แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 376

บทที่ 376 เชื่อฟังคุณทุกอย่าง

นรมนกับบุริศร์วิ่งออกมาได้ไกลพอสมควร เมื่อเห็นว่าไม่มีใครตามมาแล้วถึงได้หยุดวิ่ง

เมื่อบุริศร์เห็นนรมนมีท่าทางราวกับทำความผิดมา ก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างช่วยไม่ได้

พวกเขาไม่สนใจสายตาจากผู้คนรอบข้าง หัวเราะออกมาอย่างปลดปล่อย

ในวินาทีนี้ นรมนรู้สึกว่าตัวเองราวกับนกตัวน้อยที่เพิ่งได้บินออกมาจากกรง แต่ไหนแต่ไรไม่เคยได้ทำอะไรอย่างอิสระและตามใจตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย

ทว่าความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน

“คุณว่าแม่จะคิดว่าคุณพาฉันนิสัยเสียไหม?”

นรมนถามยิ้มๆ

บุริศร์โอบไหล่ของเธอแล้วพูดว่า “แต่งงานแล้วก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสามีและครอบครัวให้ได้สิ ผมเป็นคนยังไงคุณยังไม่รู้อีกเหรอ? คุณน่าจะชินตั้งนานแล้วนะ”

“ชิ!”

นรมนถลึงตาใส่เขา แล้วถามยิ้มๆว่า “สถานีต่อไปเราต้องไปที่ไหน?”

“ชายหาด!”

บุริศร์และนรมนโบกแท็กซี่ และมุ่งตรงไปยังชายหาด

ทั้งสองวิ่งไล่กันบนชายหาดราวกับเป็นเด็ก พวกเขาเล่นกันอย่างสนุกสนาน สุดท้ายนรมนก็ถูกบุริศร์ล้มทับลงบนพื้นทราย จากนั้นทั้งสองก็โอบกอดและจูบกันอย่างดูดดื่ม

แสงอาทิตย์กำลังดี สีน้ำทะเลกำลังเข้ม แต่ความรู้สึกของพวกเขากลับเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นที่น่าอิจฉาของผู้คนรอบข้าง

เมื่อใกล้ถึงเที่ยงวัน นรมนก็เริ่มหิว

บุริศร์พาเธอไปกินอาหารง่ายๆที่ร้านอาหารแถวๆนั้น ถึงแม้จะธรรมดา แต่กลับเป็นอาหารในวันเกิดที่ดีที่สุดของนรมน

“คุณว่าเราวิ่งออกมาอย่างนี้ พวกเขาจะไม่เป็นห่วงเราเหรอ?”

“เราไม่ใช่เด็กๆแล้วสักหน่อย อีกอย่างมีผมอยู่ข้างๆ คุณจะกลัวอะไร?”

หลังจากกินข้าวเสร็จ บุริศร์ก็พานรมนออกทะเล

ลมทะเลปะทะหน้าของนรมน เมื่อเธอเห็นท้องทะเลกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา จู่ๆก็รู้สึกขึ้นมาว่าความสุขมันก็เรียบง่ายแค่นี้เอง

บุริศร์ปล่อยให้เรือลอยลำอยู่กลางทะเล จากนั้นก็ดึงนรมนมานอนอาบแดดอยู่บนเรือด้วยกัน

“ถ้าวันหนึ่งเราสองคนแก่ตัวลง ผมนั่งตกปลาบนเรือ ส่วนคุณนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ คุณว่ามันจะอบอุ่นขนาดไหนนะ”

“แล้วทำไมฉันต้องอ่านหนังสือด้วย? ฉันตกปลาไม่ได้เหรอ?”

นรมนรู้สึกว่าภาพฝันในอนาคตของบุริศร์เป็นอะไรที่ฟังดูสวยงามมาก

บุริศร์พูดยิ้มๆว่า “ผู้หญิงก็ควรเป็นกุลสตรีหน่อยไม่ใช่หรือไง? อ่านหนังสือเหมาะกับคุณที่สุดแล้ว หรือว่าคุณจะนั่งวาดรูปก็ได้นะ?”

นรมนไม่ได้พูดขัดอะไร แต่เมื่อพูดถึงวาดรูป เธอกลับรู้สึกสนใจขึ้นมา

“บนเรือมีพู่กันไหม?”

“มีสิ!”

บุริศร์รู้อยู่แล้วว่านรมนชื่นชอบอะไร จึงเตรียมทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว

เมื่อเห็นบุริศร์เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมขนาดนี้ นรมนก็ส่ายหัวพร้อมกับพูดว่า “คุณวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”

“ต้องพูดว่า ผมใช้เวลาคิดตั้งหลายวันเพื่อวันนี้เลยนะ วันนี้เราต้องปิดเครื่องโทรศัพท์ และใช้เวลาด้วยกันทั้งวันให้คุ้ม ลูกๆอะไรก็ไม่ต้องไปสนใจแล้ว มีคนคอยดูแลพวกเขาอยู่แล้วล่ะ วันนี้ถือเป็นวันส่วนตัวของเราสองคน คุณอยากทำอะไร ก็ทำได้หมดเลย”

“ในทะเลเนี่ยนะ?”

“ในทะเลนี่แหละ!”

แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนหน้าของบุริศร์ ทั้งร่างกายของเขาอาบไปด้วยแสงสีทอง นรมนรู้สึกว่าเขาในตอนนี้ช่างเหมือนเทพเจ้าในดินแดนอาหรับ ทำให้เธอทั้งรู้สึกชื่นชอบ และเลื่อมใส

“คุณอย่าขยับนะ นอนนิ่งๆเป็นแบบให้ฉัน ฉันไม่ได้วาดรูปคนมานานแล้ว”

จู่ๆนรมนก็เกิดไอเดียขึ้นมา เธอจึงอยากวาดภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้ามากๆ

บุริศร์ปล่อยให้เธอปลดเสื้อบนร่างกายของเขาออก กล้ามเนื้อแน่นๆที่สะท้อนอยู่ภายใต้แสงแดดยิ่งทำให้เธอน้ำลายสอ

นรมนตั้งสติ จากนั้นก็หยิบกระดานวาดภาพขึ้นมา แล้ววางกระดาษลงบนนั้น และเริ่มจดจ่อกับการวาดรูป

ลมทะเลปะทะเข้ามา พัดผมยาวๆของนรมนจนยุ่งเหยิงไปหมด แต่เธอกลับไม่หลุดโฟกัสเลยสักนิด

ในสายตาของนรมน บุริศร์กับท้องฟ้าและทะเลเป็นภาพวิวที่สวยที่สุด แต่ในสายตาของบุริศร์ นรมนต่างหากที่เป็นภาพวิวที่สวยที่สุด

เขามองมาด้วยความรักใคร่ นรมนส่งสายตากลับไปด้วยความรักสุดซึ้ง เรือล่องลอยอยู่กลางทะเล นำพาความสุขและความปิติของพวกเขาล่องลอยไปตามทะเล.......

หลังจากที่นรมนวาดเสร็จ ก็ได้พบว่าบุริศร์หลับไปแล้ว

แสงกำลังดี เขาจึงนอนหลับอย่างสบาย

เธอยิ้มแล้วลุกขึ้น จากนั้นก็เดินเข้าไปหยิบผ้าห่มออกมาจากข้างใน และนำมาห่มลงบนตัวให้บุริศร์เบาๆ

ชีวิตที่ไร้เรื่องกังวลและเรื่องทุกข์ใจมันดีจริงๆ

ชีวิตที่ไม่มีใครมารบกวนแบบนี้มันดีมากๆ

ถ้าสามารถเป็นแบบนี้ไปได้ตลอดก็คงดี

นรมนนอนลงข้างๆบุริศร์ จากนั้นไม่ทันไรก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

จริงๆแล้วบุริศร์ไม่ได้หลับสนิท ตอนที่นรมนนอนลงข้างๆเขาก็ตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกไป

เขาขยายผ้าห่มออก แล้วห่อตัวเองกับนรมนเอาไว้ด้วยกัน จากนั้นก็ยิ้มตาหยีพร้อมกับกอดนรมนแล้วจึงหลับไปอีกครั้ง

ช่วงเวลาดีๆมักจะสั้นเสมอ

เมื่อพวกเขาลืมตาตื่นขึ้นมา ท้องฟ้าก็มืดแล้ว

นรมนเริ่มหนาว

บุริศร์จึงเอาเสื้อห่มให้นรมนแล้วพูดว่า “คืนนี้เราจะกลับหรือว่าอยู่ที่นี่ต่อ?”

เมื่อมองท้องทะเลแสนมืดมิด นรมนก็เริ่มกลัวขึ้นมา

“เรากลับกันดีกว่า”

“เชื่อฟังคุณทุกอย่างครับ!”

บุริศร์ยิ้มบางๆพร้อมกับสตาร์ทเรือ

ไม่นานทั้งสองก็กลับมาถึงเมืองชลธี

พวกเขาไม่ได้กลับบ้าน แต่ค้างที่โรงแรมแทน

นรมนรู้สึกว่าวันนี้คือวันแต่งงานจริงๆ อยู่ที่ไหนก็มีแต่เรื่องน่ายินดี

บุริศร์ดูแลเธออย่างทั่วถึง เมื่อทั้งสองกินอาหารยุโรปเสร็จและกลับมาที่ห้อง บุริศร์ก็ยังทำตัวโรแมนติกด้วยการซื้อดอกไม้ให้เธอช่อหนึ่ง

ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้รับดอกไม้ เพียงตอนนี้อายุก็ปูนนี้แล้ว ความรู้สึกได้รับดอกไม้ในวันแบบนี้อีกครั้ง ช่างเป็นอะไรที่สวยงามจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้

ทั้งสองฉลองวันเกิดด้วยกันอย่างโรแมนติก

ตอนที่ตื่นขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น นรมนก็รู้สึกราวกับตัวเองฝันไปเหมือนซินเดอเรลลา เธอจึงหันไปมองข้างๆโดยอัตโนมัติ เมื่อเห็นว่าบุริศร์ยังนอนอยู่ข้างๆถึงได้รู้สึกว่ามันคือความจริง

“เป็นอะไรไป? ทำไมตื่นเช้าจัง? นอนอีกสักหน่อยเถอะ”

บุริศร์รู้สึกได้ว่านรมนกำลังมองมาที่ตัวเอง เขาจึงยื่นแขนออกไป ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง

นรมนพูดยิ้มๆว่า “ไม่เช้าแล้ว แปดโมงกว่าแล้วนะ ตื่นได้แล้ว”

“ไม่ได้ไปทำงาน ไม่ได้มีประชุมสักหน่อย จะตื่นเช้าไปทำไมกัน? นอนต่อเถอะ”

ดูเหมือนบุริศร์จะเหนื่อยมาก นรมนจึงไม่กล้าขยับตัว ปล่อยให้เขากอดตัวเองอยู่อย่างนั้น ไม่ทันไรเธอก็กลับเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกครั้ง

ทั้งสองคนตื่นขึ้นมาเพราะหิว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาเที่ยงพอดี

บุริศร์กับนรมนมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะออกมา รู้สึกว่าพวกเขาชักจะปล่อยตัวตามสบายเกินไปแล้ว

“หิวไหม? เราออกไปกินอะไรสักหน่อยไหม?”

“ดีเลย!”

ทั้งสองตกลงกันว่าใครจะลุกก่อน จากนั้นเมื่ออาบน้ำเสร็จก็ลงไปข้างล่าง

เมื่อนรมนเปิดโทรศัพท์ ข้อความก็พลันเด้งเข้ามาเป็นชุด จนโทรศัพท์เธอเกือบค้าง

“อย่าเล่นโทรศัพท์ กินข้าวก่อน!”

บุริศร์แย่งโทรศัพท์เธอมา แล้วดันอาหารไปไว้ตรงหน้าเธอ

เมื่อรู้สึกถูกดูแลเอาใจใส่นรมนก็ยิ้มออกมา” ฉันกลัวว่าตัวเองจะเป็นเหมือนซินเดอเรลลา พอตื่นขึ้นมา ทุกอย่างก็จะเป็นแค่ฝันไป”

“ยัยบ๊อง เรื่องที่คุณแต่งงานกับผมคือเรื่องจริง ไม่ใช่ฝันไป เมื่อวานคนทั้งเมืองชลธีต่างก็รู้กันหมดแล้ว ว่าคุณคือภรรยาของบุริศร์คนนี้ คุณอยากหนีก็หนีไม่พ้น เสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันด้วย”

“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าทั้งหมดนี้ คุณตั้งใจวางแผนไว้ใช่ไหม? บอกมา คุณกำลังวางแผนอะไรไว้?”

จู่ๆนรมนก็หยอกล้อบุริศร์ขึ้นมา

บุริศร์รีบยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “เปล่านะ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย ผมจริงใจกับคุณนะ จริงใจเต็มร้อย เชื่อใจเต็มพัน บูชาเต็มหมื่น”

“กะล่อนปลิ้นปล้อน คุณไปเรียนมาจากไหน?”

แม้จะพูดออกมาอย่างนั้น แต่มุมปากของนรมนกลับยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูอารมณ์ดี

หลังจากทั้งสองกินข้าวเสร็จ นรมนก็ขี้เกียจเปิดดูโทรศัพท์ ทั้งสองจึงจูงมือกันกลับบ้าน

ทั้งสองคนไม่รีบร้อน จึงเลือกเดินกลับบ้าน เพื่อเป็นการย่อยอาหารไปในตัว

นรมนมองผู้คนรอบๆก็รู้สึกคุ้นชินเป็นพิเศษ

พวกเขาเดินกลับบ้าน ราวกับหนุ่มสาววัยมหาลัยกำลังเดทกัน ความรู้สึกเหล่านั้นอบอวลอยู่ในใจของนรมนอีกครั้ง หัวใจมันทั้งพองโตและอบอุ่นไปในคราวเดียวกัน

“ยังจำได้ไหม? ที่ฉันเจอคุณครั้งแรกตอนอยู่มหาลัยตอนนั้นฉันจินตนาการว่าจะมีสักวันที่เราได้เดินกุมมือกัน แต่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นคนที่อยู่ข้างๆคุณคือเขมิกา”

นรมนนึกถึงอดีต

บุริศร์ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “กับเขมิกาก็แค่ความเคยชิน ไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษอะไรทั้งนั้น ตอนนั้นเธอบอกว่าอยากเป็นแฟนผม ผมก็ไม่ได้พูดอะไร เธอก็คงคิดไปเองว่าผมตอบตกลงเป็นนัยๆ หลังจากนั้นก็มีแต่ข่าวรักๆของผมกับเธอกระจายไปทั่วมหาลัย ผมขี้เกียจอธิบาย ก็เลยปล่อยเลยตามเลย จะว่าไปเขมิกาก็จากโลกนี้ไปสักพักแล้วนี่เนอะ”

“ใช่ ตอนนี้ทุกสิ่งยังเหมือนเดิมแต่ผู้คนกลับเปลี่ยนไป”

ความจริงแล้วนรมนไม่อยากพูดถึงเขมิกา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆถึงพูดออกมาแบบนี้

ตอนนี้สำหรับเธอและบุริศร์เขมิกาไม่ใช่ความลับที่เอ่ยถึงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ทั้งสองเดินคุยกันตลอดทางกลับบ้าน

เมื่อมาถึงหน้าทางเข้าคฤหาสน์ นรมนก็เห็นรถคุ้นตาคันหนึ่ง

เธอขมวดคิ้วนิดๆ บุริศร์เองก็เริ่มไม่พอใจ

“ผมว่าเราย้ายไปอยู่บ้านที่แม่ผมให้มาดีกว่า คนนอกมาที่นี่บ่อยเกินไปแล้ว”

แม้นรมนจะไม่พูดอะไร แต่ก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ

รถคันนั้นเป็นรถของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เพียงแต่ไม่รู้ว่าในรถนั่นเป็นใคร

ตอนนี้เธอไม่อยากเจอคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเลยสักนิด

ในตอนที่ทั้งสองกำลังจะเดินมาถึงประตูทางเข้า ทันใดนั้นประตูรถก็ถูกเปิดออกมา และคนที่ลงมาจากรถก็คือคิม

เหนือความคาดหมายนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไรให้แปลกใจขนาดนั้น

นรมนเพียงแค่นิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยพูดนิ่งๆว่า

“หัวหน้าคิมมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ?”

คำว่าหัวหน้าคิมจากปากของนรมนทำให้คิมรู้สึกอึดอัด

“นรมน เมื่อวานวันเกิดแก ฉันก็เลยโทรหาแกตั้งหลายสาย แต่แกก็ปิดเครื่องอยู่ตลอด เพราะงั้นวันนี้ฉันเลยมาที่นี่”

สีหน้าของคิมค่อนข้างห่อเหี่ยว

นรมนนิ่งไป ตอนแรกเธอไม่คิดว่าคิมจะจำวันเกิดของเธอได้ แต่เมื่อเห็นแบบนี้ เธอก็เริ่มใจอ่อน

“คุณมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อวานเลยเหรอ?”

“อืม”

คิมพยักหน้า

ดวงตาของเธอแดงฉาน แค่มองก็รู้แล้วว่าไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ

ต่อให้นรมนจะเย็นชาแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรแรงๆออกไป

เธอนึกถึงช่วงเวลาตอนอยู่อเมริกา นึกถึงตอนที่ได้ยินคิมพูดว่าในวันเกิดของลูกทุกๆปี คิมจะเตรียมของขวัญและอธิษฐานให้แก่ลูกที่ไม่มีโอกาสได้เจอกัน

และตอนนี้คิมก็มารอเธออยู่ที่นี่ทั้งคืน หัวใจของนรมนก็พลันอ่อนยวบลงทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย