บทที่ 337 ผมไม่เป็นห่วงคุณแล้วจะให้ใครเป็นห่วงคุณ
บุริศร์กลัวมากที่จะทำให้นรมนตื่น รีบหยิบมือถือออกจากห้องแล้วให้คิมช่วยดูแลเธอไว้
บุริศร์รับสายในระเบียนทางเดิน
“คุณบุริศร์ เกิดเรื่องกับหม่ามี้ของผมใช่มั้ย?”
เสียงของกานต์ดังออกมาจากในโทรศัพท์ น้ำเสียงส่อด้วยความเป็นห่วงและเค้นถาม
บุริศร์อยากจะปิดบังกานต์แต่กลับได้ยินกานต์พูด:“คุณอย่าคิดจะหลอกผมเป็นเพราะเห็นผมอายุน้อยนะครับ เมื่อกี้ผมเห็นคุณอาให้คนพาป้าโอไป ดูเหมือนว่าป้าโอถูกตัดแขนขาไปด้วย ผมได้ยินว่าเป็นฝีมือของคุณ โดยปกติแล้ว คุณไม่ใช้คนลงมือโหดเหี้ยมแบบนี้ นอกซะจากว่านางแม่มดคนนั้นทำไม่ดีกับหม่ามี้ของผม ใช่หรือเปล่า?ตอนนี้หม่ามี้ของผมอยู่ไหน?ทำไมมือถือของเธอถึงโทรไม่ติด?”
กานต์ถามคำถามทอดยาวเป็นแถวทำให้บุริศร์แทบรับไม่ทัน
บางครั้งก็คิด มีลูกชายฉลาดถือว่าโชคดีหรือว่าโชคร้ายกันแน่?
บุริศร์คิดแล้วก็พูด:“เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยขึ้นกับหม่ามี้ของลูกจริง ตอนนี้เธอกำลังพักฟื้นที่โรงพยาบาลอยู่ ช่วงหลายวันนี้ ลูกอย่าเพิ่งมาจะดีกว่า”
“ผมไม่เอา!ผมจะไปดูหม่ามี้ให้ได้!ผมจะบอกให้คุณตาและคุณยายด้วย ให้พวกเขาไปพร้อมกับผม!”
คำพูดของกานต์ทำให้บุริศร์ตกใจอย่างมาก
“กานต์ ลูกอย่าไปบอกคุณตากับคุณยายนะลูก”
“ทำไมล่ะครับ?”
ยังไงซะกานต์ก็ยังเป็นเด็ก เรื่องบางเรื่องยังไม่ค่อยเข้าใจ
บุริศร์กุมขมับตัวเองแล้วพูด:“หม่ามี้ของลูก ครั้งนี้อาการหนักเป็นพิเศษ เธอต้องพักฟื้นให้ดี ถ้าเกิดคุณตากับคุณยายมา แล้วเห็นหม่ามี้เป็นแบบนี้ พวกเขาก็ต้องเสียใจ พอถึงตอนนั้นพวกเขาร้องไห้ หม่ามี้ของลูกก็จะร้องไห้ตามไปด้วย เวลานี้ จะให้หม่ามี้ของลูกน้ำตาไหลไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะกระทบต่อตาของหม่ามี้รู้มั้ย?เพราะฉะนั้น รอให้หม่ามี้ของลูกดีขึ้นแล้ว ค่อยบอกกับคุณตาและคุณยายจะดีกว่านะ”
“หม่ามี้เป็นอะไรกันแน่?ทำไมถึงได้อาการหนักขนาดนี้?”
กานต์รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาทันที แล้วก็ร้องไห้งอแงจะมาดูให้ได้
บุริศร์รู้สึกปวดหัว
เจ้าตัวแสบนี้มาคงต้องยุ่งวุ้นวายการใหญ่
“กานต์ ฟังแด๊ดดี้พูดนะ หม่ามี้มีแด๊ดดี้คอยดูแลอยู่ เดี๋ยวถ้ายังไง แด๊ดดี้จะให้หม่ามี้วีดีโอคอลกับลูกดีมั้ย?แต่ตอนนี้ ลูกยังมาไม่ได้จริงๆ และอีกอย่าง แด๊ดดี้ยังมีเรื่องจะให้ลูกช่วย”
บุริศร์จำเป็นต้องพูดแบบนี้
กานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“คุณมีเรื่องอะไรหรอกครับ?”
“เรื่องของกมลไง เพราะเรื่องหม่ามี้จะให้กมลรู้ไม่ได้ เพราะฉะนั้น แด๊ดดี้เลยส่งกมลไปรักษาตัวที่อื่น ลูกก็รู้ ว่าน้องอยู่ระหว่างการพักฟื้นอยู่ ถ้าปล่อยให้น้องรู้ว่าหม่ามี้ร่างกายไม่ดี น้องจะเป็นห่วง แด๊ดดี้กับหม่ามี้ได้ปรึกษาการเมื่อกี้นี้ รอให้หม่ามี้หายดีแล้ว พวกเราจะพาลูกสองคนไปเที่ยวด้วยกัน ลูกเป็นพี่ ตอนนี้ ควรจะช่วยหม่ามี้แบ่งเบาภาระหน่อยถูกมั้ย?ต้องรู้จักช่วยดูแลน้องสาว?”
คำพูดของบุริศร์ กานต์รู้สึกตามไม่ทัน
“แต่ว่าหม่ามี้……”
“หม่ามี้ของลูกมีแด๊ดดี้อยู่ทั้งคน อีกอย่าง เราสองคนก็อยากมีช่วงเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองบ้าง ถือว่าแด๊ดดี้ขอร้องล่ะ ได้มั้ย?”
กับกุมารน้อยคนนี้ บุริศร์ไม่รู้ควรใช้วิธีไหนจัดการแล้ว
กานต์กัดริมฝีปากแล้วพูด:“นั้นผมจะเจอหม่ามี้ได้เมื่อไหร่ครับ?คุณรับประกันกับผมได้มั้ยว่าหม่ามี้จะไม่มีเรื่องอะไร”
“ไม่มีเรื่องใหญ่แน่นอน แด๊ดดี้เอาหัวเป็นประกัน”
“ก็ได้ครับ ผมยอมเชื่อคุณครั้งนี้”
กานต์พูดอย่างฝืนใจ
“แล้วน้องกมลของผมอยู่ไหนครับ?คุณส่งที่อยู่มาให้ผม เดี๋ยวผมจะพาคุณตากับคุณยายไปด้วย กมลต้องดีใจมากแน่ๆ”
“ได้ ฝากลูกดูแลคุณตาคุณยายและน้องแล้วนะครับ”
บุริศร์ค่อยยังโล่งใจได้สักที
กานต์กลับพูดอย่างได้ใจ:“ไม่ต้องเกรงใจครับ ไว้คราวหน้าให้เงินผมเยอะหน่อยก็พอ ใช่แล้ว ใกล้จะถึงวันเกิดของหม่ามี้แล้ว ตอนนั้นผมสามารถเจอหม่ามี้ได้หรือยังครับ ?”
บุริศร์นัดเวลาในใจ ยังอีกยี่สิบกว่าวันถึงจะเป็นวันเกิดของนรมน ตอนนั้นถึงจะยังไม่ครบเดือน แต่ก็ดีกว่าตอนนี้มากแล้ว
อีกอย่าง เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถปิดได้ถึงเดือนโดยที่ไม่มีใครสงสัย พอถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณนายทวีทรัพย์ธาดาหรือว่าพ่อแม่ของตระกูลธนาศักดิ์ธนก็ต้องรู้แน่นอน
พอคิดถึงตรงนี้ บุริศร์ก็พยักหน้าพูด:“ได้ พอถึงตอนนั้นแล้ว หม่ามี้จะปรากฏต่อหน้าลูกๆอย่างดีเลยครับ”
“คุณบุริศร์ ดูแลหม่ามี้ของผมให้ดีนะ ไม่อย่างนั้น ผมไม่เอาคุณไว้แน่”
กานต์สั่งอย่างกับผู้ใหญ่ตัวน้อย
“ได้เลย รับรองว่าจะไม่ให้หม่ามี้ของผมๆร่วงแม้แต่เส้นเดียว พอใจยัง?”
“นี่ก็ค่อยยังชั่ว เอาล่ะ ผมวางสายแล้ว!”
หลังจากที่กานต์วางสายไป บุริศร์รู้สึกว่าตัวเองเกือบจะหมดเร็ว
เมื่อก่อน ถึงแม้จะทำสัญญาลงนามในโครงการร้อยล้านยังไม่เคยตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน ตอนนี้กลับถูกลูกชายของตัวเองทำซะแบบนี้ เขารู้สึกตัวเองน่าขำมาก
พอนึกถึงเสียงโทรศัพท์เมื่อกี้เกือบรบกวนถึงการพักผ่อนของนรมน บุริศร์รีบปิดเสียงมือถือทันที
พอกลับมาถึงห้องอีกที คิมได้เก็บของทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อยหมด แม้กระทั่งเสื้อที่นรมนทำเลอะก็ได้ช่วยเปลี่ยนชุดลงมาเสร็จ เตรียมจะเก็บไปซักที่บ้าน
บุริศร์พูดด้วยเสียงเบา:“ให้ผมทำเถอะครับ”
“คุณเป็นผู้ชาย ดูแลผู้หญิงอยู่ไฟก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้ให้คนเป็นแม่อย่างฉันทำเถอะค่ะ ช่วงนี้ ฉันก็จะพยายามไม่ให้พวกเขารู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับนรมน ต้องลำบากคุณหน่อยแล้วนะ”
“ไม่เป็นไรครับ เธอเป็นภรรยาของผม ผมไม่เป็นห่วงแล้วใครจะเป็นห่วงล่ะครับ?วางใจเถอะครับ ตอนนี้ผมก็ไม่ธุระอะไร บริษัทก็ให้น้องชายผมช่วยจัดการแทน ผมมีเวลามากพอที่จะดูแลเธอและอยู่เป็นเพื่อนของเธอ”
คำพูดของบุริศร์ทำให้คิมรู้สึกวางใจอย่างมาก
“ช่วงเวลาแบบนี้ ผู้หญิงจะอารมณ์หวั่นไหวได้ง่าย บางคนถึงขั้นซึมเศร้าก็มี ปกติว่างๆไม่มีอะไรทำ ก็พูดเรื่องสิ่งดีๆให้เธอฟังบ้าง อย่าให้เธอไปคิดแต่เรื่องลูกที่ไร้วาสนาต่อกันเลย ฉันรู้ดีว่าเรื่องนี้คุณเองก็เศร้าใจไม่น้อย แต่ผู้ชายสามารถแบกรับความเจ็บปวดแบบนี้ได้ แต่กับผู้หญิงไม่แน่ ฉันรู้ว่าพูดแบบนี้มันดูลำเอียง แต่เธอเป็นลูกสาวของฉัน ฉันก็ย่อมต้องเป็นห่วงเธอมากกว่า ”
คิมมองหน้าบุริศร์ ตอนที่สายตาหันไปที่นรมนอีกครั้งนั้นน้ำตาก็คอเบ้า
คนที่เป็นแม่ เห็นลูกกสาวเป็นแบบนี้ ใครบ้างจะไม่เจ็บปวด?
เธอก็แค่กลั้นไม่ให้น้ำตาไหลลงมา
หลังจากที่ออกจากที่นี่แล้ว กลับไปถึงที่ห้องคุณนายทวีทรัพย์ธาดา เธอยิ่งไม่กล้าเผยความเศร้าออกมาแม้แต่เสี้ยว
บุริศร์ตั้งใจฟังแล้วพยักหน้าพูด:“ท่านวางใจเถอะครับ ผมจะดูแลเธอให้ดีครับ ฝั่งคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเป็นยังไงบ้างครับ?”
“ให้ยาแก้พิษไปแล้ว คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ฟื้นแล้ว แต่ช่วงหลังต้องทำการบำบัด ถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์แล้ว สารพิษในร่างกายคงยากที่จะหายไปได้ง่ายๆ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาลืมตาก็หาแต่นรมน ฉันบอกไปว่านรมนมีธุระด่วนออกต่างประเทศไปแล้ว ประมาณยี่สิบกว่าวันถึงจะกลับมา ให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาให้ความร่วมมือกับคุณหมออย่างดี จะได้มีร่างกายที่แข็งแรงไปเจอกับนรมน ดีที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเชื่อ เพราะฉะนั้น ช่วงนี้ ฉันจะเอาของกินมาส่ง แต่จะอยู่นานไม่ได้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะได้ไม่สงสัย”
คิมพูดด้วยเสียงเบา
ทั้งสองคนอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน จะไม่ให้เจอหน้ากันเลย โอกาศแทบจะเป็นไปไม่ได้
แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะนรมนเองหรือว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองก็ตาม ต่างก็ต้องพักรักษาตัวอย่างสงบ
บุริศร์เองก็รู้ถึงจุดนี้
ฝั่งคุณนายตระกูลโตเล็กก็กำลังปรับสภาพร่างกายอยู่ แน่นอนว่าไม่สามารถมาดูแลนรมนได้ เขาคิดอยู่ครู่นึงแล้วพูด:“เอาอย่างนี้มั้ยครับ ท่านบอกผมมา ตอนนี้เธอต้องทานอะไรบ้าง ผมทำเอง”
“คุณ?คุณทำอาหารเป็นด้วยหรอ?”
เห็นชัดว่าคิมรู้สึกไม่เชื่อ
บุริศร์พยักหน้าแล้วพูด:“ผมทำอาหารเป็นครับ ตอนนี้ทุกคนก็มีงานของตัวเอง ให้ผมดูแลนรมนเองเถอะครับ พวกคุณก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง เธอมีผมอยู่”
คิมยังรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ บอกเรื่องที่ควรระวังให้กับบุริศร์ ส่วนเรื่องอาหาร เน้นพวกของจืดและบำรุงก็พอ
บุริศร์จดจำไว้อย่างละเอียด และเป็นผู้เรียนที่ตั้งใจมาก
เห็นบุริศร์เป็นแบบนี้แล้ว ในที่สุดคิมก็วางใจสักที
“ฉันไปก่อนแล้วนะ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่มีคนอยู่ข้างๆเป็นเวลานานไม่ได้”
“ได้ครับ!ผมไปส่งท่านครับ!”
ท่าทีที่บุริศร์มีให้กับคิมเผยให้เห็นความเคารพเสี้ยวนึง เขาส่งคิมออกจากห้องผู้ป่วย
ไม่รู้ว่าธรณีออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ บุริศร์ก็ไม่ทันสังเกต สำหรับเขาแล้ว คนที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือนรมน ส่วนคนอีก เขาไม่มีเวลาไปสนใจ
หลังจากส่งคิมออกไปแล้ว บุริศร์ก็เริ่มศึกษาเมนูอาหาร
ตอนที่นรมนตื่นมานั้น ฟ้าก็ใกล้มืดแล้ว แต่บุริศร์ยังนั่นดูเมนูอาหารอยู่ ทำเอานรมนรู้สึกแปลกใจอย่ารู้ขึ้นมา
“คุณดูอะไรอยู่คะ?”
“ตื่นแล้วหรอ?จะดื่มน้ำมั้ย?”
บุริศร์รีบวางมือถือลง
“ดีค่ะ”
นรมนรู้สึกกระหายน้ำอยู่พอดี
บุริศร์เทน้ำอุ่นให้เธอแก้วนึงแล้วยื่นให้เธอ
“ฉันอยากดื่มน้ำเย็นค่ะ รู้สึกร้อนๆที่หน้าอก อยากจะดื่มให้หายร้อนหน่อย”
นรมนขออย่างเอาแต่ใจ
บุริศร์ใส่หัวแล้วพูด :“ผมเพิ่งอ่านจากมือถือเมื่อกี้ ตอนนี้คุณเพิ่งจะอยู่ไฟ ดีที่สุดคือห้ามทานของเย็น เคยเป็นแม่คนมาแล้วครั้งนึง อย่าบอกกับผมว่าคุณไม่รู้นะ หยุดเอาแต่ใจได้แล้ว รอผ่านหนึ่งเดือนไปแล้ว คุณอยากจะทานอะไรผมตามใจคุณได้ทุกอย่าง ”
ได้ยินที่บุริศร์พูดแบบนี้แล้ว นรมนเลยรู้สึกท้อแท้ แต่ก็ถามอย่างแปลกใจอยากรู้:“ตอนฉันนอนหลับไป คุณก็นั่งอ่านพวกนี้อยู่นี่หรอ?”
“อืม ผมยังถามพยาบาลแล้วด้วย พยาบาลบอกว่าสามารถลงแอพHi baby บนนั้นมีทุกอย่าง ผมว่างไม่มีอะไรทำเลยเข้าไปอ่านดู”
คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนรู้สึกขำ
“ท่านประธานของบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด มานั่งดูแอพHi babyวิธีเลี้ยงลูกพวกนี้ คุณไม่กล้าคนอื่นเห็นแล้วหัวเราะเยาะคุณเลยรึไง?”
“หัวเราะเยาะเรื่องอะไร?มีใครบ้างที่ไม่เป็นพ่อคนไม่เป็นสามีคน?ถ้าไม่รู้เรื่องพวกนี้จะดูแลคุณยังไง?”
“คุณยังคิดจะดูแลฉันเองจริงหรอเนี่ย?”
นรมนคิดตลอดว่าเขาแค่พูดเล่น ไม่นึกเลยว่าบุริศร์กลับจริงจังมาก
“เรื่องของคุณ ผมเคยพูดเล่นเมื่อไหร่?”
บุริศร์พูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็พยุงนรมนให้ขึ้นนั่ง
“ใช่สิ ยาแก้พิษของคุณยายกับคุณแม่เป็นไงบ้างคะ?”
จู่ๆ นรมนก็นึกถึงเรื่องนี้
บุริศร์พูดด้วยเสียงเบา:“มีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ ฝั่งคุณนายทวีทรัพย์ธาดามีหัวหน้าคิมคอยดูแลอยู่ ทางแม่ผมมีตรินท์คอยดูแล คุณไม่ต้องเป็นห่วงพวกเขาหรอก คุณเองเป็นถึงขนาดนี้แล้ว เป็นห่วงตัวคุณเองก่อนก็พอ”
“แล้วกมลกับกานต์……”
“ผมจัดการทุกอย่างแล้ว ช่วงนี้พวกเขาไม่มาที่นี่แน่ คุณพ่อคุณแม่ฝั่งตระกูลธนาศักดิ์ธนผมก็ปิดเรื่องนี้เอาไว้ เพราะฉะนั้นคุณต้องรีบรักษาตัวให้หาย ไม่อย่างนั้น ผมกลัวว่าพอคุณพ่อคุณแม่ฝั่งตระกูลธนาศักดิ์ธนรู้เรื่อง คุณจะทนกับน้ำตาของพวกเขาไม่ไหว”
คำพูดของบุริศร์พอพูดออกมาแล้ว นรมนก็ห่อเหี่ยวไปเลย
“ที่จริง ฉันได้ยินมาว่าแท้ลูกอ่อนพักฟื้นหนึ่งอาทิตย์ก็พอแล้ว พอถึงตอนนั้น ฉัน……”
“คุณเลิกคิดไปได้เลย ไม่อยู่ไฟให้ครบหนึ่งเดือน ผมไม่ยอมให้คุณลงจากเตียงแน่”
น้ำเสียงของบุริศร์ดูเฉียบขาดมาก ทำเอานรมนไม่รู้จะพูดอะไรต่อในเวลาอันสั้น
ในเวลานี้ ข้างนอกมีเสียงผู้หญิงที่คุ้นเคยดังมา กลับทำให้นรมนขมวดคิ้วขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
ตอนต่อไปจนจบ หาอ่านได้ที่ไหนคะ...