บทที่ 287 คุณห้ามตีหม่ามี้ของผม
การปรากฏตัวมาของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกดีใจขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
เธอคิดไม่ถึงว่าบุริศร์จะมาเร็วขนาดนี้ แต่ว่าสีหน้าของป้าโอกลับดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้ว
“แชมป์!”
เขาร้องขึ้นคำหนึ่ง
แชมป์มีความไม่ค่อยพอใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังคงมาขวางอยู่ตรงหน้าบุริศร์
“บุริศร์ นายจะผ่านไปไม่ได้”
มองดูเพื่อนร่วมรบเก่าที่อยู่ตรงหน้านี้ ดวงตาของบุริศร์ก็มีความขมขื่นขึ้นมาเล็กน้อย
“นายก็เลือกที่จะยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับฉัน นายควรจะรู้ ขอแค่นายพูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นความยากลำบากแบบไหนฉันก็จะช่วยนายทั้งนั้น ทำไมต้องทำแบบนี้? หรือว่านายเชื่อเขาแต่ไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ?”
สำหรับการถามของบุริศร์ทำให้แชมป์รู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เขาพูดขึ้นเสียงต่ำว่า “เรื่องของฉัน ฉันจะจัดการเอง”
“นี่เป็นเรื่องของนายเองเหรอ? ตอนนั้นที่พี่สะใภ้หย่ากับนาย นายเคยพูดอะไรกับฉันไว้? แล้วตอนนี้นายมาบอกว่าเป็นเรื่องของนายเองเหรอ? ในเมื่อเป็นเรื่องของนายเอง ทำไมนายจะต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัวเราด้วย? แชมป์ อยู่ในใจของนายตกลงฉันถือเป็นตัวอะไร?”
บุริศร์รู้สึกผิดหวังแล้วจริง ๆ
แชมป์เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับเขามาหลายปีขนาดนี้ แต่วันนี้กลับมามีสภาพแบบนี้
ป้าโอดูท่าทางของพวกเขา มองดูแชมป์ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็มีสั่นคลอนอยู่บ้าง แล้วรีบพูดขึ้นว่า “แชมป์นายลองคิดถึงลูกชายของนายดู นายรับปากลูกชายไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะพาเขาออกนอกประเทศนะ”
“คุณหุบปากไปเลย!”
บุริศร์ตะคอกใส่ป้าโอไปโดยตรงเลย
พอตะคอกขึ้นแบบนี้ก็ทำให้ป้าโอตกใจจนตัวสั่น
หลายปีมานี้ เหมือนกับว่าเธอจะไม่เคยเห็นบุริศร์ปฏิบัติอย่างนี้กับเธอมาก่อนเลย
“ฉันเป็นแม่แกนะ!”
“คุณคู่ควรเหรอ?”
ข้างในดวงตาของบุริศร์นั้นเป็นสีแดงสดแล้ว
“ถ้าหากว่าเลือกได้แล้วละก็ ผมยินยอมที่จะเอาเลือดเนื้อและกระดูกของทั้งตัวนี้คืนให้กับคุณ ก็ไม่อยากจะมีแม่แท้ ๆ ที่เป็นคนบ้าคลั่งอย่างคุณ!”
คำพูดประโยคนี้ของบุริศร์นั้น เหมือนกับมีดที่แหลมคมเล่มหนึ่งทิ่มแทงเข้าไปในกลางอกของป้าโอ
“แก แก แก……”
เขาโกรธจนตัวสั่นไปทั้งตัว แล้ววินาทีต่อมาก็พูดกับแชมป์ขึ้นว่า “ถ้าหากว่าวันนี้นายสกัดบุริศร์เอาไว้ไม่ได้ ชาตินี้ทั้งชาตินายก็อย่าหวังว่าจะได้เจอกับลูกเมียของนายอีกเลย!”
ดวงตาของแชมป์ขัดขืนไปขึ้นเล็กน้อย แล้วก็รวดขึ้นมาสกัดบุริศร์เอาไว้
“ลงมือเถอะ คุณก็รู้ ว่าผมไม่มีทางเลือก”
บุริศร์มองแชมป์เหมือนกับว่ามีความผิดหวังอยู่บ้าง เหมือนอยากจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
นรมนเห็นว่าพวกเขาเป็นแบบนี้ แล้วอยากจะเดินขึ้นไป แต่กลับโดนธิดาสกัดกั้นเอาไว้
“คุณนรมน เข้าไปข้างในกับพวกเราเถอะ อย่าลืมนะคะ ชีวิตของกลมยังอยู่ในกำมือของพวกเราอยู่”
สำหรับนรมนแล้ว ธิดานั้นมีความโกรธอยู่บ้าง
ถ้าหากไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ เธอก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะลูกของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา นาวินก็คงจะไม่ต้องตาย ตอนนี้เธอก็ตาบอดไปข้างหนึ่ง และทุกวันก็ต้องเป็นเหมือนกับหนูที่วิ่งข้ามถนนโดนคนคอยไล่อยู่ตลอด ถ้าหากว่าไม่ใช้ป้าโอที่รับเขาเอาไว้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดีแล้ว
ถึงแม้ว่านาวินจะมีความผิดมากมาย แต่ว่าก็เป็นคนที่เขาชอบที่สุด แต่ว่ากลับเป็นเพราะนรมนก็เลยทำผิดใจต่อบุริศร์ ทุกวันนี้ก็เลยได้รับจุดจบที่ไม่ดี
ในตอนที่เขาเห็นนรมนนั้น ธิดาไม่ได้บดบังความเกลียดของตัวเองเลยสักนิด ความเกลียดที่โจ่งแจ้งแบบนั้นทำให้นรมนรู้สึกแปลกใจและงุนงง
“ฉันกับคุณไม่ได้มีความแค้นอะไรต่อกันมั้ง? แต่กลับเป็นคุณเอง ที่ลักพาตัวลูกชายของฉันไป แต่ตอนนี้กลับมามีท่าทางอย่างกับว่าฉันติดค้างคุณยังไงอย่างงั้น ธิดา ตกลงคุณกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่?”
คำพูดของนรมนทำให้ธิดายิ่งรู้สึกโกรธแล้ว
“ไม่รู้เหรอ? ดวงตาคู่นี้ของฉัน โดนลูกชายของคุณเป็นคนทำให้บอด!”
“นั่นเป็นเพราะว่าคุณหาเรื่องใส่ตัวเอง ถ้าหากว่าคุณไม่ลักพาตัวลูกชายของฉัน ไม่คิดที่จะฆ่าเขา แล้วเขาป้องกันตัวเองจนทำร้ายคุณได้ยังไงกัน? ทำเรื่องชั่วมาก ๆ ก็จะต้องตาย ฉันขอเตือนคุณนะเป็นคนให้ดี ๆ หน่อย”
นรมนไม่ได้กลัวเลยสักนิด
มีบุริศร์อยู่ที่นี่ด้วย เธอรู้สึกว่าถึงแม้จะต้องต่อกรกับป้าโอยัยแก่ชั่วคนนี้ก็ไม่เพียงพอให้เธอต้องกลัวอะไร
ธิดาโกรธจนฝ่ามือเหวี่ยงตบลงบนหน้าของนรมน และพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “คุณหุบปากให้ฉันเดี๋ยวนี้! ทางที่ดีที่สุดในตอนที่ฉันยังควบคุมตัวเองได้นี้ อย่ามาแหย่ฉัน ไม่งั้นละก็ ฉันจะให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติของการสูญเสียดวงตาข้างหนึ่งว่ามันเป็นยังไง!”
สำหรับเรื่องพวกนี้ป้าโอแค่มองอย่างเย็นชาอยู่เท่านั้น และยังพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ขอแค่มันยอมมอบแหวนออกมา อยากจะทรมานยังไงก็แล้วแต่เธอ อย่าลืมล่ะ ที่นาวินตายก็เพราะว่าธรณีเป็นคนทำให้ตาย และมันเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ธิดา มีความโกรธระบายความโกรธ มีความแค้นก็ชำระความแค้น ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะว่ามันมีตัวตนอยู่ เธอก็อาจจะได้เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้วไม่ใช่เหรอ?”
พอโดนป้าโอยุแยงแบบนี้แล้ว ความโกรธของธิดาก็พุ่งขึ้นมาถึงขีดสุดแล้ว
ถึงแม้ว่านรมนจะไม่กลัวตาย แต่ว่าตอนนี้บุริศร์และแชมป์กำลังต่อสู้กันอยู่ และตอนนี้ป้าโอกับธิดาอยากจะจัดการเธอให้ตายนั้นก็ง่ายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือซะอีก
จะทำยังไงดีล่ะ?
หรือว่าตัวเองจะต้องมารอให้พวกเขาย่ำยีอย่างเชื่อฟังงั้นเหรอ?
ดวงตาของนรมนขรึมลงไปเล็กน้อยทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงต่ำว่า “คุณก็แค่อยากจะได้แหวนใช่ไหม? ฉันจะพาคุณไปเอาก็ได้ แต่ว่าคุณห้ามทำร้ายฉัน ตอนนี้สิ่งที่ฉันให้ความสำคัญที่สุดก็คือใบหน้านี้แล้ว”
พูดแล้ว เธอก็ลูบใบหน้าของตัวเองเล็กน้อย ท่าทางเหมือนกับว่าทะนุถนอมมากจริง ๆ
ป้าโอพูดขึ้นเสียงเย็น “หน้าปลอมทั้งหน้า มีอะไรให้ต้องสนใจกัน”
“แต่นั่นก็เป็นหน้าของฉัน เมื่อห้าปีก่อนฉันได้สูญเสียใบหน้าของตัวเองไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ใบหน้านี้แล้ว ฉันไม่อาจให้ลูกของฉันจำฉันไม่ได้เด็ดขาด”
นรมนพูดเหมือนกับว่ารู้สึกกลัวมาก เหมือนอย่างกับว่ายอมประนีประนอมแล้วจริง ๆ
ป้าโอนั้นเคยตรวจสองนรมนมาแล้ว เธอไม่ได้มีฝีมืออะไร ทุกวันนี้ก็เป็นแค่ผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อเทียบกับธิดาแล้ว นรมนนั้นเทียบไม่ได้สักนิด
ป้าโอมองธิดาแล้วพูดขึ้นว่า “เธอตามไปเอากับมัน ถ้าหากว่ามันไม่ให้ความร่วมมือใด ๆ แล้วละก็ ฆ่ามันทิ้งโดยตรงได้เลย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้แหวนมา ฉันก็จะไม่ให้ผู้หญิงคนนี้ได้เฉิดฉายอยู่นานเกินไปแน่”
คำพูดพวกนี้ ป้าโอไม่ได้พูดอย่างคิดจะหลีกเลี่ยงนรมนเลยสักนิด แต่กลับเห็นได้ชัดว่า ขอแค่ให้แหวนตกมาถึงมือ ป้าโอก็ไม่สนใจแล้วว่าเธอจะอยู่หรือตายเลยสักนิด
หัวสมองของนรมนหมุนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ตกลงตัวเองควรจะทำยังไงดีถึงจะหนีออกไปได้ล่ะ?
และในเวลานี้พอดี โดรนลำหนึ่งที่อยู่บนท้องฟ้าก็บินมาพอดี
นรมนมีความดีใจขึ้นมาทันที
นั่นคือกานต์!
สีหน้าของป้าโอกลับดูไม่ดีขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
“นี่คงจะเป็นของเล่นที่หลานของฉันชอบเล่นละมั้ง ถ้าหากว่าเขาเป็นเด็กดีเชื่อฟังไม่เป็นปกปักกับฉัน ฉันก็สามารถทำให้เขากลายเป็นผู้สืบทอดคนต่อไปของตระกูลโตเล็กได้ เป็นยังไง?”
คำพูดพวกนี้ของป้าโอพูดออกไปกับโดรน เขารู้ว่ากานต์สามารถมองเห็นเขาได้จากกล้องของโดรนนี้
กานต์ถุยใส่ป้าโอโดยตรงเลยคำหนึ่ง เสียงที่อ่อนหวานของเด็กนั้น ทำให้มุมปากของนรมนอดไม่ได้ที่จะค่อย ๆ คลี่ขึ้นมา
“ถุย! ผู้หญิงแก่ที่รังเกียจอย่างคุณยังจะให้ผมไปเป็นหลานของคุณ คุณมีเกียรติมากแค่ไหนกัน? ผมจะบอกอะไรให้นะ ผมมีคุณย่า คุณย่าของบ้านเรานั้นมีเมตตามาก คุณมาเทียบกับคุณย่าของผมนั้น อะไรก็ไม่ใช่สักนิด แม้แต่รับใช้เธอคุณก็ยังไม่คู่ควรเลย!”
คำพูดพวกนี้ของกานต์นั้นถือได้ว่าทำให้จิตใจคนมีความสุขมากเลย
มุมปากของนรมนคลี่ยิ้มออกอีกครั้ง ป้าโอก็โกรธจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
“กานต์ เจ้าเด็กป่าเถื่อน แกรู้ไหมว่า ฉันต่างหากที่เป็นย่าแท้ ๆ ของแก!”
ระหว่างที่บุริศร์กำลังต่อสู้กับแชมป์อยู่นั้น ก็พูดขึ้นกับกานต์ว่า “พาหม่ามี้หนีไป! อย่ามัวพูดไร้สาระกับเขา ความสามารถของโดรนนั้นมีเยอะมาก ถ้าไม่ได้แล้วละก็ทำให้เขาสลบไปเลย”
คำพูดนี้ทำให้ป้าโอโกรธจนตัวสั่นขึ้นมาทั้งตัว
“บุริศร์ ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันปฏิบัติกับแกมายังไง? ตอนนี้แกกลับให้ลูกชายมาทำอย่างนี้กับฉันเหรอ? แกนี่มันไอ้ลูกทรพี! แกไม่กลับฟ้าผ่าเลยเหรอ?”
บุริศร์หือเสียงเย็นทีหนึ่ง ขี้เกียจที่จะพูดอะไรกับป้าโอแล้ว
นรมนถือโอกาสนี้รีบร้อนวิ่งหนี แต่กลับโดนธิดามาขวางทางเอาไว้โดยตรง
“คุณนี่คิดได้จริง ๆ เหรอว่าจะสามารถหนีออกไปจากใต้ตาของฉันได้?”
ธิดาที่สูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่งกลับยิ่งดูดุร้ายมากยิ่งขึ้น กับเมื่อก่อนที่เป็นบอดี้การ์ดให้นรมนนั้นแทบจะไม่ใช่คนคนเดียวกันเลย
นรมนจ้องมองธิดา และประเมินความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะหนีรอดออกไปจากข้างกายเธอนั้นมีความเป็นไปได้มากแค่ไหน และก็ในเวลานี้ เสียงที่อ่อนหวานเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา
“พวกคุณก็แค่อยากจะได้แหวนของหม่ามี้ผมไม่ใช่เหรอ? ผมรู้ว่าอยู่ที่ไหน ผมพาพวกคุณไปเอาเอง!”
อยู่ ๆ กานต์ก็ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ จนทำให้บุริศร์และนรมนตกใจจนตัวสั่นไปเลย
“กานต์ ลูกมาได้ยังไงกัน? รีบหนีไปเร็ว!”
นรมนตกใจจนหัวใจเต้นตูมตามแล้ว
เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ ตกลงรู้จักไหมว่า อะไรที่เรียกว่าจิตใจคนนั้นน่ากลัว?
กานต์ใส่กางเกงเอี๊ยมไว้ และใส่หมวกแฟลตแค๊ปกลับด้านเอาไว้ ในปากยังอมอมยิ้มไว้อันหนึ่ง และไม่ได้สนใจการต่อสู้ระหว่างบุริศร์และแชมป์เลยสักนิด แต่ว่ากลับยืนอยู่ที่นั่นโดยตรง จ้องมองธิดาและป้าโอแล้วพูดขึ้นว่า “ก็แค่แหวนเสีย ๆ วงหนึ่งไม่ใช่เหรอ? พวกคุณอยากจะได้ก็ให้พวกคุณไปเลย แต่ว่าพวกคุณจะต้องปล่อยหม่ามี้ของผมไปก่อน!”
“กานต์!”
นรมนรู้สึกว่ากานต์นั้นเล่นมั่วซั่วไปแล้ว
นี่มันเวลาไหนแล้ว ทำไมเขายังโผล่มาอีก?
ป้าโอเห็นว่ากานต์รูปร่างไม่ได้สูงนัก แต่หน้าตากลับเหมือนกับบุริศร์เป็นอย่างมาก ทำไมเมื่อก่อนไม่ได้รู้สึกว่าเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่จะเหมือนกับบุริศร์ขนาดนี้เลยล่ะ?
ป้าโอในตอนนี้กลับตั้งใจยิ้มให้ดูมีเมตตาขึ้น แล้วพูดกับกานต์ว่า “กานต์ ฉันเป็นย่าแท้ ๆ ของเธอ จริง ๆ นะ ขอแค่เธอเอาแหวนมาให้ย่า ย่าก็จะปล่อยหม่ามี้ของเธอไป ดีไหมจ๊ะ?”
ทำไมนรมนจะไม่รู้ว่าในใจของป้าโอนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ล่ะ?
เธอรีบร้อนพูดขึ้นว่า “กานต์ อย่าตอบตกลงกับเขานะ หนูรีบหนีไป! ไปเร็ว! หม่ามี้ไม่ต้องการให้หนูมาช่วย! หนูรีบไปจากที่นี่ซะ!”
กานต์กลับมองไปที่ป้าโอ แล้วถามขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “แค่เอาแหวนให้คุณ คุณก็จะปล่อยหม่ามี้ของผมไปจริง ๆ ใช่ไหมครับ ?”
“แน่นอน”
ป้าโอตอบคำถามได้อย่างรวดเร็ว
กานต์มองบุริศร์แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้างั้น แล้วแด๊ดดี้ของผมล่ะ?”
“ฉันจะไม่ทำอะไรแด๊ดดี้ของเธอหรอก เพียงแต่แค่สกัดเขาไว้ก่อนชั่วคราวเท่านั้น แค่ไม่ให้เขาไปพร้อมกับพวกเราก็พอแล้ว ฉันกับแด๊ดดี้ของเธอมีเรื่องผิดใจกันนิดหน่อย เรื่องราวระหว่างผู้ใหญ่นั้นคลี่คลายกันได้ง่าย ๆ อยู่แล้ว ขอแค่หนูเอาแหวนมาให้ย่า ย่ารับรองว่า ทั้งแด๊ดดี้และหม่ามี้ของหนูจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้นจ้ะ”
“กานต์ หนูอย่าไปฟังเขา! เขาเป็นยัยเฒ่าจอมหลอกลวงคนหนึ่ง ไม่มีทางพูดความจริงหรอก!”
นรมนร้อนใจจนจะตายอยู่แล้ว ตอนนี้บุริศร์เองก็ปลีกตัวและปากออกมาคุยอะไรกับกานต์ไม่ได้ เพียงแต่แค่อยู่ ๆ ก็อยากจะจัดการกับไอ้คนที่พากานต์มาถึงที่นี่คนนั้นสักยกหนึ่ง
ป้าโอได้ยินคำพูดของนรมน ก็ส่งสายตาให้สัญญาณกับธิดาทีหนึ่ง แล้วธิดาก็ต่อยลงที่ท้องของนรมนหนึ่งหมัดเลย
นรมนเจ็บจนต้องรีบงอตัวลงไปทันที
“หม่ามี้! คุณห้ามตีหม่ามี้ของผมนะ! แหวนของหม่ามี้อยู่ที่ไหน มีแต่ผมเท่านั้นที่รู้ ถ้าพวกคุณยังตีหม่ามี้ของผมอีก ผมก็จะไม่ให้พวกคุณแล้วนะ ผมจะโยนมันทิ้งไปเลย”
เห็นได้ชัดว่ากานต์นั้นโกรธมากแล้ว
มองเห็นท่าทางที่นรมนโดนตี กานต์ก็โกรธจนเป็นฟืนเป็นไฟแล้ว
นี่มันช่างไม่มีเหตุผลเลย!
กล้าตีหม่ามี้ของเขา คนพวกนี้นี่มีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วใช่ไหม?
ป้าโอเห็นว่ากานต์เป็นห่วงความปลอดภัยของนรมนเป็นอย่างมาก ก็ดีใจขึ้นมาทันที สำหรับเขามาพูดแล้วนั้น ไม่ว่ายังไงกานต์ก็ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเจ้าเล่ห์อยู่บ้าง แต่ไม่ว่ายังไงก็เทียบกับผู้ใหญ่ไม่ได้ เมื่อเทียบกับการยืดเยื้ออยู่กับนรมนที่นี่ และรอให้บุริศร์จัดการกับแชมป์จนพ่ายแพ้ไปนั้น ทำไมไม่ใช้ช่วงเวลานี้ให้กานต์พาตัวเองไปตามหาแหวน ยังจะดีซะกว่าอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
ตอนต่อไปจนจบ หาอ่านได้ที่ไหนคะ...