บทที่ 314 ดูสิว่าคุณจะทำอย่างไร
พ่อนรมนเห็นนรมนยังปฏิเสธที่จะพูดความจริง ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจก่อนพูดขึ้น “ลูกชอบบุริศร์มากเลยใช่ไหม? ถึงยอมให้ตัวเองกับลูกได้รับความไม่ยุติธรรมเพื่อเขา?”
“เปล่านะคะ พ่อ ฉันไม่ได้รับความอยุติธรรมอะไรเลย พ่อได้ยินอะไรมากันแน่?”
นรมนรู้สึกว่าความเข้าใจผิดจะค่อนข้างมากทีเดียว
แค่บุริศร์ช่วยชีวิตเธอโดยไม่คำนึงถึงความตาย เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะยอมได้รับความไม่ยุติธรรมในตระกูลโตเล็ก
พ่อนรมนส่ายหน้าพูดขึ้น “ลูกอย่าโกหกพ่อ ถึงพ่อจะแก่ แต่ตาไม่ได้บอดนะ ลูกดูหน้าลูกสิ แล้วดูหน้ากานต์ ถ้าบอกพ่อว่าไม่เป็นอะไร ตีให้ตายยังไงพ่อก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่าจะตีคนห้ามตีที่หน้า ตระกูลโตเล็กนี่ทำเกินไปแล้ว ถึงได้ตีหน้าลูกกับหลาน นี่รังแกพวกเราตระกูลธนาศักดิ์ธนมากเลย! ลูกก็ไม่ต้องรู้สึกอายนะ ยังไงตระกูลทวีทรัพย์ธาดากับพวกเราก็มีความสัมพันธ์กัน จริงๆ ไม่ได้หรอก พ่อจะไปหาคนในตระกูลทวีทรัพย์ธาดา พ่อจะถามพวกเขา ลูกสาวของครอบครัวเราได้รับความไม่ยุติธรรม พวกเขาจะสนหรือไม่สน?”
ได้ยินพ่อนรมนพูดแบบนี้ นรมนก็เข้าใจแล้ว
เธอพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พ่อ พ่อเข้าใจผิดแล้ว แผลบนหน้าฉันกับกานต์ไม่เกี่ยวกับตระกูลโตเล็กนะคะ”
จากนั้นเธอก็เล่าเรื่องนลินให้ฟังอีกครั้ง
พ่อนรมนได้ยินแล้วก็ประหลาดใจมาก
“บนโลกใบนี้มีคนไม่รู้จักความดีความเลวขนาดนั้นเลยเหรอ? ลูกช่วยชีวิตเธอที่เขตฐาน เธอไม่สำนึกบุญคุณ แถมยังแบล็กเมล์ลูกอีก? คนแบบนี้คิดยังไงกันแน่?”
พ่อนรมนโกรธแทบตาย
นรมนเห็นเขาโกรธ ก็ต้องพูดปลอบ “เอาเถอะพ่อ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว บุริศร์ก็ไล่เธอออกไปจากเมืองชลธีแล้ว ต่อไปจะไม่มารบกวนพวกเราอีก แล้วพ่อคิดจริงๆ เหรอว่าหลานชายพ่อใจดี? ถ้าเขาไม่อยากให้นลินตี นลินก็ตีเขาไม่ได้หรอก”
“ลูกพูดอะไรน่ะ? กานต์ยังเล็กขนาดนั้น เขาจะต่อต้านผู้ใหญ่ได้เหรอ? พวกคุณก็เหมือนกัน คนเยอะขนาดนี้ไม่คิดว่าจะดูแลเด็กคนเดียวไม่ได้ ให้เด็กโดนรังแกจนเป็นแบบนี้ ดูสิ หน้าหลานชายฉันกลายเป็นยังไงแล้ว”
พ่อนรมนพูดอย่างสงสารมากๆ ราวกับว่าตอนนี้ไม่มีใครสำคัญเท่าหลานชายเขาแล้ว
ความรักระหว่างปู่ย่ากับหลาน นรมนก็เข้าใจดี แต่ในใจกลับมีความสุขมาก
“เอาล่ะ พ่อ เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ฉันกับกานต์ไม่เป็นอะไร อยู่ที่ตระกูลโตเล็กก็มีความสุขดี พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตอนนี้พ่อกับแม่ต้องดูแลสุขภาพให้ดี ฉันถึงจะวางใจ”
นรมนลูบหลังพ่อนรมนขณะที่พูด
พ่อนรมนมองนรมนตรงหน้า พูดขึ้นอย่างค่อนข้างปลื้มใจ “ทางด้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาลูกต้องให้ทัศนคติ ไม่ว่ายังไง ตอนแรกพ่อกับแม่สับสนยุ่งเหยิง เสียสถานะของลูกไป ตอนนี้ลูกกลายเป็นคนที่ไม่มีสถานะ เรื่องนี้ยังติดอยู่ในใจพ่อกับแม่มาตลอด รู้สึกผิดต่อลูกมาก”
“พ่อ เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ตอนแรกพวกคุณก็ไม่รู้ ถูกคนหลอกใช้”
พูดถึงเรื่องนี้ จิตใจนรมนก็รู้สึกไม่ดีอย่างมาก
อยู่กับรเมศมาห้าปี สุดท้ายไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้ ครั้งหนึ่งเธอคิดว่าถึงแม้ทั้งสองคนจะเป็นคนรักกันไม่ได้ อย่างน้อยก็เป็นเพื่อนกันได้ แต่ไม่คิดเลยว่า แม้แต่เพื่อนก็ยังเป็นไม่ได้
หลายๆ เรื่อง ถ้าฉีกหน้าไปแล้ว มันไม่มีทางฟื้นฟูได้จริงๆ และรเมศก็เล่นงานคนที่สำคัญที่สุดของเธออยู่หลายครั้ง นรมนไม่สามารถทำเหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้จริงๆ
พ่อนรมนกลับตำหนิตัวเองอยู่บ้าง
“ถึงจะพูดแบบนี้ แต่สุดท้ายก็เพราะพ่อกับแม่สูญเสียสถานะของลูกไป ในเมื่อตระกูลทวีทรัพย์ธาดาให้สถานะกับลูกได้ ต่อไปลูกก็เรียกนรมน ทวีทรัพย์ธาดา พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าอะไร”
ถึงจะพูดแบบนี้ แต่นรมนก็มองออกว่าพ่อนรมนรู้สึกเศร้ามาก
นรมนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “พ่อ ฉันเคยบอกแล้ว ฉันเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่ ตลอดไป ฉันชื่อนรมน ทางด้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาก็ตกลงแล้ว”
“ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาทำให้สามีภรรยาแก่ๆ อย่างเราสองคนละอายใจมากเลย”
“เอาล่ะ พ่อ เรื่องนี้พ่อไม่ต้องเก็บไว้ในใจแล้ว พ่อกับแม่สบายดี ฉันก็สบายใจ รู้ไหม?”
นรมนปลอบพ่อนรมนสักพักหนึ่ง แล้วกลับไปที่ห้องคนไข้กับเขา
เพราะกานต์อยู่เป็นเพื่อน อาการป่วยของแม่นรมนก็ดีขึ้นไวมาก ถึงขนาดให้คุณหมอดำเนินการให้เธอออกจากโรงพยาบาลในช่วงบ่าย
นรมนถามคุณหมอ คุณหมอบอกว่าไม่เป็นอะไร เธอจึงให้แม่นรมนดำเนินการออกจากโรงพยาบาล
หลังจากแม่นรมนกลับบ้านแล้ว ก็เริ่มยุ่งกับการทำอาหารให้กานต์ทาน
กานต์ทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อยกับการกระตือรือร้นของคุณยาย พูดกับหม่ามี้ด้วยรอยยิ้ม “ผมจะกลายเป็นเจ้าอ้วนไหมฮะ?”
“ถึงลูกจะเป็นเจ้าอ้วน ก็เป็นเจ้าอ้วนแสนน่ารัก”
นรมนหยิกแก้มกานต์แล้วพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
กานต์ก็ทำได้แค่ยิ้มอย่างหมดหนทาง
เพราะในโรงพยาบาลมีแบคทีเรียมากเกินไป และกานต์ก็เกือบกลายเป็นสุดที่รักของแม่นรมน นรมนก็รู้สึกว่าถ้าให้กานต์อยู่กับแม่นรมนชั่วคราว ก็จะทำให้อารมณ์เธอดีขึ้นหน่อย
สำหรับการเตรียมการของนรมน กานต์ก็ไม่ได้มีความเห็นอะไรอยู่แล้ว แค่โทรบอกคุณนายโตเล็กและกมลสักหน่อย
นรมนอยู่ที่บ้านสักพักก็กลับมาที่โรงพยาบาล
บุริศร์ตื่นแล้ว ตอนที่พบว่านรมนไม่อยู่ก็เป็นห่วงอยู่บ้าง ต่อมาได้ยินว่าไปที่ตระกูลธนาศักดิ์ธน ก็วางใจลง แต่กลับให้พฤกษ์ไปรอข้างนอกอีกครั้ง
นรมนเพิ่งออกมาจากตระกูลธนาศักดิ์ธนก็เจอพฤกษ์
“ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่?”
“คุณนาย ประธานบุริศร์ให้ผมมารรับคุณ”
พฤกษ์พูดด้วยรอยยิ้มกว้าง เขามองออก บุริศร์ปฏิบัติกับนรมนดีมากจริงๆ ดีจนสามารถทำได้ทุกอย่าง
ถึงนรมนจะไม่ได้พูดอะไร แต่มุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย
“ความเอาใจยากของเขาหายไปแล้วเหรอ?”
“ประธานบุริศร์ก็เป็นแบบนั้น คุณนายอยู่กับประธานบุริศร์มาตั้งหลายปีแล้ว ยังไม่รู้จักประธานบุริศร์อีกเหรอครับ? คุณอย่าทะเลาะอะไรเล็กๆ น้อยๆ กับเขาเลยครับ”
คำพูดของพฤกษ์ทำให้ความรู้สึกนรมนชัดเจนยิ่งขึ้น
“แต่ความเอาใจยากของเขาน่ะ ต้องเปลี่ยน”
“ใช่ๆๆ คุณนายพยายามเข้านะครับ นอกจากคุณ ก็ไม่มีใครเปลี่ยนเขาได้อีกแล้ว”
พฤกษ์พูดเก่งเป็นพิเศษ
นรมนอารมณ์ดีมาตลอดทาง เมื่อกลับมาถึงห้องคนไข้ บุริศร์ก็มาอยู่กับกมลแล้ว และคุณนายโตเล็กก็รีบกลับบริษัทไปจัดการธุระต่างๆ
เมื่อกมลเห็นนรมนก็ดีใจเป็นพิเศษ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...