บทที่ 312 คุณบุริศร์เอาใจยากแล้ว
สองพ่อลูกเล่นกันสักพัก เรี่ยวแรงบุริศร์ก็หมดลงนิดหน่อย จึงปล่อยกานต์ลงมา
การอยากเล่นของกานต์ยังไม่ลดลง ยังอยากเล่นกับบุริศร์อีกสักพัก แต่พบว่าสีหน้าบุริศร์ค่อนข้างซีดเซียว จึงรีบถามอย่างเป็นห่วง “คุณบุริศร์ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“เทน้ำให้พ่อหน่อย”
บุริศร์ค่อนข้างกลัดกลุ้มแล้ว
ตอนนี้ร่างกายนี้ ไม่สามารถเล่นกับลูกชายตัวเองได้อย่างเพลิดเพลิน ดูเหมือนเขาต้องรีบหายดีแล้ว
กานต์รีบวิ่งไปเทน้ำให้บุริศร์อย่างว่าง่าย แต่ก็ยังเป็นห่วงนิดหน่อย
“คุณบุริศร์ เมื่อกี้ผมทำให้คุณเจ็บเหรอ?”
เขานำน้ำร้อนส่งในมือบุริศร์ ดูไม่สบายใจและรู้สึกผิดเป็นพิเศษ
บุริศร์ลูบศีรษะเขา พูดด้วยรอยยิ้ม “เปล่า พ่อมันใช้ไม่ได้เกินไป รอพ่อหายดีก่อน ลูกไปออกกำลังกายด้วยกันกับพ่อเป็นไง?”
“โอเคฮะ! คุณไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะต้องทำให้การออกกำลังกายของคุณยอดเยี่ยม ทำให้คุณอายุเจ็ดสิบแล้วยังแข็งแรง”
คำพูดแบบเด็กๆ ของกานต์ทำให้บุริศร์ยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ็ดสิบเหรอ? งั้นพ่อก็แก่ตั้งนานแล้วสิ”
“ไม่หรอกฮะ ตระกูลโตเล็กของเรารวยขนาดนี้ มีเงินก็สามารถพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงได้ ถึงตอนนั้นผมจะคิดค้นยาชุบชีวิตให้กลับเป็นหนุ่มสาว ให้คุณออกไปข้างนอกยืนกับผมแล้วทุกคนบอกว่าเราคือพี่น้องกัน”
กานต์พูดเต็มที่อย่างไม่สะทกสะท้าน
“เจ้าเด็กแสบ ยังอยากเป็นพี่น้องกับพ่ออีกเหรอ หืม?”
บุริศร์ขยี้ศีรษะเขาแรงๆ จากนั้นก็ดื่มน้ำ
น้ำร้อนทำให้ร่างกายของเขาผ่อนคลายลงหน่อย และทำให้เขาฟื้นฟูเรี่ยวแรงได้บ้าง แต่เขาก็แค่นั่งขอบเตียง และกานต์ก็นั่งพิงข้างกายเขา น่องเล็กคู่หนึ่งก็แกว่งไปมาเป็นครั้งคราว
“คุณบุริศร์ คุณไล่นลินคนนั้นไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม?”
“อืม ยังไงเธอก็ช่วยชีวิตน้องสาวลูก ความรู้สึกนี้ต้องชดใช้”
ตอนนี้บุริศร์ไม่ได้ปฏิบัติกับกานต์เป็นเด็กคนหนึ่ง การปฏิบัติตัวเป็นคนดีบางอย่างก็ต้องสอน
กานต์พยักหน้าถามขึ้น “ถ้าต่อไปเธอกลับมารังแกหม่ามี้ของผมอีกล่ะ?”
“อย่างนั้นก็ไม่ต้องเมตตา บุญคุณที่ควรคืนก็จบลงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องถูกใครร้องขออีก”
“รู้แล้วฮะ”
กานต์พยักหน้าเหมือนผู้ใหญ่ที่ตัวเล็ก
เขามองบุริศร์ ถามขึ้นอย่างกังวล “คุณบุริศร์ เราจะกลับไปที่โรงพยาบาลทหารเมื่อไร?”
“ทำไม? พ่อน่ารำคาญเหรอ?”
บุริศร์ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
กานต์กลับส่ายหน้าพูดขึ้น “คุณรีบฟื้นฟูร่างกายโทรมๆ ของคุณเถอะ ไม่งั้นให้ผมที่เป็นเด็กตัวเล็กๆ เลี้ยงดูทั้งครอบครัว คุณอายไหม?”
“ลูก? เลี้ยงดูทั้งครอบครัว? กานต์ ลูกแน่ใจนะว่าที่ลูกพูดคือลูกเอง?”
บุริศร์รู้สึกว่าเจ้าเด็กแสบคนนี้ถ้าไม่ยับยั้งไว้ต้องขึ้นสวรรค์ไปแล้ว
กานต์กลับพูดอย่างภาคภูมิใจ “แน่นอนสิฮะ ถ้าไม่ใช่ผม คุณกับคุณย่าต้องโดนนลินหลอก หม่ามี้ผมและน้องสาวก็ไม่รู้ต้องทนกับการกลั่นแกล้งอะไรบ้าง ผู้ใหญ่ตัวโตอย่างคุณจะรีบๆ ดีขึ้นได้ไหม? กมลอยากออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่น และผมก็ตกลงกับกิจจาแล้วว่าตอนไปที่สนามเด็กเล่นเราจะต้องทำรถไฟเหาะกัน ใครกลัวก่อนคนนั้นแพ้”
ได้ยินกานต์พูดเรื่องพวกนี้ บุริศร์ราวกับเห็นฉากงดงามนั้น
ตระกูลโตเล็กของพวกเขาไม่ได้ครึกครื้นกันแบบนี้นานมากแล้วจริงๆ
“เฮ้ เจ้าเด็กแสบ ช่วยพ่อทำอะไรหน่อย”
บุริศร์ใช้ศอกแตะแขนของกานต์
“ทำอะไรฮะ? มีประโยชน์ไหม?”
กานต์มองบุริศร์ด้วยใบหน้าเหยียดหยาม
“ลูกต้องการประโยชน์อะไร? ช่วยพ่อทำอะไรก็ต้องมีประโยชน์เหรอ?”
ทั้งเมืองชลธี นอกจากกานต์แล้ว เกรงว่าจะไม่มีใครกล้าต่อรองกับบุริศร์แบบนี้อีกแล้ว
กานต์พูดขึ้นอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ “แน่นอนสิฮะ ผมไม่ได้ช่วยคุณเพื่อการกุศลนะ”
“ก็ได้ ว่ามา ลูกต้องการประโยชน์อะไร?”
“ให้เงินผมนิดหน่อยได้ไหม?”
เมื่อกานต์พูดคำนี้ออกมา บุริศร์ก็ตกตะลึงทันที
ตระกูลโตเล็กไม่ขาดเงิน แต่อย่างไรแล้วกานต์ก็เป็นเด็ก ก็ไม่ปล่อยให้เขามีเงินติดตัวมากเกินไปอยู่แล้ว
คำขอนี้ทำให้บุริศร์ตกตะลึง
“ลูกจะเอาเงินไปทำอะไร? อยากได้อะไรก็บอกพ่อ พ่อจะซื้อให้ลูก”
“ไม่ต้องการ ผมอยากซื้อให้หม่ามี้เอง”
คำพูดของกานต์ทำให้บุริศร์นึกได้ทันที ใกล้จะวันเกิดนรมนแล้ว
ตั้งแต่แต่งงาน ดูเหมือนเขายังไม่เคยฉลองวันเกิดให้นรมนเลย ตอนนี้เธอแต่งงานกับเขามาแปดปีแล้ว แต่แยกทางกันมาห้าปี สำหรับนรมน เขาเป็นหนี้เธอมากเกินไปจริงๆ
“ลูกอยากซื้อของขวัญวันเกิดให้หม่ามี้เหรอ?”
“ใช่ฮะ แต่นี่เป็นความลับระหว่างคุณกับผม ห้ามบอกหม่ามี้นะฮะ!”
กานต์มองบุริศร์อย่างระมัดระวัง
บุริศร์พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “โอเค อยากซื้ออะไร ลูกบอกพ่อ พ่อจะจ่ายให้”
“ไม่เอา ผมอยากใช้เงินตัวเองซื้อ ผมช่วยคุณทำ คุณก็ให้ค่าแรงผมก็พอแล้ว”
กานต์ไม่อยากให้บุริศร์ออกเงิน เรื่องนี้ทำให้บุริศร์ไม่คาดคิดนิดหน่อย และรู้สึกค่อนข้างสบายใจ
“ได้ ลูกบอกมาว่าค่าแรงเท่าไร”
“หนึ่งร้อยแล้วกันฮะ”
กานต์ก็ไม่ได้ต้องการมากมาย
บุริศร์ควักเงินสดหนึ่งร้อยให้กานต์ทันที
กานต์เก็บเงินสดแล้วห่อไว้ข้างกายเป็นอย่างดีก่อนจะถามขึ้น “คุณอยากให้ผมช่วยทำอะไร?”
“ช่วยพ่อซื้อของกินอร่อยๆ ให้หม่ามี้ลูกหน่อย แต่อย่าบอกนะว่าพ่อให้ลูกไปซื้อ”
“เอ๋? หมายความว่าไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...