บทที่ 285 ลูกชายคนนี้ช่างไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำไปแล้ว
แชมป์จ้องมองนรมน สายตาที่จ้องมองเธอนั้นช่างจริงใจและชัดเจนขนาดนั้น แล้วอยู่ ๆ เขาก็จ้องมองต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว
พออยู่ต่อหน้านรมน เขาก็รู้สึกว่าตัวเองรู้สึกผิด
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงที่บุริศร์ชอบจริง ๆ แล้วเป็นผู้หญิงยังไงกันแน่
“คุณเป็นคนดีมาก นรมน จริง ๆ นะ ถ้าหากว่าคุณไม่ใช่ภรรยาของบุริศร์ บางทีผมอาจจะไม่ทำอย่างนี้กับคุณก็ได้”
“ถ้าหากว่าฉันไม่ใช่ภรรยาของบุริศร์ ฉันก็ไม่รู้จักหรอกว่าคุณเป็นใคร คุณแชมป์ พวกเราต่างก็รู้จักกันเพราะว่าบุริศร์ เขาเป็นคนยังไงนั้นคุณชัดเจนดี ถ้าหากว่าคุณสามารถบอกสถานการณ์ของคุณกับบุริศร์ตั้งแต่แรก บางทีพวกคุณทั้งครอบครัวคงจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้วก็เป็นไปได้ เป็นตัวคุณเองที่เลือกไม่เชื่อเพื่อน เพื่อนร่วมรบของคุณ คุณเลือกยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา แต่ว่าฉันหวังว่าฉันจะสามารถทำให้คุณสมหวังได้ คุณเองก็อย่าไปทำร้ายเขา ถึงแม้ว่าการหักหลังของคุณจะทำร้ายเขาไปแล้ว งั้นก็อย่าแก้ปัญหาด้วยการรบราฆ่าฟันกันอีกเลย เพื่อนร่วมรบที่ดีที่สุด เพื่อนที่แม้แต่ชีวิตก็สามารถมอบให้แก่กันได้ ภายในวันเดียวก็กลายมาเป็นศัตรูกันแล้ว คุณทนทำใจได้เหรอ?”
คำพูดของนรมนทำให้แชมป์รู้สึกละอายใจ จนไม่กล้าสบตาด้วย
เขาพูดเสียงเย็น ๆ ว่า “ไปซะ บางทีผมอาจจะให้โอกาสคุณเปลี่ยนใจอีกครั้งหนึ่ง”
“ไม่ต้องหรอก เมื่อเทียบกันการหลบซ่อนอย่างนี้ต่อไป ยังสู้ไม่ได้กับการเดินไปถึงตรงหน้าป้าโออย่างสง่าผ่าเผยดีกว่า ฉันจะต้องถามเขาสักหน่อยว่า ตกลงมีอะไรที่ไม่พอใจต่อลูกสะใภ้อย่างฉันบ้าง”
นรมนในตอนนี้กลับไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
แชมป์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยแล้ว เขาไม่เข้าใจมองไปที่นรมนแล้วพูดขึ้นว่า “คุณไม่กลัวตายเหรอ? หรือว่าคุณไม่รู้เหรอว่าป้าโอเป็นคนยังไง? คุณเคยโดนเขาขายออกนอกประเทศไป จนเกือบจะไปเป็นของเล่นของคนอื่นแล้ว คุณยังไม่รู้ว่าจิตใจมนุษย์ของเขานั้นดำขนาดไหนเหรอ? คุณอะไรก็ทำไม่เป็น อะไรก็ไม่มี แล้วก็จะไปกับผมอย่างนี้ ไปเจอป้าโอ คุณสามารถคิดผลที่จะตามมาของคุณได้ไหม? ถ้าหากว่าคุณเป็นอะไรไป บุริศร์น่าจะเป็นบ้าไปได้เลย?”
“ตอนนี้เวลานี้แล้ว คุณยังมีใจมานึกถึงความรู้สึกของบุริศร์อีก ดูท่าแล้วคุณเองก็ไม่ได้เกลียดเขาไปซะหมดนี่ คุณแชมป์ เรื่องพวกนี้ก็ไม่ต้องให้คุณมาคอยเปลืองใจแล้ว”
นรมนกลับยิ้มขึ้นมา ยิ้มได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนั้น ยิ้มได้สวยขนาดนั้น จนชั่วขณะหนึ่งทำให้แชมป์รู้สึกว่าไม่รู้จะทำยังไงแล้ว แล้วก็กลับมีความนับถืออย่างบอกไม่ถูก
“ขอบคุณคุณมาก”
สำหรับการขอบคุณของแชมป์นั้นนรมนไม่ได้มีความสนใจ หลังจากที่ทั้งสองคนได้ทำสัญญาต่อกันแล้ว นรมนก็ให้แชมป์เตรียมรถไว้ล่วงหน้าให้พร้อมก่อน
แชมป์ขับรถจากไปแล้ว กานต์ดูผ่านโดรนได้อย่างชัดเจน แล้วก็ร้อนรนอย่างกับอะไรดี
“คุณบุริศร์ คุณรีบไปตามตำแหน่งที่ผมให้คุณเร็ว หม่ามี้โดนแชมป์พาตัวไปแล้ว”
ข้างในใจของบุริศร์ก็ร้อนใจมากเช่นกับ แต่ว่าตอนนี้เขากลับมีความสงบนิ่งเล็กน้อย
“แชมป์ทำอะไรกับหม่ามี้ของเธอหรือเปล่า?”
“ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ทั้งสองคนพูดคุยกับไปครู่หนึ่ง ผมก็ได้ยินไม่ชัด เหมือนกับว่าหม่ามี้จะเป็นฝ่ายอยากจะขึ้นรถไปเอง แล้วจากนั้นพวกเขาก็ไปเลย”
กานต์รู้สึกว่าสมองของหม่ามี้จะต้องเสียไปแล้วแน่ ๆ หรือว่ายังไม่รู้สถานะที่แท้จริงของแชมป์อีกเหรอ?
แต่ว่า ไม่น่าเป็นไปได้นี่!
“คุณบุริศร์ คุณเร็ว ๆ หน่อย คุณมัวแต่ชักช้าอะไรเนี่ย”
“หุบปาก! ฉันยังไม่ต้องการให้เธอมาสั่งว่าฉันจะต้องทำอะไรบ้าง”
ในวินาทีนี้ในใจของบุริศร์กำลังคำรามอยู่
เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ ถ้าไม่เพราะเขาใช้แก๊สน้ำตาจนทำให้เขาต้องผลักนรมนถอยออกไปก่อน แล้วนรมนกับแชมป์จะมาเจอกันเข้าได้ยังไงล่ะ?
ตอนนี้เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ยังกล้ามาร้องโอดครวญอีก ถ้าหากว่าไม่ใช่ว่าสถานการณ์ตอนนี้เร่งรีบ เขาจะต้องจัดการกับเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ดี ๆ สักชุดให้ได้อย่างแน่นอน
บุริศร์พบว่าตอนนี้ปฏิบัติต่อกานต์ยิ่งอยู่ก็ยิ่งโอนเอียงไปทางใช้กำลังแล้ว
ที่จริงแล้วก็ไม่มีทาง ก็ลูกชายคนนี้ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำแล้ว
แน่นอนว่ากานต์ต้องฟังเสียงที่กัดฟันกรอกของบุริศร์ได้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นกังวลอยู่บ้าง แต่ว่าก็ยังหุบปากไปเลย
“เอาตำแหน่งมาให้ฉัน ติดตามหม่ามี้ของเธอไว้ให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องอื่นเธอไม่ต้องสนใจแล้ว”
น้ำเสียงของบุริศร์นั้นอดกลั้นไว้เยอะแล้ว
กานต์รับคำ อ๋อ ทีหนึ่ง แล้วก็เอาตำแหน่งส่งออกไปอย่างรวดเร็ว
บุริศร์มองดูรถวิ่งไปตามเครื่องนำทาง แล้วอยู่ ๆ กลับนึกอะไรขึ้นมาได้
“ทางฝั่งกมลเป็นยังไงบ้างแล้ว? ไม่ผ่าตัดตอนนี้ยังจะทันเวลาไหม?”
กานต์พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณย่าตัดสินใจกะทันหันว่าให้กมลอยู่ที่บ้านเก่าตระกูลโตเล็กก่อน รอให้คุณกลับไปก่อนค่อยคุยเรื่องผ่าตัด ถ้าหากว่าคุณไม่กลับไปก็จะให้กมลรออยู่ก่อน แต่ว่าผมดูอาการของกลมแล้วเหมือนจะไม่ค่อยดี แด๊ดดี้ ถ้าคุณกับหม่ามี้ไม่รีบกลับมาแล้วละก็ กมลจะเป็นยังไงบ้าง? ผมกลัวว่าเธอ……”
“อย่ากลัว ฉันจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุด”
ใจของบุริศร์จะเป็นสุขได้อย่างไร?
ด้านหนึ่งคือภรรยาของตัวเอง อีกด้านหนึ่งคือลูกสาวของตัวเอง ไม่ว่าจะยังไง เขาก็เลือกยากทั้งนั้น ถ้าหากว่าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะให้ปลอดภัยทั้งสองด้านจริง ๆ แต่ว่าตอนนี้จะสามารถทิ้งนรมนไว้ไม่สนใจ แล้วตัวเองกลับไปช่วยกมลคนเดียวได้เหรอ?
เห็นได้ชัดว่าคำตอบมันคือไม่มีทางเป็นไปได้!
ในใจของบุริศร์กำลังแบบรับกับความทุกข์ทรมาน ทางด้านนรมนเองก็มีความกังวลใจอยู่เล็กน้อย
เธอเองก็นึกถึงกมลแล้ว
และในเวลานี้ วิทยุสื่อสารบนตัวเธอก็ดังขึ้นมา
นรมนมองแชมป์ทีหนึ่ง แล้วก็เปิดปากพูดขึ้นเบา ๆ ว่า
“ฉันจะฟังได้ไหม?”
“เป็นบุริศร์เหรอ?”
“ไม่รู้ซิ อาจจะใช่มั้ง คุณน่าจะรู้ ถ้าหากว่าไม่ใช่คุณ ตอนนี้บุริศร์ก็น่าจะอยู่ที่เมืองชลธีและทำการผ่าตัดให้ลูกสาวฉันแล้ว ลูกสาวของฉันตั้งแต่เกิดมาก็ร่างกายไม่แข็งแรง ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลมาตลอด แม้แต่ไก่ทอดKFCของข้างนอกหน้าตาเป็นยังไงก็ยังไม่รู้เลย ตอนนี้เธอเกือบจะห้าขวบแล้ว แต่ว่าทุกวันกลับรู้แค่ว่าที่โรงพยาบาลมีห้องผู้ป่วยกี่ห้อง มีหมอกี่คน สำหรับโลกที่อยู่ภายนอกโรงพยาบาลแล้วนั้น เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด เธอรอคอยมาห้าปี ในที่สุดก็สามารถรอคอยให้พ่อของตัวเองมาบริจาคไตให้เธอข้างหนึ่งได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้พ่อของเธอเองกลับจะรีบกลับไปไม่ได้ หมอบอกว่าร่างกายของเธอเกือบจะอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว”
นรมนไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องพวกนี้กับแชมป์เลย เพียงแต่ว่าเธอเป็นห่วงกมลมากจริง ๆ
พอแชมป์ได้ยินเธอพูดแบบนี้แล้ว ก็เหยียบเบรกอย่างแรงทีหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...