แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 288

บทที่ 288 เธอทำตัวให้มันซื่อสัตย์กับฉันหน่อย

นรมนโดนธิดาต่อยจนรู้สึกแทบจะหายใจไม่ออก ในตอนที่ยังอยากจะพูดอะไรนั้น ก็โดนธิดาควบคุมตัวไว้จากข้างหลังแล้ว

เธอเจ็บจนรู้สึกไม่สบาย แต่กลับยังคงอยากจะสกัดกั้นกานต์เอาไว้

เจ้าเด็กที่ทำให้ตระกูลเสื่อมเสียนี่ นี่จะมาเพิ่มความวุ่นวายอีกเหรอ?

ตกลงใครเป็นคนพาเขามากันแน่?

นรมนเจ็บจนไม่สบายตัว บุริศร์เองก็ไร้เรี่ยวแรงที่จะแยกร่างออกมาได้ ตอนนี้ความหวังทั้งหมดของป้าโอฝากไว้บนตัวกานต์แล้ว

“ตอนนี้สามารถพาเราไปตามหาแหวนได้หรือยัง? ถ้าหากว่าแหวนอยู่ที่เมืองชลธีแล้วละก็ งั้นก็ไม่ค่อยดีแล้วนะ”

แน่นอนว่าป้าโอรู้อยู่แล้วว่าทางด้านเมืองชลธีนั้นมีคนวางกับดักไว้รอจับเธอทั่วทุกทิศอยู่แล้ว เธอไม่มีทางที่จะโง่ตามกานต์ไปหรอกนะ

กานต์กลับส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่อยู่แล้ว แหวนอยู่ที่นี่แหละ ก่อนหน้านี้ผมเห็นว่าแหวนของหม่ามี้ดูสวยดี ก็เลยเอาออกมาเล่นด้วย แล้วตอนนี้โดนผมซ่อนเอาไว้แล้ว พวกคุณห้ามตีหม่ามี้อีกแล้วนะ ถ้าหากว่าหม่ามี้ของผมได้รับบาดเจ็บอีก ผมรับรองว่าจะไม่มีทางเอาแหวนมาให้พวกคุณแน่”

พูดไปแล้วปากเล็ก ๆ ของเขาก็จู๋ขึ้นมา ท่าทางเหมือนกับว่าโมโหมากเหลือเกิน

“ได้ ได้ ได้ ไม่ตีแล้ว ไม่ตีแล้ว”

ป้าโอรีบร้อนส่งสัญญาณให้ธิดา ห้ามไม่ให้ธิดาลงมืออีก

ธิดาจ้องมองนรมนเขม็งทีหนึ่ง แต่ว่าหนึ่งหมัดเมื่อกี้ทำให้เธอรู้สึกว่ารับไม่ไหวขึ้นมาจริง ๆ จนชั่วขณะนี้เธอเปิดปากพูดขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ

หน้าผากของนรมนมีเหงื่อซึมออกมา

กานต์ถามขึ้นอย่างเป็นกังวลว่า “หม่ามี้ หม่ามี้เป็นยังไงบ้างครับ?”

“หม่ามี้ไม่เป็นไร”

เพื่อไม่ให้ลูกชายเป็นห่วง เธอก็พยายามพูดออกมา เพียงแต่ว่าน้ำเสียงยังคงสั่นเทา ท่าทางเหมือนกับว่าไม่เป็นอะไรสักนิดเลย

นัยน์ตาของกานต์ขรึมลงไปหลายเท่าเลย และจ้องมองไปที่ป้าโอแล้วพูดว่า “ถ้ายังแตะต้องหม่ามี้ของผมอีกแม้แต่ปลายนิ้ว ผมก็จะให้คนเอาแหวนโยนทิ้งไปซะ พอถึงเวลานั้นใครก็ไม่มีทางได้เอา”

“ได้ ได้ ได้ หลานรัก รีบพาย่าไปเอาเถอะจ้ะ”

กานต์จ้องมองป้าโอเล็กน้อย เหมือนกับว่ายังคงกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าคำพูดของเขานั้นเชื่อถือได้หรือไม่

แล้วพอดีในเวลานี้ การต่อสู้ระหว่างแชมป์และบุริศร์เหมือนว่าจะมีบทสรุปแล้ว เห็นได้ชัดว่าแชมป์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำแล้ว

ป้าโอไม่สามารถรอได้อีกแล้ว จึงรีบร้อนพูดขึ้นว่า “เธอรีบพาย่าไปเอาแหวนเร็ว ย่าจะส่งเธอกับหม่ามี้กลับบ้านไปเจอกับกมลดีไหมจ๊ะ?”

“จริงเหรอครับ?”

กานต์เอียงหน้าไว้ ท่าทางเหมือนกับว่าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่

“จริงแน่นอนซิจ๊ะ ย่าหลอกคนไม่เป็นหรอกนะ”

“ได้ครับ”

กานต์พยักหน้าเล็กน้อย ถึงได้ฝืนตอบตกลงไป

“ผมจะให้หม่ามี้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วผมไปเอากับคุณดีไหมครับ? จากนั้นเราค่อยกลับมารับหม่ามี้”

เสียงที่เสียงอ่อนเสียงหวานของกานต์ดังขึ้นมา

ในใจของป้าโอแอบยิ้มขึ้น ยังไงก็ยังเป็นแค่เด็กจริง ๆ เมื่อกี้เขายังคิดอยู่เลยว่าจะเกลี้ยกล่อมยังไงให้กานต์ยอมปล่อยนรมนไว้ที่นี่ให้เป็นตัวประกัน แต่ตอนนี้เด็กคนนี้กลับพูดออกมาเอง นี่มันช่างทำให้คนดีใจจริง ๆ เลย

“ได้ ได้ ได้ ฟังเธอหมดเลย”

ตอนนี้ป้าโอเหมือนกับว่าเป็นคนที่จะตอบตกลงได้ทุกอย่าง ถึงกานต์จะพูดว่าจะเอาดวงจันทร์คาดว่าเขาก็คงจะตอบตกลงแน่ แต่ว่าต่อไปจะให้หรือไม่นั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว

ในที่สุดกานต์ก็วางใจแล้ว ถึงได้พยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คุณย่าขับรถได้ไหมครับ? ผมขับรถไม่เป็น หรือไม่ก็ให้ใครคนนั้นขับรถให้พวกเราก็ได้ครับ”

เขาชี้ไปทางธิดา

ป้าโอยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ย่าขับเป็นจ้ะ เธอบอกมาว่าจะไปไหน ย่ามาขับรถเองจ้ะ”

“งั้นก็ไปกันเถอะครับ”

กานต์หมุนตัวขึ้นรถไปก่อนเลย และนั่งลงตรงที่นั่งข้างหลังเลย

“คุณครูบอกว่า เด็กเล็กนั่งที่นั่งข้างคนขับไม่ได้ครับ ผมนั่งข้างหลังดีกว่าครับ”

กานต์ยังคงมีท่าทางเหมือนกับเด็กดีที่เชื่อฟัง นรมนมองจนอยากจะร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก

เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ตกลงกำลังเล่นอะไรอยู่กันแน่?

ตกลงเขารู้ไหมนะว่ามันอันตรายแค่ไหน

ป้าโอกลับรู้สึกพอใจกับตัวกานต์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก นี่ถึงจะเป็นท่าทางที่เด็กเล็กควรจะมีซิ

เขายิ้มแฉ่งแล้วขึ้นรถไป จากนั้นก็มองธิดาเล็กน้อย ท่าทีที่เห็นได้ชัดว่า ให้ธิดาจับตาดูนรมนไว้ให้ดี หรือว่าในตอนที่จำเป็นก็ให้ฆ่า นรมนทิ้งซะ

แน่นอนว่านรมนก็มองความหมายในดวงตาของเขาออกแล้ว ตอนนี้คนที่เป็นห่วงมากที่สุดคือกานต์

“กานต์!”

นรมนอยากจะตามไปด้วย แต่กลับโดนธิดาดึงรั้งเอาไว้เลย

“คุณทำตัวให้มันซื่อสัตย์กับฉันหน่อย!”

แรงที่มือของธิดานั้นเยอะมาก และยังไม่อ่อนโยนเลยสักนิด นรมนรู้สึกแต่เพียงว่ามือของตัวเองนั้นจะหักอยู่แล้ว แต่ว่าเธอยังคงขัดขืนอยู่ตลอด

ในเวลานี้นรมนถึงได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นช่างไร้ความสามารถมากจริง ๆ เลย

ตอนนี้ลูกชายต้องเผชิญหน้ากับอันตราย แต่ว่าเธอกลับยังคงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี สถานการณ์ในตอนนี้เธอแทบจะอยากจะเหยียบตัวเองให้ตายจริง ๆ แล้ว

บุริศร์เสียสมาธิเพราะว่าเรื่องของกานต์ แล้วในตอนนี้แชมป์ก็เหวี่ยงหมัดซ้ายใส่จนเขาล้มลงไปกับพื้น ที่จมูกก็มีเลือดไหลออกมาทันที

“บุริศร์!”

นรมนรีบร้องตะโกนขึ้นมาทันที

ธิดาก็ยังคงควบคุมตัวเธอไว้เช่นเดิม ยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นว่า “รอดูไปเถอะ มีอะไรให้พวกคุณได้รู้สึกดี ๆ แน่ ตอนนี้พวกคุณดื่มด่ำกับความรู้สึกก่อนตายไปก่อนสักหน่อยเถอะ”

นรมนขัดขืนไม่หลุด แล้วจึงพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “คุณไม่มีทางมีจุดจบที่ดีแน่ ๆ ฉันจะรอให้พระเจ้ามารับตัวคุณไปแน่”

“คนที่ไม่มีความสามารถต่างก็พูดแบบนี้ แต่ว่าพระเจ้าอยู่ที่ไหนกันล่ะ? ถ้าหากว่าพระเจ้ามีอยู่จริง ๆ ละก็ หลายปีมานี้ฉันกับนาวินต้องทนลำบากขนาดนี้ได้ยังไงกันล่ะ? คุณที่เป็นคุณหนูใหญ่ ไม่มีทางเข้าใจความยากลำบากของพวกเราอยู่แล้ว แต่ว่าพอพวกเราแค่มีความหวังขึ้นมานิดหน่อย คุณก็มาทำให้มันดับสูญไปแล้ว นรมน คนแบบคุณนี้ไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าทำไมพวกเราถึงต้องดิ้นรน”

ท่าทีของธิดาดูดุร้าย หรือแม้กระทั่งยังมีความน่าเกลียดขึ้นมาบ้างแล้ว

นรมนไม่อยากจะเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว คนแบบนี้ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขาไม่มีทางฟังเข้าไปแน่นอน

บางทีตั้งแต่วินาทีที่นาวินตาย เขาก็ไม่ใช่ตัวเองที่เป็นคนเดิมอีกต่อไปแล้ว

นรมนมองไปที่บุริศร์อย่างร้อนรน หลังจากที่บุริศร์โดนแชมป์ต่อยจนล้มไปแล้วนั้น ตัวทั้งตัวก็รู้สึกไม่สบายมากขึ้นมาทันที แต่กลับไม่มีเวลาอะไรมาให้เขามาผ่อนคลายการโจมตีลงเลย การโจมตีของแชมป์มาถึงตรงหน้าแล้ว

บุริศร์ทำได้แค่เริ่มป้องกันตัวเท่านั้น

นรมนมองจนหัวใจเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่ากานต์จะพาป้าโอไปถึงที่ไหนแล้ว

เจ้าเด็กตัวเหม็นคนนั้นจะรู้ที่ไหนว่าแหวนของเธออยู่ที่ไหน เห็นได้ชัด ๆ ว่าขุดหลุมไปให้ป้าโอตกลงไปเท่านั้น

คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ว่าเธอเป็นแม่ของเขา ทำไมจะไม่รู้ว่าทุกครั้งก่อนที่กานต์จะทำเรื่องไม่ดีนั้นจะแสร้งทำตัวเป็นคนใสซื่อมากก่อนเสมอ

ท่าทางที่ใสซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของเจ้าเด็กตัวเหม็นเมื่อกี้ ไม่เข้ากับเขาเลยสักนิด

นรมนรู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก แต่กลับตามไปด้วยไม่ได้

แต่ว่ากานต์ที่อยู่ข้างหน้ากลับยังคงอมอมยิ้มอยู่ และพูดกับป้าโอที่ขับรถอยู่ว่า “คุณย่า คุณเป็นคุณย่าแท้ ๆ ของผมจริง ๆ เหรอครับ?”

“แน่นอนซิ”

ป้าโอโดนคำเรียกว่าคุณย่าของกานต์ทำให้รู้สึกสบายใจมาก

นี่มันเป็นของตัวเองก็ต้องเป็นของตัวเอง เลือดเนื้อแท้ ๆ ยังไงก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ดูซิ กานต์ที่เมื่อกี้ยังเย็นชาและเยือกเย็นกับเธออยู่ ตอนนี้กลับเรียกคุณย่าได้อย่างสนิทสนมขนาดนี้แล้ว?

ป้าโอรู้สึกว่าตัวทั้งตัวก็ล่องลอยขึ้นมาแล้ว

“แต่ว่าทำไมที่ตระกูลโตเล็กยังมีคุณย่าอีกคนละครับ?”

กานต์ถามอย่างมีความสงสัยเป็นอย่างมาก

สีหน้าของป้าโอดูเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย

“คนคนนั้นเป็นคนหลอกลวง เธออย่าไปฟังเขานะ รู้ไหม?”

“อ๋อ! แต่ว่าเขาดีกับหม่ามี้มากเลยนะครับ! แล้วก็ดีกับผมและกมลมากด้วย ไม่เคยตีพวกเรามาก่อนเลยนะครับ”

คำพูดของกานต์ทำให้ป้าโอรู้สึกอับอายขึ้นเล็กน้อย และพอคิดถึงเรื่องที่ตัวเองเคยทำกับกานต์ไว้ ป้าโอยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “ต่อไปย่าก็จะไม่ตีเธอแล้วดีไหม? ขอแค่เธอเชื่อฟังคำพูดของย่าดี ๆ เธออยากได้อะไรย่าก็จะซื้อให้เธอหมดเลย”

“จริง ๆ เหรอครับ?”

“แน่นอนซิจ๊ะ!”

“งั้นแหวนวงนั้นคุณก็เอาให้ผมเลยซิ ผมชอบมันมากเลยนะครับ”

พอคำพูดนี้ของกานต์พูดออกไป ปากของป้าโอก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย แต่ว่ายังคงยิ้มอยู่ “เธอยังเป็นเด็กคนหนึ่งอยู่เลย จะมาใส่แหวนทำไมกัน รอให้เธอโตแล้ว ย่าก็จะซื้ออันสวย ๆ ให้เธอเองแหละ”

“แต่ว่าผมดูเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่โรงเรียนอนุบาลของผมเอาไว้แล้ว และเธอก็สวยมาก ๆ ด้วย ผมกะว่าจะเอาแหวนวงนี้มอบให้กับเธอ ตอนนี้คุณย่าเอาให้ผมก่อน พอผมโตแล้ว คุณย่าก็ซื้ออันสวยกว่าให้ผมอีกอันซิครับ”

กานต์กัดอมยิ้มไว้ และพูดด้วยสีหน้าจริงจัง

ป้าโอรู้สึกว่าเด็ก ๆ ในตอนนี้ฉลาดเป็นกรดแล้ว

นี่แค่ตัวโตแค่ไหนเอง ก็มีคนที่ชอบแล้วเหรอ?

แต่ว่าเธอก็พูดอย่างดีใจว่า “ได้ ขอแค่อันที่เธอชอบ อันที่เธออยากได้ ต่อไปย่าก็จะซื้อให้เธอหมดเลย”

“คุณย่าดีจังเลยครับ”

กานต์ยิ้มอย่างเจิดจ้าเป็นพิเศษ แต่ว่าอยู่ ๆ ก็กุมท้องแล้วพูดขึ้นว่า “โอ๊ย โอ๊ย คุณย่า คุณย่าจอดก่อนครับ ผมปวดฉี่ครับ!”

มุมปากของป้าโอกระตุกขึ้นสองทีและหุบลง

เจ้าเด็กตัวเหม็นนี่ทำไมเรื่องเยอะจังเลยล่ะ?

“อดทนอีกหน่อยดีไหมจ๊ะ? รอให้ถึงที่ก่อนและเอาแหวนได้แล้ว พวกเราค่อยไปเข้าห้องน้ำกัน”

“แต่ว่าผมอั้นไม่ไหวแล้วนี่ครับ จะฉี่ราดออกมาอยู่แล้ว!”

กานต์หนีบขาทั้งสองข้างไว้แน่น ดูท่าทางแล้วเหมือนกับว่าจะปวดฉี่มากจริง ๆ

ป้าโอทอดถอนใจทีหนึ่ง ในใจพร่ำบ่นว่าวุ่นวายอยู่คำหนึ่ง แล้วถึงได้จอดรถที่ข้างทางลง

กานต์รีบร้อนกระโดดลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว ประตูรถไม่ได้ปิด ก็วิ่งไปอีกข้างหนึ่งเลย

ป้าโอเห็นท่าทางเขาวิ่งอย่างรวดเร็วขนาดนั้น ก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เธอช้า ๆ หน่อย ฉี่แถว ๆ นี้แหละ ไม่ต้องไปไกลมากนะ”

กานต์กลับหันหน้ากลับมา แล้วทำหน้าผีใส่เธอทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “ยัยแก่จอมหลอกลวง คุณอยู่ที่นี่ไปคนเดียวเถอะ”

พอพูดจบแล้วยังแลบลิ้นใส่ป้าโอด้วย

ป้าโอถึงเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าตัวเองโดนหลอกแล้ว โกรธจนอยากจะรีบร้อนลงไปจากรถ แต่กลับพบว่า พอก้นขยับเล็กน้อย ก็เหมือนกับว่ามีอะไรมาติดอยู่ยังไงอย่างงั้น

“เจ้าเด็กตัวเหม็น นี่แกทำอะไรกับฉันนี่?”

ป้าโอโกรธจนร้องจ๊าก ๆ แต่ว่าไม่ว่าเธอจะออกแรงเท่าไหร่ ก็ขยับก้นออกไปไม่ได้

กานต์หัวเราะอยู่ในที่ไม่ไกลอย่างได้ใจ

“ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ก็แค่ทากาวติดหนึบไว้ชั้นหนึ่งเท่านั้นเอง ตอนนี้ถ้าคุณอยากจะลงมาแล้วละก็ ก็สามารถถอดกางเกงออกแล้วมาวิ่งไล่ผมได้เลย แต่ว่าคุณเองก็อายุเยอะขนาดนี้แล้ว ถอดกางเกงออกแล้วคงจะดูไม่ดีเท่าไหร่หรอกมั้ง?”

กานต์พูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ยังไม่ความเป็นเด็กดีเชื่อฟังอย่างเมื่อกี้ซะที่ไหน?

ป้าโอโกรธจนจะมีควันออกหัวแล้ว

“แกรีบมาเอาฉันออกไปนะ!”

“มีสิทธิ์อะไร?”

กานต์ถามขึ้นอย่างใสซื่อ

ป้าโอรู้สึกว่าตัวเองอาจจะโดนกานต์ทำให้โมโหจนตายได้

“ฉันเป็นย่าของแกนะ!”

“คุณย่าของผมอยู่ที่บ้านเก่าของตระกูลโตเล็ก คุณเป็นยัยแก่จอมหลอกลวง ที่มักจะอยากจะเป็นคุณย่าของผม และยังคงอยากจะได้ของของหม่ามี้ของผมอีก คุณนี่ช่างหน้าไม่อายเลยจริง ๆ?”

โดนเด็กสี่ขวบคนหนึ่งด่ากลางถนน นี่มันเป็นความรู้สึกยังไงกันแน่?

ตอนนี้ป้าโออยากจะลงไปมากจริง ๆ และอยากจะไปถอดกางเกงของกานต์ออกกลางถนน แล้วตีให้ก้นเขาเลือดไหลเลย

“กานต์!”

“มาครับ!”

กานต์ยังตอบอย่างมีท่ามีทางไปคำหนึ่ง จนป้าโอโกรธจนแทบจะหายใจไม่ออกเลย

นี่มันเป็นลูกชายของบุริศร์จริง ๆ เหรอ?

บุริศร์และตรินท์ตอนเด็ก ๆ นั้นไม่ได้ซุกซนขนานนี้เลย!

ในขณะที่ป้าโอโกรธจนหูตาจมูกปากแทบจะมีควันออกมาแล้วนั้น ที่รอบข้างก็ไม่รู้ว่ามีรถมาจอดลงสามสี่คันตอนไหน และคนลงมาจากรถมากมาย และแน่นอนว่าคนที่เป็นแกนนำก็คือกิมจิ

“คุณอากิมจิ คุณพายัยแก่จอมหลอกลวงคนนี้ไปเถอะครับ ทางโน้นยังมีปีศาจเล็กอยู่อีกไม่กี่คน แต่ว่าผมเชื่อว่าแด๊ดดี้ต้องจัดการได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย