แค้นรักสามีตัวร้าย นิยาย บท 392

บทที่ 382 เขารังเกียจที่เธอสกปรก

รูปเปลือยที่เกี่ยวข้องกับเธอแต่ละรูปบินว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตเต็มไปหมด อีกฝ่ายไม่รู้ว่ามีความแค้นอะไรกับเธอมานักหนา ถึงได้ไม่ทำการเบลอรูปหน้าให้เลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญคือผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอนั้นเปลี่ยนคนอยู่ตลอดไม่ขาดสาย

“คุณนายบุริศร์มีชีวิตส่วนตัวที่ยุ่งเหยิง นี่มันช่างไม่สมควรมองจริง ๆ เลย”

หัวข้อแบบนี้ ทำให้นรมนรู้สึกชาไปถึงหนังศีรษะ

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

ใครจะไปมีภาพเปลือยของเธอได้นะ?

นรมนคิดไม่ตก ตัวทั้งตัวก็เริ่มลนลานขึ้นมาแล้ว

นี่มันเท่ากับว่าตัวเองถอดเสื้อผ้าออกและขายหน้าต่อหน้าประชาชนทั้งประเทศเลย

ถึงแม้ว่าเธอจะมีความกล้ามากเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางที่จะแบกรับเรื่องพวกนี้ไว้ได้หรอก

บุริศร์รู้เรื่องหรือยัง?

ตอนนี้เขากำลังประชุมวิดีโอคอลอยู่ แล้วถ้าหากว่าพวกผู้บริหารระดับสูงเห็นเข้าล่ะ จะเป็นยังไงดี?

เมื่อกี้ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่หอมหวานเรื่องหนึ่งอยู่ แต่ตอนนี้กลับเป็นเหมือนกับมีดสั้นเล่มหนึ่งที่ปักเข้ามาในหัวใจลึก ๆ ของนรมน

เธอรีบผลักคอมพิวเตอร์ออก แล้ววิ่งไปทางห้องหนังสืออย่างร้อนรน

บุริศร์ประชุมวิดีโอคอลเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังคุยโทรศัพท์กับตรินท์อยู่ ทั้งสองคนกำลังคุยกันได้อย่างออกรสมาก จนบุริศร์ไม่ได้สังเกตเห็นที่ข้างนอกด้วยซ้ำ

“ตรินท์ ทางที่ดีที่สุดนะนายช่วยสั่งยาที่มันมีประโยชน์ต่อฉันหน่อยนะ ไม่งั้นถ้าฉันไม่ตั้งขึ้นมาจริง ๆ แล้วละก็ ดูซิว่าต่อไปฉันจะจัดการกับนายยังไง”

บุริศร์พูดไปอย่างกึ่งขู่ไปด้วย

ตรินท์หัวเราะหือหือแล้วพูดขึ้นว่า “พละกำลังออกศึกของนายยังจะกลัวว่าจะไม่ตั้งอีก? อย่ามาล้อเล่นเลย ยานี่เยอะสุดก็มีผลอยู่ได้แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น สามารถทำให้นายเป็นเหมือนกับคนไร้ค่าได้หนึ่งเดือน รอถ้านายหยุดยาไปแล้ว ก็จะดีขึ้นมาอัตโนมัติเอง แต่ว่านายเอาแต่หลบภรรยานายอยู่แบบนี้มันก็ไม่ใช่วิธี หรือว่าจะเลิกกินแล้วจริง ๆ เหรอ?”

“นายไปเลย เรื่องของฉันนายไม่ต้องมาเป็นกังวลหรอก”

อยู่ ๆ จิตใจของนรมนแข็งทื่อขึ้นมา

หมายความว่ายังไง?

ที่แท้บุริศร์ไม่ได้ป่วยหรอกเหรอ?

เขาตั้งใจไม่แตะต้องตัวเองเหรอ?

และที่สำคัญยังให้ตรินท์จัดยามาให้อีก ถึงได้เป็นแบบนี้เหรอ?

ทำไมล่ะ?

ทำไมเขาจะต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะ?

มือของนรมนกำเข้าหากันแน่น รู้สึกเหมือนกับว่าตัวทั้งตัวโดนโยนเข้าไปในห้องแช่แข็งแล้วยังไงอย่างงั้น

เธอคิดไม่ตก

ผู้ชายที่แข็งแรงคนหนึ่ง ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้เป็นฝ่ายไปหาคนมาช่วยทำให้ตัวเองไร้ความสามารถด้วยล่ะ? เป็นเพราะว่าเบื่อเธอแล้วเหรอ? หรือว่าในนี้มีเรื่องอะไรแอบซ่อนอยู่?

เธออยากจะจากไป แต่ว่าเท้าทั้งคู่กลับเหมือนกับว่ารากงอกปักลึกอยู่ตรงนั้นแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ขยับไม่ได้เลยสักนิด

ตรินท์นั้นไม่รู้สถานการณ์ของทางด้านบุริศร์เลย ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ ได้ ได้ ฉันไม่อยากจะเป็นกังวลหรอก แต่ว่าข่าวเรื่องที่นายลงมือกลางถนนกับคนคนนั้นของตระกูลรัตติกรวรกุลนั้นมันดังมาถึงเมืองหลวงแล้วนะ! ยังไงล่ะ? มีความแค้นกลับตระกูลรัตติกรวรกุลเหรอ? นายก็รู้ ตระกูลรัตติกรวรกุลถึงแม้ว่าจะทำธุรกิจ แต่ว่าความสัมพันธ์กับเมืองหลวงก็ซับซ้อนมากนะ ไว้ถึงตอนนั้นถ้าพวกนายไม่ถูกกัน ทางด้านเมืองหลวงนี้ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจัดการยากแล้ว ไม่ว่ายังนายก็ไปจัดการให้มันเรียบร้อยเถอะ”

พูดถึงเจตต์แล้ว บุริศร์ก็มีไฟโกรธขึ้นมาเต็มอกเลย

“นายอย่าสนใจเลย ฉันไม่ทำให้มันตายหรอก ถ้าหากไม่ใช่เพราะรู้ว่าตระกูลรัตติกรวรกุลของพวกเขามีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกันซับซ้อนกับเมืองหลวง แค่เรื่องที่ในมือของเขากำสิ่งของบางอย่างของภรรยาของฉันไว้ ฉันก็สามารถจัดการมันให้เรียบได้แล้ว”

“ของอะไรเหรอ? ของอะไรที่สามารถทำให้นายโกรธได้มากขนาดนี้? แม้แต่ชื่อเสียงและหน้าตาก็ไม่เอาแล้วเหรอ?”

“ไม่เกี่ยวกับนาย”

การสนทนาของบุริศร์และตรินท์ทำให้สมองของนรมนมีภาพความทรงจำช่วงหนึ่งกะพริบขึ้น

เมื่อไม่นานมานี้บุริศร์ได้ลงมือกับเจตต์กลางถนนจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้นั้นเธอรู้อยู่แล้ว แม้แต่ในตอนนั้นเธอยังไปห้ามการทะเลาะกันด้วย

บุริศร์บอกว่าในมือของเจตต์มีของของเธอ มันเป็นของอะไรกันนะ?

หรือว่าเป็นรูปเปลือยพวกนั้นเหรอ?

ไม่อย่างงั้นละก็ ทำไมบุริศร์ถึงต้องโมโหขนาดนั้นด้วยล่ะ?

อยู่ ๆ นรมนก็นึกขึ้นมาได้ เหมือนกับว่าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บุริศร์ก็ไม่แตะต้องตัวเธออีกเลย

แล้วเธอก็ยังเชื่อคำพูดของบุริศร์จริง ๆ คิดว่าเขาไม่ตั้งแล้วจริง ๆ แต่คิดไม่ถึงว่านี่เขาจะขอยากับตรินท์มาแล้วตั้งใจทำแบบนี้

เรื่องเป็นแบบนี้เหรอ?

หรือว่าคำพูดหอมหวาน และความเอาอกเอาใจในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ล้วนเป็นสิ่งหลอกลวงเหรอ?

นรมนรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองเหมือนจะแบกรับไว้ไม่ไหว

เธอถอยหลังไปไม่หยุด ถอยหลังไป จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างลนลานจนไม่ได้มองทาง

ไม่!

เธอจะต้องรู้ให้ชัดเจน ว่าตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่

นรมนแต่งหน้าอย่างง่าย ๆ เพื่อบดบังตัวเองแล้ว ก็โบกรถอย่างรวดเร็วไปหาเจตต์

เจตต์คิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่านรมนจะมาหาตัวเองถึงที่ได้ แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันทีเลย

“นรมนคนสวย คุณมาแล้วเหรอ? วันนี้ทำไมถึงมีเวลาว่างมาหาผมถึงที่ได้ล่ะ? คุณ......โอ๊ย!”

คำพูดของเจตต์ยังไม่ทันได้พูดจบ นรมนก็กระชากปกคอเสื้อของเขาเอาไว้ แล้วถามอย่างโหดเหี้ยมขึ้นว่า “พูดมา คราวที่แล้วทำไมบุริศร์ถึงได้ลงมือกับคุณกลางถนนได้?”

“อะไรนะ? ผมจะไปรู้เหรอ เขาคงบ้ามั้ง”

เจตต์ยิ้มแฉ่งอยากจะพูดจาให้มันผ่านไปง่าย ๆ

นรมนนั้นตั้งใจมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะอยู่แล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยให้เขาพูดผ่านไปง่าย ๆ แน่

“เจตต์ ถึงแม้ว่าฝีมือของฉันจะสู้ของบุริศร์ไม่ได้ แต่ว่าฉันก็ไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้คนอื่นข่มขู่และอยู่ในกำมือได้หรอกนะ สำหรับจุดนี้คุณคงเข้าใจดี ถ้าหากว่าวันนี้ฉันไม่ได้รับคำตอบที่ฉันต้องการแล้วล่ะก็ ฉันก็จะตายอยู่ที่นี่แหละ ฉันก็อยากจะดูสักหน่อย ถ้าคุณนายบุริศร์มาตายอยู่ที่ของคุณนี้ แล้วตระกูลรัตติกรวรกุลจะให้คำตอบกับตระกูลโตเล็กยังไง”

ปฏิกิริยาของนรมนในตอนนี้นั้นช่างทำให้คนตกใจมากจริง ๆ จนทำให้เจตต์รู้สึกกลัวขึ้นมาบ้างแล้ว

“นรมน คุณเป็นอะไรไป? เรามีเรื่องอะไรก็พูดกันดี ๆ ดีกว่า คุณปล่อยผมออกก่อนนะ”

“บอกฉันมา! ของที่อยู่ในมือคุณที่เกี่ยวกับฉันมันคืออะไร? ทำไมบุริศร์ถึงได้ลงมือกับคุณกลางถนน?”

นรมนตะคอกออกไปเสียงดังคำหนึ่ง

เจตต์ไม่เคยเห็นท่าทางที่บ้าคลั่งขนาดนี้ของนรมนมาก่อน ชั่วขณะหนึ่งก็เกิดกลัวขึ้นมานิดหน่อย

“มันไม่ใช่ความผิดของผม ผมไม่รู้จริง ๆ คราวที่แล้วบุริศร์ก็มาตรวจสอบที่ของผมนี่แล้ว ผมโดนคนใส่ร้ายนะ ผมไม่รู้ว่าทำไมรูปเปลือยของคุณถึงมาอยู่ในโทรศัพท์ของผมได้ และผมก็ไม่รู้ว่าวันนั้นใครเอาโทรศัพท์ของผมไปโทรหาคมทิพย์ด้วย แล้วบอกให้เธอมา เรื่องหลังจากนั้นผมก็มึน ๆ งง ๆ ผมรู้ ไม่ว่าผมจะพูดยังไง พวกคุณก็ไม่มีทางเชื่อผมแล้ว คงจะรู้สึกแต่ว่าผมกำลังแก้ต่างให้กับตัวเองอยู่ แต่ว่าเรื่องของวันนั้นสำหรับผมมาพูดแล้วมันเหมือนกับฝันไปยังไงอย่างงั้น ต่อมาผมก็ตรวจสอบดูแล้ว พี่น้องพวกนั้นของผมก็ไม่เคยแตะต้องโทรศัพท์ของผมเลย ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าตกลงใครส่งรูปเปลือยของคุณมาให้ผม และคุณก็รู้ ถึงแม้ว่าปากของผมจะเสียไปบ้าง แต่ว่าผมยังไม่ชั่วช้าถึงขนาดต้องถ่ายรูปเปลือยของคุณหรอกใช่ไหม? แล้วอีกอย่าง ผมก็ไม่มีโอกาสนั้นด้วย”

คำพูดของเจตต์ราวกับการเทเมล็ดถั่วลงในตะกร้าไม้ไผ่สาน ที่ควรพูดและไม่ควรพูดต่างก็พรั่งพรูออกมาจนหมดเลย

ดวงตาของนรมนหรี่ลงเล็กน้อย

“นี่คุณหมายถึงเรื่องของคมทิพย์ เป็นเพราะว่าคุณส่งรูปเปลือยรูปนี้ให้เธอแล้ว เธอถึงได้ไปที่ไนต์คลับเหรอ?”

“นี่คุณไม่รู้เรื่องเหรอ?”

แล้วอยู่ ๆ เจตต์ก็รู้สึกตัวว่าตัวเองพูดมากไปแล้ว

“นี่ผมก่อเรื่องแล้วใช่ไหมเนี่ย? พูดมากไปแล้วใช่ไหม?”

นรมนปล่อยตัวเจตต์ออกขวับทีหนึ่ง แล้วตัวทั้งตัวก็เหมือนกับเป็นลูกบอลที่ลมแฟบไปแล้ว นั่งลงไปกับพื้นทั้งก้นไปแบบนั้น

“ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง ถึงว่าล่ะเธอตายก็ไม่มียอมบอกกับฉันว่าทำไมถึงได้ไปที่ไนต์คลับได้ ถึงว่าทำไมบุริศร์ถึงได้กลายเป็นแบบนั้นไปได้ ที่แท้เหตุผลมันก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง”

ท่าทางที่ไร้วิญญาณของนรมนทำให้เจตต์ตกใจจะแย่อยู่แล้ว

“นรมน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? ผมจะโทรศัพท์ให้บุริศร์นะ”

“ห้ามไปนะ!”

ตอนนี้คนที่นรมนไม่อยากเจอมากที่สุดก็คือบุริศร์

เพราะอะไร?

เพราะอะไรทำไมจะต้องเป็นแบบนี้ด้วย?

ถ้าหากว่ารังเกียจเธอมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทำไมยังจะต้องมาเอาอกเอาใจเธออีก ทำท่าทางอย่างกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วย?

ความเจ้าเล่ห์ของผู้ชายคนหนึ่งตกลงมันน่ากลัวขนาดไหนกันแน่?

ถึงสามารถบดบังทุกอย่างไม่ให้มีสุ่มมีเสียงขึ้นมาได้ ยังทำอย่างกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นอีก?

เธอนึกว่าพวกเธอเป็นรักแท้กัน เธอนึกว่าจะไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้ แต่ว่าพอมาดูวันนี้แล้ว นี่มันถือว่าคืออะไรล่ะ?

เธอก็เหมือนอย่างกับคนโง่คนหนึ่งที่โดนคนปิดบังซ่อนเร้นเอาไว้ โดนคนใช้คำหวานคอยเอาอกเอาใจอยู่ แล้วก็นึกว่าสามารถได้ครอบครองโลกทั้งใบไว้ได้แล้ว แต่ว่าแล้วผลสรุปล่ะ?

ผลสรุปมันคืออะไร?

ไม่มีคนรู้ว่าในใจของบุริศร์นั้นคิดยังไง แต่ว่าเป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ว่ายังไงก็คงจะสนใจสิ่งนี้อยู่แหละมั้ง? ไม่งั้นละก็ทำไมเขาถึงได้ยอมกินยาก็ยังไม่ยอมแตะต้องตัวเธออีก?

เขากำลังรังเกียจเธออยู่!

เขารังเกียจที่เธอสกปรก!

พอมารู้แบบนี้แล้ว ก็ทำให้นรมนอยู่ยิ่งกว่าตาย

เธอยินยอมให้บุริศร์วิ่งมาถามตัวเอง ยังจะดีซะกว่าแสร้งทำเป็นเหมือนว่าไม่มีอะไรอย่างตอนนี้

ไม่ว่าเขาจะอยากขจัดเรื่องพวกนี้ไปด้วยตัวเองซะ หรือว่ามีความคิดอย่างอื่นอยู่ แต่นรมนก็โดนทำร้ายไปแล้ว

ผู้ชายคนหนึ่งจะต้องรังเกียจผู้หญิงคนหนึ่งถึงขั้นไหน ถึงสามารถให้ตัวเองเสี่ยงอันตรายที่จะไม่ตั้งอีกแล้วก็ยังยอมกินยาอยู่อีก?

นรมนรู้สึกว่าในใจกำลังเลือดไหลอยู่

ความรักที่เธอเชื่อมั่นนั้น ตกลงมันคืออะไร?

ตัวทั้งตัวของนรมนได้สูญเสียสีสันไปแล้ว

พอเจตต์เห็นว่าเธอมีท่าทางแบบนี้ ก็เริ่มกังวลขึ้นมาไม่มากก็น้อย

“นรมน ตกลงเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? คุณฟังผมพูดนะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ชอบขี้หน้าของบุริศร์มากนัก แต่ว่านะ ผมก็รู้สึกว่าเขาคนนี้ไม่ได้เป็นคนใจแคบ คุณดูซิถึงผมจะโดนคนใส่ร้าย และมีของอะไรแบบนั้นของคุณ แต่ว่าบุริศร์ก็มาที่บ้านผมกลางดึก แล้วก็ลบรูปทั้งหมดทิ้งไปแล้ว ผมไม่เห็นอะไรจริง ๆ นะ! ผมสาบานได้เลย!”

เจตต์ไม่พูดก็ยังดี ยิ่งพูดนรมนก็ยิ่งรู้เยอะขึ้นไปอีก พอรู้ยิ่งเยอะ ในใจก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้น

ลบรูปทั้งหมดทิ้งไปแล้วก็ไม่ได้แปลว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เคยคงอยู่มาก่อน

ในใจของเขานั้นได้มีหนามไว้อันหนึ่งมาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าตัวเองแอบซ่อนไว้ไม่ออกเสียงก็เท่านั้น

ช่วงหลายวันมานี้ ไม่รู้ว่าเขาโดนทิ่มแทงจนเจ็บไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่กลับคอยมองเธออยู่ทุกวัน และยิ้มหน้าระรื่นให้กับเธอ เอาอกเอาใจเธอมากยิ่งขึ้นและยังไม่เผยจุดบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

เขาก็คงจะลำบากอยู่ไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหม?

แล้วอยู่ ๆ นรมนก็หัวเราะขึ้นมา

เธอรู้สึกว่าที่จริงตัวเองน่าจะขอบคุณบุริศร์ ที่อย่างน้อยก็ยังเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้เธอเสี้ยวหนึ่งถูกไหม?

ถ้าหากว่ารูปเปลือยพวกนี้ไม่ได้ถูกคนปล่อยออกมา เธอก็ยังคงอยู่โง่ ๆ และเป็นผู้หญิงที่มีความสุขต่อไป แล้วก็จะนึกว่าใต้หล้านี้เธอคงจะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด

แต่พอมาวันนี้ ทุกสิ่งนี้กลับเปลี่ยนเป็นช่างเย้ยหยันขนาดนี้

ความสุขของเธอนั้นล้วนก่อตัวมาจากความจอมปลอมทั้งนั้น

เธอยังอุตส่าห์อิ่มเอมใจ นึกว่าตัวเองได้รับความสุขที่ผู้หญิงทั่วหล้าแม้แต่ฝันก็ยังอยากได้ แต่ว่าพอสุดท้ายแล้วกลับเป็นแค่เรื่องตลกครั้งหนึ่งเท่านั้น

ในตอนเริ่มต้นนรมนเพียงแต่แค่ยิ้มเย็นเท่านั้น จากนั้นทั้งคนก็เริ่มหัวเราะร่าขึ้นมา มีความบ้าคลั่งอยู่ด้วยเล็กน้อย แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาตามหางตาไม่หยุด

นี่มันทำให้เจตต์ตกใจหมดเลย

“นรมน นรมนคุณอย่าเป็นอย่างนี้ซิ! นี่ตกลงคุณเป็นอะไรไปแล้ว? คุณอย่าทำให้ผมตกใจซิ! ไม่ได้แล้ว ผมจะต้องไปโทรศัพท์หาบุริศร์แล้ว ท่าทางของคุณแบบนี้มันทำให้คนตกใจมากเลย ผม......”

“คุณอย่าโทรศัพท์หาเขานะ ชาตินี้ฉันไม่อยากจะเจอเขาอีกแล้ว”

อยู่ ๆ นรมนก็คว้าคอเสื้อของเจตต์ไว้อย่างแรง

นัยน์ตาของเธอหม่นหมอง ท่าทางที่เด็ดเดี่ยวทำให้เจตต์รู้สึกตกใจกลัว

“ได้ ผมจะไม่โทรแล้ว ผมไม่โทรแล้ว คุณอย่างใจร้อนนะ มีเรื่องอะไรพวกเราค่อย ๆ มาแก้ไขกันดีไหม?”

แก้ไขเหรอ?

ยังมีวิธีให้แก้ไขอีกเหรอ?

วันนี้เธอพ่ายแพ้ชื่อเสียงย่อยยับไปแล้ว

ไม่ว่ารูปถ่ายพวกนั้นจะมาจากไหน ไม่ว่าใครจะมีรูปถ่ายพวกนั้น แต่วันนี้ผู้คนทั้งเมืองชลธีต่างก็ได้เห็นกันแล้ว

หน้าตาของตระกูลโตเล็ก หน้าตาของบุริศร์ หน้าตาของเธอ แม้กระทั่งหน้าตาของตระกูลธนาศักดิ์ธนก็ไม่เหลือแล้ว

ไม่มีคนมาสนใจหรอกว่าเธอจะโดนใส่ร้ายหรือไม่ รูปเปลือยของเธอจะเป็นของจริงหรือไม่ ของแค่คือเธอนรมน ของแค่คือเธอคุณนายบุริศร์ ขอแค่ใบหน้าบนนั้นเป็นหน้าของเธอ เธอก็ไม่มีทางได้พลิกตัวคืนกลับมาหรอก!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย