แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 382

บทที่ 382 มีคนมารังแกฉันแล้ว คุณจะสนใจได้หรือยัง

นรมนนอนหลับไปอย่างสบายใจ อากาศที่สุดเข้าไปก็ล้วนแต่เป็นกลิ่นอายของบุริศร์ ราวกับว่าเขาอยู่ข้างกายเธอตลอดเวลา ความรู้สึกปลอดภัยนั้นทำให้เธอหลับอย่างสงบ

ตอนที่ลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าคิมยิ้มมองพวกเธอจนตาหยี ทำให้นรมนเขินเล็กน้อย

“แม่ก็ ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกหนูล่ะคะ”

นรมนรีบออกมาจากอ้อมแขนของบุริศร์

บุริศร์ยืดเหยียดแขนที่เจ็บแล้วพูดว่า “ก็คุณหลับเหมือนลูกหมู คุณแม่เลยไม่อยากปลุกคุณ วางใจได้ เอาของมาให้แล้ว คุณแม่เองก็กินข้าวเสร็จแล้ว ยังเหลือไว้ให้คุณอีกด้วย คุณรีบไปกินเถอะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของบุริศร์ นรมนก็ยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่

“แล้วทำไมคุณถึงไม่ปลุกฉันล่ะคะ”

“คุณจะกลัวอะไร คนบ้านเดียวกันทั้งนั้น ยังจะกลัวใครหัวเราะเยาะอีกอย่างนั้นเหรอ คุณเหนื่อยมาตั้งหลายวันแล้ว นอนเยอะๆ หน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ยังมีผมอยู่ไม่ใช่เหรอ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนสบายใจขึ้นมาหน่อย

ก็ได้ยินว่าบุริศร์กับนรมนเรียกตัวเองว่าแม่ คิมก็อดดีใจไม่ได้

“พวกลูกไปกินข้าวกันเถอะ แม่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

“แม่ดูทีวีไปพลางๆ นะคะ”

นรมนรีบกดเปิดโทรทัศน์ หลังจากนั้นก็ลากบุริศร์ไปที่ห้องด้านใน

บุริศร์เห็นใบหน้าของเธอแดงก่ำ จึงยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “นับวันยิ่งหน้าบางลงเรื่อยๆ นะ แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ”

“ไม่เกี่ยวกับคุณสักหน่อย”

นรมนถลึงตามองเขาอย่างโมโห หลังจากนั้นก็เปิดกล่องอาหาร พอเห็นว่าเป็นของที่ตัวเองชอบกินเต็มไปหมด ก็ไม่รู้ว่าควรจะขยับตะเกียบอย่างไร อดไม่ได้ที่จะตะลึงไปพักหนึ่ง

“ไม่ได้บอกว่าคุณแม่กินไปหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ ทำไมกับข้าวพวกนี้ถึงดูไม่พร่องไปเลยล่ะ”

“คุณแม่กินหมดแล้วแน่นอน หมอบอกว่าตอนนี้หล่อนไม่สามารถกินของมันๆ ได้ ของพวกนี้เป็นสิ่งที่แม่สามีของคุณบอกให้ป้าหวานทำให้คุณเป็นพิเศษโดยเฉพาะ”

พอบุริศร์พูดแบบนั้น หัวใจของนรมนก็อบอุ่นขึ้นมาทันที

“ปล่อยให้คุณแม่ต้องมาเหนื่อยใจแบบนี้ได้ยังไงกัน”

“คุณแม่ทั้งกังวลและเป็นห่วงคุณ บอกว่าคุณต้องกินให้เยอะๆ พักผ่อนให้มากๆ จึงจะสามารถดูแลคนป่วยได้ดี ไม่ต้องเกรงใจไป แม่สามีของคุณสั่งให้ทำ คุณก็กินเถอะ”

บุริศร์ไม่อยากเห็นน้ำตาของนรมนจึงเปิดปากพูด

“คุณก็กินด้วยนะคะ”

นรมนยื่นตะเกียบให้บุริศร์

บุริศร์ไม่ได้กินเยอะ ทั้งยังกินช้ามาก เพราะเขาเอาแต่มองนรมนกินอยู่ตลอดเวลา

หลังจากที่นรมนกินเสร็จก็รู้สึกอิ่มมากเป็นพิเศษ

“อาหารที่ป้าหวานยังอร่อยเหมือนเดิมเลย”

“คุณนี่ไม่มีมโนธรรมเอาเสียเลย หรือว่าอาหารที่ผมทำไม่อร่อยกัน”

บุริศร์เริ่มหึงขึ้นมาบ้างแล้ว

นรมนยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “เอาแต่ชมตัวเองแบบนี้มีที่ไหนกัน”

“ช่วยไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่ชมผม ผมจะชมตัวเองสักหน่อยไม่ได้เชียวเหรอ ไม่อย่างนั้นผมคงเศร้ามากเลยนะ”

“เด็กน้อย”

นรมนเริ่มเก็บกวาดข้าวของ ทว่าตอนที่กำลังคิดจะเอาไปล้าง ก็ถูกบุริศร์ห้ามไว้

“ผมทำเอง ที่นี่มีน้ำร้อนไม่มาก ร่างกายของคุณก็ไม่ควรสัมผัสกับน้ำเย็นด้วย”

พูดจบเขาก็นำจานชามกับตะเกียบไปเก็บ

นรมนใจสั่นไม่น้อย

“ไม่ใช่ว่าฉันพ้นช่วงหลังคลอดไปแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วให้ผู้ชายตัวโตเอาแต่มาวนเวียนอยู่รอบห้องครัวทุกวันมันใช้ได้ที่ไหนกัน จานชามกับตะเกียบพวกนี้ก็มันมาก ให้ฉันทำเองเถอะค่ะ”

“คุณอย่าดื้อกับผมสิ ผู้ชายตัวโตมาวนเวียนอยู่รอบก้นครัวแล้วจะทำไม ก็ผมยินดีที่จะเข้าครัวทำอาหารให้คนที่ผมรัก ยิ่งคุณบอกว่าของพวกนี้มันมากอีก คุณก็อย่าแตะต้องจะดีกว่า มือของภรรยาผมสวยขนาดนี้ ไว้ใช้ชื่นชมกับจับเล่นก็เพียงพอแล้ว”

พูดพลางบุริศร์ก็นำจานชามและตะเกียบออกไปโดยไม่เปิดโอกาสให้นรมนอีก

นรมนยกยิ้มแล้วก้มมองมือตัวเอง ตอนนี้ก็มีเนื้อมีหนังขึ้นมาไม่น้อยแล้ว

ยังจะชื่นชมและจับมืออ้วนๆ คู่นี้เล่นไปทำไมกัน

จากนั้นก็ส่ายหน้าแล้วเดินออกจากห้องไป

พอคิมเห็นเธอออกมา ก็ยิ้มแล้วพูดว่า “บุริศร์ดีกับลูกมากจริงๆ ”

“อื้ม ก็เป็นความกรุณาที่พระเจ้ามอบให้หนูนี่คะ”

นรมนไม่เก็บซ่อนความรักที่มีต่อบุริศร์เลยแม้แต่น้อย

คิมยิ้มแล้วพูดว่า “แต่ก็อย่าได้รังแกเขาจนเกินไป ดูแลกันดีๆ เข้าใจไหมจ๊ะ”

“รู้แล้วค่ะ ตอนนี้แม่เป็นยังไงบ้างคะ”

“ดีขึ้นมากแล้วละ”

คิมได้อยู่กับนรมนพักใหญ่ อารมณ์ดีไม่เลวเลยจริงๆ

นรมนเอ่ยเสียงเบาว่า “คืนนี้หนูจะกลับไปที่บ้านสักหน่อย บุริศร์ก็อาจจะไปกับหนูด้วย ถึงตอนนั้นแม่อยู่คนเดียวก่อนได้ไหมคะ ถ้าไม่ได้หนูจะให้คนดูแลมาอยู่เป็นเพื่อน พรุ่งนี้เช้าก็กลับมาแล้วค่ะ”

คิมชะงักไป แต่ก็นึกขึ้นได้ว่านรมนยังมีเด็กๆ รออยู่ที่บ้าน จึงจำต้องพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “แม่ไม่เป็นไรจ้ะ ก็แค่อ่อนแรงนิดหน่อย ไปตามคนดูแลมาก็ได้นะ ลูกกับบุริศร์ก็กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วก็ไม่ต้องรีบมาตั้งแต่เช้า ไม่เป็นอะไรจริงๆ จ้ะ”

“ขอบคุณนะคะแม่”

“พูดอะไรของลูกน่ะเด็กโง่”

คิมรู้สึกว่านรมนรู้เรื่องรู้ราวกว่าตุลยาเยอะมาก

ทั้งสองคนคุยกันไปได้สักพักบุริศร์ก็กลับมา

มือของเขายังคงเปียกชื้น นรมนจึงรีบไปหยิบผ้าขนหนูมาให้

“ช่างเถอะ ฉันช่วยคุณเช็ดแล้วกัน”

เธอลุกขึ้นยืนแล้วช่วยบุริศร์เช็ดมือจนสะอาดเหมือนทำให้เด็กๆ บุริศร์ที่เห็นดังนั้นก็ยกมุมปากขึ้น

พอได้เห็นพวกเด็กๆ รักกันแบบนี้ ในที่สุดคิมก็วางใจแล้ว

“เอาละ ไม่ได้บอกว่าต้องกลับไปอย่างนั้นเหรอจ๊ะ ตอนนี้ก็กลับไปเถอะนะ อย่ามาโชว์สวีทป้อนอาหารหมารังแกคนโสดที่เปล่าเปลี่ยวอย่างแม่จะได้ไหม”

ทันทีที่ได้ยินคิมพูดแบบนี้นรมนก็หน้าแดงก่ำ

“แม่คะ พูดอะไรก็ไม่รู้ ถ้าแม่เหงางั้นก็พรุ่งนี้หนูจะลงทะเบียนในเว็บหาคู่ให้ก็แล้วกัน ถึงเวลานั้นแล้วแม่ชอบแบบไหนก็เลือกเอานะคะ”

“ลูกกล้าอย่างนั้นเหรอ! ”

คิมรู้สึกได้ทันทีว่าตัวเองหน้าแดงก่ำ

ยายเด็กนี่ปากไม่มีหูรูดจริงๆ

นรมนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข

ทันใดนั้นภายในห้องพักฟื้นก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

ตุลยาที่ได้ยินเสียงหัวเราะอันเต็มไปด้วยความสุขนั้นจากตรงระเบียงทางเดินก็กำมือทั้งสองข้างจนแน่น

เธอก็เป็นลูกสาวของคิมเหมือนกัน แล้วทำไมคิมถึงไม่เคยดีกับเธอแบบนี้บ้าง

เธอก็แค่อยากได้ความรักเล็กๆ น้อยๆ จากอีกฝ่าย แล้วทำไมถึงไม่เคยมอบให้เธอเลย

สีหน้าของตุลยาถมึงทึง รู้สึกว่าเสียงหัวเราะพวกนั้นช่างเสียดแทงโสตประสาทเป็นพิเศษ จนเธอแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ตอนที่หันหลังวิ่งกลับไปก็พบกับธรณีเข้าพอดี

“จะไปไหนเหรอ”

ธรณีปฏิบัติต่อเธอเหมือนนักโทษ ทำให้ตุลยารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก แต่เธอไม่กล้าที่จะขัดขืน เพราะเพียงแค่ธรณีขยับหัวแม่มือ ก็สามารถบีบเธอจนตายได้แล้ว

“ก็แค่จะออกไปเดินเล่นค่ะ”

เสียงของตุลยาเบามาก พยายามที่จะรักษาภาพลักษณ์อันอ่อนแอของดอกบัวขาวอย่างสุดความสามารถ

“ถ้าไม่มีอะไรก็อยากวิ่งไปทั่ว ถ้าเกิดไปชนใครเข้าย่าคงปวดใจไปอีกหลายวัน แล้วถ้าเธอรักย่าจริงๆ ก็หยุดบ้างเถอะ รีบไปพักผ่อน จะได้รีบออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับบ้านไวๆ ”

“ค่ะ”

ตุลยาโมโหเป็นอย่างมาก แต่เพราะเธอก้มหน้าอยู่ จึงไม่มีใครมองเห็นว่าแววตาของเธอเป็นอย่างไร

ธรณีเห็นเธอเสแสร้งแบบนี้ ก็ยิ่งไม่อยากเสวนาให้มากความ จึงรีบเข็นวีลแชร์ออกไป

“จับตาดูตุลยาไว้ให้ดีๆ ถ้าหากเธอยังกล้าวิ่งวุ่นไปทั่วอีก ก็หักขาเธอทิ้งซะ”

คำพูดนี้ของธรณีจริงจังเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าพูดให้บอดี้การ์ดฟังหรือพูดให้ตุลยาฟังกันแน่

ตุลยารีบปิดประตูอย่างโมโห แล้วนั่งลงบนเตียงอย่างไม่สบอารมณ์

ธรณีจัดหาบอดี้การ์ดมาคอยปกป้องดูแลเธอ แต่ตุลยารู้ดีว่าความจริงแล้วธรณีคิดที่จะจับตามองและควบคุมเธอต่างหาก ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งจะรอดพ้นไปจากการจับจ้องของบอดี้การ์ดได้อย่างไรกัน

ตุลยาขมวดคิ้ว ทันใดนั้นก็คิดถึงใครบางคนขึ้นมา

เธอรีบโทรศัพท์หาไมค์ทันที

“ไมค์คะ คุณยังอยู่ที่เมืองชลธีไหมคะ”

มาเมืองชลธีนานขนาดนี้แล้ว ไมค์จึงเกือบจะถูกตุลยาลืมไปแล้ว อยู่ๆ วันนี้ก็ได้รับโทรศัพท์จากอีกฝ่าย ไมค์จึงค่อนข้างที่จะสับสนเล็กน้อย

“ตุลยาเหรอ”

“ฉันเองค่ะ ไม่อย่างนั้นคุณคิดว่าเป็นใครกันล่ะ ทำไมเหรอคะ ไม่ได้เจอกันแค่เดือนเดียวคุณก็ลืมฉันไปแล้วอย่างนั้นเหรอ ไม่รักฉันแล้วสินะ เมื่อก่อนคุณเคยพูดไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ยอมให้ใครมารังแกฉัน ตอนนี้มีคนมารังแกฉันแล้ว คุณจะสนใจได้หรือยัง”

หลังจากนั้นตุลยาก็ร้องไห้ออกมา

เมื่อได้ยินว่าตุลยาถูกรังแก ไมค์ก็โมโหขึ้นมาทันที

“ใครรังแกคุณ บอกผมมา ผมจะไปจัดการมัน”

“ก็ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาน่ะสิ”

ตุลยาพูดไปพลางสะอื้นไปฟังว่า “ฉันดีกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดามาก เธอก็เลยอยากจะรับฉันเป็นหลานสาว แต่ว่าคุณอาเล็กไม่ยินยอม สุขภาพของฉันก็ไม่ค่อยจะแข็งแรง แค่มาตรวจที่โรงพยาบาลเขาก็ยังให้บอดี้การ์ดคอยขังฉันไว้ คุณจะช่วยฉันได้ไหม ฉันเป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง จะรับมือกับบอดี้การ์ดทั้งสองคนได้ยังไง ฉันได้ยินพวกเขาพูดว่าคืนนี้จะทำอะไรบางอย่างกับฉัน ฉันกลัวมากเลย! ”

พอได้ยินตุลยาพูดแบบนี้แล้ว ไมค์ก็ชักจะกระวนกระวาย

“พวกเขาคิดจะทำอะไรคุณ”

“จะยังเป็นอะไรได้อีกล่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เป็นคุณหนูของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา แต่ก็ยังเป็นที่รักใคร่ของคุณนาย ว่ากันตามตรงแล้วผู้นำของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นคุณอาเล็ก แต่ตอนนี้คุณนายถูกเขาส่งกลับบ้านไปแล้ว ไม่ยอมให้ฉันได้พบกับคุณนายอีก ถ้าหากฉันถูกทำลายความบริสุทธิ์ไปละก็ คุณนายคงจะไม่ชอบฉันอีกต่อไปแล้วสินะ ถึงตอนนั้นแล้วฉันจะกล้าเงยหน้ามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง”

ตุลยายิ่งพูดก็ยิ่งเจ็บปวด ท้ายที่สุดก็กอดโทรศัพท์แล้วร้องไห้ออกมา

ยิ่งเธอร้องไห้แบบนี้ ไมค์ก็ยิ่งตื่นตระหนก

“เธออย่าร้องไห้สิ! ไม่ใช่ว่ายังมีฉันอยู่หรอเหรอ วางใจเถอะฉันจะรีบไปช่วยเธอออกมาจากโรงพยาบาลอย่างนี้ ใช่แล้ว ตอนนี้เธออยู่โรงพยาบาลไหนกัน”

พอได้ยินไหมยอมตกลงแบบนี้ ถึงแม้ว่าตุลยาจะยังร้องไห้อยู่ แต่มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาแล้ว

“ฉันอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ชั้นสามห้อง 208”

“เข้าใจแล้ว รอชั้นสิบห้านาที นาทีจะรีบเดี๋ยวนี้เลย”

พูดจบไมค์ก็วางสายไป

ตุลยามองโทรศัพท์ ก่อนจะแค่นเสียงเย้ยหยันกันออกมาแล้วเช็ดน้ำตา

ผู้ชายคนนี้ยังพอมีประโยชน์ บีบน้ำตานิดหน่อยก็ยอมที่จะไล่ตามและทำทุกอย่างเพื่อเธออย่างถวายหัว

เธอมีความสุขกับความรู้สึกนี้ แต่กลับคิดถึงบุริศร์

บนโลกใบนี้ ผู้ชายดีๆ อย่างบุริศร์นั้นหาได้ยากมากจริงๆ

แต่ผู้ชายดีๆ แบบนั้นกลับเป็นของนรมน

ทำไมกันนะ

นรมนมีอะไรดีกันแน่

ทุกคนต่างก็เป็นผู้หญิงกันทั้งนั้น เธอไม่เชื่อว่านรมนจะทำให้บุริศร์พอได้ เธอให้ไม่ได้หรอก ขอแค่จัดการคิมให้ได้ก่อน จากนั้นก็สร้างปัญหาระหว่างนรมนกับบุริศร์ ถึงตอนนั้นเธอก็จะพอมีโอกาสแล้วใช่ไหมล่ะ

ตุลยาคิดอย่างมีความสุข หลังจากนั้นก็ตั้งตารอคอยการมาถึงของไมค์

ในเมื่อหาคนมาช่วยได้ ทั้งยังรู้จักฝีมือของไมค์ดี จึงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าห้องสองคนนั้นแล้ว

ธรณีอยากจะมัดเธอเอาไว้อย่างนั้นเหรอ

ฝันไปเถอะ

ตุลยาแค่นเสียงเย้ยหยันออกมา เธอเอนตัวลงบนเตียง แกล้งทำเป็นอ่อนแออย่างมาก หลังจากนั้นสิบนาที ก็กุมท้องแล้วร้องตะโกนออกมา

“โอ๊ย! โอ๊ย! ปวดท้องจะตายอยู่แล้ว! ใครก็ได้! ใครก็ได้รีบมาที! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย