แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 301

บทที่ 301 เธอระวังกิริยาหน่อย

เมื่อนรมนนึกขึ้นได้ก็รับลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางมองไปที่พฤกษ์ที่กำลังพยุงบุริศร์ออกจากโรงพยาบาล

ไม่นึกเลยว่าพฤกษ์พยุงบุริศร์เดิน !

ภายในใจของนรมนรู้สึกสั่นไหวเป็นอย่างมาก

เมื่อสักครู่ตอนที่บุริศร์อยู่เบื้องหน้าของเธอ เขายังคงทำเป็นแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่เลย ไม่นึกเลยว่าเขากลับยืนแทบไม่ไหวเลยเหรอ?

ก็คงจะเป็นไปได้

บุริศร์เลือดออกเยอะขนาดนั้น เพิ่งจะออกจากห้องผ่าตัดก็รีบวิ่งมาทีนี่ ร่างกายของเขาจะรับไหวได้ยังไง ?

เมื่อเห็นบุริศร์เป็นเช่นนั้นแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นห่วงเธอกับลูกสาว ทำให้ภายในใจของนรมนรู้สึกเศร้า

หัวใจของผู้ชายคนนี้มีแต่เธอกับลูกสาว แล้วเธอจะยอมปล่อยมือจากเขาได้ยังไง?

แม้ว่าการทำผิดสัญญากับนลินจะเป็นเรื่องที่ไร้ยางอาย แต่นรมนก็ตัดสินใจทำผิดสัญญา

นอกจากบุริศร์แล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เธอก็สามารถรับปากนลินได้ทั้งนั้น แม้ว่าจะต้องแลกกับความร่ำรวยทั้งชีวิตของเธอเธอก็ยินดี

เมื่อนรมนตัดสินใจเช่นนี้ ในใจของเธอก็สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกบางอย่างได้

ขณะที่บุริศร์กำลังจะออกจากประตูก็แทบจะยืนไม่ไหว ร่างกายของเขาแทบจะเอนพิงกับลำตัวของพฤกษ์เกือบทั้งร่าง พลางพูดขึ้นเสียงต่ำว่า :“นายอย่าบอกสภาพผมในตอนนี้ให้ภรรยาผมรู้นะ”

“แต่ว่าประธานบุริศร์ สภาพคุณ……”

“รีบพยุงผมขึ้นรถ แล้วไปส่งผม เราต้องอาศัยช่วงเวลาที่กานต์กำลังหลับอยู่ในตอนนี้ ผมเพิ่งออกจากห้องผ่าตัดมาร่างกายก็เลยอ่อนแอก็แค่นั้นเอง”

น้ำเสียงของบุริศร์สั่นเครือเล็กน้อย

พฤกษ์คิดในใจว่าร่างกายของเขาอ่อนแอไม่ใช่เพราะเพิ่งผ่าตัดเสร็จ แต่เป็นผลมาจากการฝืนร่างกายของเขาต่างหาก

แต่ว่าเขาก็ไม่อยากพูดมาก ความรู้สึกที่บุริศร์มีต่อนรมนและลูกสาว เขาคงไม่สามารถอธิบายส่งเดชให้ชัดเจนได้ภายใน 3 ประโยค เพราะเขาเองก็เป็นเพียงผู้ช่วยคนหนึ่ง

หลังจากที่ไปส่งบุริศร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณนายโตเล็กก็โทรมาถามเกี่ยวกับเรื่องของบริษัท พฤกษ์จึงจำเป็นต้องกลับบริษัทเพื่อช่วยเหลือคุณนายโตเล็ก

บุริศร์พยักหน้าให้เขากลับไป และถือโอกาสตอนที่กานต์ยังไม่ตื่น ตนเองก็รีบขึ้นไปนอนบนเตียงคนป่วย แต่ก็อดที่จะล้มเป็นลมไม่ได้

กิมจิ ถอนหายใจ รีบเรียกหมอให้เข้ามาดูอาการ

คนที่นอนแผ่อยู่เป็นคนไข้ที่ไม่ทำตามคำสั่ง แล้วหมอจะพูดอะไรได้ล่ะ ?

สำหรับฝั่งของนรมน หลังจากที่ฟ้าสาง กมลก็ตื่นขึ้นมา แม้ว่าร่างกายของเธอจะอ่อนแอ แต่ว่าพอเธอเห็นหน้านรมน เธอก็ยิ้มอย่างเบิกบานใจ

“หม่ามี้!”

น้ำเสียงของกมลอิดโรยมาก แต่ว่าท่าทางที่เต็มไปด้วยความหวังของเธอ ทำให้หัวใจของนรมนมีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง

“รู้สึกเป็นยังไงบ้างลูก?”

เธอเดินเข้ามาอยู่เบื้องหน้าของกมลพลางลูบที่ใบหน้าอย่างอ่อนโยน

สีหน้าของเธอยังคงขาวซีด แต่ว่ายังพอมีความอบอุ่นอยู่บ้าง

ความอบอุ่นนี้เป็นลางบอกความแข็งแรงของร่างกายอย่างหนึ่ง เป็นความอบอุ่นที่บ่งบอกถึงความหวัง!

กมลยิ้มพลางพูดว่า:“หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ หม่ามี้ ตอนนี้หนูลงไปวิ่งรอบเตียงได้แล้วล่ะค่ะ”

ขณะที่พูด ก็ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามดิ้นรนที่จะลงจากเตียง แต่ถูกนรมนห้ามไว้

“อย่าเพิ่งรบเร้าเลยลูก ตอนนี้ร่างกายของลูกยังไม่หายดี รอให้หายดีก่อนนะเดี๋ยวหม่ามี้กับแด๊ดดี้จะพาลูกไปเที่ยวข้างนอก ดีไหมคะ?”

“ห้ามผิดคำพูดนะคะ!”

ดวงตาของกมลส่องสว่างเป็นประกายมากเป็นพิเศษ

เธอรู้ดีว่าขอเพียงเธอผ่านพ้นการผ่าตัดในครั้งนี้ไปได้ เธอก็สามารถออกไปเที่ยวข้างนอกได้เหมือนคนปกติทั่วไปได้ สามารถไปเรียนที่โรงเรียนอนุบาลได้ ทั้งยังไปช้อปปิ้งและไปเที่ยวเล่นกับพี่กิจจาได้อีกด้วย

นี่เป็นเรื่องที่เธอรอมายาวนานกว่า 5 ปีแล้ว

นรมนรีบเรียกหมอเข้ามาตรวจร่างกายทั้งหมดของกมลอีกครั้ง

ร่างกายทุกส่วนของกมลเป็นปกติดี หัวใจของนรมนที่แขวนอยู่อย่างเป็นกังวลก็สงบลง พลางถอนหายใจอย่างคลายความกังวล

กมลเริ่มที่จะทานอาหารได้แล้ว แม้ว่าหมอจะแจ้งว่าช่วงนี้เธอทานได้เพียงอาหารอ่อน ๆ แต่ว่าเธอก็รู้สึกดีใจ

ดูเหมือนว่าความรู้สึกดีใจของลูกสาวนั้นจะทำให้นรมนรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย เธอซื้อของมาให้ลูกของเธอด้วยตัวเอง

คุณนายโตเล็กก็มาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง เมื่อเห็นว่าการผ่าตัดของกมลประสบความสำเร็จ ท่านก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“เป็นเพราะนลินแท้ ๆ เลย อย่าลืมบอกบุริศร์ล่ะว่าอย่าเอาเปรียบนลิน รู้ไหม?”

คำพูดของคุณนายโตเล็กทำให้นรมนตะลึงงันเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า

“แม่คะ แม่รออยู่ที่นี่เป็นเพื่อนกมลนะคะ เดี๋ยวหนูขอไปเยี่ยมนลินหน่อยค่ะ”

นรมนรู้สึกว่าตัวเองควรรีบเยี่ยมเธอเสียหน่อย เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นคนช่วยชีวิตกมล

“ไปเถอะ ไปเถอะ คุยกับเธอดี ๆ ล่ะ เพราะยังไงนลินก็เป็นผู้มีบุญคุณของบ้านตระกูลโตเล็ก”

คุณนายโตเล็กโบกมืออย่างเบิกบานใจ และพึงพอใจกับท่าทีเชื่อฟังของนรมนเป็นอย่างมาก

หลังจากที่นรมนออกจากห้องผู้ป่วย ฝีเท้าก็รู้สึกถึงความหนักอึ้ง

ตอนนี้เธอรู้สึกว่ายังไม่อยากเผชิญหน้ากับนลิน แต่ว่าจะไม่ไปก็คงไม่ได้

นลินเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของกมล ในจุด ๆ นี้ เธอไม่มีข้อกังขาเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะอิงตามหลักเหตุผลหรือตามความรู้สึกเธอก็ควรที่จะมาเยี่ยมหล่อน

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นรมนก็สูดหายใจเข้าเต็มปอด ยกเท้าขึ้นผลักประตูเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยของนลิน

นลินกำลังที่จะเตรียมลงจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ เมื่อเห็นนรมนก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยปากพูดขึ้นว่า:“ฉันอยากจะไปเข้าห้องน้ำ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”

นรมนงุนงงเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นพยาบาลที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้พูดอะไร เธอจึงเขยิบไปข้างหน้าพลางรับมือของนลิน

นลินทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดของเธอลงที่ร่างของนรมน

“คุณเบา ๆ หน่อย ฉันเจ็บแผล”

แม้ว่าจะเป็นแบบนั้น เธอก็ยังตะโกนร้องออกมา น้ำเสียงแสดงออกถึงความรำคาญ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย