างรอบคอบ นรมนก็พูดขึ้นมาว่า "ฉันเชื่อว่าคุณสามารถทำให้พวกเขาปลอดภัยได้ ใช่ไหม?"
"ผมรับประกันว่าพวกเขาจะปลอดภัย แต่แล้วคุณล่ะ? นรมน คุณจะคำนึงถึงคนอื่นพร้อมกันหลายๆคนไม่ได้. ผมว่าให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา....."
"ฉันทำได้"
นรมนตัดบทบุริศร์อย่างทันท่วงที เพื่อกันความช่วยเหลือขอตระกูลทวีทรัพย์ธาดา
"บุริศร์ บางเรื่องก็เป็นเรื่องของตระกูลโตเล็ก คนอื่นไม่สามารถสอดมือเข้ามายุ่งได้ อย่าลืมที่คุณเคยบอกว่าจะแต่งงานกับฉันอีกครั้ง หลังจากเรื่องนี้จบลงแล้วสิ คุณต้องขอฉันแต่งงานต่อหน้าทุกคนในเมืองชลธีโอเคไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...