บทที่ 307 หน้าของหม่ามี้ต้องมีอะไรแน่ๆ
นายเจตต์ไม่รู้สึกรำคาญเสียงของคมทิพย์ในตอนนี้เลย กลับรู้สึกชื่นชมอย่างมาก
ผู้หญิงคนนี้ใจกล้ามาก ที่กล้าถุยน้ำลายใส่เขา~!
คมทิพย์แอบสาปแช่งเขาอยู่ในใจ เสียดายที่เธอไม่สามารถด่าออกมาได้
ไอ้สารเลวคนนี้ เขาจะทำอะไรกันแน่?
นายเจตต์แบกคมทิพย์เดินลึกเข้าไปในสุสาน มาถึงที่ใส่อัฐิคนตายถึงยอมปล่อยเธอลงบนพื้น
อุณหภูมิบนพื้นที่เย็บเฉียบทำให้คมทิพย์หนาวสั่นทีนึงโดยไม่รู้ตัว
เธอเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นกล่องใส่อัฐิวางเรียงอยู่เป็นแถว เธอกลัวจนตกใจหน้าซีด
“อืมๆ……”
เธอเขย่งหัวให้กับนายเจตต์ไม่หยุด
นายเจตต์กลับหัวเราะและพูดอย่างมีความสุข:“คุณคิดจริงหรอว่ามีเรื่องกับคุณชายอย่างผมแล้วจะรอดไปได้ง่ายๆ?ผมจะบอกอะไรคุณให้นะ ถ้าไม่ใช่เห็นแก่ที่คุณเป็นเพื่อนสนิทของนรมนแล้วละก็ ผมสามารถอัดหน้าของคุณให้เละจนกระทั่งพ่อแม่ของคุณก็ยังจำไม่ได้เลย คุณเชื่อมั้ย
“คุณมันไอ้สารเลว~!”
คมทิพย์จ้องเขาอย่างดุร้าย ได้แต่ด่าอยู่ในใจ
นายเจตต์เหมือนกับว่ารู้ว่าเธอด่าอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่แคร์ แล้วพูดอย่างไม่หวังดี:“ผมลืมบอกคุณไปเลย วันนี้ คนเฝ้ายามที่นี่ลางาน เพราะฉะนั้นแล้ว ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้า ที่นี่จะไม่มีคนแม้แต่คนเดียว คุณดูสิ ผมดีกับคุณแค่ไหน ทั้งไม่ตบตีคุณและไม่ด่าว่าคุณ แถมยังหาคนมากมายมาเล่นกับคุณทั้งคืน พรุ่งนี้ ผมค่อยให้คนมารับคุณกลับนะ ขอให้คุณเล่นให้สนุกนะครับ”
พูดจบ นายเจตต์ก็ลุกออกไปเลย
คมทิพย์ตื่นตกใจอย่างสิ้นเชิง
หมายความว่าไง?
ไอ้สารเลวนี่จะปล่อยให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวงั้นหรอ?
คงไม่หรอกมั่ง?
คมทิพย์พยายามดิ้นรน แต่เสียดายที่ร่างของเธอถูกนายเจตต์มัดเอาไว้ ปากของเธอก็พูดไม่ได้ เธอกลัวจนน้ำตาเกือบจะไหลออกมาแล้ว เสียดายนายเจตต์ที่เป็นคนไร้หัวจิตหัวใจ
ถ้าไม่ใช่คนที่เขาอยากจะปกป้องแล้วละก็ ถึงเธอจะหน้าตาหน้าน่าสงสารแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่าง ภาพพจน์ของคมทิพย์ที่มีต่อนายเจตต์นั้นเป็นเหมือนเสือตัวเมียตัวนึงชัดๆ
เสือตัวเมียจะกลัวสุสานด้วยหรอ?
ไม่!~
เขาพูดเองแล้วตอบเอง หลังจากนั้นก็ลุกเดินจากไป
คมทิพย์โกรธจนควันจะออกหู ถ้ารู้แต่แรกว่าจะมีเรื่องกับไอ้เฮงซวยนี่ ก่อนออกจากบ้านเธอก็นะจะพบเหรียญห้าจักรพรรดิออกมาด้วย
เสียงลมรอบข้างวู้วๆพัดมา คมทิพย์ได้ยินแล้วเริ่มกลัว
วู้วๆ~1
ใครก็ได้มาช่วยเธอที~1
แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้ ไม่มีใครรู้เลย และตัวต้นเรื่องอย่างกานต์ เวลานี้ก็ได้วิ่งเข้าไปที่ห้องผู้ป่วยแล้ว ตอนที่ได้เห็นนรมนนั้น เขาดีใจแทบตาย
“พี่คะ”
กมลดีใจเรียกชื่อเขา แต่ถูกกานต์ห้ามเอาไว้
“ชู่ว์——”
เขายกนิ้วมาวางที่ริมฝีปาก สั่งให้กมลเงียบ แล้วค่อยๆย่องเดินเข้ามาในห้อง เห็นนรมนกำลังนอนอยู่ ใบหน้าที่บวมแดงของเธอ ทำให้กานต์ยิ่งดูยิ่งรู้สึกปวดใจ
นี่มันเกิดจากการแพ้เครื่องสำอางที่ไหนกัน?
กานต์ถอยออกมา
กมลดึงแขนของเขาไว้แล้วพูดอย่างตื่นเต้นดีใจ:“พี่คะ พี่เอาของอะไรมาให้หนูบ้าง?”
อยู่ที่นี่มันน่าเบื่อมาก เธอรู้สึกเศร้าเมื่อเห็นมือของกานต์วางเปล่าไม่มีอะไรเลย
กานต์หยิบเครื่องเล่นเกมจากกระเป๋าเสื้อแล้วยื่นให้กมล
“อ่ะ ให้ พี่เป็นคนออกแบบเอง ดูซิว่าเธอจะสามารถเล่นได้ถึงด่านไหน
“ให้หนูหรอคะ?”
“ก็ใช่สิ!”
ความรักใคร่เอ็นดูที่กานต์มีให้กับกมลเผยออกมาอย่างไม่รู้ตัว
กมลดีใจนอนอยู่บนเตียง หยิบเครื่องเล่นเกมที่พี่ให้แล้วเริ่มเล่นเกมขึ้นมา กานต์สังเกตดูรอบๆอย่างละเอียด รู้สึกว่าที่นี่ต้องมีอะไรที่ทำให้หม่ามี้เสียใจแน่
หม่ามี้ไม่ใช่คนที่ชอบแต่งตัว ถึงแม้เวลาขึ้นรับรางวัลก็ไม่ค่อยแต่งหน้าเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ ต้องมานอนที่โรงพยาบาล จะแต่งหน้าไปทำไม?
ระหว่างที่กานต์คิดอยู่ก็เอ่ยปากถามกมลขึ้นมา
“กมล ที่นี่นอกจากเธอแล้วยังมีใครอยู่ที่โรงพยาบาลอีก?”
“มีคุณน้าท่านนึงค่ะ หนูได้ยินคุณย่าพูดว่าคุณน้าคนนั้นเป็นคนบริจาคไตให้หนูค่ะ คุณย่ายังบอกว่าอยากจะรับเธอมาเป็นลูกบุญธรรมแต่ไม่รู้ว่าสำเร็จหรือเปล่า”
กมลพูดคำขาดคำ เธอก็แค่ได้ยินมา แต่เรื่องเป็นยังไงก็ไม่รู้แน่ชัด แต่กานต์เป็นใคร?
กานต์ขมวดคิ้วทีนึง
“คุณน้าคนนั้นพักอยู่ที่ไหน?”
“ไม่ไกลค่ะ อยู่ห้อง315ใกล้ๆนี่เอง”
คำพูดของกมลทำให้กานต์หรี่ตาลงเบาๆทีนึง
“หม่ามี้ได้ไปหาเธอหรือเปล่า?”
“น่าจะเคยเจอแล้วมั่งคะ ตอนที่คุณย่ามาหาหนู หม่ามี้ได้ไปหาเธอมาค่ะ หลังจากนั้น หม่ามี้ก็ออกไปซื้อแอปเปิลให้หนู ตอนกลับมาหนูก็เห็นหม่ามี้แต่งหน้ากลับมาแล้วค่ะ แต่คุณย่าบอกว่าหม่ามี้แพ้เครื่องสำอางค่ะ พี่คะ หน้าของหม่ามี้จะเป็นแผลมั้ยคะ?”
กมลเงยหน้าขึ้นมาจากเครื่องเล่นเกมได้สักที แล้วมองหน้าของกานต์ด้วยสีหน้ากังวล
“คงไม่หรอก เธอเล่นอยู่ที่นี่คนเดียวนะ เดี๋ยวพี่กลับมา”
คำพูดของกานต์ทำให้กมลมุ่ยปากขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...