แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 391

บทที่ 381 ความรู้สึกที่โดนคนตามใจอยู่ มันดีมากเลย

“ตุลยา คุณไม่ได้ฟังมาผิดไปใช่ไหม? นรมนจะไปลงมือกับคุณน้าคิมได้ยังไงกัน? นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่”

คำพูดของไมค์ทำให้ตุลยารู้สึกโมโหขึ้นมาทันเลย

เธอผลักไมค์ออกทีหนึ่ง แล้วพูดอย่างโหดร้ายขึ้นมาว่า “คุณกำลังสงสัยฉันเหรอ? หรือว่ากำลังรู้สึกว่าฉันใส่ร้ายเธอเหรอ? เรื่องใหญ่ขนาดนี้ฉันจะเอามาพูดเล่นง่าย ๆ ได้ยังไงกัน? แม่ฉันก็จากไปแล้ว! ตอนนี้ก็แม่ตัวคนเดียวก็ไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว ร่างกายของแม่ก็อ่อนแอซะขนาดนั้น ทำไมคุณถึงได้ยังพูดเข้าข้างเธอได้อีก? ถ้าเธอไม่มีทางทำแบบนี้ แล้วเป็นฉันเหรอที่เป็นคนทำ?”

ตุลยาร้องไห้จนน้ำตาราวกับหยอดน้ำฝนที่อยู่บนดอกลูกแพร์ ร้องจนทำให้ไมค์ไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไงดี

“เอาล่ะ ๆ เพราะผมไม่รู้จักพูดเอง เป็นความผิดของผมเอง คุณอย่าโกรธเลยนะ หยุดร้องไห้เถอะ หรือไม่ผมไปตามหาคุณน้าคิมเป็นเพื่อนคุณก็แล้วกัน”

“คุณพูดเองนะ คุณจะช่วยฉันตามหาใช่ไหมคะ?”

ตุลยาจับข้อมือของไมค์เอาไว้แน่น ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง

พอโดนผู้หญิงที่ตัวเองชอบจ้องมองแบบนี้แล้ว ก็แน่นอนว่าไมค์จะต้องทุ่มเทสุดแรงกายแรงใจแน่ ๆ

“ใช่ ผมจะช่วยคุณแน่ ผมจะไม่ทำงานอะไรเลย ไม่ว่าจะเรื่องอะไรผมก็จะช่วยคุณทั้งนั้น”

“งั้นก็ดีเลย คุณไปช่วยฉันตรวจสอบดูหน่อยว่าแม่ของฉันไปไหนแล้ว? ไม่ว่าจะยังไง ฉันก็จะต้องตามหาแม่ให้เจอให้ได้”

“ได้ ผมจะไปตรวจสอบให้ คุณลุกขึ้นมาก่อนนะ พวกเรากลับโรงแรมกันก่อนเถอะ คุณอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก ผมวางใจไม่ได้”

ไมค์มองดูถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมา แล้วก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา

ในสายตาของเขานั้น ตุลยาเป็นหญิงสาวที่อ่อนแอที่สุดคนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจตัวเองและหยิ่งไปบ้าง แต่ว่าพอมาถึงเมืองชลธีแล้ว ก็ได้รับความน้อยเนื้อต่ำใจไปไม่น้อยเลยทีเดียว และแน่นอนว่าความน้อยเนื้อต่ำใจเหล่านี้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ตุลยาเล่าให้ไมค์ฟังเอง

เขาไม่เคยรู้สึกเลยว่าตุลยาจะพูดโกหกกับตัวเอง

ตุลยาไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่ปล่อยให้ไมค์พาเธอกลับไปที่โรงแรม

หลังจากที่ไมค์จัดแจงเรื่องของตุลยาเรียบร้อยแล้ว ตัวเองก็รีบไปตรวจสอบเรื่องของคุณน้าคิม แต่ตุลยากลับยังคิดอยู่แต่ว่าจะทำยังไง ถึงจะได้บังเอิญเจอกับคุณนายทวีทรัพย์ธาดาสักครั้งหนึ่งได้?

ไม่ว่าจะยังไง คุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็เป็นที่พึ่งของเธอที่เมืองชลธี ถ้าหากว่าคุณนายทวีทรัพย์ธาดาก็ไม่สนใจเธอแล้ว เธอจะพึ่งใครได้อีก?

ตุลยาคิดวิธีดี ๆ ไม่ออกสักวิธีเลย แต่พอเธอนึกถึงของที่อยู่ในมือแล้ว ก็รีบออกไปจากโรงแรมโดยด่วน จากนั้นก็ออกไปข้างนอก

หลังจากนรมนและบุริศร์กินข้าวที่บ้านใหญ่ตระกูลโตเล็กเสร็จแล้ว จากนั้นก็ดื่มด่ำอยู่กับความสุขของครอบครัวไปพักหนึ่ง บุริศร์รอให้นรมนตื่นมา แล้วก็เอาคู่มือการท่องเที่ยวมาไว้ตรงหน้าเธอ ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ลองดูซิ สถานที่แรกเราจะไปที่ไหนกันดี?”

“วีซ่าอนุมัติลงมาแล้วเหรอคะ?”

“ใกล้แล้ว อีกไม่กี่วันนี้แหละ”

คำพูดของบุริศร์ ทำให้อารมณ์ของนรมนดีตามขึ้นมาด้วย

ถ้าหากสามารถไปจากที่นี่ได้ และออกไปเดินเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน

“ถามพวกลูก ๆ หรือคะ ยังว่าอยากไปไหนกัน?”

“ยัง ก็ต้องดูความต้องการของคุณก่อนซิ”

บุริศร์เอาตัวนรมนมากอดไว้ในอ้อมกอด

นรมนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ให้พวกเด็ก ๆ เป็นคนตัดสินใจกันเถอะ ฉันอยู่ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ได้อยู่กับพวกคุณ ที่ไหนก็คือสวรรค์ทั้งนั้น”

“โอ๊ย ปากเล็ก ๆ นี่หวานซะ มาให้ผมดูหน่อยซิ กินอะไรเข้าไปหรือเปล่า? ทำไมถึงได้หวานขนาดนี้?”

บุริศร์พูดไปแล้วก็มองไปที่เรียวปากของนรมน

นรมนยิ้มแล้วขยับตัวหลบหนี

“อย่าเล่นซิคะ!”

“คุณอย่าหนีซิ เร็ว มาให้ผมดูหน่อย”

บุริศร์รู้สึกสนุกขึ้นมา และจะใกล้เข้าไปให้ได้ จนทำให้จิตใจของนรมนเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ ขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็ว

“คุณอย่าซิ คุณ…… อุ๊บ……”

ยังไม่รอให้เธอพูดจบ บุริศร์ก็ประทับจูบลงมาโดยตรงเลย

จูบที่อ่อนโยนนั้นทำให้นรมนรู้สึกมึนเมา เธอโอบกอดรอบคอของบุริศร์ไว้อย่างไม่รู้ตัว

ลมหายใจของบุริศร์เร็วและแรงขึ้น ดูเกือบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว เขาจึงรีบผลักนรมนออกทีหนึ่ง แล้วหอบหายใจแรงขึ้น

ไม่ว่าจะยังไง นรมนก็มีความนิ่งอึ้งอยู่เล็กน้อย แต่ว่าอย่างรวดเร็วก็เข้าใจถึงบางอย่างแล้ว

“ยังไม่ไหวอีกเหรอคะ?”

“ผมขอโทษ!”

บุริศร์รีบพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำ และเอาน้ำเย็นราดตัวอย่างรวดเร็วเลย

ในดวงตาของนรมนมีแววผิดหวังกะพริบขึ้นเสี้ยวหนึ่ง หรือว่าร่างกายของบุริศร์จะไม่มีทางฟื้นฟูกลับมาแล้วเหรอ?

เธอกำลังกังวลอย่างหนักหน่วง แต่บุริศร์กลับเลือดร้อนสูบฉีดอย่างแรง

เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว

บุริศร์รู้สึกว่าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว

ถ้าวันไหนเกิดไม่ไหวขึ้นมาจริง ๆ แล้วจะทำยังไง?

แต่ว่าตอนนี้ร่างกายของนรมนยังรับไม่ไหว

รออีกหน่อยเถอะ

รออีกสักสิบวันหรือครึ่งเดือนก่อนดีกว่า ถ้าเขาไม่ไหวจริง ๆ ก็ใส่ถุงละกัน ไว้ถึงตอนนั้นเขาเบาแรงหน่อยก็พอแล้ว

ได้แต่คอยปลอบใจตัวเองอยู่แบบนี้ พออยู่ภายใต้การโดนน้ำเย็นสาดใส่แล้ว บุริศร์ก็ค่อย ๆ สงบลงมา

รอตอนที่เขาออกมานั้น นรมนก็ไม่อยู่แล้ว จนทำให้เขาเกิดกลัวขึ้นมาว่านรมนจะคิดอะไรมากไปหรือเปล่า จึงรีบร้อนออกตามหาขึ้นมา แล้วถึงได้พบว่านรมนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ในห้องครัว

ไม่ว่าจะมากหรือน้อยเขาก็มีความรู้สึกไม่ดีอยู่บ้าง

คงจะไม่ใช่ยาอะไรนั่นอีกแล้วใช่ไหม?

พอนึกถึงอันนี้ขึ้นมา บุริศร์ก็รู้สึกว่านี่คือการทรมานที่หอมหวานชัด ๆ

เขาพิงอยู่ที่ข้างประตู และก็จ้องมองดูนรมนที่ยุ่งวุ่นวายอยู่อย่างนั้น มุมปากก็คลี่ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ท่าทางเหมือนว่ารักและเอ็นดูมาก

นรมนรู้สึกตัวว่าข้างหลังมีคนอยู่ แล้วก็ค่อย ๆ หันหน้าไป แล้วถึงเพิ่งจะเห็นว่าบุริศร์ยืนอยู่ตรงนั้น เธอก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาไม่มากก็น้อย จึงรีบใช้ร่างกายมาบดบังหม้อเอาไว้

“คุณลงมาทำไมกันคะ?”

“ไม่ต้องบังแล้ว ถึงคุณจะไม่ให้ผมเห็น แต่ว่าจมูกของผมก็ยังสามารถดมได้กลิ่นอยู่ดี”

บุริศร์พูดแล้วก็เดินเข้าไป แล้วก็กอดตัวนรมนจากข้างหลังไว้

ใบหน้าของนรมนเริ่มแดงขึ้นมาเล็กน้อย

“ไม่ใช่ค่ะ คือฉันแค่อยากจะให้คุณหายดีเร็ว ๆ ฉันกลัวว่าคุณไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ๆ ไป จะ จะ……”

“จะอะไรเหรอ?”

บุริศร์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จมา บนร่างกายมีกลิ่นหอมสดชื่นกลิ่นหนึ่ง แล้วตอนนี้ก็มาเข้าใกล้นรมนขนาดนี้ นรมนจึงรู้สึกแต่ว่าตัวทั้งตัวนั้นเลือดร้อนสูบฉีดขึ้นอย่างแรง

“คุณหยุดล้อเล่นได้แล้ว นี่ฉันกำลังต้มยาอยู่นะ”

“พูดถึงยาแล้ว ผมอยากจะถามมาตลอดเลย ว่าคุณไปเอายาพวกนี้มาจากไหน? ไม่กลัวผมกินแล้วจะเป็นอะไรไปเหรอ?”

“ไม่มีทาง! นี่เป็นยาที่แม่ฉันไปขอมาจากหมอผู้เฒ่ายาจีนเลยนะ ท่านหมอผู้เฒ่ายาจีนบอกมาแล้วว่า มีคนมากมายที่กินยานี่แล้วหายดี”

นรมนรีบร้อนพูดกลับไป พอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นดวงตาลึกซึ้งคู่นั้นของบุริศร์ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะลุ่มหลงขึ้นมา

ปีศาจที่ทำให้คนลุ่มหลงคนนี้!

“โอย คุณออกไปก่อนเลย! รอเดี๋ยวยาเสร็จแล้ว ฉันจะยกขึ้นไปให้คุณเองนะ”

นรมนรีบร้อนผลักบุริศร์ออกไป

บุริศร์รู้สึกแต่เพียงว่าในอกว่างเปล่าไป แล้วอยู่ ๆ ก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาทันที

ในตอนแรกอยากจะเอายาเททิ้งไปซะ แต่ทำไงได้พอเห็นนรมนตั้งใจต้มยาสักขนาดนั้น สุดท้ายแล้วเขาก็ทนทำใจลงมือไม่ได้

พอคิดดูแล้วก็แค่ตัวเองจะต้องทนทุกข์ไม่กี่วันก็เท่านั้น

พอถึงตอนนั้นตัวเองเห็นว่าร่างกายของเธอดีขึ้นมาหน่อยแล้ว ก็บอกว่ายาของเธอได้ผลก็พอแล้ว

คิดไปแบบนี้ บุริศร์ก็พูดขึ้นอย่างยิ้มอ่อน ๆ ว่า “งั้นผมไปที่ห้องหนังสือสักพักนะ ถ้าคุณมีอะไรก็ไปเรียกผมที่ห้องหนังสือนะ”

“ได้ค่ะ”

นรมนรีบหันหลังกลับไป เธอรู้สึกว่าตัวเองเกือบจะกลายเป็นผู้หญิงบ้ากามไปแล้ว นี่แค่กี่วันเองที่ไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่า แค่พอเข้าใกล้บุริศร์แค่นี้ทำไมตัวเองถึงได้ใจร้อนขนาดนี้ล่ะ?

หรือว่าฤทธิ์ยาก็มีผลกับตัวเองไปด้วยเลยเหรอ?

นรมนก้มหน้าลงไป ไม่ได้เห็นรอยยิ้มอย่างได้ใจของบุริศร์เลยแม้แต่น้อย

รอหลังจากที่บุริศร์ไปแล้ว เธอถึงได้ค่อย ๆ หายใจออกมาแรง ๆ ทีหนึ่ง

เป็นเรื่องจริง

ใครบอกว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถทำลายบ้านเมืองได้?

ถ้าผู้ชายหน้าตาดีขึ้นมา ก็สามารถทำให้คนลุ่มหลงจนโงหัวไม่ขึ้นได้เช่นกัน

นรมนรีบใช้น้ำเย็นมาลูบหน้าลูบตาตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ตัวเองมีสติมากขึ้นมาหน่อย แล้วถึงได้กลับไปเริ่มต้นต้มยาใหม่

บุริศร์ไปที่ห้องหนังสือแล้ว ยังมีเรื่องทางธุรกิจบางส่วนที่จะต้องจัดการอีก ถึงแม้ว่าจะยกบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดให้ตรินท์แล้ว แต่ว่าตัวเขาเองยังมีบริษัทร่วมทุนอีกหลายแห่งอยู่ ถึงยังไงก็จะต้องมาจัดการอยู่แล้ว ในเมื่อไม่ว่าจะออกไปท่องเที่ยวหรือว่าทำอะไร ก็ยังจะต้องใช้เงินอยู่ไม่ใช่เหรอ?

หลังจากที่ต้มยาเสร็จแล้ว นรมนก็ยกขึ้นไปให้ และบุริศร์ก็กำลังเปิดประชุมวิดีโอคอลอยู่พอดี นรมนจึงไม่อยากจะรบกวนอะไรมาก วางยาเอาไว้แล้วก็จะเดินออกไป แต่บุริศร์กลับคว้าที่ข้อมือเธอไว้ทีหนึ่ง จากนั้นก็ดึงลงมานั่งลงบนตักของตัวเอง

“อย่าซิ คุณกำลังประชุมอยู่นะ”

นรมนรู้สึกว่าใบหน้าแดงไปทั้งหน้า

ผู้บริหารระดับสูงเยอะแยะขนาดนี้กำลังมองพวกเขาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เลยนะ

บุริศร์ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลยสักนิด ยิ้มแล้วก็พูดขึ้นว่า “ประชุมแล้วยังไง? ให้พวกเขามาดูเถ้าแก่เนี้ยของพวกเขาบ้างก็ดีไม่ใช่เหรอ?”

คอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้ามีเสียงเห็นด้วยดังขึ้นมาทันทีระลอกหนึ่ง

นรมนก็รู้สึกว่าหน้าของตัวเองแดงขึ้นมาอีกแล้ว

ผู้ชายอย่างบุริศร์นี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่มีหนังหน้าแล้ว และที่สำคัญก็มักจะชอบอวดตัวเองต่อหน้าผู้คนอีกด้วย อย่างกับว่าเธอดีมากมายขนาดไหนยังไงอย่างงั้นแหละ

“คุณรีบกินยาเถอะ ฉันออกไปก่อนแล้วนะ!”

นรมนนั้นอดทนกับความสนุกสนานของคนพวกนี้ไม่ไหวหรอก แล้วก็รีบขัดขืนออกจากการกอดรัดของบุริศร์ แล้วก็จากไปอย่างกับว่าหลบหนี

ที่ข้างหลังมีเสียงหัวเราะร่าของบุริศร์ลอยมา จนทำให้นรมนเกือบจะสะดุดล้ม แล้วในคอมพิวเตอร์ก็มีเสียงแสดงความยินดีของพวกผู้บริหารระดับสูงลอยมาด้วย

มุมปากของนรมนค่อย ๆ คลี่ยิ้มขึ้น และก็อดไม่ได้ที่จะมีความหอมหวานเล็ก ๆ เสี้ยวหนึ่งหมุนวนอยู่ในใจ

โดนผู้ชายเอาอกเอาใจอยู่ในกำมือแบบนี้ มันก็เป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเลยจริง ๆ

จนเกือบจะเดินออกไปจากห้องหนังสือแล้ว แล้วอยู่ ๆ นรมนก็นึกอะไรออกขึ้นมาได้

“อ๋อ ใช่แล้ว เดี๋ยวคุณประชุมเสร็จแล้วมาที่ห้องนอนนะคะ เดี๋ยวฉันจะทำแผลให้คุณค่ะ”

พอพูดจบ นรมนก็ไม่กล้าที่จะอยู่ต่ออีกแล้ว แล้วก็รีบวิ่งออกไปอย่างกับม้าไม่หยุดฝีเท้าเลย

แล้วในคอมพิวเตอร์ก็มีเสียงล้อเลียนลอยมาอีก

“พี่ใหญ่ คงจะไม่ใช่แค่ทำแผลง่าย ๆ หรอกมั้งครับ?”

“พี่ใหญ่ กลางวันแสก ๆ แบบนี้คงไม่ได้มั้ง!”

“พี่ใหญ่ ผมว่าบริษัทร่วมทุนของเราเหนื่อยกันแทบเป็นแทบตาย เวลาที่อยากจะกอดผู้หญิงสักคนยังไม่มีเลย แล้วคุณมาทำร้ายจิตใจพวกเราแบบนี้ มันช่างไม่มีศีลธรรมเลยใช่ไหมครับ?”

พวกผู้บริหารระดับสูงเริ่มล้อเลียนฉันคำหนึ่งเธอคำหนึ่งกันขึ้นมา

บุริศร์อารมณ์ดีมาก แล้วก็เอนตัวไปข้างหลัง และพยายามหลีกเลี่ยงบาดแผลให้มากที่สุด ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “อิจฉาเหรอ? ถ้าอิจฉาแล้วละก็ ก็ไปหาแฟนมาสักคนซิ แล้วผมจะให้พวกคุณลาไปแต่งงานกัน!”

“พี่ใหญ่ คุณก็พูดได้ง่ายดาย พวกเราจะไปมีเวลาหาแฟนที่ไหนกันล่ะ?”

“ใช่ ๆ ทุก ๆ วันก็โดนบีบให้อยู่แต่ในบริษัทร่วมทุนนี้ จะไปมีเวลาหาแฟนได้ที่ไหนกัน?”

“ถ้าหากว่าพวกคุณมีข้อคิดเห็น ผมสามารถให้หนังสือลาออกกับพวกคุณได้เสมอ ไว้ถึงตอนนั้น พวกคุณก็มีเวลาเยอะแยะที่จะสามารถไปหาแฟนได้แล้ว”

พอคำพูดนี้ของบุริศร์พูดออกไป ที่ข้างล่างก็เหมือนกับผีร้องโหยหวนกันขึ้นมา

“พี่ใหญ่นี่มันจะตัดช่องทางโชคลาภของพวกเราเลย! ถ้าไม่มีเงิน หาผู้หญิงมาก็รั้งไว้มาอยู่หรอก!”

“เฮอ ไม่มีทางแล้ว ใครใช้ให้เราไม่ใช่พี่ใหญ่ล่ะ รีบ ๆ ไปทำงานกันเถอะ”

หลังจากโวยวายกันชุดหนึ่งผ่านไปแล้ว ทุกคนก็เริ่มกลับมาเข้าเรื่องหลักกันแล้ว แต่ว่าทุกคนก็สามารถมองออกมาได้ว่าอารมณ์ของบุริศร์นั้นไม่เลวมากจริง ๆ

ดูท่าแล้วผู้ชายที่โดนความรักหล่อเลี้ยงแล้วนี่มันคุยง่ายขึ้นเยอะเลยจริง ๆ

การประชุมครั้งนี้ประชุมไปเป็นเวลานานพอสมควร

นรมนอยู่ว่าง ๆ จนเบื่อ และก็มักจะรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถวิ่งตามตูดบุริศร์อยู่ตลอดเวลาได้ คงจะต้องทำอะไรบ้างแล้ว

การออกแบบรถยนต์ที่เคยทิ้งไปก่อนหน้านั้น เธอก็กะว่าจะใช้ช่วงเวลานี้เก็บกลับมาเคาะฝุ่นดี ๆ ดูสักหน่อย ได้ยินมาว่าจะมีการแข่งขันการออกแบบรถยนต์ครั้งใหญ่ เธออยากจะไปลองดู ก็ไม่รู้ว่าจะไหวหรือเปล่า

พอคิดแบบนี้แล้ว นรมนก็เปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมา กะว่าจะเช็กข้อมูลดูสักหน่อยและเก็บเอาไว้ใช้งาน ถึงแม้ว่าเธอจะพอมีประสบการณ์อยู่บ้าง แต่ว่าก็ยังมีที่ที่ไม่สมบูรณ์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าข่าวคราวทั้งหมดในอินเทอร์เน็ตนั้นจะทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าตกเหวลึกเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย