แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 302

บทที่ 302เหตุผลแค่นี้เพียงพอเหรอ

“ทำไมล่ะ? โกรธเพราะความละอายล่ะซิ?จะใช้สถานะของคุณมาแก้แค้นฉันเหรอ?หรือจะฆ่าปิดปากฉันล่ะ?ทางทีดีฆ่าฉันให้ตายในคราวเดียวนะ เพราะฉันจะไม่กลัวอะไรทั้งนั้น จะกลัวก็แต่คุณจะทนรับการแก้แค้นจากฉันไม่ไหวก็เท่านั้น”

ท่าทางของนลินดูโหดเหี้ยมน่ากลัว

จู่ ๆ นรมนก็พูดไม่ออก

“เธอจะเอายังไงกันแน่?”

“ก็ไม่ได้จะเอายังไง ทำตามสัญญาของพวกเราซะ ฉันต้องการให้บุริศร์อยู่เป็นเพื่อนฉัน 3 เดือน ส่วนเรื่องที่บุริศร์รับปากฉันก็ให้มันเป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขาไม่ใช่เหรอ?ดังนั้นเขาให้ฉันเป็นน้องบุญธรรมของเธอ เป็นคุณหนูสองตระกูลธนาศักดิ์ธน ฉันก็จะยอมทำเพราะเขาได้รับปากฉันไว้แล้ว และอะไรก็ตามที่คุณได้รับปากฉันไว้ฉันก็จะทำให้มันกลายเป็นความจริงให้ได้”

คำพูดของนลินทำให้นรมนรู้สึกไร้ยางอายเป็นอย่างมาก

“ฉันกับบุริศร์เป็นสามีภรรยากัน เรา 2 คน เป็นคน ๆ เดียวกัน คำพูดของเขาก็เหมือนคำพูดของฉัน แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรมาแยกคำพูดของพวกเราออกจากกัน?”

“ก็สิทธิ์ที่ฉันเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตลูกสาวของคุณไง มีคุณูปการต่อตระกูลโตเล็ก เหตุผลแค่นี้เพียงพอไหม?”

ท่าทีของนลินเหมือนหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนลวก ทำจนนรมนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

“ดูเหมือนว่าพวกเราคงพูดไม่เข้าใจกันแล้วล่ะ?”

“ก็ไม่มีอะไรต้องพูดหนิ ใช่แล้ว ฉันอยากดื่มน้ำ รบกวนรินน้ำให้ฉันสักแก้วได้ไหม ฉันต้องการน้ำร้อน!”

คำพูดประโยคนี้ของนลินเธอต้องการพูดให้นรมนฟัง

แม้ว่านรมนจะโกรธถึงขีดสุด แต่เธอก็พยายามอดทนอดกลั้น ลุกขึ้นแล้วรินน้ำส่งให้กับหล่อน

นลินยิ้มอย่างเย็นชา แล้วมายืนขวางอยู่ที่ด้านหน้าของนรมนพร้อมทั้งสาดน้ำร้อนลงบนใบหน้าของนรมน

“อ่า!”

นรมนร้องขึ้นด้วยความตกใจ รู้สึกว่าใบหน้าของเธอแสบร้อน

พยาบาลตกใจเป็นอย่างมาก รีบไปหยิบผ้าขนหนูเปียกให้กับนรมน

นลินกลับพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า:“นี่คือบทลงโทษที่คุณผิดคำพูด!จำไว้นะ คราวต่อไปฉันจะไม่ใจอ่อนเด็ดขาด”

“เธอ……”

นรมนโกรธจนตัวสั่น แต่ขณะที่ยกแขนขึ้นมาพลางเห็นสีหน้าขาวซีดของนลินทำให้มือของเธอตบนลินไม่ลง

“นรมน เธอจะทำอะไรของเธอ?”

ไม่รู้ว่าคุณนายโตเล็กเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเห็นว่านรมนกำลังง้างมือฟาดนลิน ก็รีบวิ่งเข้ามา แล้วผลักนรมนออก

“นลินเป็นผู้มีพระคุณของกมลนะ แม่ให้เธอมาขอบคุณนลิน นี่คือวิธีการที่เธอขอบคุณนลินงั้นเหรอ?”

คำพูดของคุณนายโตเล็กทำให้นรมนตะลึงงันเล็กน้อย เธออยากจะอธิบายแต่กลับได้ยินนลินกอดเอวคุณนายโตเล็กร้องไห้พลางพูดขึ้นว่า:“คุณนายโตเล็ก อย่าโทษพี่สาวเลยนะคะ เป็นความผิดของหนูเองค่ะ จริง ๆ ผ่าตัดเสร็จหนูควรรีบออกจากที่นี่ ไปให้พ้นจากพวกคุณ เป็นเพราะหนูไม่รู้ประสา เป็นเพราะหนูขวางหูขวางตาพี่สาว ฮือ ฮือ เป็นเพราะหนูไม่ดีเอง หนูจะไปเดี๋ยวนี้แหระคะ”

ขณะที่พูดนลินก็เตรียมแหวกผ้าห่มออกแล้วลุกจากเตียง จนทำให้คุณนายโตเล็กตกใจรีบเข้าไปห้าม

“อย่าเพิ่งขยับตัวเลย!เพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ อย่าลำบากตัวเองเลย?มีฉันอยู่ทั้งคน ดูซิใครจะกล้าทำร้ายเธอ!”

คุณนายโตเล็กพูดขึ้นด้วยความโกรธ จากนั้นก็หันกลับมาจ้องตานรมนอย่างดุเดือด:“เดิมคิดว่าเธอเป็นคนจิตใจดี แต่ทำไมไม่รู้ผิดชอบชั่วดีแบบนี้?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะแม่ คือว่าเธอ……”

“ไสหัวออกไป!”

คุณนายโตเล็กไม่ยอมฟังนรมนอธิบาย พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน ขัดจังหว่ะการพูดของนรมน

ใบหน้าของนรมนแสบร้อนอย่างเจ็บปวด คราบน้ำที่เปียกอยู่ด้านหลังก็ยังไม่แห้ง ท่าทีตะลีตะลานแบบนี้ของเธอกลับสู้การแสดงที่สมบูรณ์แบบของนลินไม่ได้เลย

นลินแอบอยู่ข้างหลังของคุณนายโตเล็ก มองไปที่นรมนพลางยิ้มอย่างเย็นชา

เธอดิ้นรนอยู่ในสังคมมานาน ทำไมเธอจะต่อกรกับนรมนไม่ได้ล่ะ?

ของที่เธออยากได้เธอไม่เคยไม่ได้ และแม้ว่าเธอจะไม่ได้มันมา แต่เธอก็จะไม่ยอมปล่อยให้นรมนได้มีความสุขอย่างเด็ดขาด

แม้ว่านรมนโกรธจนต้องขบฟัน แต่เธอก็รู้ดีว่าตอนนี้เธอพูดอะไรไปก็คงไม่มีประโยชน์

เธอรีบหันหลังแล้วจากไป แต่คุณนายโตเล็กกลับถูกนลินขวางไว้

“คุณนายโตเล็กอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ เพราะยังไงนรมนเธอก็ถือว่าเป็นคุณผู้หญิงของบ้านตระกูลโตเล็ก”

นลินพูดขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจแฝงไว้ด้วยความกลัวเล็ก ๆ

คุณนายโตเล็กถูกนลินขวางไว้ทัน ทำให้ไม่เห็นคราบน้ำที่อยู่ด้านหลังของนรมน และคิดว่ารอยคราบแดงที่อยู่บนหน้าของนรมนเกิดจากความโกรธของเธอจนทำให้เลือดออก โดยไม่ได้คิดถึงสาเหตุจากอย่างอื่นเลย

“ไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็ยังเป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลโตเล็ก เธอรักษาตัวอยู่ที่นี่ให้สบายใจเถอะ ต่อไปมีเรื่องอะไรก็มาหาฉัน”

คุณนายโตเล็กเห็นว่านลินอายุยังน้อยก็ต้องสละไตข้างหนึ่งให้กับหลานสาวของเธอ ทำให้หล่อนรู้สึกรักและเอ็นดูนลินเป็นพิเศษ

แต่นลินกลับก้มหน้าลงพลางพูดขึ้นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า:“ประธานบุริศร์มาเยี่ยมหนูแล้วค่ะ เขาได้ให้เงินกับบัตรใบหนึ่งให้กับหนู แต่พอพี่นรมนเห็นก็ไม่พอใจ ทิ้งบัตรของธนาคารใบนั้นทิ้ง ขอโทษนะคะหนูไม่ควรรับเงินของประธานบุริศร์เลยจริง ๆ ค่ะ”

ขณะที่พูด เธอก็พยายามลงไปเก็บบัตรใบนั้นคืนให้กับคุณนายโตเล็ก

เมื่อคุณนายโตเล็กเห็นว่าบัตรของธนาคารถูกทิ้งไว้บนพื้น สีหน้าก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

นรมนเจ้าเด็กนี่หนิ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?

ก่อนหน้านี้ก็ยังดี ๆ อยู่เลย แล้วทำไมพอเจอกับนลินถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ ?

หรือว่าเมื่อก่อนนี้เธอเสแสร้ง?

คุณนายโตเล็กเกิดความสงสัยขึ้น แต่กลับไม่พูดอะไรออกมา หลังจากที่ห้ามปรามนลินแล้วก็หยิบบัตรของธนาคารขึ้นมา แล้วนำมาวางในมือของนลินอีกครั้ง

“ในเมื่อบุริศร์ได้มอบให้เธอแล้ว มันก็ถือว่าเป็นของเธอ ไม่ต้องกลัว มีฉันสนับสนุนอยู่ทั้งคน ฉันได้แจ้งสื่อมวลชนไว้แล้ว ว่าฉันจะรับเธอเป็นลูกบุญธรรม ต่อไปเธอก็จะกลายเป็นคุณหนูของตระกูลโตเล็ก ใครจะกล้ากลั่นแกล้งเธอ”

เมื่อคนนายโตเล็กพูดเช่นนั้น นลินก็รีบพยักหน้า

“ไม่ ไม่ ไม่!หนูเป็นลูกสาวบุญธรรมของท่านไม่ได้หรอกค่ะ!”

“เธอกลัวอะไร?ขอแค่ฉันเอ่ยปาก นรมนก็ไม่กล้าพูดอะไรทั้งนั้น”

คุณนายโตเล็กคิดว่าเธอกลัวนรมน อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเสียงแหลม

แต่นลินกลับส่ายหัวพลางพูดขึ้นว่า:“ประธานบุริศร์บอกว่าพี่นรมนเคยช่วยหนูไว้ เลยคิดว่าหนูกับตระกูลธนาศักดิ์ธนมีวาสนาต่อกัน ก็เลยจะให้หนูไปเป็นลูกบุญธรรมของตระกูลธนาศักดิ์ธน ทั้งยังตั้งชื่อใหม่ให้หนูว่านลินนิภา ธนาศักดิ์ธน ที่พี่สาวโกรธอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้ ”

เมื่อได้ยินนลินพูดแบบนี้ คุณนายโตเล็กก็ตะลึงงันครู่หนึ่ง

“นรมนเคยช่วยเธอ?”

“ใช่ค่ะ ไม่งั้นทำไมหนูถึงยอมบริจาคไตให้กับคุณกมลล่ะคะ?ก่อนหน้านี้ หนูถูกคนของป้าโอจับตัวไปเพื่อส่งไปขายที่ต่างประเทศ พี่นรมนเป็นคนช่วยเหลือหนูกับพวกพี่น้องเหล่านั้น หนูเลยตัดสินใจบริจาคไตของหนู”

คำพูดของนลินทำให้คุณนายโตเล็กงุนงง เธอไม่เคยรู้เลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน

“ในเมื่อเธอกลับมาทดแทนบุญคุณ แล้วทำไมนรมนจะต้องตีเธอด้วย?”

เมื่อนลินได้ยินคุณนายโตเล็กถามขึ้นประโยคนี้ จู่ ๆ ก็รู้สึกน้อยใจเป็นอย่างมาก

“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ ก็แค่พอประธานบุริศร์ทำการผ่าตัดเสร็จก็รีบออกมาเยี่ยมหนูแล้วยังให้บัตรเครดิตโกลด์กับหนูใบหนึ่ง พี่สาวก็เลยเข้าใจผิด คิดว่าหนูให้ท่าประธานบุริศร์ ก็เลย……”

เมื่อคุณนายโตเล็กได้ฟัง ก็ถอนหายใจ

“เจ้านรมนนี่ ดีทุกอย่างเลยเว้นเสียแต่ใจแคบไปหน่อย เธอเพิ่งจะอายุแค่นี้?สำหรับบุริศร์แล้วก็เป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อีกอย่างที่บุริศร์ทำไปก็ทำเพื่อขอบคุณที่เธอช่วยเหลือกมลก็เท่านั้น แล้วหล่อนจะมาหึงหวงอะไรกัน พอเถอะ นรมนก็ไม่ใช้คนเลวร้ายอะไร เธอก็บอกเองว่านรมนก็เคยช่วยเด็กผู้หญิงที่เขาไม่รู้จักอย่างเธอ แน่นอนว่าเธอก็คงไม่ใช่คนเลวร้าย เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจะไปคุยกับนรมนเอง เธอรักษาตัวอยู่ที่นี่ให้สบายใจเถอะ ส่วนเรื่องที่ตระกูลธนาศักดิ์ธนจะรับเธอไปเป็นลูกบุญธรรม เดี๋ยวฉันจะปรึกษาเรื่องนี้กับบุริศร์อีกทีหนึ่ง”

คุณนายโตเล็กลูบศีรษะของนลิน ด้วยความเมตตา

นลินคิดไม่ถึงเลยว่าคำพูดเพียงเล็กน้อยของเธอจะทำให้คุณนายโตเล็กหายโกรธนรมนอย่างรวดเร็ว

เดิมทีเธอคิดว่าการที่เธอพูดเช่นนี้จะยิ่งทำให้คุณนายโตเล็กคิดว่านรมนใจแคบกว่าเดิม คิดไม่ถึงว่าเรื่องราวมันจะกลับกลับตาลปัตรแบบนี้

นลินรู้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังคงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง:“หนูทราบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณนายโตเล็ก คุณนายโตเล็กอย่าไปถือโทษโกรธพี่สาวเลยนะคะ พี่สาวเธอก็แค่แคร์ประธานบุริศร์มากไปหน่อยเองค่ะ”

“ฉันรู้แล้วล่ะ เธอก็รักษาตัวให้ดีนะ ฉันไปก่อนนะ”

ขณะที่คุณนายโตเล็กกำลังมองหาว่าพยาบาลที่จ้างไว้อยู่ที่ไหน ก็คิดไม่ถึงเลยว่าพยาบาลคนนั้นจะรีบวิ่งพร้อมกับถือผ้าขนหนูเปียกเข้ามา เมื่อเธอเห็นคุณนายโตเล็กก็ตะลึงงันเล็กน้อย

“ไปเอาผ้าขนหนูมาให้นลินเหรอ?”

คุณนายโตเล็กคิดว่าพยาบาลเอาผ้าขนหนูมาให้นลินเช็ดหน้านลินรีบขยิบตาให้กับพยาบาลเพื่อส่งสัญญาณเตือน

เมื่อพยาบาลเห็นว่านรมนไม่ได้อยู่ในห้องก็พยักหน้า

“ต่อไปไม่ต้องวิ่งออกไปข้างนอกนะ ในห้องน้ำมีเตรียมไว้แล้ว”

คุณนายโตเล็กคิดว่าพยาบาลไม่รู้ ก็เลยกำชับ 2 ประโยค จากนั้นก็ออกจากห้องคนป่วยไป

หลังจากที่คุณนายโตเล็กจากไปนลินก็พูดขึ้นอย่างดุดันว่า:“ถ้าหากเธอยังอยากที่จะอยู่ในเมืองนี้ต่อไปก็คงรู้นะว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด”

พยาบาลครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วคิดถึงตอนที่นลินสาดน้ำร้อนใส่หน้านรมน ไม่ต้องพูดถึงเธอเลย เธอจึงพยักหน้า แล้วกลับไปยืนอยู่ข้าง ๆ นลิน

หลังจากที่คุณนายโตเล็กออกไปจากห้องพักผู้ป่วย ก็กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยของกมล แต่กลับไม่เห็นนรมน

เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเซ็ง

“กมล หม่ามี้ล่ะ?”

“หม่ามี้ออกไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ?คุณย่า คุณย่าไม่ได้เจอกับหม่ามี้เหรอคะ?หม่ามี้ยังไม่กลับมาเลยค่ะ”

กมลมองไปที่คุณนายโตเล็กด้วยความสงสัย

สีหน้าของคุณนายโตเล็กขรึมขึ้น

เจ้านรมนออกจากห้องผู้ป่วยของนลินก็ยังไม่กลับมาเลยเหรอ เธอไปไหนซะล่ะ?

หรือว่าเมื่อสักครู่นี้เธอจะไม่พอใจ ก็เลยงอน?

แต่ทำไมแต่ก่อนก็ไม่ได้รู้สึกว่านรมนเป็นคนขี้งอนล่ะ?

หรือเป็นเพราะว่าตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอเป็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา ก็เลยใช้ความรักที่คนอื่นมอบให้ก็เลยไม่สนใจเหตุผล?

สมองของคุณนายโตเล็กรีบคิดถึงปัญหานี้ แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

เธอยิ้มพลางพูดกับกมลว่า:“หม่ามี้คงออกเป็นซื้ออาหารอร่อย ๆ มาให้หนูแหระ เดี๋ยวก็กลับมา”

“คุณย่าคะ หนูจะหายดีเมื่อไหร่คะ?หนูรอไม่ไหวแล้วค่ะ อยากออกไปวิ่งเล่น”

ตอนนี้กมลรู้สึกว่าเธอรอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

เมื่อคุณนายโตเล็กเห็นท่าทีดีอกดีใจของหลานสาว จึงยิ้มพลางพูดขึ้นว่า:“อีกไม่นานหรอก ขอแค่กมลให้ความร่วมมือในการรักษาของคุณหมอ อีกไม่นานพวกเราก็จะได้ออกไปเที่ยวกัน”

“จริงเหรอคะ?”

“จริงสิ คุณย่าเคยโกหกหนูเหรอคะ?”

คำพูดของคุณนายโตเล็กทำให้กมลดีอกดีใจจนยิ้มหน้าบาน

ภายในห้องเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เบิกบานของกมล

คุณนายโตเล็กรู้สึกขอบคุณนลินอีกครั้ง ถ้าหากว่าไม่ได้เป็นเพราะนลินหลานสาวของเธอก็คงจะไม่มีวันพรุ่งนี้ที่สดใส?

ขณะที่กำลังหยอกล้อกับกมล นรมนก็ผลักประตูเข้ามา

คุณนายโตเล็กเหลือบมองไปที่เธอครู่หนึ่ง ก็พบว่าเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ อีกทั้งยังแต่งหน้าอ่อน ๆ

เมื่อคิดถึงคำพูดที่นลินพูดเมื่อสักครู่นี้ คุณนายโตเล็กก็ถอนหายใจเบา ๆ

เจ้านรมนคนนี้ ทำไมถึงไม่ได้มีความมั่นใจเอาซะเลย

ก็แค่เด็กน้อยไร้เดียงสา ทำให้เธอไม่สบายใจได้ขนาดนี้เลยเหรอ?จู่ ๆ ก็กลับเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าใหม่ เธอคิดว่าที่บุริศร์ดีกับเธอก็เพราะรูปลักษณ์ภายนอกเหรอ?

เธอกลายเป็นคนความคิดตื้นเขินตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย