บทที่ 384 คุณแน่ใจเหรอว่าจะไม่พบหน้าเขา
“นายพูดว่าอะไรนะ?”
บุริศร์นึกว่าตัวเองได้ยินผิดไปแล้ว
นรมนรักลูกมากขนาดนี้ หรือแม้แต่เพื่อลูกแล้วถึงกลับชีวิตไม่เอาก็ยังไงได้ แต่ตอนนี้ทำไมถึงได้ไม่เอาลูกแล้วล่ะ?
และที่สำคัญเธอยังโพสต์หนังสือสัญญาการหย่าร้างอีก?
ใครให้สิทธิ์นี้กับเธอกัน?
ใครให้ความกล้าเธอ!
บุริศร์โกรธจนเจ็บหน้าอกจี๊ด ๆ แล้วโทรศัพท์หานรมน แต่โทรศัพท์กลับโทรไม่ติดอยู่ตลอด ดูท่าแบบนี้แล้วนรมนน่าจะตั้งใจหลบเขาแน่ ๆ
ทำไมจะต้องหลบเขาล่ะ?
ไหนบอกว่าสามีและภรรยาเป็นคนคนเดียวกันไม่ใช่เหรอ?
พอเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว หรือเธอคิดว่าแค่โพสต์หนังสือสัญญาการหย่าร้างฉบับหนึ่งออกมา ก็สามารถตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับตระกูลโตเล็กได้เหรอ?
และที่สำคัญถ้ามีตระกูลโตเล็กคุ้มครองอยู่ พวกนักข่าวพวกนั้นก็ไม่กล้าเขียนอะไรเธอมั่ว ๆ หรือแม้กระทั่งยังไม่กล้าทำอะไรเธอ แต่ว่าพอมาวันนี้เมื่อตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลโตเล็กแล้ว สถานการณ์ของเธอก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้น
เจ้าโง่คนนี้ ตกลงไม่รู้เรื่องเลยเหรอ?
บุริศร์ร้อนรนแทบตาย แต่ไม่ว่ายังไงก็ติดต่อนรมนไม่ได้อยู่ดี
เขาโกรธจนโยนโทรศัพท์ทิ้งไปอีกข้างหนึ่ง แต่แล้วก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรหาพฤกษ์สายหนึ่ง
“นรมนอยู่กับคมทิพย์หรือเปล่า?”
“ไม่อยู่ครับ พวกเราก็กำลังตามหาคุณนายเหมือนกัน คมทิพย์เองก็ร้อนใจแทบแย่แล้ว ที่ที่ควรจะหาพวกเราก็หาหมดแล้ว แต่ว่าก็ไม่เจอครับ”
ทางด้านพฤกษ์นี้มีเสียงร้องไห้อย่างร้อนใจของคมทิพย์ลอยมา เห็นได้ชัดว่าคมทิพย์ก็ติดต่อไม่ได้เช่นกัน
ถ้าหากว่าแม้แต่คมทิพย์ก็ติดต่อไม่ได้แล้วล่ะก็ ถ้างั้นนรมนจะไปไหนได้ล่ะ?
พอคิดไปคิดมาแล้ว บุริศร์เองก็คิดไม่ออกว่าตกลงคนจะหายไปไหนได้
ทุกอย่างในอินเทอร์เน็ตกำลังพอกพูนขึ้น
ถึงแม้ว่าตระกูลโตเล็กจะสามารถสยบข่าวไว้ได้ และเก็บรูปถ่ายพวกนั้นกลับมาแล้ว แต่ว่าผลกระทบของเรื่องนี้ก็ยังพอกพูนขึ้นต่อไป เห็นได้ชัดว่าเหมือนมีคนยังเห็นว่าเรื่องยังไม่ใหญ่โตพอ และคอยขับเคลื่อนอยู่ข้างหลังตลอด
เป็นใครกันนะ?
ใครนะถึงได้มาใส่ร้ายป้ายสีนรมนแบบนี้ได้?
แล้วอยู่ ๆ บุริศร์ก็นึกถึงเจตต์ขึ้นมา
จะใช่เขาหรือเปล่านะ?
คิดดูแล้วเขาก็เป็นคนที่รักษาชื่อเสียงของนรมนมากที่สุดคนหนึ่ง ก็แน่นอนว่าจะต้องไม่ทำเรื่องแบบนี้ออกมาแน่ แต่ว่าคราวที่แล้วมีคนใช้โทรศัพท์ของเขาสร้างเรื่องขึ้นมา และครั้งนี้ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอีก
พอคิดได้แบบนี้แล้ว บุริศร์ก็ขับรถไปที่ที่อยู่ของเจตต์เลย
แต่เสียดายที่เจตต์ไม่อยู่
ดวงตาของบุริศร์หรี่ลงเล็กน้อย
“เจตต์ไปไหนแล้วนะ?”
เจอเข้ากับเลขาของเจตต์ สีหน้าของบุริศร์ก็เยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย
เลขาพูดอย่างกลัว ๆ ขึ้นว่า “คุณชายบุริศร์ ประธานเจตต์ของเราจะไปที่ไหน ผมก็ไม่รู้ วันนี้ตั้งแต่เช้าเขาก็ยังไม่มาที่บริษัทเลย คุณเองก็รู้ ช่วงนี้ระหว่างประธานเจตต์กับคุณท่านมีปัญหากัน ทะเลาะกันอยู่ตลอด และการไม่มาแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติ”
ฟังเลขาพูดแบบนี้ แน่นอนว่าบุริศร์เองก็รู้ เพียงแต่ว่าตอนนี้จะต้องตามหาเจตต์ให้เจอถึงจะได้
บุริศร์ให้พฤกษ์ไปหาเบาะแสของเจตต์
พอผ่านไปไม่นาน พฤกษ์ก็ส่งข่าวมา บอกว่าเจตต์กำลังเล่นพนันอยู่ที่บ่อนคาสิโน
พอได้ยินข่าวนี้ หัวคิ้วของบุริศร์ก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย
เขาไม่ค่อยชอบบ่อนการพนันมาตลอด คิดไม่ถึงว่ามาวันนี้เจตต์จะตกต่ำไปจนถึงขั้นเล่นพนันแล้ว
เพื่อที่จะหาความจริงให้ได้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องขับรถไปที่บ่อนการพนัน
ที่บ่อนผู้คนวุ่นวาย และมีเสียงเอะอะโวยวายไปทั่ว มีบางคนก็กำลังร้องไห้โวยวายเพราะว่าเสียเงิน แล้วก็ยังมีคนที่ยังจะอวดฝีมือโดยที่ไม่สนใจเลยว่าจะเสียทรัพย์สินของทั้งครอบครัวไปแล้ว
ที่นี่มันเป็นที่ที่มีชีวิตคนร้อยรสจริง ๆ
ในตอนที่บุริศร์และพฤกษ์มาถึงนั้น มองเห็นภาพพวกนี้แล้วก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมาเล็กน้อย
“ประธานบุริศร์ หรือไม่คุณรอผมอยู่ข้างนอกดีกว่า เดี๋ยวผมเข้าไปลากเจตต์ออกมา”
“ไม่ต้องหรอก ที่นี่ตาคนมันเยอะ เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า”
บุริศร์และพฤกษ์เดินเข้าไป
ที่นี่มีเพียงแต่เล่นพนัน ไม่มีอย่างอื่น เพราะฉะนั้นลมฝนข้างนอกสำหรับพวกเขาแล้ว มันไม่สำคัญเลยสักนิด ที่นี่อาจจะเป็นที่ที่ไม่โดนผลกระทบจากอินเทอร์เน็ตมากที่สุดในเมืองชลธีแล้ว
ทั้งสองคนขึ้นมาถึงชั้นสองอย่างรวดเร็ว
ชั้นสองนั้นเป็นห้องส่วนตัวแต่ละห้อง มีหลายคนกำลังนั่งเล่นพนันอยู่ด้วยกัน ชิปที่เล่นกันก็สูง เล่นตาหนึ่งก็หลายล้านหลายสิบล้านแล้ว
ในตอนที่บุริศร์และพฤกษ์หาเจตต์เจอนั้น เขากำลังได้เงินพอดี บนใบหน้าทั้งหน้าเต็มไปด้วยความปรีดา
“เลิกเล่นได้แล้ว!”
บุริศร์เดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่งไปขวางเจตต์เอาไว้
“ทำอะไรนะ? ผมเล่นไพ่ครั้งหนึ่งก็ยังไปขัดคุณชายบุริศร์อีกเหรอ?”
เจตต์ดูไปแล้วนั้นค่อนข้างหมดสภาพมาก
ตรงข้างหน้าถึงแม้ว่าจะได้เงินมาไม่น้อย แต่ว่าดูท่าทางกลับไม่ดีนัก มองออกได้ว่าช่วงนี้เขาน่าจะมีความเป็นอยู่อย่างไม่ค่อยสมใจมากนัก โดยเฉพาะตอนที่เห็นบุริศร์และพฤกษ์ สีหน้าของเจตต์ก็ยิ่งดูไม่ดีเข้าไปอีก
“ทำไม? คุณชายบุริศร์กะว่าจะพาลูกนอกสมรสคนนี้มาโอ้อวดกับผมเหรอ?”
บุริศร์ขี้เกียจฟังเขาประชดประชันที่นี่ต่อไปแล้ว จึงโบกไม้โบกมือให้พฤกษ์โดยตรง พฤกษ์จึงใช้กำลังบังคับพาตัวเจตต์ออกไปเลย
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยฉัน! พฤกษ์ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ แกอย่านึกว่าฉันไม่กล้าลงมือกับแกนะ!”
คนทั้งหมดออกไปจากห้องส่วนตัวอย่างรีบร้อน ไปถึงชั้นสามแล้วก็เปิดห้องห้องหนึ่ง แล้วพฤกษ์ถึงยอมปล่อยตัวเจตต์ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แค้นรักสามีตัวร้าย
หล่อนบอกพฤกษ์ได้ย่ะนังนรมน โง่ซ้ำซาก...
อ้าว ขอตุลยาให้ช่วย แล้วทีงี้ทำไมไม่กลัวคนแอบมองจะรู้ว่าขอให้คนอื่นช่วย ไม่สงสัยเลยเว้ยว่าอาจจะมีกล้องซ่อนอยู่เพื่อแอบดูตัวเอง แทนที่จะขอมือถือใหม่มาใช้ สรุป ตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์ โทรขอความช่วยเหลือไม่ได้...
โอ๊ย มีปัญญาบอกพฤกษ์ให้ไปบอกสามีได้ แต่ไม่ยอมบอกเค้าว่ามีคนส่งข้อความมาและคนๆนั้นน่าจะอยู่ในสถานพักฟื้นนี่แหล่ะ แล้วจะยังไง ตัวเองจะปกป้องลูกๆและแม่สามีได้ไง แต่งเรื่องได้ไม่เมคเซ้นส์เลย แต่เราว่าดูแล้วเหมือนไปก๊อปเรื่องอื่นมาแล้วเปลี่ยนชื่อคนเอา แล้วไอ้เรื่องที่เอามามันคงใช้บอทแปลมาอีกที เพราะนอกจากภาษาแหม่ง ๆ ยังใช้สรรพนามมั่ว เดี๋ยวเธอเดี๋ยวเขา เดี๋ยวเรียกลูกว่าคุณเดี๋ยวเรียกหนู เดี๋ยวเรียกยายเดี่ยวเรียกย่า ฯลฯ ถ้าคนเขียนหรือแปล มันไม่น่าจะผิดตรงจุดนี้...
นี่กอีกจุดที่ไม่สมจริง นรมนควรจะรีบบอกบุริษร์ตั้งแต่ต้น ไม่ใช่โอ้เอ้ ทำนั่นทำนี่ตั้งนาน เพราะก็ต้องเข้าใจสิว่าพ่อก็ทุกข์ใจเรื่องลูกหาย...
รู้ว่ามันฆ่าสามีและวางยาลูกคนเล็ก แต่ก็ทำเฉย เก็บมันไว้ใกล้ชิดกับลูกอีกคน ปล่อยให้มันสร้างฐานอำนาจมากขึ้นๆ แถมไม่แอบบอกลูกด้วยว่าต้องระวังอีนี่ อ่านแล้วงงตรรกะ...
น่าแบ่งคนเป็นสองกลุ่มตั้งแต่ต้น ตัวเองกับไมค์พาคนบุกบ้าน ค้นหาตัวนรมน อีกกลุ่มให้คนสนิทไมค์ซึ่งเป็นเจ้าถิ่นพาไปรับตัวแม่กับลูกออกจากรพ. ไม่งั้นอย่างเลวสุดคือเอาลูกและแม่ออกจากรพ. ได้แล้ว ให้ไมค์พาไปค้นบ้าน ช่วยนรมนออกมาด้วย ลองคิดตามความเป็นจริง พอรเมศรู้ว่าพาคนออกจากรพ.แล้ว มันก็ต้องเอะใจแล้วว่าต้องรีบเปลี่ยนที่ซ่อนนรมน รเมศมันก็ไม่น่าโง่นิ เป็นถึงเจ้าพ่อแถบนั้นได้...
แล้วแทนที่จะบอกลูกน้องว่ารเมศไว้ใจไม่ได้ ขังนรมนไว้และจะวางยากมล ก็ไม่บอกอีก แถมไม่เรียกตำรวจ ไม่ขอกำลังเสริม ทั้งๆที่รู้ว่าเลขากำลังจะโทรสั่งคนที่รพ. คือ ไม่คิดเหรอว่าอาจจะหนีออกจากรพ.ไม่ทัน...
กรูจะบ้า แอบเข้ามาคนเดียวอีกแล้ว ไหนว่ารวยมากมีอำนาจมาก ทำไมอนาถาจัง...
ป้าโอก็ใบ้ไว้ชัดมากนะ พระเอกฉลาดก็น่าจะสงสัยว่านางเป็นแม่แท้ ๆ หรือเปล่า พอฟังแม่พูดแล้ว อาจจะว่านางโอวางยาแม่บุริศร์ พอคลอดเด็กผู้หญิงมาก็แอบเปลี่ยนกับแฝดของตัวเอง เพราะงี้ถึงได้รักพระเอกกับน้องมากๆ แต่ก็งงว่าทำไมวางยากิจจา และทำร้ายกานต์ นั่นหลานแท้ๆนี่หว่า...
จะบ้าตาย ทำไมไม่ถามป้าโอว่าลูกอยู่ที่ไหน นักเขียนหลับเหรอ ชั้นงงมาก เขียนเรื่องได้แบบ เรื่องไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนรายละเอียดกลางทาง มีช่องโหว่เต็มไปหมด...