แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 384

บทที่ 384 สวรรค์เป็นผู้กำหนดชะตาของมนุษย์

สีหน้าของบุริศร์ไม่ค่อยดีนัก

พวกเขาคิดเอาไว้แล้วว่าตุลยาจะต้องมาและทำลายกล้องวงจรปิดบริเวณรอบๆ นี้แน่ๆ น่าเสียดายที่บุริศร์กับนรมนเตรียมการกันเอาไว้ตั้งนานแล้ว จึงได้ติดตั้งกล้องตัวอื่นไว้ที่นี่ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น และยังมีระบบเครือข่ายแยกเอาไว้โดยเฉพาะ ไม่ว่าตุลยาจะฉลาดแค่ไหนก็คงคิดไม่ถึงว่าภาพที่ตัวเองกำลังจะฆ่าคิมได้ถูกถ่ายเอาไว้ทั้งหมดแล้ว

นรมนมองไปที่คิม ไม่รู้ว่าตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตามสีหน้าของคิมดูไม่ค่อยดีนัก จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “แม่คะ ถ้ายังไงเราเรียกหมอมาดูหน่อยดีไหมคะ แม่เป็นแบบนี้หนูรู้สึกไม่สบายใจเลย”

“ไม่เป็นไรจ้ะ แค่หายใจไม่ออกนิดหน่อย ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะแล้ว”

น้ำเสียงของคิมค่อนข้างที่จะแหบพร่า ราวกับเรี่ยวแรงถูกดูดออกไปจนหมดอย่างไรอย่างนั้น

ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ชอบตุลยาอีกต่อไปแล้ว และถึงแม้ว่าเดิมทีเธอเองก็ทำเรื่องที่ค่อนข้างจะเลวร้ายลงไปก่อน แต่ตอนได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่จะถูกตุลยาพรากชีวิตเข้าจริงๆ นั้น เธอกลับยังรู้สึกเจ็บไปทั้งหัวใจ

บางทีตุลยาก็อาจจะรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน

ทันใดนั้นคิมก็รู้สึกผิดกับตุลยาเอามากๆ แต่พอคิดถึงสิ่งที่ตุลยาเคยทำเอาไว้พวกนั้นแล้ว ก็ไม่มีหน้าที่จะไปช่วยพูดอะไรแทนเธอ

พวกลูกจะทำอะไรกับวิดีโอพวกนั้นก็ทำไปเถอะ สุขภาพของแม่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมากนัก พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วจ้ะ

“แม่คะ แม่...”

นรมนอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกบุริศร์หยุดไว้

เขาส่ายหน้าให้นรมน แววตาค่อนข้างที่จะซับซ้อน

“แม่เหนื่อยแล้ว พวกลูกหลับกันไปก่อนเถอะนะ”

คิมพูดจบก็เอนตัวลงนอน

ก็เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้ว นรมนก็ไม่ได้รั้นจะพูดอะไรต่ออีก ได้แต่เดินตามบุริศร์ออกไปนอกห้องพักฟื้น

“ฉันทำผิดไปแล้วใช่ไหม”

นรมนกับริมฝีปากแล้วถามออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา

เธอคิดว่าคิมจะสามารถจัดการตุลยาได้อย่างเหี้ยมโหด คงไม่ใส่ใจอะไรกับแผนการนี้นัก เพียงแต่ไม่คิดเลยว่าในที่สุดจะถูกบีบให้มาถึงจุดนี้ เธอแค่อยากจะดึงจุดอ่อนของตุลยาออกมาก็เท่านั้น ไม่คิดเลยว่าคิมจะยังปล่อยไป

บุริศร์เห็นเธอเจ็บปวดแบบนี้แล้ว ก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ในเมื่อทำลงไปแล้ว ก็อย่าได้คิดเรื่องพวกนี้อีก แม่ของคุณสามารถจัดการกับตุลยาด้วยตัวเองได้ แต่เมื่อมีวันหนึ่งที่เธอเองก็ถูกตุลยาโต้กลับเช่นนี้ ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดี ถึงยังไงตุลยาก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเธอ แค่ที่ตอนนี้เธอไม่เอาแต่ออกตัวกางปีกปกป้องตุลยาแล้วปล่อยให้พวกเราจัดการก็ดีมากแล้ว อย่าได้บังคับให้เธอทำอะไรอีกเลย อย่างไรสำหรับตุลยาแล้ว เธอก็ยังเป็นแม่คนหนึ่ง”

เมื่อได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็เงียบลงไปอีกครั้ง

“เสียใจทีหลังแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“นิดหน่อยน่ะ แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ คนอย่างตุลยาก็ไม่มีทางที่จะหยุดแน่นอน วันนี้เธอสามารถลงมือกับแม่ซึ่งเป็นผู้ที่เธอโหยหาความรักจากหล่อนมาตลอดได้ เธอก็ยิ่งเคียดแค้นชิงชังฉันมากกว่าเดิมแล้วสินะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหลงเหลือความเมตตาใดๆ เอาไว้ให้เธออีกต่อไปแล้ว”

ม่านตาของนรมนหดลงเล็กน้อย

เธอหันกลับไปมองห้องพักฟื้นของคิมอีกครั้ง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็หันหลังเดินออกไปพร้อมกับบุริศร์

หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว คิมก็พูดกับผู้ดูแลว่า “พวกคุณไปพักผ่อนกันเถอะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว”

“แต่คุณบุริศร์บอกว่า...”

“คุณเป็นคนที่ฉันจ้างมาไม่ใช่เหรอ ฉันอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”

อยู่ๆ คิมก็ชักสีหน้า ทำให้ผู้ดูแลค่อนข้างที่จะกลัว จึงรีบพยักหน้าแล้วออกไปทันที

ในห้องจึงหรือเธอเพียงคนเดียว คิมรู้สึกอ้างว้างไม่น้อย

จะว่าไปแล้วชีวิตนี้เธอก็ทำเรื่องผิดพลาดเอาไว้มากมายจริงๆ

เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีอะไรเลย

เห็นอยู่ชัดๆ ว่ารักชินทร แต่กลับทอดทิ้งและแยกทางกับเขาเพียงเพราะเขาเข้าสู่สนามรบ กระทั่งหลังจากนั้นก็ยังมีลูกกับผู้ชายคนอื่นมาอีกคน

ในฐานะแม่ เธอให้กำเนิดนรมน แต่กลับไม่เคยให้ความอบอุ่นอย่างที่ควรจะให้ ทั้งยังผลักไสลูกไปให้คนอื่นมากว่ายี่สิบปี

ส่วนลูกอีกคนนั้น เพราะว่าไม่ได้เกิดจากผู้ชายที่เธอรักที่สุด และเพราะเธอรู้สึกอับอายในตัวเองมาตลอด ทำให้ยิ่งเห็นหน้าก็ยิ่งอึดอัดใจ จนทำให้ตุลยากลายเป็นอย่างทุกวันนี้

ผู้หญิงคนหนึ่งล้มเหลวในการแสดงบทบาทสำคัญสองบทของชีวิตนี้ ในฐานะที่เป็นลูกสาวคนหนึ่งแล้ว เธอรู้สึกละอายใจต่อตระกูลตัวเอง

คิมไม่รู้จริงๆ ว่าตลอดหลายปีมานี้เธอมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรกันแน่ แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะตายอีก

ในชีวิตคนเรานั้น การจะฆ่าตัวตายสักครั้งมันไม่ง่ายเลย คงไม่มีใครอยากจะสัมผัสกับประสบการณ์ที่เคยเฉียดตายแต่ก็ได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งนั้นอีก

ทันใดนั้นคิมก็พบว่าชีวิตนี้ของตัวเองล้มเหลวเป็นอย่างมาก

เธออยากจะปกป้องนรมน แต่น่าเสียดายที่ทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง นอกจากนี้ข้างกายของนรมนก็มีผู้ชายที่คอยรักและถนอมเจ้าตัวอยู่แล้ว

ในตอนนั้นเองเธอเข้าใจแล้วว่าตัวเองได้ทำร้ายตุลยา แต่ตุลยาถลำลึกเข้ามามากเกินไป เธอไม่สามารถที่จะดึงกลับออกมาได้อีกแล้ว

แล้วเธอทำอะไรได้กันล่ะ

เธอทำไม่ได้เลยสักอย่าง!

คิมคิดทบทวนเรื่องราวตลอดชีวิตของตัวเอง ยิ่งคิดก็ยิ่งยากจะรับได้ เธออดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปจากห้องพักฟื้น ตรงไปชำระค่าใช้จ่ายที่ห้องการเงินของโรงพยาบาล แล้วกลับไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคนเดียว

ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเงียบสนิท

เพราะว่าธรณีทำตุลยาหายไป คุณนายทวีทรัพย์ธาดาจึงโมโหเป็นอย่างมาก ตอนนี้ก็เพิ่งจะเงียบลงไปได้ คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเพิ่งจะหลับไป ส่วนธรณีก็ถูกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาบังคับให้ออกไปตามหาร่องรอยของตุลยา

ตอนนี้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาที่ยิ่งใหญ่กลับเปิดไฟในห้องนั่งเล่นไว้แค่ดวงเดียว

เมื่อคนรับใช้เห็นคิมกลับมา ก็รีบเข้ามาทักทาย แต่กลับถูกคิมห้ามเอาไว้

“ไปนอนเถอะ ฉันอยู่คนเดียวได้”

เธอมาถึงห้องวาดภาพของชินทรตามลำพัง

ที่นี่มีความทรงจำระหว่างเธอกับชินทรมากเกินไป เดิมทีเธอคิดจะรักษาความทรงจำเหล่านี้เอาไว้ แล้วอยู่ในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไปตลอดชีวิต อยากดูเหมือนว่าตอนนี้จะเป็นไปไม่ได้แล้ว

เธอไม่ได้ดูแลคุณนายทวีศักดิ์ธาราให้ดี ทำให้ผู้อาวุโสที่อายุมากขนาดนั้นแล้วถูกตุลยาหลอกลวงเอาได้ ทั้งเธอยังดูแลนรมนได้ไม่ดี ทำให้เด็กคนนั้นไม่สามารถกลับมาที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาได้อีกแล้ว เธอยิ่งรู้สึกละอายใจต่อชินทร

ดังนั้นเธอจะยังอยู่ที่นี่ต่อไปเพื่ออะไรอีก

เธออยู่ในห้องวาดภาพของชินทรนานมาก หลังจากนั้นก็เขียนจดหมายให้คุณนายทวีทรัพย์ธาดาหนึ่งฉบับ พอถึงรุ่งสางก็เก็บข้าวของของตัวเองออกไปเงียบๆ

ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปที่ไหน และเธอก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรเอาไว้เลย

ตอนที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาตื่นขึ้นมาแล้วได้ยินพวกคนรับใช้บอกว่าคิมกลับมาแล้ว ก็รู้สึกกังวลอยู่ชั่วขณะ

ไม่ใช่ว่ายังไม่ดีขึ้นหรอกเหรอ แล้วกลับมาจากโรงพยาบาลได้ยังไงกัน

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาจึงไปหาคิม ทว่ากลับหาไม่เจอ แต่คนรับใช้ได้พบจดหมายสามฉบับที่คิมทิ้งเอาไว้

เมื่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเห็นว่ามีฉบับหนึ่งเป็นของตัวเองก็รีบเปิดดูทันที

คิมเขียนเรื่องราวทั้งหมดที่อยากบอกแก่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาเอาไว้บนนั้น บอกว่านรมนยอมเสียลูกไปเพื่อนำยาแก้พิษมาให้เธอ บอกว่าเดือนนั้นไม่ใช่เพราะนรมนไม่อยากจะมาอยู่ข้างกายของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ทว่าหลังจากที่เธอแท้ง ร่างกายก็อ่อนแอมาก ทั้งยังต้องอยู่เดือนอีก หมอยังบอกว่าโอกาสที่นรมนจะกลับมาตั้งครรภ์ได้อีกครั้งนั้นน้อยมาก

ยังบอกอีกว่าตุลยากำลังโกหก ที่ผู้หญิงคนนั้นดีต่อคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ก็เพื่อเพราะอยากจะให้นรมนเจ็บปวด กระทั่งเมื่อวานตุลยาก็ยังคิดจะฆ่าตนเองแล้ว

หัวใจของคิมจึงกลับมาเย็นชาอีกครั้ง เธอไม่มีหน้าที่จะอยู่ในตระกูลทวีทรัพย์ธาดาอีกต่อไป ไม่อาจทำให้นรมนได้หวนกลับสู่วงศ์ตระกูลอีก ทั้งยังไม่สามารถปกป้องเชื้อไขของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไว้ได้ แต่กลับปล่อยให้ลูกอกตัญญูอย่างตุลยาทำลายตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่อไปอีก เธอไม่มีหน้าที่จะอยู่ต่อไปแล้ว

ยายคิมคนนี้นี่ไร้เหตุผลจริงๆ เพื่อนรมนแล้วถึงกับสาดโคลนใส่แม่หนูตุลยาแบบนี้ได้ยังไงกัน ถ้าแม่หนูนรมนเป็นคนหายาถอนพิษมาให้ฉันจริงละก็ ทำไมพวกเธอถึงไม่พูดให้เร็วกว่านี้ล่ะ

โทสะนี้ของคุณนายทวีทรัพย์ธาดา ทำให้คนรอบข้างต่างไม่กล้าจะพูดอะไรออกมา

ในตอนนั้นเอง ธรณีก็พาบุริศร์กับนรมนเข้ามา

“แม่ครับ นรมนมีอะไรบางอย่าง แม่ดูสักหน่อยเถอะครับ หลังดูจบแล้วก็จะได้รู้ว่าตุลยาเป็นคนอย่างไร”

ตอนที่ธรณีเข้ามา นรมนก็สัมผัสได้ว่าอารมณ์ของคุณนายทวีทรัพย์ธาดาไม่ค่อยดีนัก

บุริศร์กุมมือเธอไว้แน่น กล่าวเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไร สวรรค์เป็นผู้กำหนดชะตาของมนุษย์ ถึงยังไงคุณก็อยากจะดึงความสัมพันธ์นี้กลับมาไม่ใช่เหรอ”

“อื้ม”

นรมนพยักหน้า

ตอนที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดามองไปยังนรมน ก็กล่าวออกมาอย่างเย้ยหยันว่า “พวกเธอจะให้ฉันดูอะไร”

พอเห็นท่าทางแบบนี้ของเธอแล้ว นรมนกำลังคิดจะพูด บุริศร์ก็ชิงพูดออกมาก่อน

“คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ในนี้มีวิดีโออยู่ คุณดูก่อนเถอะ”

จากนั้นธรณีก็รีบเอาแล็ปท็อปเสียบแฟลชไดรฟ์ จากนั้นก็มีภาพที่ตุลยาพยายามใช้หมอนปิดหน้าเพื่อทำให้คิมขาดอากาศหายใจปรากฏขึ้นมา

หลังจากที่คุณนายทวีทรัพย์ธาดาดูจบก็กวาดแล็ปท็อปลงจากโต๊ะ

เธอจับจ้องไปยังนรมน แล้วพูดออกมาทีละคำว่า “นี่พวกเธอวางแผนเอาไว้ก่อนแล้วใช่ไหม”

นรมนไม่คิดว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาจะมีปฏิกิริยาใหญ่โตขณะนี้ จึงรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ค่ะ ฉันยอมรับว่าฉันวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว แต่ถ้าตุลยาไม่กระโดดลงมาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทว่าหัวใจของเธอกลับไม่ต่างอะไรจากท่อนไม้ ถ้าได้แม้กระทั่งแม่ของฉัน เมื่อกี้นี้คุณก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอคะ ถึงฉันจะคำนวณเอาไว้มากมายแค่ไหน ฉันสามารถกดหัวเธอให้ทำมันได้อย่างนั้นเหรอคะ”

“นางสารเลว! ”

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาหยิบจานผลไม้ข้างๆ เขวี้ยงใส่นรมนอย่างโมโห

บุริศร์หยุดการผลไม้เอาไว้อย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่สามารถหยุดมีดปอกผลไม้ที่อยู่บนนั้นได้

มีดด้ามนั้นจึงแฉลบผ่านหน้าผากของนรมนไป ทิ้งไว้ซึ่งครอบเลือดสีแดงสด

“นรมน...”

ธรณีตื่นตระหนกทันที

จะพังกันหมดแล้ว!

“ยังตะลึงอะไรกันอยู่อีก รีบไปหยิบกล่องยามาเร็วเข้า”

ทันใดนั้นแววตาของบุริศร์ก็เย็นเยียบขึ้นมาหลายส่วน เขาหยิบทิชชูจากโต๊ะกาแฟข้าง ๆ มาปิดหน้าผากของนรมนไว้

“เป็นไงบ้าง เจ็บไหม”

นรมนไม่ได้เจ็บที่หน้าผาก ทว่าเจ็บที่หัวใจ

อย่างไรเธอก็คิดไม่ถึงว่าทั้งที่ตัวเองได้หลักฐานแบบนี้มาแล้ว คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ยังคงตำหนิเธออยู่ดี

“ฉันเลวอย่างนั้นเหรอ เรื่องเลวทรามพวกนี้เป็นฉันที่ทำอย่างนั้นเหรอคะ คุณนายทวีทรัพย์ธาดา ฉันมองเห็นคุณเป็นคุณย่าของฉันจริงๆ จึงพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะจะรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ ทำให้คุณรู้ว่าความจริงแล้วคนที่อยู่ข้างกายคุณสารพัดผิดเพียงใด ไม่คิดเลยว่าคุณจะด่าว่าฉันเลว”

นรมนรู้สึกเย็นเยียบไปทั่วทั้งหัวใจ

คุณนายทวีทรัพย์ธาดารู้สึกผิดอยู่บ้างเมื่อเห็นว่านรมนได้รับบาดเจ็บ แต่พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ความละอายนั้นก็เปลี่ยนเป็นความโมโหทันที

“เธอยังมีเหตุผลอีกเหรอ ยังกล้าพูดอีกเหรอว่าตัวเองไม่เลว คิดจะทำให้ฉันสงสัยในตัวแม่หนูตุลยา ไม่สนใจแม้กระทั่งว่าจะทำให้แม่ของตัวเองเสียใจ ตอนที่ทำเรื่องนี้ไม่เคยคิดบ้างเหรอว่าตุลยาก็เป็นลูกสาวของแม่เธอ! และเธอก็กำลังใช้มีดกรีดหัวใจของหล่อน! เอาแต่คิดเรื่องของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นจนถึงสุดท้ายแม่ของเธอก็ยังช่วยพูดให้เธอ ยังเอาคุณงามความดีทั้งหมดของแม่หนูตุลยามาวางไว้บนหัวเธอ แล้วเธอล่ะ เธอทำอะไร ทำไมตระกูลทวีทรัพย์ธาดาถึงได้มีลูกหลานที่ไร้หัวจิตหัวใจและไม่มียางอายยางอายแบบเธอได้นะ ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! นับแต่นี้ไปประตูใหญ่ของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะไม่เปิดให้เธออีก! ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย