แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 347

บทที่ 347 เธอแสดงละครให้ใครดูกันแน่

ตุลยาจู่ๆก็หัวเราะขึ้นมาแล้วพูด:“เธอรองทายดูสิ!”

“ฉันขอเตือนเธอไว้เลยนะ ไม่ว่าเธอจะมีจุดประสงค์อะไรก็ตาม ถ้าเธอกล้าทำร้ายคุณนายทวีทรัพย์ธาดาแล้วละก็ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”

“เธอจะทำอะไรฉันได้?เธอนอกจากจะมีคุณบุริศร์เขาคอยปกป้องเธอแล้ว เธอยังจะทำอะไรได้อีก?ฉันได้ยินมาว่า ตอนนี้คุณบุริศร์ก็ไม่ใช่ประธานของบริษัทฮัวยูกกรุ๊ปจำกัดแล้ว และที่เธออยู่ในตระกูลโตเล็กฐานะเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้ ตอนนี้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาชอบฉันมาก เธอคิดว่าเธอจะทำอะไรฉันได้?”

ท่าทางของตุลยาโอหังมาก เห็นหน้าของเธอแล้วทำให้นรมนรู้สึกอยากจะอวก

“ทางที่ดีที่สุดเธอเพลาๆท่าทีของเธอหน่อย”

“ถ้าฉันไม่ล่ะ?”

ตุลยาตั้งใจยั่วยุต่อ

นรมนหรี่ตาลงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“นั้นเธอก็อย่าโทษฉันแล้วกัน”

“เธอคิดจะทำอะไร?ฆ่าฉันหรอ?เธอกล้านั้นหรอ?”

ตุลยาเดินไปข้างหน้าก้าวนึง ยืนมือจะไปผลักนรมน

นรมนยกมือไปกันไว้ด้วยสัญชาตญาณ กลับได้ยินตุลยาจู่ๆกรี๊ดดังขึ้นมาทีนึง แล้วล้มลงไปข้างหลังทั้งคนอย่างเร็ว

“พี่คะ ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบที่ฉันคอยปรนนิบัติคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ที่ฉันทำไปก็เพื่อพี่นะคะ ?ทำไมพี่ถึงคอยหาเรื่องฉันตลอดเลยคะ?ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะคะ ถ้าพี่อยากให้ฉันไป แค่บอกมาคำเดียวก็พอ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกับฉันแบบนี้ด้วยคะ ?”

ตุลยาร้องไห้จนน้ำตาไหลพรากไม่หยุด และล้มกองอยู่ที่พื้นอย่างไม่อาย

และแขนของนรมนยังยกคาอยู่บนฟ้า ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็คงต้องคิดว่าเมื่อกี้เธอรังแกตุลยาแน่

“ตุลยา นี่เธอแสดงละครให้ใครดูกันแน่?”

นรมนแทบจะโกรธจนอกแตกตาย

สายตาของคนรอบข้างได้หันมามองอย่างพร้อมเพรียง ราวกับเธอเป็นนางมารร้ายจริงๆอย่างไรอย่างนั้น

ตุลยากลับร้องไห้น่าสงสารอยู่เช่นเดิม

“ฉันรู้ว่าพี่ไม่ชอบฉัน ไม่ว่าฉันจะทำอะไร ในสายตาของพี่ก็คิดว่าฉันแสดงละคร ตอนนี้พี่ก็กลับมาแล้ว คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันจะไปเองคะ!”

พูดจบ เธอรีบลุกจากพื้นแล้ววิ่งออกไปเลย

นรมนโกรธแทบตาย ตุลยาทำไมต้องเล่นละครฉากนี้กันแน่ ?

เธอมองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นคุณนายทวีทรัพย์ธาดาหรือคิม แล้วเธอแสดงละครให้ใครดูกันแน่?

นรมนรู้สึกวันนี้ซวยชะมัด เลยขี้เกียจจะไปสนใจตุลยา โกรธจนหันเดินจากไปแล้วไปหาบุริศร์

และเรื่องนี้ผ่านไปไม่กี่นาที ก็เข้าถึงหูของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาด้วยปากของพยาบาล

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา หลานสาวคนโตของท่านร้ายกาจมากเลยนะคะ นี่ขนาดอยู่ในโรงพยาบาลยังกล้าลงมือทำร้ายคน”

คำพูดของพยาบาลทำให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาอึ้งไปครู่นึง

“เธอหมายถึงใคร?”

“จะใครอีกละคะ?ก็คุณหนูใหญ่ที่เพิ่งออกจากห้องท่านเมื่อกี้ไงล่ะคะ คุณตุลยาปรนนิบัติท่านมายี่สิบกว่าวันไม่เคยบ่นสักคำ แต่พอคุณนรมนกลับมา ก็ลงมือตบคุณตุลยาที่ระเบียนทางเดินโดยไม่มีเหตุผลเลย คนยืนอยู่เยอะแยะ ทุกคนต่างก็เห็น แถมคุณตุลยาเองก็ไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วย โธ่ เห็นแล้วน่าสงสารมากเลยค่ะ!”

พยาบาลสาวเล่าเรื่องเมื่อกี้ให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาฟังไปรอบนึงโดยเติมพริกเติมเกลือเข้าไป

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาขมวดคิ้วขึ้นเบาๆ

“แล้วยัยตุลยาล่ะอยู่ไหน?”

“คงวิ่งไปร้องไห้ที่ไหนสักที่ละมั่งคะ พูดไปแล้ว คุณตุลยาก็น่าสงสารมากเลยนะคะ อยู่ต่อหน้าท่านแล้ว สีหน้ายิ้มแย้มอยู่ตลอด แต่พอลับหลัง แม่ของเธอก็ไม่เคยชอบหน้าเธอสักเท่าไหร่เ เอาแต่หาเรื่องเธออยู่ตลอด ไม่ว่าจะเรื่องอะไร คุณตุลยาก็เอาแต่แบรับไว้คนเดียว และนี่ถูกพี่สาวแท้ๆมารังแกอีก ก็ไม่รู้ว่าวิ่งไปร้องไห้ที่ไหนแล้ว เฮ้ย”

พยาบาลพูดจบแล้วส่ายหัว ทำหน้าถอนหายใจ

แววตาของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเคร่งขรึมขึ้นมาทันที

“เธอบอกว่าแม่ของหล่อนปฏิบัติต่อหล่อนไม่ดีงั้นหรอ?”

“ท่านมองไม่ออกเลยหรอคะ?ลูกสะใภ้ของท่านปฏิบัติต่อเธอเย็นชามาตลอด ตอนนี้ คุณนรมนเพิ่งจะกลับมา เธอก็ไปหาคุณบุริศร์คุยธุระแล้ว ก็ไม่แน่อาจจะไปคุยเรื่องสำคัญอะไรก็ได้ คนเป็นแม่นี่ก็ ทำตัวลำเอียงแบบนี้ น่าสงสารคุณตุลยามากเลยนะคะ ”

พยาบาลส่ายหัวแล้วจากไป

เดิมทีคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเองไม่เชื่อว่านรมนจะเป็นคนตีสองหน้าได้ แต่พอเธอมาคิดๆดูแล้ว ตั้งแต่ที่นรมนเข้ามาจนจากออกไปนั้น เธอก็เห็นว่านรมนไม่เคยมีสีหน้าดีให้กับตุลยาเลย

หรือว่าจะเป็นเรื่องจริง?

เธอเร่งรีบเข็นรถเข็นออกจากห้องผู้ป่วย ก็เห็นตุลยาแอบหลบเช็ดน้ำตาอยู่ที่หัวโค้งระเบียนทางเดินอยู่คนเดียว สีหน้าที่กล้ำกลืนฝืนทนทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกสงสาร และที่หัวเข่าของเธอมีคราบเลือดที่เห็นได้ชัดเจน คงเป็นเพราะผิวหนังถลอกแล้วเลือดไหลซึมออกมา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเกิดความสงสารขึ้นในทันที

“หนูตุลยา หนูมาทำอะไรที่นี่จ้า?”

ทันทีที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาออกเสียง ตุลยาก็รีบหันตัวมาแล้วเช็ดน้ำตาของตัวเองให้แห้งอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็หันมายิ้มพูดกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดา:“คุณยายคะ ท่านออกมาทำไมคะ ?ข้างนอกลมหนาวมากเลยนะคะ หนูพาท่านกลับห้องนะคะ”

“หนูนรมนเป็นคนตีหนูใช่มั้ย?”

ดวงตาของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาดูแหลมคมขึ้น

ตุลยารีบก้มหน้าลงแล้วพูด:“เปล่าค่ะ หนูไม่ทันระวังแล้วล้มเองค่ะ พี่นรมนไม่ได้ตีหนูเลยนะคะ”

สีหน้าเธอตอนนี้ กำลังปกป้องนรมนชัดๆ

แต่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่พูดอะไร แค่พูดเบาๆ:“เธอไปหยิบผ้าห่มมาให้ฉันผืนนึง ฉันอยากออกไปเดินสูดอากาศเข้านอกหน่อย”

“ได้ค่ะ”

ตุลยาเดินกลับไปที่ห้องผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาได้ไปถึงที่ห้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด

เธอเปิดกล้องวงจรปิดเมื่อกี้ออกมาดู เป็นเพราะมุมกล้อง เธอเลยเห็นแค่นรมนยกแขนขึ้น แล้วตุลยาก็ล้มลงกับพื้นแล้ว

หรือว่านรมนจะเป็นคนผลักตุลยาจริง?

มองจากกล้องแล้วสามารถเห็นสีหน้าของนรมนได้อย่างชัดเจน สีหน้าของเธอไม่ดีเลย เหมือนกำลังโกรธ ส่วนตุลยาหันหลังให้กับกล้องอยู่ เลยมองไม่เห็นสีหน้าของเธอเลย

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาออกจากห้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยไม่พูดอะไร แล้วเห็นตุลยากำลังเดินมาทางเธออยู่พอดี

“แม่ของเธอล่ะ?เรียกแม่ของเธอมาหาฉันหน่อย เที่ยงนี้ฉันอยากทานอะไรหน่อย”

“ได้ค่ะ!”

ตุลยาพาคุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับไปส่งที่ห้องอย่างเครพ จากนั้นเธอก็ไปหาคิม

ไม่นาน คิมก็มาถึง

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ท่านหาดิฉันหรอคะ?”

“ใช่”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาพยักหน้า แล้วพูดกับตุลยาที่ยืนอยู่ข้างๆ:“ตุลยาจ้า ไปช่วยยายซื้อผลไม้มาหน่อย”

“ค่ะ”

ตุลยาเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ในห้องเหลือแค่คิมและคุณนายทวีทรัพย์ธาดานั้น สีหน้าของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็เริ่มไม่ดี

“ได้ยินมาว่าเธอมีท่าทีเย็นชากับหนูตุลยามาตลอดเลยใช่มั้ย?”

คิมอึ้งไปครู่นึง ไม่รู้ว่าที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาจู่ๆถามแบบนี้หมายความว่ายังไง

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ท่านเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

“ใช่มั้ย?ไม่ว่าหนูตุลยาทำอะไร เธอก็รู้สึกหล่อนไม่ดีตลอด หรือแม้กระทั่งหล่อนปรนนิบัติดูแลฉันอย่างสุดหัวใจ เธอก็คิดว่าหล่อนมีแรงจูงใจแอบแฝงตลอดใช่มั้ย?คิม ไม่ว่าเธอจะยอมรับหรือไม่ ยังไงหล่อนก็เป็นลูกของเธอ เป็นน้องสาวแท้ๆของนรมน เธอเป็นแม่ ไม่ควรลำเอียงนะรู้มั้ย”

คำพูดของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาทำให้คิมขมวดคิ้วขึ้นเบาๆ

“ดิฉันไม่ได้ลำเอียงเลยนะคะ แค่รู้สึกทำยังไงก็ชอบไม่ลง”

“ชอบไม่ลง?นี่น่ะหรอ เป็นคำพูดที่แม่คนนึงควรพูด?เธอก็แค่เด็กอายุยี่สิบกว่า!เธอดูซิ แววตาที่หล่อนเฝ้ารอความห่วงใยจากเธออยู่ทุกวัน มันน่าสงสารขนาดไหน กับนรมน เธอก็เป็นแบบนี้น่ะหรอ?”

“นั่งมันจะเหมือนกันได้ยังไงคะ?นรมนเป็นลูกของดิฉันกับชินทร ดิฉันจะไม่ชอบเธอได้ยังไงคะ?”

คำพูดของคิมคุณนายทวีทรัพย์ธาดารู้สึกไม่เห็นด้วย

“เธอชอบนรมน แต่ไม่ชอบตุลยา พวกเขาต่างก็เป็นลูกของเธอ เธอจะให้ตุลยาคิดยังไง ?เป็นไปได้มั้ยที่นรมนจะรังแกตุลยาเพราะคิดว่าเธอรักเขามากกว่า?ไม่ว่ายังไงแล้ว หล่อนก็เป็นลูกที่เธออุ้มท้องมาสิบเดือนนะ เป็นเลือดเนื้อของเธอรู้มั้ย!”

“แม่คะ นรมนไม่ทำแบบนั้นหรอกค่ะ!นรมนเป็นเด็กที่มีจิตใจเมตตา ไม่มีวันทำอะไรตุลยาแน่นอนค่ะ กลับเป็นตุลยาซิคะ ฉันรู้สึกตลอด ที่เธอทำดีกับท่านก็เพราะมีจุดประสงค์อื่น”

คำพูดนี้ คิมอัดอั้นมานานแล้ว แล้วตอนนี้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็เป็นคนถามขึ้นเอง แถบเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนรมน เธอเลยจำเป็นต้องบอกความรู้สึกของตัวเองออกมา

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาได้ยินคิมมีอคติต่อตุลยาขนาดนี้ เลยนึกถึงคำพูดของพยาบาล แล้วถอนหายใจเบาๆทีนึงแล้วพูด:“การเป็นแม่คน ต้องรู้จักวางตัวเป็นกลาง ยัยตุลยาเฝ้าฉันมายี่สิบกว่าวัน เด็กมันนิสัยยังไง มีหรอฉันจะไม่รู้ ?แล้วอีกอย่าง ฉันก็แค่คนแก่คนนึง หล่อนจะหวังอะไรจากฉันได้?แล้วบอกกับธรณีด้วย ตอนที่ไปจัดการเรื่องฐานะตัวตนของนรมน ก็ให้จัดการของตุลยาไปด้วยเลย ให้ฐานะหล่อนเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้วกัน ยังไงซะ หล่อนก็เป็นน้องสาวแท้ๆของนรมน ก็ถือว่าให้หน้าให้ตาเธอกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเราไปพร้อมกัน”

“แม่คะ ไม่ได้นะคะ!ตุลยาไม่ใช่คนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดานะคะ เธอ……”

“หล่อนทำไม?หล่อนดูแลปรนนิบัติฉันมายี่สิบกว่าวัน หรือว่าเธอจะให้หล่อนใช้ชีวิตในฐานะลูกนอกสมรสไปตลอดชีวิตงั้นหรอ?อายุของเธอก็ใกล้ถึงเวลาที่ควรจะแต่งงานแล้ว ถ้าหล่อนยังใช้ฐานะลูกนอกสมรสอยู่แบบนี้อยู่ เธอจะให้หล่อนหาสามีที่ดีได้ยังไงกัน?ถ้าหล่อนมีฐานะเป็นลูกสาวบุญธรรมของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาของเราแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้ตุลยามีหน้ามีตาได้บ้าง ถูกมั้ย?”

คิมก็ยังคิดว่าเรื่องนี้จะตัดสินใจมั่วซั่วไม่ได้เด็ดขาด

“เอาอย่างนี้มั้ยคะ รอให้ดิฉันถามความเห็นของนรมนกับคุณอาก่อน ดูว่าพวกเขาว่ายังไง คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีสมาชิกเพิ่มถือเป็นเรื่องดีก็จริง แต่ก็ต้องให้คนในตระกูลเห็นด้วยทุกคนถึงจะถูกไม่ใช่หรอคะ ?อีกอย่าง ตอนนี้นรมนเองก็ยังไม่ได้กลับมาเลย ท่านจะเอาตุลยาเข้ามาตระกูลทวีทรัพย์ธาดาพร้อมกับเธอแบบนี้ นรมนคงต้องรู้สึกไม่ค่อยสบายใจได้นะคะ”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถอนหายใจทีนึงแล้วพูด:“ฉันจะเป็นคนคุยกับนรมนเธอเอง ยังไม่ต้องพูดเรื่องที่ตุลยาดูแลฉันยี่สิบกว่าวันนี้ แค่ที่เธอเสี่ยงชีวิตไปเอายาแก้พิษมาให้ฉันเรื่องนี้ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเราก็เป็นหนี้บุญคุณเธอแล้ว ต่อจากนี้ไป เธอห้ามใจร้ายกับหล่อนอีกรู้มั้ย”

ตอนที่คิมได้ยินเรื่องนี้แล้วรู้สึกหดหู่มาก

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา เรื่องยาแก้พิษมันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดเลยนะคะ เรื่องนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับตุลยาเลยนะคะ”

“เธอดูซิ เธอนี่เป็นแม่ภาษาอะไร ทำไมถึงชอบผลักไสไล่ส่งลูกตัวเองแบบนี้ ?ตุลยาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ฉันฟังมาก่อน ฉันไปได้ยินมาจากปากคนอื่นมาเอง นี่เธอยังคิดจะปิดฉันถึงเมื่อไหร่แน่?”

“ท่านไปได้ยินมาจากใครคะ?”

คิมเองก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าใครกันที่มาพูดจาเหลวไหลให้คุณนายทวีทรัพญ์ธาดาฟังกันแน่

คุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“เธอไม่ต้องสนหรอกว่าเป็นใคร ฉันรู้เรื่องนี้ก็พอ ฉันรักหนูนรมนก็จริง แต่ก็จะผิดต่อหนูตุลยาไม่ได้เหมือนกัน เธอว่าใช่มั้ย?ถึงหล่อนจะไม่พูด แต่ฉันดูออก ว่าหล่อนอยากจะอยู่กับเธอ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เลี้ยงคนเพิ่มคนนึง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเราขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกนะ ถ้าคนเป็นแม่อย่างเธอดีกับหนูตุลยาให้ดีๆ นรมนก็จะรับหล่อนเป็นน้องได้เอง”

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา เรื่องนี้ มันไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดเลยนะคะ ไว้ดิฉันจะบอกท่านเองค่ะ แต่ว่าเรื่องของตุลยา ดิฉันคิดว่ายังไงก็ควรจะปรึกษาคุณอาก่อนนะคะ”

คิมรู้สึกว่าทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมจริงๆ

คุณนายทวีทรัพย์ธาดากลับโบกมือแล้วพูด:“ทำตามที่ฉันบอก วันนี้ นรมนเพิ่งจะกลับมา คงจะเหนื่อย พรุ่งนี้ ให้พวกเขาสองสามีภรรยามาหาฉัน ฉันจะคุยเรื่องนี้กับเธอเอง”

พูดจบ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ให้คิมออกไป

ทันทีที่คิมหันมา จู่ๆก็เห็นเงาคนเดินแว๊บผ่านไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย