บทที่ 387 เธอทำลายฉันไม่ได้อีกแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น? ลูกตะโกนอะไรน่ะ?
คุณนายโตเล็กรีบออกมาอย่างรวดเร็ว แต่กลับหยุดบุริศร์ไม่อยู่
นรมนคว้าตัวเขาไว้แล้วพูดว่า : “เรื่องนี้ยังต้องถามกานต์ดูก่อนนะคะ คุณอย่ากล่าวหาลูกผิดๆ”
“ผมกล่าวหาเขาเหรอ? ไม่มีใครทำเรื่องอย่างนี้ได้ มีแค่กานต์เท่านั้น!”
บุริศร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
เจ้าเด็กแสบนี่ ถ้าไม่ได้หาเรื่องมาให้เขาก็ไม่สบายใจอย่างแท้จริง
กานต์เพิ่งจะถอนโดรนกลับมา ทันทีที่ได้ยินบุริศร์ตะโกนเรียกตนเองจนสุดเสียง เขาก็หดคอลงด้วยความหดหู่เล็กน้อย
ยายแก่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาคนนั้น ถ้าไม่ได้เป็นคนจิตใจคับแคบจริงๆจะฟ้องได้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?
“พี่ชาย ทำยังไงดี? ดูเหมือนแด๊ดดี้จะโกรธมากเลย”
กมลไม่ค่อยเห็นบุริศร์มีอารมณ์รุนแรงขนาดนี้
อันที่จริงกานต์เองก็กลัวเช่นกัน แต่กลับยังยิ้มและพูดว่า : “ไม่เป็นไรหรอก เธอไม่ต้องออกไป เรื่องนี้ฉันทำคนเดียว ฉันยอมรับเองคนเดียว”
“งั้นพี่จะโดนตีมั๊ยคะ?”
กมลกระพริบดวงตาโต บนหน้ามีความกังวลใจ
“ไม่มีทาง! คุณบุริศร์ไม่ตีฉันหรอก วางใจเถอะ”
อันที่จริงในใจของกานต์ก็ไม่แน่ใจอย่างมาก แต่เมื่อเห็นกมลกังวลใจก็อดไม่ได้ที่จะปลอบใจเธอ
“ไม่งั้นหนูไปจัดการขอร้องแด๊ดดี้ให้หนูจะบอกว่าหนูเป็นคนทำ แด๊ดดี้รักหนูมาก ไม่มีทางลงโทษหนูหรอก”
กมลในตอนนี้ทำให้กานต์ประทับใจมากจริงๆ การที่เขารักเธอไม่เปล่าประโยชน์เลย
“ไม่ต้องหรอก ฉันเป็นเด็กผู้ชาย มีเหตุผลไหนกันที่เด็กผู้ชายทำผิดแล้วจะให้เด็กผู้หญิงออกหน้ารับแทน? ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจัดการได้!”
กานต์พูดจบก็พากมลไปไว้ในห้องแล้วปิดประตูและตนเองก็เดินออกมา
นรมนยังคงดึงบุริศร์เอาไว้ คุณนายโตเล็กเองก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อทำให้อารมณ์ของบุริศร์ได้บรรเทาลง บุริศร์โยนโทรศัพท์ไปที่กานต์โดยตรงเมื่อเห็นเขาเดินออกมา
“ลูกทำหรือเปล่า?”
กานต์มองเห็นรูปห้องนั่งเล่นของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาที่เต็มไปด้วยความเละเทะแล้วก็เม้มปากก่อนจะพูดว่า : “โตขนาดนั้นแล้ว ยังฟ้องเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่อีก เป็นคนแก่ไม่น่าเคารพจริงๆ”
“ลูกยังจะมีเหตุผลอยู่ไหม?”
บุริศร์เห็นกานต์ที่ไม่ยอมรับผิดอย่างนี้แล้ว และทำราวกับว่าการที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาหาถึงหน้าประตูบ้านเป็นการกระทำที่ไม่สมเหตุสมผล บุริศร์โกรธจนอยากจะชกเขาจริงๆ
กานต์กลับยืดคอตรงแล้วพูดว่า : “เธอรังแกหม่ามี้และทำให้หม่ามี้ไม่มีความสุข ผมแค่อยากจะสั่งสอนเธอว่ามันเป็นยังไง? ยายแก่คนนั้นทำเกินไปมาก ถึงแม้ว่าหม่ามี้จะไปแล้ว แต่เธอก็ยังพูดว่าร้ายหม่ามี้ต่อหน้าคุณชายธรณี คนแบบนี้ถ้าผมไม่สั่งสอนเธอ ผมก็ไม่ถือว่าเป็นคน!”
นรมนตกตะลึงในทันใด
เธอรู้ถึงความสามารถของกานต์ เพียงแค่นึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องวุ่นวายของตัวเองจะส่งผลให้ลูกเกิดความโกรธเคืองไปด้วย
“กานต์ นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเราผู้ใหญ่ ลูกไม่ควรยุ่งนะ”
“ผมไม่สน ไม่ว่าใครก็ตามถ้ามารังแกหม่ามี้แล้ว ผมก็จะเอาเรื่องคนนั้น เธอจะจับผมไปสถานีตำรวจก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย”
ด้วยท่าทางหน้าด้านหน้าทนของกานต์ทำให้บุริศร์หัวเราะด้วยความโกรธเคืองแล้วจริงๆ
“จับไปสถานีตำรวจ? ลูกนึกว่าบ้านเราเปิดสถานีตำรวจหรือไง? ลูกคือคุณชายของตระกูลโตเล็ก! ลูกถูกจับไปสถานีตำรวจแล้วประวัติส่วนตัวหลังจากนี้ไม่ใช้หรือไง? โตขึ้นลูกไม่อยากเป็นทหารแล้วงั้นเหรอ? พ่อจะบอกลูกนะ ถ้าลูกเข้าสถานีตำรวจไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเป็นทหารหรอก ลูกไม่มีคุณสมบัติจะเข้าโรงเรียนเตรียมทหารด้วยซ้ำ!”
ทันทีที่บุริศร์พูดขนาดนี้ นรมนก็รู้สึกกระวนกระวายใจบ้างแล้ว
เขาบิดชายเสื้อของตัวเอง ท่าทางไม่สบายใจแต่ก็ยังดึงดัน นรมนปวดใจอย่างมากที่ได้เห็น
“เอาเถอะค่ะ ลูกเองก็ทำเพื่อฉัน ท้ายที่สุดแล้วคือฉันไม่ดีเอง ฉันเอาอารมณ์ของตัวเองเข้ามาในบ้านเลยส่งผลไปถึงลูก เรื่องวันนี้ ฉันจะไปบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเพื่อขอรับโทษด้วยตัวเอง ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจะด่าทอหรือทุบตีฉันยอมรับได้ทั้งหมด ขอเพียงแค่ไม่ถามหาความรับผิดชอบกับกานต์เท่านั้น ต้องการอะไรก็พูดได้เลย”
คำพูดของนรมนทำให้กานต์ไม่สบายใจขึ้นมาไม่น้อย
“หม่ามี้ ผมทำผิดไปใช่หรือเปล่าครับ?”
“เพราะกานต์คิดถึงหม่ามี้มาก หม่ามี้ปลื้มใจและมีความสุขมากเลยจ้ะ แต่ว่าบางครั้งวิธีการบางอย่างต้องมีเหตุมีผล เหมือนกับลูก การใช้โดรนสร้างความเสียหายให้กับบ้านของคนอื่นนี่ไม่ใช่วิธีการแรกที่ควรทำเลยจริงๆ ตอนนี้ลูกอายุยังน้อย อีกฝ่ายอาจจะไม่มีวิธีเอาผิดลูกได้ แต่เมื่อลูกอายุมากขึ้น พฤติกรรมเช่นนี้ของลูกมันผิดกฎหมาย รู้หรือเปล่า?”
นรมนเห็นว่ากานต์เกิดความกลัวขึ้นมาไม่น้อย แต่ยังไงก็ต้องบอกเรื่องนี้ให้เขาฟัง
ลูกยังเด็กเกินไป เพียงแค่เพื่อระบายความแค้นให้เธอเท่านั้น เพียงแต่ถ้าอีกฝ่ายกัดเรื่องนี้เอาไว้ไม่ปล่อย เขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วเด็กทำอะไรผิดไปต้องเป็นผู้ใหญ่ที่แก้ไข
“หม่ามี้ ขอโทษครับ ผมจะไป! ผมทำเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เป็นผมทำเอง ผมจะไปยอมรับผิด เธอจะตีจะลงโทษผมผมยอมรับทั้งหมดเลย!”
“แกจะยอมรับกะผีอะไร!”
บุริศร์ระเบิดคำหยาบมาตรงๆ
แม่บุริศร์ส่ายหัวเล็กน้อย พร้อมกับถึงข้อมือของบุริศร์แล้วพูดว่า : “พูดได้ยังไงเนี่ย?”
บุริศร์รู้ว่ากานต์คิดว่าตัวเองสูงส่งมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากเขามีวิธีการที่ค่อนข้างอัจฉริยะ ยิ่งทำให้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ปกติแล้วเรื่องอื่นก็ช่างมันได้อยู่ แต่ถ้าหากตอนนี้ยังไม่ทำการห้ามปรามและชี้แนะแล้วล่ะก็ กลัวว่าเด็กคนนี้จะก่อหายนะขึ้นมาในอนาคตจริงๆ
“ไป! ไปยืนท่าทหารตรงนั้นให้พ่อเลย พ่อกับหม่ามี้ของนายยังไม่กลับ ลูกก็ห้ามขยับ อย่าคิดว่าพ่อไม่อยู่บ้านแล้วจะขี้เกียจได้นะ ไตร่ตรองว่าตัวเองทำผิดที่ตรงไหนให้ดี”
บุริศร์ชี้ไปยังมุมหนึ่งของห้องนั่งเล่นพร้อมกับพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...