แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 338

บทที่ 338 เธอมันใจอ่อนเกินไป

“หลีกไปนะ!พวกเธอรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?กล้าดียังไงมาขวางฉันแบบนี้!หลีกไป!”

เสียงที่ยโสโอหังทำให้นรมนขมวดคิ้วเบาๆ บุริศร์ก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ

“ผมไปสั่งให้คนจัดการ”

พูดจบ บุริศร์ก็ลุกขึ้นจะออกไป กลับถูกนรมนดึงแขนเขาไว้

“อย่าออกไปเลยค่ะ เป็นตุลยา”

“ใครนะ?”

บุริศร์รู้สึกชื่อมันคุ้นๆ แต่ก็นึกไม่ออกในทันทีว่าเป็นใคร

เห็นสีหน้ามึนงงของบุริศร์ นรมนเลยพูดด้วยเสียงเบา:“ลูกสาวอีกคนของหัวหน้าคิม เธอชื่อตุลยา”

บุริศร์จำขึ้นได้ในที่สุด แต่สีหน้ากลับดูเกลียดชัง

“เธออยู่อเมริกาไม่ใช่หรอ?”

“พวกเรายังกลับมาที่เมืองชลธีได้ แล้วทำไมเธอจะกลับมาไม่ได้ล่ะ?คงกลับมาหาหัวหน้าคิมละมั่ง”

นรมนได้เปลี่ยนจากเรียกคิมเป็นหัวหน้าคิมอีกครั้ง เห็นชัดว่าเธอรู้สึกไวต่อตุลยามาก

บุริศร์ยังจำที่ตุลยาตามจีบตัวเองไม่ปล่อยได้ดี แต่ไม่รู้ว่าไมค์กลับมาหรือยัง

ตอนนี้ นรมนต้องการเวลาพักผ่อน ถ้าถูกตุลยาตามตื้อเข้า ก็ไม่รู้ว่าเธอจะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก

ถึงแม้อยู่ในเมืองชลธี จะไม่มีใครกล้าทำอะไรนรมนก็จริง แต่อย่างว่าล่ะนะ[สันติภาพจอมปลอมร้ายกว่าสงครามรบพุ่ง] ทำให้คนรู้สึกเป็นกังวล

“ผมโทรศัพท์หาไมค์”

นรมนพยักหน้า

บุริศร์หยิบมือถือเดินไปริมหน้าต่างแล้วโทรหาไมค์

“นายอยู่ไหน?”

“อยู่เมืองชลธี”

น้ำเสียงของไมค์ฟังดูแล้วจนปัญญามาก

บุริศร์หัวเราะเยาะขึ้นทีแล้วพูด:“แค่ผู้หญิงคนเดียวนายยังเอาไม่อยู่?”

ถูกบุริศร์ทิ่มแรงสักขนาดนี้ ไมค์รู้สึกอายมาก แต่พอนึกถึงตุลยาแล้ว เขาก็ถอนหายใจโดยไม่รู้ตัว แล้วพูด:“ผมเอาไม่อยู่จริงด้วย”

“ขี้ขลาด อย่าให้เธอมารบกวนถึงฉันกับภรรยา เรื่องอื่นฉันไม่ไปก้าวก่ายพวกนาย ฉันบอกนายไว้ก่อนเลยนะ เพื่อเห็นแก่หน้านาย เรื่องที่เกิดในอเมริการฉันไม่อย่าจะพูดถึงอีก ถ้าเธอยังดื้อด้านไม่ฟัง ก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน”

พูดจบ บุริศร์ก็วางสายไป

ไมค์ฟังเสียงสายที่ถูกวางไป มองตุลยาที่โวยวายอยู่ข้างหน้าแล้วกุมขมับของตัวเอง รู้สึกหดหู่มาก

บุริศร์พูดกับนรมนด้วยเสียงเบา:“ถ้าอย่างนั้น เราเปลี่ยนไปพักฟื้นที่อื่นเป็นไง?”

“ก็ดีค่ะ!อยู่ที่นี่ก็ไม่ค่อยสะดวก เดี๋ยวไปเจอกับคุณยายเข้า ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่ไม่รู้ว่าไปที่ๆไหนดี”

นรมนรับปากในทันที

ที่จริงแล้ว เธอไม่ชอบกลิ่นในโรงพยาบาลมาก นึกถึงตอนที่เธอต้องอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลาครึ่งปี และกมลที่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็อยู่มาจนเป็นเวลาห้าปี ทำให้คนมีอคติกับโรงพยาบาลไปเลย

บุริศร์เห็นว่านรมนไม่ได้คัดค้าน ดีใจออกมาในทันที

“เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง แต่ว่าหลายวันนี้ ยังต้องคอยดูอาการอยู่ที่นี่ก่อน รอให้คุณหมอบอกว่าได้แล้วเราค่อยไปจากที่นี่กัน”

“ได้ค่ะ แต่ว่าช่วงนี้ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องออกไปให้บ่อย เผื่อไปเจอกับตุลยาเข้า ฉันยังไม่อยากเห็นหน้าเธอในตอนนี้”

นรมนรู้สึกปวดหัวจนจะระเบิด เธอไม่อยากจะเจอคนมากมายแบบนี้จริงๆ

“อืม นั้นเราก็ไม่ต้องไปสนใจว่าข้างนอกจะเป็นยังไง ใช้ชีวิตของเราเอง”

“ดีค่ะ”

นรมนก็คิดแบบนี้

ตุลยายังคงโวยวายอยู่ข้างนอกไม่หยุด ไม่รู้ว่ามีใครออกมาพูดอะไร ไม่นาน เสียงก็เงียบไป

นรมนกับบุริศร์มองหน้าแล้วยิ้ม ทั้งสองคนก็เริ่มทำงานของตัวเอง

นอนหลับสบายตลอดคืน ถึงแม้ นานๆทีก็จะได้ยินเสียงของตุลยาดังมาจากข้างนอก แต่ให้ตายยังไงบุริศร์ก็ไม่ออกไป และก็ไม่ได้พบเจอกับตุลยาเลย เพราะฉะนั้นถึงว่ายังพอสงบชั่วคราว

วันที่สอง คิมโทรศัพท์มา บอกว่าตัวเองมาไม่ได้ บุริศร์ก็ตอบว่ารู้แล้ว แล้วตัวเองก็สั่งให้พฤกษ์ให้คนมาส่งของกินให้ คนที่มาส่งกลับเป็นคมทิพย์ไปได้

“คมทิพย์?เธอมาได้ยังไง!”

นรมนเห็นคมทิพย์แล้วดีใจเป็นพิเศษ

ในมือของคมทิพย์ถือกระติกเก็บอุณหภูมิแล้วพูด:“ตอนนี้ ฉันตกงานอยู่ ไม่มาดูแลเธอแล้วจะให้ทำอะไร?”

“เกิดอะไรขึ้นหรอ?”

นรมนจำได้ว่า ที่ทำงานของคมทิพย์ตอนนี้ ถือว่าไม่เลวเลย ทำไมจูๆถึงได้ตกงานได้?

หรือว่าเป็นเพราะครั้งก่อนที่ถูกเจตต์แกล้ง เลยลางานเพราะไปทำงานไม่ทันเรื่องนั้น?

นรมนยังไม่ทันจะถาม คมทิพย์ก็พูดด้วยความโมโห:“ก็เพราะไอ้บ้านายเจตต์คนนั้นแหละ!ฉันก็เพิ่งรู้ว่าบริษัทที่ฉันทำอยู่คือบริษัทของเขา ไอ้บ้าคนนั้น ถือว่าตัวเองเป็นประธานของบริษัท แล้วให้ฉันไปล้างห้องน้ำ ฉันไม่ขอเอาด้วยหรอกนะ หึ!ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะหางานที่อื่นไม่ได้ !แต่ไอ้สระเลวนั่นต่ำช้ามาก เขาถึงกับป่าวประกาศในเมืองชลธี ใครที่กล้ารับฉันเข้าทำงาน ถือว่าเป็นศัตรูกับเขา ตอนนี้ ฉันขี้เกียจจะไปสนใจเขา รอเธอผ่านช่วงนี้ไปก่อน ฉันค่อยคิดบัญชีกับเขาภายหลัง”

ได้ยินคมทิพย์พูดแบบนี้แล้ว นรมนรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย

เธอคิดไม่ถึงเลยว่าคุณเจตต์จะไม่ถูกกับคมทิพย์จริง

“ให้ฉันช่วยโทรศัพท์หาเขาให้มั้ย?ไม่แน่ว่าพวกเธออาจจะมีอะไรเข้าใจผิดการ ถึงตอนนั้น……”

“ไม่ต้องหรอก คนอย่างเขา รอให้ฉันกลับไปจัดการเอง เธอไม่ต้องยุ่งหรอกนะ ตอนนี้เธอแค่พักฟื้นแล้วรักษาตัวให้หายดีก่อนก็พอ”

คมทิพย์เพิ่งจะพูดจบ บุริศร์ก็พูดขึ้นอย่างเรียบเฉย:“รู้ว่าเธอต้องการพักฟื้นอย่างสงบ ยังเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมากวนใจเธออีก”

“แหม เป็นห่วงจังเลยน้อ ฉันกับนรมนเพื่อนรักคุยความในใจ นี่คุณมาหึงอะไรกันเนี่ย?”

ถึงแม้ตอนนี้ คมทิพย์จะยอมรับบุริศร์แล้ว แต่ปากจัดของเธอก็ยังคงเอาเรื่องอยู่ ทำเอาบุริศร์โกรธจนขี้เกียจเถียงด้วยกับเธอ

นรมนเห็นท่าทางของสองคนแล้ว อดหัวเราะไม่ได้

“พวกคุณสองคน คนนึงคือสามีของฉัน อีกคนคือเพื่อนสนิทของฉัน เจอหน้ากันก็กัดกันทุกครั้ง มันดีหรอ?”

“คุณนรมนคะ คุณต้องดีใจถึงจะถูก ที่ฉันไม่ชอบขี้หน้าเขา ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ คุณคงต้องเป็นห่วงหน่อยแล้ว”

คมทิพย์ตักซุปให้นรมนถ้วยนึง

“ทำไม?”

นรมนรู้สึกมึนงง

คมทิพย์ยักไหล่ทีนึง แล้วพูด:“เธอลืมไปแล้วหรอ กันไฟกันโจรกันเพื่อนรักไงล่ะ ฮ่าๆๆ!”

“พู่!”

นรมนหัวเราะจนน้ำลายพ่นออกมา

เห็นนรมนอารมณ์ดีแบบนี้ บุริศร์ถึงตระหนักถึงว่า ที่ให้คมทิพย์มานี่ เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเหมือนกัน

“คุณคุยกับนรมนไปก่อน ผมออกไปแป๊บนึง”

บุริศร์ลุกขึ้น นรมนรู้สึกเป็นห่วง

“เดี๋ยวถ้าคุณไปเจอเธอ คุณ……”

“วางใจเถอะ นอกจากคุณแล้ว ไม่มีใครอยู่ในสายตาผมได้หรอก”

คำพูดนี้ของบุริศร์เพิ่งจะออกมา คมทิพย์ก็ทำท่าจะอ้วก หยอกจนนรมนหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง

“นี่พวกคุณตั้งใจจะยั่วให้ฉันอ้วกใช่มั้ย?”

บุริศร์หัวเราะแล้วก้าวเดินออกจากห้องผู้ป่วย

คมทิพย์รีบถาม:“นี่มันยังไง?ตอนนี้ถึงขั้นอยากจะให้เขาตัวติดกับเธอไม่ให้ห่างไปไหนเลยว่างั้น?ฉันได้ยินว่า ขนาดบริษัทเขายังไม่เอาแล้วเลย มาเฝ้าเธอทุกวัน เก่งหนิเพื่อนเรา”

“พูดเพ้อเจ้ออะไร”

นรมนหน้าแดง

“เรื่องของฉันเธอก็น่าจะรู้แล้ว แม่ของฉันคิม เธอยังมีลูกสาวต่างพ่ออีกคน คราวก่อนที่อยู่อเมริกาเธอเกือบจะทำร้ายฉันได้แล้ว เพื่อเห็นแก่หน้าของไมค์แล้ว คุณบุริศร์ถึงไม่ถือสาเอาความกับเธอ ตอนนี้ เธอกลับมาที่เมืองชลธี แถมอยู่ที่โรงพยาบาลนี้ด้วย เธอชอบคุณบุริศร์ เพราะฉะนั้น ฉันเลยถึงเป็นห่วง”

นรมนเล่าเรื่องย่อๆทั้งหมดรอบนึง

คมทิพย์ฟังจบแล้วก็อารมณ์ขึ้นทันที

“คนแบบนี้เธอทนได้ยังไง?เป็นน้องสาวของเธอแล้วไง?หล่อนได้เห็นเธอเป็นพี่สาวหรือเปล่า?บนโลกนี้ ทำไมถึงได้มีคนหน้าด้านไร้ยางอายแบบนี้ได้?ผู้ชายบนโลกนี้ตายไปหมดแล้วหรือไง?ทำไมถึงคิดแต่จะไปเป็นเมียน้อยคนอื่น?”

“พอได้แล้ว เธอเบาเสียงหน่อย ตอนนี้ฉันอยากอยู่สงบๆ ไม่อยากเจอเธอ เธอยังไม่รู้ว่าฉันอยู่ที่นี่”

นรมนดึงคมทิพย์ รู้สึกว่าตอนนี้เธอน่ารักเป็นพิเศษ

“เธอนี่ก็เหมือนกัน ใจอ่อนเกินไป อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ เธอกลัวว่าแม่ของเธอจะลำบากใจใช่มั้ยล่ะ?เอาแต่ทนอยู่คนเดียว ก็ไม่รู้คนอื่นจะเห็นความดีของเธอหรือเปล่า”

คมทิพย์จิกที่หน้าผากของนรมนทีนึงด้วยความเป็นห่วง หลังจากนั้นก็ยื่นน้ำซุปให้กับเธอ

“ทานน้ำซุปบำรุงหน่อย ว่าแต่ คุณบุริศร์ของเธอออกไปทำไมกัน?รู้ทั้งรู้ว่ายัยบ้าคนนั้นอยู่ข้างนอก ยังจะออกไปอีก?”

“เขาคงไปจัดการเรื่องจะพาฉันออกจากโรงพยาบาลอยู่น่ะ”

นรมนทานน้ำซุปไปคำนึง แล้วพูดอย่างเรียบเฉย

“ออกจากโรงพยาบาล?สภาพร่างกายของเธอตอนนี้ ออกจากโรงพยาบาลได้หรอ?”

“คงไม่มีปัญหาหรอก ฉันไม่ค่อยชอบกลิ่นของโรงพยาบาลเท่าไหร่ ในเมื่อก็แค่ต้องพักฟื้นให้ร่างกายดีขึ้น หาที่ๆสงบพักผ่อนก็น่าจะได้แล้ว”

พอนรมนพูดถึงเด็กที่ไร้วาสนาคนนั้นก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา

คมทิพย์ตบที่หลังมือของเธอเบาๆแล้วพูด:“อย่าคิดมากเลยนะ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเธอ อีกอย่าง ตอนนี้ เธอก็ยังสาว หลังจากนี้จะมีเมื่อไหร่ก็ได้”

“ฉันรู้ แค่รู้สึกเสียใจหน่อย”

ที่จริงแล้ว นรมนเองก็เข้าใจดีทุกอย่าง แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากแล้ว

ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่นั้น ข้างนอกมีเสียงโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

นรมนได้ยินเสียงของตุลยาแล้วได้ขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง

“น้องสาวปัญญาอ่อนของเธอ ?”

คมทิพย์รู้สึกว่าคนที่มาตะโกนเสียงดังในโรงพยาบาลนั้นมันน่าเกลียดน่ารำคาญมาก

นรมนพยักหน้าแล้วเสียงเบาพูด:“อย่าไปสนใจเธอเลย เธอโวยวายอยู่พักนึงเดี๋ยวก็คงเงียบไปเอง”

“ไม่ใช่นะ คนอะไรอ่ะ?ไม่รู้ว่าที่นี่มันโรงพยาบาลหรือไง?ในโรงพยาบาลต้องการความสงบ ขนาดความรู้พื้นฐานแค่นี้เธอก็ยังไม่รู้เลยหรอ?อีกอย่างนะ รปภ.และผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหายไปไหนกันหมด?นี่ไม่คิดจะมาดูหน่อยเลยหรอ?”

เดิมที คมทิพย์ก็รู้สึกโกรธอยู่แล้วที่ได้ยินว่าตุลยาจะทำร้ายนรมน ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นยังมาตะโกนเสียงดังที่นี่ ยิ่งทำให้คนหมั่นไส้เข้าไปใหญ่

นรมนดึงแขนเธอไว้

“อย่าไปหาเรื่องเลย ขอแค่เธอไม่มายุ่งกับพวกเราก็ช่างเธอเหอะ อีกไม่กี่วันฉันก็ไปแล้ว คงไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

“เธอนี่มัน ใจอ่อนจริงๆ!”

คมทิพย์เห็นนรมนเป็นแบบนี้แล้ว ถึงจะอารมณ์ขึ้นแค่ไหนก็ต้องยอมเก็บไว้

ตอนนี้นรมนเป็นคนไข้ แน่นอนว่าต้องสำคัญกว่า ในเมื่อเธอไม่อยากมีเรื่อง นั้นตัวเองก็ไม่อยากก่อเรื่องให้เธอ

แต่ว่าเสียงข้างนอกยิ่งอยู่ก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ และใกล้เข้ามาทุกที เสียงดังจนคมทิพย์ขมวดคิ้วขึ้นจนแน่น แทบอยากจะออกไปทะเลาะกับตุลยาครั้งใหญ่

“หลีกไปๆ!”

ตุลยาก็ยังทำตัวเหมือนตอนอยู่อเมริกาเช่นเคย นิสัยยโสโอหังจนคนเกลียด ถึงแม้ไมค์จะคอยตามหลังห้ามเธอ เธอก็ยังเอาตัวเองเป็นใหญ่ไม่ฟังใครเลย

ระหว่างที่ความอดทนของคมทิพย์ใกล้จะถึงสุดขีด จู่ๆข้างนอกก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“เปิดประตู!”

เสียงของเธอดังเข้ามาโดยที่มีบานประตูกั้นไว้ ทำให้นรมนหรี่ตาในทันทีอย่างไม่รู้ตัว

หล่อนรู้ว่าเธอพักอยู่ที่โรงพยาบาลแล้วงั้นหรอ?

นี่ตั้งใจมาหาเรื่องถึงที่เลยงั้นหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย