แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 379

บทที่ 379 ก็เป็นลูกแม่เหมือนกัน แต่ทำไมแม่ถึงดีกับแก

นรมนยืนกรานว่าจะอยู่เฝ้าคิมให้ได้ บุริศร์จึงไม่ได้ห้ามเธอ ทำเพียงแค่อยู่เป็นเพื่อนเธอ แต่ก็ยังรู้สึกสงสาร

เดิมทีสุขภาพร่างกายของเธอก็ไม่ดีอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้ต้องมาเจอเรื่องของคิม ก็ยิ่งทำให้เธอเป็นกังวลใจ

บุริศร์กลัวเหลือเกินว่านรมนจะเป็นอะไรไป

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่ได้เข้ามาพูดอะไรอีก แต่จ้างคนมาคุ้มกันตุลยา ส่วนตัวเองก็กลับบ้านไป

ธรณีรออยู่ข้างนอกมาตั้งแต่ต้น พอเห็นบุริศร์ออกมา จึงพูดเสียงเบาว่า “มาคุยกันหน่อย”

“ไม่มีอะไรต้องคุย ถ้าเป็นเรื่องของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ผมคิดว่าสิทธิ์ทุกอย่างในการพูดควรเป็นของนรมน”

บุริศร์พูดออกมาอย่างนิ่งๆ แสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้

ธรณีเองก็พอจะรู้ว่าที่แม่ตัวเองพูดมาไม่ค่อยน่าเชื่อถือ จึงถอนหายใจออกมาแล้วพูดว่า “แม่ผมอายุเยอะแล้ว ก็เลยเลอะเลือนอยู่บ่อยๆ”

“รู้ไหมว่าทำไมคิมถึงคิดจะฆ่าตุลยาด้วย?”

บุริศร์รู้สึกมาตลอดว่าที่คิมทำมันเฉียบขาดเกินไป

ธรณีส่ายหน้า “บางทีอาจเป็นเพราะแม่ผมเอ็นดูตุลยามากเกินไปล่ะมั้ง พี่สะใภ้รู้สึกติดค้างกับนรมนมาตลอด การที่นรมนไม่สามารถกลับเข้าสู่ตระกูลได้เพราะมีสาเหตุมาจากตุลยา คงถือเป็นความทรมานอย่างหนึ่งสำหรับพี่สะใภ้ เธอหวังอยากให้นรมนกลับมาอยู่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา และทำความเคารพพี่ใหญ่จริงๆจังๆ แต่ก็เพราะความเลอะเลือนของแม่ผม เรื่องมันถึงได้ยืดเยื้อมาตลอด เรื่องครั้งก่อนที่ตุลยาถูกจับตัวไปและถูกจับโยนลงทะเล ตุลยาเอาแต่พูดว่านรมนเป็นคนทำ และแม่ผมก็ดันเชื่อ วันๆจึงเอาแต่พูดถึงนรมนในทางที่ไม่ดีต่อหน้าพี่สะใภ้ ตอนแรกพี่สะใภ้พยายามคุยกับแม่ผมด้วยเหตุผล แต่แม่ผมก็เอาแต่ทำตัวไร้เหตุผล พี่สะใภ้จึงไม่อยากพูดอะไรอีก”

“ต่อมาก็เป็นวันเกิดของนรมน พี่สะใภ้บอกว่าจะมาวันเกิดนรมน เธอบอกผมแค่คนเดียว ผมคิดว่าเธอคงอารมณ์ไม่ดี เลยอยากไปหานรมนเผื่ออารมณ์จะดีขึ้นมาบ้าง แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่เธอกลับมา พี่สะใภ้จะทำอะไรโง่ๆอย่างนี้”

พูดมาถึงตรงนี้ ธรณีก็เริ่มโทษตัวเอง

ถ้าเขาสามารถสังเกตเห็นว่าคิมแปลกไปตั้งแต่แรกก็คงดี

เมื่อบุริศร์ฟังที่เขาพูดมาจนจบ ก็รู้ว่าปัญหามันอยู่ตรงไหน

คุณนายเป็นแม่สามีของคิม เธอจึงอยากตอบแทนบุญคุณแทนชินทร ทว่าลูกสาวอีกคนของเธอกลับเอาแต่ปลุกปั่นความสัมพันธ์ระหว่างคุณนายและนรมน จึงทำให้คิมรู้สึกผิดกับชินทร และรู้สึกผิดกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

บางทีคิมกับตุลยาอาจจะทะเลาะกัน แต่เรื่องที่คนนอกไม่รู้ก็คือ ตุลยาไม่ฟังที่คิมพูด เลยทำให้คิมไร้ทางเลือก จึงวางแผนพาตุลยาไปจากโลกใบนี้ จะได้ทำให้นรมนหลุดพ้นสักที

คิมรักนรมนอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เป็นความรักที่ไม่สามารถมีใครเข้าใจได้

น่าเสียใจที่พวกเขาสังเกตเห็นมาตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแต่กลับช่วยอะไรไม่ได้

นรมนนั่งเฝ้าอยู่ข้างกายคิม เมื่อมองท่าทางสงบนิ่งของคิม คิดยังไงก็คิดไม่ตก ว่าเรื่องอะไรถึงทำให้เธอเลือกทำแบบนี้?

เวลาผ่านไปทุกวินาที ธรณีเป็นห่วงคุณนายทวีทรัพย์ธาดา จึงตัดสินใจกลับบ้าน ส่วนบุริศร์เมื่อเห็นรมนไม่ยอมกินอะไร ก็กลัวว่าร่างกายของเธอจะรับไม่ไหว จึงตั้งใจจะออกไปซื้ออะไรมาให้

นรมนไม่รับรู้ถึงสิ่งใดเลย เธอเอาแต่นั่งเฝ้าคิมอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมหนีห่างไปไหน

ทันใดนั้นใครบางคนก็เปิดประตูเข้ามา

ตุลยายืนอยู่ข้างหลังนรมนราวกับเป็นดวงวิญญาณ เมื่อเห็นคิมนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ดวงตาก็วาวโรจน์ไปด้วยความโหดร้าย

“ทำไม? ก็เป็นลูกแม่เหมือนกัน แต่ทำไมแม่ถึงดีกับแก แต่กลับใจร้ายกับฉัน?”

เสียงของตุลยาดังขึ้นมาในห้องอย่างเลือนราง จนทำให้เกิดความรู้สึกชวนขนลุก

นรมนรีบหันกลับไปทันที จากนั้นก็เห็นตุลยายืนอยู่ตรงนั้น มองมาที่เธอกับคิมด้วยสายตาเกลียดชัง

“แกทำอะไรแกรู้อยู่แก่ใจ ว่าทำไมแม่ถึงทำอย่างนั้นกับแก ตัวแกเองน่าจะรู้นะ”

“แม่? เรียกซะสนิทเลยนะ พวกแกคงยอมรับว่าเป็นแม่ลูกกันอย่างที่คิดไว้สินะ?”

ตุลยาหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันหวังมาตลอดว่าเธอจะดีกับฉันบ้าง แต่ฉันกลับไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้ง ตั้งแต่ที่แกโผล่มา เธอก็เอาความรักทั้งหมดไปให้แก ไม่ว่าแกจะทำอะไร แม่ก็จะบอกว่าดีทุกอย่าง แต่พอฉันทำบ้างแม่ก็มีแต่บอกว่าฉันผิด วันเกิดแกวันนั้น ฉันทำอาหารให้เธอกิน แต่เธอกลับไม่ยอมรับน้ำใจจากฉัน เธอบอกให้ฉันไปบอกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาว่าแกไม่ได้เป็นคนจับตัวฉันไป และไม่ได้จับฉันโยนลงทะเล แถมยังบอกให้ฉันไปบอกคุณนายอีกว่า แกแท้งลูกเพราะช่วยชีวิตคุณนายเอาไว้ ทุกอย่างเธอเอาแต่นึกถึงแก ไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าฉันพูดทุกอย่างออกไป คุณนายจะมองฉันยังไง? จะปฏิบัติกับฉันยังไง? ทุกอย่างที่ฉันทำให้คุณนายเป็นเวลาเดือนกว่าๆคิดว่าฉันจะยอมให้มันสูญเปล่าไปเฉยๆเหรอ?”

คำพูดของตุลยาทำให้นรมนขมวดคิ้ว

“แล้วทุกอย่างมันเป็นเพราะแกไม่ใช่หรือไง? แกสมควรพูดความจริงกับคุณนายไม่ใช่หรือไง?”

“แล้วทำไมฉันต้องพูดความจริง? ก็คุณนายตามืดตามัวซะขนาดนั้น เธอชอบฟังคำพูดไม่จริง อยากให้คนนอกอย่างฉันไปเป็นหลานสาว แต่แม่เป็นแม่แท้ๆของฉัน! ทำไมไม่คิดถึงฉันบ้างล่ะ? ฉันก็ต้องการความใส่ใจ และต้องการความรักเหมือนกัน! แต่เธอเคยให้ฉันไหม? แกไม่รู้หรอก ตอนที่เธอบอกว่าจะทำอะไรอร่อยๆให้ฉันทานน่ะ ฉันดีใจขนาดไหน ฉันคิดว่าความพยายามของฉันตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันจะสำเร็จแล้วซะอีก แต่พอฉันกินอาหารของเธอทำเข้าไป ผลกลับกลายเป็นว่าฉันเกือบเอาชีวิตไม่รอด แม่ที่ฉันรักที่สุด คิดจะฆ่าฉันเพราะแก! นรมน ทำไมโลกนี้มีฉันแล้วต้องมีแกด้วย? ทำไมแกไม่ตายๆไปซะ?”

ตุลยาพูดพร้อมกับ หยิบของข้างๆเขวี้ยงมาทางศีรษะของนรมน

นรมนเรียนรู้วิธีป้องกันตัวจากบุริศร์มาพอสมควร ในวินาทีที่ตุลยาเขวี้ยงของมา นรมนจึงหันหลบและยกขาขึ้นถีบเข้าที่คอของตุลยาจนเธอกระเด็นออกไป

“โอ๊ย!”

ตุลยาตะคอกออกมาอย่างโกรธๆ ร่างกายปลิวออกมาเหมือนเป็นเสมือนว่าว

นรมนกลับไม่มีความเมตตาให้เธอเลยสักนิด

เธอสูญเสียสติสัมปชัญญะจนไร้ทางรักษาไปแล้ว

“ไสหัวไป! อย่ามารบกวนเวลาพักผ่อนของแม่ฉัน!”

นรมนพูดจบ ก็ปิดประตูลงทันที ปิดกั้นตุลยาเอาไว้ข้างนอก

หลังจากกลับมาอยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นว่าคิมยังนอนไม่ได้สติอยู่ นรมนก็พูดเสียงเบาขึ้นมาว่า “ทำไมคุณถึงโง่แบบนี้? ถึงคนอื่นจะพูดยังไงแล้วมันทำไม? ฉันไม่เคยสนอยู่แล้วว่าคุณนายจะมองฉันยังไง คุณจำเป็นต้องเอาชีวิตตัวเองมาแลกเพื่อคนคนหนึ่งเลยเหรอ มันคุ้มค่าหรือไง? หรือคุณคิดว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครทำให้คุณอยากมีชีวิตต่อแล้วจริงๆ? แล้วฉันล่ะ? แม้แต่ฉันคุณก็ไม่ต้องการแล้วเหรอ?”

มือของคิมกระดิกเล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่การขยับมันเล็กน้อยมากเกินไป นรมนจึงไม่สังเกตเห็น

เธอนั่งอยู่ข้างเตียงของคิม พูดเสียงเบาขึ้นมาว่า “เมื่อก่อนฉันรู้สึกห่างเกินกับคุณมาตลอด ตอนนี้ฉันเพิ่งได้รู้ว่าคุณรักฉันจริงๆ เพียงแต่ว่าการแสดงความรักของคุณมันไม่เหมือนคนอื่น มันทำให้ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ จริงๆแล้วถึงฉันจะกลับไปอยู่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ได้แล้วมันยังไง? ฉันไม่สนเลยด้วยซ้ำ ขอแค่คุณสบายดี ขอแค่คุณมีความสุข ฉันก็พอใจแล้ว แล้วทำไมคุณถึงดึงดันอยากให้ฉันกลับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาขนาดนั้น? มีแค่การกลับเข้าสู่ตระกูลแค่นั้นเหรอ ฉันถึงจะใช่ลูกสาวของชินทร? แล้วตอนนี้ฉันไม่ใช่หรือไง? แม่คะ บางทีแม่ก็หัวโบราณเกินไป”

นรมนไม่รู้ว่าคิมจะได้ยินหรือเปล่า แต่ต่อให้เธอได้ยิน เธอก็อยากพูดออกไป

คิมยังคงหลับสนิท นรมนเองก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว จึงซบหน้าหลับอยู่ข้างๆเตียงของคิม

ในความฝัน เธอได้เห็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักของคิม และได้เห็นชินทรยิ้มให้เธอ ในตอนที่เธอกำลังจะพูดอะไรซักอย่างกับพวกเขา จู่ๆพวกเขาก็อยู่ไกลออกไปอย่างกะทันหัน

“พ่อ แม่!”

นรมนตื่นขึ้นมา ถึงได้รู้ว่าแค่ฝันไป

ส่วนบุริศร์ไม่รู้ว่ากลับมาตอนไหน เมื่อเห็นนรมนฝันร้าย ก็รีบถามขึ้นมาว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า? ข้างในมีโซฟานะ คุณไปนอนสักพักเถอะ ตรงนี้ผมดูเอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน แล้วก็ ผมซื้อของกินมาให้ คุณก็กินสักหน่อยนะ”

“ฉันกินไม่ลง”

นรมนรู้สึกอัดอั้นใจ

บุริศร์รับรู้ถึงอารมณ์ของนรมนในตอนนี้ แต่ก็พูดเกลี้ยกล่อมเธอออกมาว่า “กินไม่ลงก็ต้องกิน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หัวหน้าคิมจะฟื้น ถ้าร่างกายคุณพังไปอีกคนจะทำยังไง?”

“ฉันกินไม่ลงจริงๆ”

นรมนรู้ว่าบุริศร์หวังดีกับตัวเอง แต่เธอก็ไม่อยากกินอะไรจริงๆ

บุริศร์ถือโจ๊กขึ้นมาแล้วพูดว่า “ถึงจะกินอะไรไม่ลง อย่างน้อยกินโจ๊กสักคำก็ยังดี ไม่อย่างนั้น ถ้าตุลยามาหาเรื่องคุณอีก คุณจะเอาแรงที่ไหนเตะเธอออกไป?”

ได้ยินที่บุริศร์พูด นรมนก็นิ่งไปเล็กน้อย

“คุณรู้ได้ยังไง?”

“เหอะๆ คิดว่าน่าจะรู้กันทั้งโรงพยาบาลแล้วมั้ง เพราะพอตุลยาฟื้นขึ้นมา ก็บอกว่าจะมาดูอาการของแม่ตัวเอง แต่สุดท้ายก็ถูกคุณถีบกระเด็นออกมาจากห้อง ตอนนี้ยังลุกไม่ได้เลยมั้ง แถมยังพูดอย่างน่าสงสารว่าคุณอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากให้ทุกคนโทษคุณ”

“ใสๆแต่ร้ายเงียบ”

นรมนคิดว่าตุลยาเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่ไปแสดงละครซะให้รู้แล้วรู้รอดเลยล่ะ

บุริศร์เองก็ไม่เชื่อคำพูดของตุลยา

แต่เขาก็พูดออกมาว่า “เรื่องนี้ถ้าถูกส่งต่อออกไป ไม่ส่งผลดีต่อคุณแน่ๆ อีกอย่างคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็หน้ามืดตามัว ไม่แน่พรุ่งนี้คงเข้าใจอะไรคุณผิดๆอีกแน่ เพราะงั้นคุณกินอะไรสักหน่อยเถอะ แล้วก็หลับสักตื่น รวบรวมพละกำลังไว้รับมือกับคนพวกนั้นไง ไม่ดีเหรอ?”

เมื่อนรมนเห็นบุริศร์พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกินขนาดนี้ ก็พลันใจอ่อนยวบ

“บนโลกใบนี้มีแค่คุณที่เป็นห่วงและเข้าใจฉัน”

“ผมคือสามีของคุณ ถ้าผมไม่เป็นห่วงคุณแล้วใครจะเป็นห่วงคุณล่ะ?”

บุริศร์ยื่นโจ๊กไปให้นรมน

นรมนเองก็ไม่งี่เง่า ถึงแม้จะกินไม่ลง แต่ก็พยายามฝืนกินลงไป

เมื่อเห็นเธอกินเข้าไปแล้ว บุริศร์ถึงได้วางใจลง

เขากลัวจริงๆว่านรมนจะทรุดลงเพราะเรื่องของคิม

หลังจากที่นรมนกินเสร็จ ถึงจะนอนไม่ค่อยหลับ แต่ไม่ทันได้รู้ตัวเธอก็เอนตัวนอนลง

สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ การแท้งในครั้งนี้ ทำให้เธออ่อนล้าและง่วงซึมอยู่บ่อยๆ บุริศร์เองก็รับรู้ถึงอาการเหล่านี้ เขาจึงอยากให้นรมนนอนหลับได้อย่างปกติ

เมื่อเห็นเธอหลับไปแล้ว บุริศร์ก็อุ้มเธอเข้าไปในห้อง แล้วหาอะไรมาห่มให้เธอ จากนั้นถึงได้เดินออกมา

คิมยังคงหลับสนิท ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ไม่สามารถคาดเดาได้

บุริศร์ไม่รู้ว่าอะไรกำลังรอพวกเขาอยู่ในวันพรุ่งนี้ แต่ถ้ามีคนมารังแกนรมน เขาก็จะไม่ปล่อยไปโดยไม่โต้ตอบแน่!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย