บทที่ 332 ฉันสุภาพอ่อนโยนมากพอแล้ว
“ประธานบุริศร์ คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ”
พฤกษ์สังเกตการณ์บุริศร์ตลอด เขาเห็นท่าทางของบุริศร์ในตอนนี้แล้ว ก็อดก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง เพื่อประคองบุริศร์ให้ลุกขึ้นทันทีไม่ได้
หลายปีมานี้ มีเหตุการณ์ใดบ้างที่บุริศร์ไม่เคยเห็น แต่ล้วนไม่เคยมีท่าทางกระสับกระส่ายและกังวลใจมากเหมือนในตอนนี้
แม้แต่จะเอ่ยพูด เขาก็ไม่เต็มใจอยู่บ้าง
คมทิพย์มองเขาแวบหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว พลางถามคุณหมอว่า “คุณหมอคะ นรมนเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“ทำแท้งเด็กไปแล้ว ตอนนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ร่างกายของคนไข้อ่อนแอมากเกินไป อีกทั้งยังอยู่บนพื้นที่เย็นชื้นเป็นเวลานาน ในภายหลังจะตั้งครรภ์ได้อีกหรือไม่ก็ยังเป็นปัญหา ถ้าหากว่าได้ล่ะก็ หวังว่าภายในสามปีนี้อย่าเพิ่งมีลูก นี่เป็นการพิจารณาเพื่อร่างกายของคนไข้ครับ”
คำพูดของคุณหมอทำให้บุริศร์โล่งใจ
“คุณหมอครับ นอกจากพักผ่อนแล้ว เธอจำเป็นต้องทำอย่างอื่นอีกไหมครับ”
ในที่สุดบุริศร์ก็เอ่ยพูด
คุณหมอส่ายหน้า พลางเอ่ยว่า “ตอนนี้เรื่องที่เธอต้องทำ นอกจากการพักผ่อนแล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาสภาพจิตใจให้ดี สภาพอารมณ์ของเธอไม่สามารถได้รับความกระทบกระเทือนใดๆได้ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร นี่ก็เป็นการอยู่เดือน อีกทั้งดูจากสภาพร่างกายของเธอในตอนนี้นั้น จะปรับให้ดีขึ้นได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้”
หัวใจของบุริศร์คล้ายกับถูกมีดกรีดอย่างไรอย่างนั้น
นรมนเคยร่างกายแข็งแรงสดใสเช่นไร
แต่หลังจากที่อยู่กับเขาแล้ว เธอล้วนผ่านอะไรมากัน คมทิพย์พูดไม่ผิดเลย การที่นรมนตกหลุมรักเขา ก็คือภัยพิบัติของเธอ
บุริศร์พยักหน้า จิตใจหนักอึ้ง
ตอนที่นรมนถูกเข็นออกมานั้น สีหน้าขาวซีดเสียจนน่าตกใจ
บุริศร์รู้สึกคัดจมูก หน่วยตาร้อนผ่าวจนปวดไปหมด
เขาจับมือของนรมนเอาไว้ รู้สึกได้ว่ามือของเธอเย็นมาก เย็นเหมือนกับเสียดลึกเข้าไปในกระดูก
หัวใจของบุริศร์ตึงเครียดอีกครั้ง
คมทิพย์คิดจะก้าวขึ้นไป แต่กลับถูกพฤกษ์ห้ามเอาไว้
เขาส่ายหน้าให้กับคมทิพย์ ทำให้คมทิพย์ถลึงตาใส่เขาอย่างดุร้ายครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรออกมา
บุริศร์เข็นนรมนกลับไปยังห้องพักผู้ป่วย
ภายในห้องเงียบเป็นพิเศษ เงียบเสียจนได้ยินเสียงน้ำเกลือไหลเข้าสู่เส้นเลือด
บุริศร์ไม่รู้ว่าตอนแรกนรมนยืนหยัดผ่านมาได้อย่างไรกันแน่ แต่เมื่อคิดว่าตอนที่นรมนได้รับรู้ว่าลูกของตัวเองไม่อยู่แล้วจะเจ็บปวดใจอย่างไร เขาก็แทบจะฆ่าตัวเองทิ้งเสียให้ได้
เขาไม่ควรเป็นที่หลบภัยให้เธอหรือ
เขาไม่ควรค้ำยันผืนฟ้าเพื่อเธอและลูกหรือ
แต่ว่าตอนนี้จะนับเป็นอะไรได้
เขากลับให้ภรรยาของตัวเองได้รับความลำบากแบบนี้
บุริศร์ตำหนิตัวเองในใจอย่างทรมาน แทบอยากจะให้เวลาสามารถไหลย้อนกลับได้
เขาไม่รู้ว่าครรภ์นี้เป็นลูกชายหรือลูกสาว หน้าตาเหมือนเธอหรือว่าเขา ยิ่งไม่รู้ว่าลูกคนนี้อยู่ในครรภ์ตั้งแต่เมื่อไร มาวันนี้ทั้งหมดล้วนกลายเป็นเลือดกองหนึ่งแล้ว ทั้งหมดล้วนมลายหายไปหมดแล้ว
ความรู้สึกประเภทนี้ทำให้คนเจ็บปวดลึกถึงก้นบึ้งของหัวใจ แต่กลับตะโกนร้องออกมาไม่ได้
ตัวเขาเองรู้ว่า ความเจ็บปวดมากมายล้วนถูกซ่อนเอาไว้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนที่นรมนฟื้นขึ้นมา สภาพจิตใจจะเป็นอย่างไร จะมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบไหน
บุริศร์จับมือของนรมนแน่น คิดจะใช้อุณหภูมิของตัวเองมาทำให้มือของนรมนอบอุ่น น่าเสียดายที่ผ่านไปนานแล้ว มือของเธอยังคงเย็นเฉียบเหมือนเดิม
ตอนที่พฤกษ์และคมทิพย์เข้ามา เห็นท่าทางโศกเศร้าเสียใจของบุริศร์แล้ว ก็ทำให้คำตำหนิทั้งหมดที่มาถึงริมฝีปากคมทิพย์แล้ว ต้องกลืนกลับลงไปทั้งอย่างนั้น
“คือว่าคุณน่ะ พฤกษ์บอกว่าบนร่างกายคุณยังมีบาดแผล วันนี้นรมนคงจะไม่ฟื้นขึ้นมาในชั่วครู่ชั่วยามหรอก คาดว่าคงหลับไปหลายชั่วโมง ไม่สู้คุณกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะ ตอนกลางคืนมาเปลี่ยนแทนฉันก็พอแล้ว”
คมทิพย์รู้สึกว่าตัวเองสุภาพและอ่อนโยนต่อบุริศร์มากพอแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขามีความจริงใจต่อนรมน เธอคงจะไม่พูดกับผู้ชายคนนี้หรอก
บุริศร์พูดคล้ายกับว่าไม่ได้ยิน “พวกคุณกลับไปเถอะ ผมอยู่ที่นี่คนเดียวก็พอแล้ว”
“ทำไมคุณถึงฟังภาษาคนไม่เข้าใจกันนะ ตอนนี้นรมนยังไม่รู้สึกตัว ถ้าเกิดฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นท่าทางห่อเหี่ยวซีดเซียวไม่น่ามองของคุณแล้ว เธอที่สูญเสียลูกไป ยังต้องเป็นห่วงคุณอีกหรือ คุณคิดว่าฉันใส่ใจเรื่องที่คุณจะอยู่หรือตายจริงๆหรือ ถ้าไม่ใช่เพราะว่า ไม่อยากให้นรมนเสียใจเป็นทุกข์ ฉันจะสนใจทำไมว่าคุณจะไปตายหรือไม่”
คมทิพย์เป็นคนที่อารมณ์รุนแรงคนหนึ่ง พูดจาไม่ลงรอยกันสามประโยคก็มีโทสะขึ้นมาทันที
พฤกษ์กระแอมไอ ดึงคมทิพย์มาไว้ด้านหลังตัวเอง เอ่ยกับบุริศร์ว่า “ประธานบุริศร์ กว่าคุณผู้หญิงจะฟื้นยังต้องใช้เวลาอีกหลายชั่วโมง ผมไปถามคุณหมอมาแล้ว คุณหมอวางยาชาทั้งตัวให้กับคุณผู้หญิง อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสองชั่วโมงถึงจะฟื้นคืนสติ คุณกลับไปพักผ่อนสักหน่อยเถอะครับ ตอนนี้สีหน้าของคุณทำให้คนตกใจเป็นอย่างมาก”
“ทำให้คนตกใจหรือ”
บุริศร์ไม่ว่าตัวเองมีสภาพแบบไหน ตอนที่ได้ยินพฤกษ์พูด ก็อดไม่ได้ที่จะถามประโยคหนึ่ง
“คุณดูเองสิว่า ตอนนี้สีหน้าคุณเป็นอย่างไร”
คมทิพย์ยื่นกระจกในมือไปให้
บุริศร์เห็นท่าทางห่อเหี่ยว ใบหน้าซีดเผือด แบบนี้ของตัวเองเป็นครั้งแรก
เขารู้สึกมาตลอดว่า ไม่มีอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้ แต่ความจริงก็แสดงให้เห็นแล้วว่า มีเรื่องราวมากมายที่เขามีความสามารถไม่พอ วันนี้สีหน้าซีดเหลืองมองดูแล้วทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจอยู่บ้างจริงๆ
บุริศร์ส่งกระจกคืนให้กับคมทิพย์ เอ่ยเสียงเบาว่า “ผมจะไปพักผ่อนสองชั่วโมง ถ้าหากนรมนฟื้นแล้ว เรียกผมให้ตื่นในทันที” เขาไปพักผ่อนก็เพื่อนรมน
ทุกประโยคที่คมทิพย์พูดออกมาในตอนนี้ เหมือนกับมีดที่แทงเข้ามาบนหัวใจของบุริศร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...