แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 298

บทที่ 298 ฉันกับเจตต์เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน

ใครกันนะ?

นรมนรีบหันหัวไป ก็เห็นบุริศร์กำลังยืนอยู่ตรงทางเดิน กำลังมองท่าทีของเธอกับเจตต์ พลางมีความโกรธที่แสดงออกมาตรงหว่างคิ้วนั้น

เธอพยายามขยี้ตา เพราะคิดว่าตัวเองมองผิดไป

บุริศร์โผล่มาที่นี่ได้อย่างไร?

เขาไม่ได้เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดไม่ใช่เหรอ?

อีกอย่างกานต์บอกว่าเขาต้องพักผ่อนและดูแลตัวเอง จะมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

นรมนคิดว่าตัวเองสร้างภาพหลอนขึ้นมาเอง

เธอนึกถึงบุริศร์ไม่น้อยเลย

เพิ่งจะห่างกันไม่นาน เธอก็คิดถึงเขาขนาดนั้นแล้วเหรอ

นรมนยิ้มด้วยความขมขื่น ก่อนจะหันกลับอีกครั้ง คิดว่าคงช่วยอะไรตัวเองไม่ได้แล้ว

ในตอนแรกเมื่อบุริศร์เห็นว่านรมนเห็นตัวเองแล้ว ก็คิดว่านรมนจะรีบผลักเจตต์ออก และรีบมาหาตัวเอง แต่น่าเสียดายที่เขาคิดไม่ถึงเลย ว่าเมื่อนรมนเห็นเขาจะทำเป็นตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหัวกลับไปอย่างไม่แยแส และให้เจตต์ซบไหล่เหมือนเดิม

เมื่อมองจากฝั่งของเขา ท่าทางของเจตต์กับนรมนมันดูสนิทกันเกินไปแล้ว

เขารู้ว่านรมนไม่มีทางทำอะไรที่ผิดต่อเขา แต่ว่าความรู้สึกที่เจตต์มีต่อนรมนนั้นใครๆก็รู้อยู่แก่ใจทั้งนั้น

สิ่งที่เจตต์เห็นในวันนี้มันทิ่มแทงใจมาก หรือว่านรมนมองไม่เห็นเลยเหรอ?

ความโกรธของบุริศร์มันเพิ่มขึ้นมาเยอะมาก

เขารีบเดินเข้าไปหานรมน

เงาใหญ่ๆ นั้นทำให้นรมนกับเจตต์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมๆ กัน

นรมนเห็นบุริศร์อีกครั้ง ด้วยความตกใจเล็กน้อย

เจตต์กลับนั่งขึ้นมาตรงๆ จากไหล่ของนรมน ก่อนจะพูดเบาๆ ว่า: “อย่าเข้าใจผิดนะ ฉันเห็นว่าเธอแบกรับทุกอย่างอย่างไม่มีคนช่วยเลย เลยมาอยู่เป็นเพื่อนเธอ”

“คุณออกไปได้แล้ว”

เสียงของบุริศร์นั้นเย็นชา ถึงนรมนจะทึ่มแค่ไหน ก็รู้ว่าบุริศร์โกรธ

มาเห็นภรรยาของตัวเองซบอยู่กับผู้ชายกลางดึกแบบนี้ ก็ไม่แปลกเลยที่บุริศร์จะมีสีหน้าไม่ดี

นรมนเลยรีบพูด: “เจตต์แค่ผ่านมา แล้วมาอยู่กับฉัน ไม่ได้มีอะไรเลยนะ”

ถ้าเกิดนรมนไม่พูดก็พอได้ แต่วันนี้เธอพูดแทนเจตต์ มันทำให้สีหน้าของบุริศร์ดูไม่ดีเลย

เจตต์รู้ท่าทีของบุริศร์ เลยค่อยๆ ลุกขึ้นมา ก่อนจะพูดอย่างทระนง: “คุณคงไม่คิดว่าภรรยาของคุณทำอะไรลับหลังคุณใช่ไหม?”

“ไม่อยากตายก็รีบไสหัวไปได้แล้ว”

ตอนนี้บุริศร์ไม่อยากเจอเจตต์เลย ถ้าเกิดไม่สนใจว่าที่นี่คือโรงพยาบาล เขาอาจจะต่อยเจตต์ไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้ร่างกายจะไม่ไหวก็เถอะ

“หึ ผู้ชายก็แบบนี้!”

เจตต์มองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ จากนั้นจึงพูดกับนรมน: “พอแล้ว เจ้าของของคุณมาแล้ว ตัวสำรองอย่างฉันคงต้องไปก่อนแล้วล่ะ”

คำพูดนี้มันออกจะประชดไปนิดหน่อย นรมนรู้จักเจตต์ดี เลยทำได้แค่มองเขา ไม่ได้พูดอะไรออกไป เลยปล่อยให้เจตต์ออกไป

แต่ว่าพอดีว่าเพราะนรมนไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของบุริศร์ยิ่งไม่น่ามองเข้าไปใหญ่

หลังจากที่เจตต์ออกไป ทางเดินก็เงียบลงจนทำให้หายใจแทบไม่ออก

นรมนมองบุริศร์ อยากจะถามว่าแผลของเขาเป็นอย่างไรบ้าง แต่ว่าบุริศร์ในตอนนี้เย็นชามาก มันทำให้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอไม่รู้จะพูดอะไรเลย

บุริศร์รอให้นรมนมาปลอบตัวเอง แต่ทว่ารอมาตั้งนานนรมนก็ไม่พูดอะไร ความโกรธของบุริศร์เลยมากขึ้นเรื่อยๆ

“ฉันมาผิดเวลาใช่ไหม?”

บุริศร์พูดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์

นรมนอึ้งชะงักไป ก่อนจะเข้าใจได้ ในความหมายของบุริศร์

เธอบอกตัวเองว่าไม่อยากเจอบุริศร์ในท่าทีไม่ปกติแบบนี้เลย

ผู้ชายคนนี้ใจน้อย ในสถานการณ์แบบนี้ยังมาหาก็เพราะเป็นห่วงกมลกับเธอ แต่ว่าในใจก็ไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไหร่

“พูดดีๆ ได้ไหม?”

นรมนพยายามทำให้คำพูดตัวเองนิ่งลง

บุริศร์เห็นเธอแบบนี้ ก็รู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม

“พูดอะไรดีๆ ?คุณอยากได้ยินฉันพูดอะไรเหรอ?”

“บุริศร์ ถ้าเกิดคุณมาที่นี่เพื่อทะเลาะกับฉัน ขอโทษนะ ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์”

นรมนคิดว่าความโกรธของบุริศร์มันมากเกินไปแล้ว

ระหว่างเธอกับเจตต์ไม่ได้มีอะไรเลย ความรู้สึกที่เธอมีต่อบุริศร์ บุริศร์จะไม่รู้เหรอ?เพียงเพราะเจตต์มาอยู่กับเธอ เลยทำแบบนี้ได้เหรอ?

ถ้าเกิดเป็นปกติ นรมนอาจจะเข้าใจ และพูดอะไรที่น่าฟังหน่อย แต่ว่าวันนี้เธอไม่มีอารมณ์อะไรเลยจริงๆ

การแลกเปลี่ยนกับนลินนั้นทำให้เธอใช้พลังไปหมดแล้ว แถมการที่กมลไข้ขึ้นก็ทำให้เธอสติแตกขึ้นไปอีก

ในตอนนี้บุริศร์เข้ามา พูดตามตรง เธอดีใจมาก แต่ทว่าเมื่อบุริศร์เปิดปากพูดอะไรแย่ๆ ออกมาแบบนี้ นรมนก็ไม่มีแรงจะต่อสู้ด้วยแล้ว

แต่ยิ่งเธอเป็นแบบนี้ บุริศร์ยิ่งคิดว่านรมนเย็นชาต่อตัวเองมากเกินไป

“คุณไม่มีอารมณ์งั้นเหรอ?ตอนที่ฉันยังไม่มา ฉันเห็นคุณกับเจตต์คุยกันสนุกสนาน ถ้าเกิดฉันไม่มา พวกคุณคงจะลืมไปแล้วว่านี่มันหน้าห้องผ่าตัด?แล้วคงจำไม่ได้ใช่ไหมว่าลูกสาวคุณกำลังอยู่ในนั้นด้วยน่ะ?”

เสียงของบุริศร์เพิ่งจะพูดไปก็รู้สึกผิด เพราะเขาเห็นความเศร้าใจและความรู้สึกแย่ของนรมน

แต่ทว่าเขาพยายามไม่ทำให้ตัวเองยอมและสงสาร

เขาต้องให้นรมนรู้ ว่าหลังจากนี้ต้องอย่าให้คนอย่างเจตต์เข้ามาใกล้อีก

นรมนมองบุริศร์ด้วยความไม่เข้าใจ และรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก แต่กลับไม่พูดอะไรออกไป

ความหึงนั้นมันต้องมีลิมิตบ้าง ต้องแยกให้ออกว่าอยู่ที่ไหนด้วย?

บุริศร์เป็นอะไรกันเนี่ย?

นรมนเบือนหน้านี้ เพราะไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เกรงว่าจะต้องมาทะเลาะกับบุริศร์อีก

แต่ทว่านรมนยิ่งเงียบ บุริศร์ก็ยิ่งนั่งไม่ติด

“นรมน ฉันกำลังคุยกับคุณอยู่นะ!”

“คุณกลับไปโรงพยาบาลเถอะ กานต์บอกว่าคุณต้องรักษาแผลดีๆ คุณกลับไปเถอะ”

ไม่นานมานี้เธอยังหวังว่าจะให้บุริศร์อยู่ข้างๆ เธอ แต่ว่าในตอนนี้เอง เธอเหนื่อยเหลือเกิน

เธอไม่อยากทะเลาะกับบุริศร์ ไม่อยากเลยแม้แต่น้อย

ตอนที่บุริศร์ได้ยินว่านรมนไล่เขา กลับรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก

“คุณไล่ฉันงั้นเหรอ?ฉันเพิ่งจะฟื้น เป็นห่วงคุณกับกมล เลยไม่สนใจคำของหมอ แล้วแอบออกมา คุณกลับมาไล่ฉันไปงั้นเหรอ?นรมน ตอนนี้คุณเป็นอะไรกันแน่?”

บุริศร์ไม่ไม่รู้ข้อแลกเปลี่ยนระหว่างนรมนกับนลิน คุณนายโตเล็กบอกเพียงแค่นลินบริจาคไตให้

ตอนนั้นเขาคิดว่านลินกำลังตอบแทนที่นรมนเคยช่วยเอาไว้ ความคิดของเขาเหมือนกับคุณนายโตเล็ก ก่อนหน้านี้ทำไม่ค่อยดีกับนลินเท่าไหร่ ตอนนี้เลยเป็นห่วงแล้วดีกับนลินเพราะช่วยกมลเอาไว้

เขาคิดว่านรมนจะดีใจมาก เพราะลูกได้รับการช่วยเหลือแล้วไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่าทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงเลย ว่าอารมณ์ของนรมนในตอนนี้จะแย่ขนาดนี้ มันแย่จนทำให้เขาคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดไปแล้ว

แต่ทว่าเขาทำอะไรผิดไปล่ะ?

บุริศร์ทำได้เพียงโทษแต่ความท้าทายของเจตต์

ไอ้เลวนั่นจะต้องพูดอะไรกับนรมนแน่นอน

เมื่อคิดแบบนี้ สายตาของบุริศร์เลยยิ่งเยือกเย็นขึ้นไปอีก

“เจตต์พูดอะไรหรือเปล่า?ฉันจะไปหาเขา!”

เมื่อพูดจบเขาก็จะหันไป แต่กลับถูกนรมนขวางเอาไว้

“ไม่เกี่ยวอะไรกับเจตต์ บุริศร์ คุณมีเหตุผลหน่อยได้ไหม?”

นรมนคิดว่าบุริศร์ในคืนนี้ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เลยเกิดความทนไม่ค่อยได้ขึ้นมา

บุริศร์ไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของนรมนเลย ในวันนี้มาเห็นนรมนทนตัวเองไม่ได้ เขายิ่งคิดว่านรมนทำไปเพราะการเป็นปรปักษ์ของเจตต์กับตัวเอง

“ฉันยังมีเหตุผลไม่พออีกเหรอ?ถ้าเกิดฉันไม่มีสติ แค่ฉันเห็นเขาซบไหล่คุณฉันคงจะลงมือไปแล้ว”

“เขาแค่ยืมไหล่ฉันไปซบเท่านั้นเอง แม่ของเขา……”

“แม่เขาจะเป็นจะตายมันไปเกี่ยวอะไรกับคุณ?นรมน สมองคุณทำจากอะไรเหรอ?ผู้ชายคนหนึ่งต้องการไหล่ของคุณไปทำไมกัน?”

บุริศร์รีบตัดบทของนรมน

คำพูดนี้เขาเก็บไว้ในใจมานาน และคิดมาตลอดว่านรมนกับเจตต์ไม่ได้มีอะไรกัน แต่วันนี้เห็นแววตาของเจตต์ที่มองนรมน บุริศร์รู้สึกไม่ดีมาก บวกกับการที่นรมนปกป้องเจตต์แล้วทะเลาะกับตัวเอง บุริศร์ยิ่งหึงเข้าไปใหญ่

นรมนอึ้งชะงักไปเล็กน้อย พอเห็นความหึงของบุริศร์ ก็คิดว่ามันน่าเหนื่อยใจเป็นอย่างมาก

“ฉันกับเจตต์เป็นแค่เพื่อนกัน บุริศร์ คุณคิดมากเกินไปแล้ว”

“ฉันเคยคิดเหรอ?ถ้าเกิดฉันไม่มา ไม่แน่ว่าเจตต์อาจจะทำอะไรกับคุณ?เขาเป็นคาสโนวา การจะจีบเล่นกับผู้หญิงอย่างคุณมันง่ายๆ เลยไม่ใช่เหรอ?”

“เพี๊ยะ” นรมนทนไม่ไหวแล้ว เลยตบไปหนึ่งครั้ง

“คุณรู้จักฉันแบบไหนกัน?ลูกสาวฉันจะตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ คุณยังจะมาสงสัยว่าฉันทำอะไรลับหลังคุณอีกเหรอ ในใจของคุณ ฉันเป็นคนแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

นรมนพูดทุกสิ่งที่อัดอั้นออกมาในตอนนี้

จู่ๆ บุริศร์ก็อึ้งชะงักไป เมื่อเห็นน้ำตาคลอของนรมน เขาก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรไป

“ไม่ใช่ นรมน ฉัน……”

“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันบอกไปแล้ว ว่าฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณ ฉันกับเจตต์ไม่มีอะไรเลย คุณถ้าเกิดคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีแบบนั้น ก็แล้วแต่”

นรมนนั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะเบือนหน้าหนี แล้วหันหลังให้บุริศร์

เธอคิดว่าตัวเองน้อยใจสุดๆ แล้ว

เพื่อช่วยกมล เธอปฏิเสธความต้องการของนลินไม่ได้ เธอมีเวลาอยู่กับบุริศร์ไม่มากแล้ว แต่ต้องมาดูนลินอยู่กับคนที่เธอรักที่สุดสามเดือน แต่ทว่าบุริศร์ในตอนนี้ยังสงสัยในตัวเธอกับเจตต์ว่ามีความสัมพันธ์ลับๆ กัน

นี่มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

นรมนคิดไป ก็มีน้ำตาไหลออกมา

เธอไม่ใช่คนที่ร้องไห้ง่าย แต่ทว่าในตอนนี้เองกลับคิดว่ามันน่าน้อยใจมากเลย

นรมนใช้หลังมือเช็ดน้ำตา แต่ว่าน้ำตานั้นมันไหลออกมามากเหลือเกิน

บุริศร์ถูกน้ำตาของนรมนทำให้ตกใจ

“นรมน คุณอย่าร้องเลย ฉันผิดไปแล้ว ฉันผิดเองโอเคไหม?คุณอย่าโกรธฉันเลย ฉันหึง แล้วอิจฉาตาร้อน ฉันมันแย่ ฉันรู้ว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น ถ้าคุณคิดว่าอารมณ์ไม่ดี คุณตีฉันได้เลย”

บุริศร์รีบนั่งยองลงต่อหน้านรมน ก่อนจะจับมือของนรมน แต่กลับถูกนรมนสะบัดทิ้ง” นรมน……”

เสียงของบุริศร์มีความน่าสงสาร แต่ว่านรมนกลับไม่ได้สนใจเอาแต่ร้องไห้

เมื่อเห็นเธอเป็นแบบนี้ บุริศร์ก็รีบลุกขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปช้อนท้ายทอยของนรมน จากนั้นริมฝีปากบางก็ประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากแดงอวบอิ่มนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย