แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 351

บทที่ 351 ข้างหลังแกมีฉันอยู่

“ให้พวกเขาจัดการเองเถอะ”

บุริศร์และพฤกษ์อยู่ด้วยกันมานาน บุริศร์รู้ดีว่าพฤกษ์ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน บัดนี้เพื่อคมทิพย์เขาถึงกับโมโหขนาดนี้ เรื่องนี้คงไม่มีทางจบง่ายๆ แน่

เจตต์ที่กำลังไตร่ตรองความหมายของประโยคที่พฤกษ์เอ่ยเมื่อสักครู่ แต่เมื่อได้ยินเสียงของนรมนทำให้เขานิ่งไปอีกครั้ง

หัวที่ได้รับผลกระทบจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เหมือนว่าได้สติกลับคืนมา

“นรมน? เธอมาได้ยังไง?”

“ฉันมาได้ยังไงงั้นเหรอ? ถ้าฉันไม่มา นายคิดจะทำอะไรของนาย คิดจะขืนใจเพื่อนสนิทของฉัน ต่อหน้าผู้ชายทุกคน ตรงนี้ใช่ไหม? ไม่เพียงเท่านั้น แกยังคิดที่จะแบ่งปันเพื่อนสนิทของฉันให้กับไอ้พวกนี้ใช่ไหม? เจตต์ เมื่อก่อนฉันคิดว่านายแค่ดื้อด้านเท่านั้น แต่ยังไงซะนายก็ยังคงมีความเป็นคนอยู่ นายยังมีจิตสำนึก แต่ฉันไม่คิดเลยว่านายจะทำเรื่องแบบนี้ นายเป็นทายาทตระกูลรัตติกรวรกุล นายมีอำนาจในเมืองชลธี ไม่มีอะไรที่นายทำไม่ได้ นายคิดว่านายเก่งมากเลยใช่ไหม? ฉันขอประกาศตรงนี้ วันนี้ได้เห็นเรื่องแบบนี้ ฉันกับนายขาดกัน! เจตต์ มิตรภาพของเราก่อนหน้านี้จบลงตรงนี้!”

นรมนไม่เคยโกรธถึงขนาดนี้มาก่อน

แต่ก่อนเจตต์ล้อเล่นกับเธอเล็กๆ น้อยๆ โดยไร้ความเสียหายเธอยังพอใจกว้างให้อภัยได้ แต่วันนี้เธอไม่สามารถให้อภัยกับสิ่งที่เจตต์ทำกับคมทิพย์ได้จริงๆ

เจตต์เองก็ตัวแข็งทื่อเช่นเดียวกัน

เขาได้สติในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไปกะทันหัน ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ ทุกคนต่างจับจ้องไปยังเขา ด้วยสายตาที่หลบหลีกเล็กน้อย

เจตต์ถึงกับปรี๊ดแตกขึ้นมา

“พวกแกเอาอะไรให้ฉันกิน? ในเหล้ามีอะไรกันแน่?”

เขาไม่ได้เป็นแบบนี้!

เมื่อก่อนต่อให้เขาดื้อด้านมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้แน่

ตอนนี้ในหัวเขาอื้ออึง รู้สึกปวดไปทั่วร่าง แม้ดูเหมือนเป็นเพียงอาการมึนเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ปกติ แต่เจตต์มักใช้ชีวิตในผับบาร์เสมอ เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าตนเป็นอะไรกันแน่

“เลิกแสร้งได้แล้ว ยังจะแสร้งอะไรต่อหน้าฉันอีก คราวก่อนนายทิ้งคมทิพย์ไว้ที่สุสานคนเดียว ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลย ตอนนี้นายกลับยิ่งทำเรื่องที่เลวร้ายเข้าไปใหญ่ เจตต์ ไม่ใช่ทุกคนหลอกนะที่จะทำผิดแล้วก็ยกความผิดให้กับแอลกอฮอล์ได้!”

นรมนผิดหวังในตัวเจตต์อย่างถึงที่สุด

เป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวราวกับเพื่อนรักเปลี่ยนไปกะทันหันจนรู้สึกไม่คุ้นเคย

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะ นรมน ไม่ใช่แบบนั้น ฟังผมอธิบายก่อน…..”

เจตต์เอ่ยพร้อมเดินเข้าไปหวังจับมือนรมน แต่กลับถูกบุริศร์ผลักออก

“พอเถอะ!”

จบคำบุริศร์ ชายหนุ่มโอบไหล่นรมนพร้อมพาออกไปทันที

“นรมน คุณต้องเชื่อผมนะ ผมไม่ได้ตั้งใจ! ต้องมีใครในนี้ที่วางยาผมแน่!”

เจตต์ร้อนใจทันที ที่เห็นทีท่าผิดหวังของนรมน

ไม่!

เขาสูญเสียนรมนไปไม่ได้!

ต่อให้ไม่สามารถเป็นคู่สามีภรรยาได้ อย่างน้อยเป็นเพื่อนกันก็ยังดี

บัดนี้เมื่อเห็นทีท่าของนรมน ระหว่างพวกเขาแม้แต่เพื่อนก็เป็นไปไม่ได้แล้วอย่างนั้นหรือ?

หัวใจของนรมนเจ็บปวดจนแทบขาดใจ

หลังจากที่ตนกลับมายังเมืองชลธี เจตต์ได้ช่วยเหลือตนอยู่เสมอ เธอรู้อยู่แก่ใจดี แต่เมื่อเห็นทีท่าของคมทิพย์ในตอนนี้ เธอจะให้อภัยเจตต์ได้อย่างไร?

เธอไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวเดินออกจากMoonlight Club

ภายใต้การปกป้องของบุริศร์

ในตอนที่เจตต์วิ่งตามไป บุริศร์เพียงเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ทางที่ดีคุณลองคิดดูให้ดี คำพูดของพฤกษ์เมื่อสักครู่ ผมกับนรมนเป็นเพื่อนของคมทิพย์ แต่พฤกษ์ต่างออกไป เขาเป็นคู่หมั้นของคมทิพย์ แกทำให้เธอเสื่อมเสียแบบนี้ ทางที่ดีแกควรจะยอมรับกับผลกรรมที่จะตามมาด้วย!”

ประโยคของบุริศร์ทำให้เจตต์นิ่งไป นรมนเองก็เกิดความประหลาดใจเช่นเดียวกัน

แค่ผู้ช่วยของตระกูลโตเล็ก คนที่จบการศึกษาด้วยเงินทุนของตระกูลโตเล็กอย่างพฤกษ์ จะมีความสามารถอะไรในการทำให้เจตต์สำนึกผิดได้?

หากแต่เธอไม่ได้ถามคำถามนั้นออกมาในตอนนี้ เธอเดินตามบุริศร์ออกจากMoonlight Club

เมื่อผู้จัดการMoonlight Clubรู้ว่าด้านบนเกิดเรื่องขึ้น เขาตระหนกจนขาอ่อนยวบ

“คะ คุณชายบุริศร์ เรื่องนี้…..”

“ของที่เสียหายข้างบนคิดค่าเสียหายกับตระกูลโตเล็ก ผมจะชดใช้เอง ส่วนเรื่องนี้จะจัดการยังไง คุณวางใจเถอะ เจตต์ไม่โทษคุณหลอก”

จบคำ บุริศร์พานรมนเดินออกไปทันที

นรมนในตอนนี้เธอไร้กะจิตกะใจในการทานอาหารหรือเดินเล่นแต่อย่างใด เธอเร่งรีบในการตามบุริศร์กลับบ้านไป

หลังจากที่พฤกษ์อุ้มร่างของคมทิพย์กลับบ้าน คมทิพย์ล็อกตัวเองไว้ในห้อง ไม่ว่าพฤกษ์จะพูดอย่างไร เธอก็ไม่ยอมเปิดประตู

เธอลมปิดปากร่ำไห้น้ำตาไหลพราก นั่งอยู่ที่พื้น พร้อมกับเสื้อคลุมของพฤกษ์ที่ยังคงอยู่บนไหล่ของเธอ กลิ่นอายของพฤกษ์ยังคงหลงเหลืออยู่ แต่คมทิพย์กลับรู้สึกว่าวาสนาของเธอและพฤกษ์ได้ขาดสะบั้นลงแล้ว

กว่าที่เธอจะใจเต้นกับชายสักคน แต่ตอนนี้กลับเป็นแบบนี้ไปซะได้

คมทิพย์ร่ำไห้กับความโชคร้ายของตน ร่ำไห้กับความรักที่ยังไม่ทันได้ผลิดอกออกผลก็ต้องจบลงเสียแล้ว

พฤกษ์ที่อยู่ด้านนอกได้ยินเสียงร่ำไห้ของคมทิพย์ หัวใจเขาเหมือนถูกมีดคมกรีดเฉือน

“คมทิพย์ ผมรู้ว่าผมควรสารภาพรักกับคุณก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป ผมนายพฤกษ์รักคุณ ชาตินี้ผมจะขอคุณเป็นภรรยาของผม เรื่องของวันนี้ผมจะทวงความยุติธรรมให้กับคุณเอง!”

น้ำตาของคมทิพย์ไหลพรากหนักกว่าเก่า

“ฉันไม่คู่ควรกับคุณ ฉันแปดเปื้อนแล้ว!”

“คุณอาพฤกษ์คะ อะไรคือแปดเปื้อนเหรอคะ?”

กมลที่ไม่รู้ว่าโผล่เข้ามาจากที่ไหน เมื่อได้ยินคำของคมทิพย์ เธอถามขึ้นอย่างสงสัย

พฤกษ์นิ่งค้างไป เขารนไปเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างน้อยๆ ของกมล ไม่รู้ว่าเด็กน้อยคนนี้ได้ยินอะไรไปบ้าง

“ออกมาได้ยังไง? คุณตากับคุณยายล่ะ? แล้วพี่ชายล่ะ!”

“คุณตากับคุณยายอ่อนเพลียมาก ก็เลยหลับพักผ่อนแล้ว พี่ชายบอกว่าจะออกไปซื้ออะไรให้หนูทาน อีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้ว คุณอาพฤกษ์ อากับคุณน้าคมทิพย์ทะเลาะกันเหรอคะ? หนูได้ยินเสียงคุณน้าเหมือนกำลังร้องไห้อยู่เลย แปดเปื้อนที่เธอว่าหมายความว่ายังไงคะ? ถ้าแปดเปื้อนก็แค่ล้างออกก็สะอาดแล้วนี่นา?”

กมลจับจ้องเขาอย่างไร้เดียงสา

คมทิพย์นิ่งไป

ล้างออก?

จะล้างออกได้จริงเหรอ?

บนร่างกายของเธอยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของเจตต์อยู่ และไอ้เศษสวะสองตัวนั่น เธอถูกคนอื่นสัมผัส ยังจะล้างออกได้อยู่อีกหรือ?

แต่ต่อหน้ากมล คมทิพย์ไม่สามารถพูดอะไรได้ทั้งนั้น เธอทำได้เพียงฝืนพูดออกไป “พฤกษ์ คุณไปเถอะ พากมลออกไปซะ ฉันอยากอยู่คนเดียว”

เมื่อได้ยินประโยคของคมทิพย์ ดวงตาของพฤกษ์เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่ตอนนี้เขาไม่เหมาะสมนักหากจะพูดอะไรต่อหน้ากมล

ในขณะที่พฤกษ์กำลังจะพากมลออกไป กานต์ได้กลับมาพอดี

“อาพฤกษ์ กมล เป็นอะไรไป?”

พฤกษ์โล่งอกไปเมื่อได้เห็นกานต์กลับมา “คุณชายกานต์ ฝากคุณหนูกมลด้วย ผมต้องออกไปข้างนอก มีธุระที่ผมต้องไปจัดการ”

“โอเค”

กานต์ไม่รู้ว่าพฤกษ์มีธุระอะไร แต่พฤกษ์ก็ทำงานให้กับบุริศร์เสมอ เขาจึงไม่คิดที่จะถามต่อ เขาจูงมือกมล ยัดของว่างที่ซื้อมาให้กับเธอ พร้อมเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าแมวตะกละ ไปได้แล้ว เราเข้าไปทานของว่างด้านในกัน”

“พี่ชายน่ารักที่สุดเลย”

กมลยิ้มกว้างด้วยความสุข แต่กลับโผเข้าหากานต์พร้อมกระซิบข้างหู “พี่ชาย ดูเหมือนว่าอาพฤกษ์กับคุณน้าคมทิพย์ทะเลาะกันด้วย หนูได้ยินเสียงคุณน้าร้องไห้ด้วย แถมเธอยังบอกอีกว่าแปดเปื้อนอีกด้วย อะไรเปื้อนเหรอคะ?”

กานต์นิ่งไปเล็กน้อย

น้าคมทิพย์ร้องไห้?

ผู้หญิงที่ดุกร้าวยิ่งกว่าผู้ชายร้องไห้อย่างนั้นหรือ?

ฟ้าถล่มแผ่นดินไหว หรือว่าฝนตกเป็นสีเลือดกัน?

กานต์เองก็ไม่ค่อยแน่ใจนักกับคำว่าแปดเปื้อนที่หลุดออกจากปากของกมล แต่เมื่อเห็นสายตาประหลาดใจของกมล เขาจึงเอ่ยเสียงแผ่ว เรื่องของผู้ใหญ่เราอย่าเข้าไปยุ่ง อีกเดี๋ยวพ่อกับแม่กลับมา พวกเขาจะจัดการเอง ใช่สิ ใกล้จะถึงวันเกิดคุณแม่แล้ว เราไปทำของขวัญให้กับคุณแม่กันเถอะ”

“พี่ซื้อกลับมาแล้วเหรอคะ?”

สายตาของกมลเป็นประกายขึ้นมาทันที

กานต์หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ “แน่นอน ให้รู้ซะบ้างว่าฉันเป็นใคร”

“พี่ชายเก่งที่สุดเลย!”

กมลยังเด็กมาก เธอลืมเรื่องความเศร้าโศกของคมทิพย์จนสิ้น พลันเดินเข้าห้องไปด้วยความดีอกดีใจไปพร้อมกับกานต์

เมื่อบุริศร์และนรมนกลับมา พวกเขาเห็นพฤกษ์ที่ยืนอยู่ด้านนอกพอดี

นรมนเกรงว่าพฤกษ์จะไปหาเจตต์

เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คมทิพย์เธอเจ็บปวดมากพอแล้ว หากพฤกษ์เป็นอะไรขึ้นมาเพราะเธอ คมทิพย์คงจะอยู่ไม่ได้จริงๆ

พฤกษ์นิ่งไป เขาจ้องมองนรมนและบุริศร์ พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว “ตอนนี้เธอเสียใจมาก ไม่ให้ผมเข้าใกล้เลย เธอล็อกตัวเองไว้ในห้อง ผมรู้ดีว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับผู้หญิง เป็นเรื่องที่ยากที่จะยอมรับได้ แม้ว่าปกติเธอจะค่อนข้างห้าว เสมือนเป็นผู้ชาย แต่เธอเพียงแค่ใช้ความแข็งแกร่งของเปลือกนอกปกปิดความอ่อนแอที่อยู่ข้างในเท่านั้น ในเวลาแบบนี้ผมรบกวนให้คุณนายช่วยพูดกับเธอด้วย”

เมื่อเห็นทีท่าของพฤกษ์ นรมนพยักหน้ารับ ก่อนเอ่ยถาม “นายรู้สึกยังไงกับคมทิพย์กันแน่? นายจะรังเกียจเธอเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้รึเปล่า?”

“เธอมีความผิดอะไร? ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะสู้ผู้ชายพวกนั้นได้ยังไง? แล้วผมเองก็ไม่เชื่อว่าอยู่ๆ คมทิพย์จะไปหาเจตต์โดยไร้สาเหตุ ในนี้ต้องมีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้แน่ หรือบางทีอาจเป็นเพราะเจตต์ข่มขู่เธอ เธอจึงไม่ไปไม่ได้ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ผมยอมรับ ว่าในใจผมรู้สึกแย่ ผู้หญิงที่ผมรักถูกชายอื่นเห็นจนหมดสิ้น หากเป็นผู้ชายต้องรู้สึกไม่ดีแน่ แต่ผมอยากจูงมือเธอใช้ชีวิตกับเธอไปจนแก่เฒ่า หากผมตัดใจจากเธอเพราะเรื่องแค่นี้ ผมจะมีหน้าที่จะคุยกับคุณนายเรื่องที่จะขอเธอแต่งงานได้อย่างไร?”

ดวงตาของพฤกษ์เปียกชุ่ม

ผู้ชายอกสามศอก ตอนนี้กลับมีทีท่าเหมือนกับเด็กน้อย

นรมนซาบซึ้งจับใจ

ว่ากันว่ายากนักที่จะได้พบกับรักแท้ ความรู้สึกของพฤกษ์ในตอนนี้ที่มีต่อคมทิพย์ ทำให้นรมนวางใจได้อย่างหมดเปลือก

บุริศร์รู้นิสัยของพฤกษ์ดี ปกติแล้วเขาไม่ง่ายนักที่จะตกหลุมรัก แต่เมื่อได้รักแล้ว ก็ยากที่จะปล่อยวาง

บัดนี้เขาสามารถทำแบบนี้ได้เพื่อคมทิพย์ บุริศร์ยินดีกับเขาจากใจ หากแต่บุริศร์ยังคงเอ่ยกับเขาเสียงแผ่ว “ไม่ว่าจะทำอะไร จงนึกถึงฉันเอาไว้ ข้างหลังแกมีฉันอยู่ ต่อให้ตระกูลโตเล็กไม่ช่วยแก ฉันประธานบุริศร์ไม่เพียงแค่เจ้านายของแก เรายังเป็นสหายที่ดีต่อกัน!”

พฤกษ์แหงนหน้าขึ้นกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาถูกบีบจนไหลพรากออกมา

“ขอบคุณครับท่านประธานบุริศร์ ขอบคุณครับคุณนาย ผมขอตัวไปก่อน มีเรื่องบางอย่างที่ผมต้องสืบให้แน่ชัด”

พฤกษ์เอ่ย พลางเดินจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย